ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เซรามิคหรือเครื่องปั้นดินเผาต่าง ๆมีการผลิตออกมาขายในท้องตลาดมากมาย หลากหลายชนิด หลายราคาส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการผลิตมาจากทั้งโรงงานเซรามิค และงานปั้นมือ  ในอุตสาหกรรมการผลิตเซรามิคโดยเฉพาะโรงงานเซรามิคนั้นการผลิตจะเป็นการขึ้นรูปด้วยการหล่อจากแม่พิมพ์เซรามิคที่ใช้ปูนปลาสเตอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถดูดซึมน้ำได้ดีแต่มีข้อเสียคืออายุการใช้งานของแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์มีระยะเวลาสึกและในการผลิตชิ้นงานใหม่ ๆ ก็ต้องมีการออกแบบและสร้างต้นแบบแม่พิมพ์ใหม่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ปัจจุบันโรงงานเซรามิคและผู้ผลิตอื่น ๆ  ต่างได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆตามความต้องการและแนวโน้มของตลาด ซึ่งทำให้โรงงานเซรามิคต่างมีการประยุกต์และปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิคที่มีคุณภาพความสวยงาม และมีความเป็นสินค้าโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น  การผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิคในปัจจุบันจึงมีความแตกต่างจากการผลิตเซรามิคในสมัยก่อน

การผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิคของโรงงานเซรามิค

โรงงานเซรามิคนั้นส่วนมีการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิคโดยทั่วไปทางวิชาการจะเรียกว่าเซรามิคแบบดั่งเดิม (Traditional Ceramics) ผลิตภัณฑ์เซรามิคเหล่านี้ได้แก่  ถ้วย ชาม แจกัน กระถางต้นไม้  หม้อ ไห  โอ่งน้ำ อ่างบัว เป็นต้น  แต่หากจำแนกผลิตภัณฑ์เซรามิคออกตามประเภทเนื้อวัสดุแล้วก็สามารถจำแนกได้
3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1) ผลิตภัณฑ์เซรามิคเอิร์ทแทนเวร์ (Earthen Ware) เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกที่มีประวัติการผลิตกันมายาวนานเรียกกันทั่วไปว่า เครื่องปั้นดินเผา ทำจากวัตถุดิบคือดินเหนียวที่หาได้ในท้องถิ่นส่วนใหญ่จะมีปริมาณธาตุเหล็กสูง นำมาขึ้นรูปโดยการปั้น แล้วเผาที่อุณหภูมิต่ำเพียง900-1,100 องศาเซลเซียส ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีสีน้ำตาลแดงเนื้อหยาบ รูพรุนมาก ไม่สามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำได้มีความแข็งแรงต่ำเนื่องจากยังเผาไม่ถึงจุดสุกตัว จึงแตกหักง่ายทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีราคาถูก

2)ผลิตภัณฑ์เซรามิคสโตนแวร์ (Stoneware) เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ทำจากเนื้อดินขาวผสมกับหินฟันม้าและทรายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมีสีขาว ออกเทานำมาขึ้นรูปโดยการปั้นหรือหล่อจากน้ำสลิปแล้วเผาที่อุณหภูมิสูงกว่าเนื้อเอิร์ทเทนแวร์โดยเผาที่ประมาณ 1,100-1,300 องศาเซลเซียสผลิตภัณฑ์ที่ได้เนื้อหยาบ ผิวขุรขระ มีรูพรุนน้อย ดูดซึมน้ำได้ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ มีความแข็งแรงกว่าผลิตภัณฑ์เอิร์ทเทนแวร์จากการที่ต้องเผาที่อุณหภูมิสูงขึ้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ มีราคาแพงขึ้น

3)ผลิตภัณฑ์เซรามิคพอร์ซเลน (Porcelain) ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของเนื้อผลิตภัณฑ์เหมือนกับสโตนแวร์แต่มีขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่า ในขั้นตอนการเผาจะเผาที่อุณหภูมิสูงตั้งแต่1,250 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อให้ถึงจุดสุกตัวจึงมีความแข็งแรงสูงมาก เนื้อผลิตภัณฑ์แน่นและละเอียด ผิวเนียนเป็นมันวาว สวยงามเหมาะแก่การใช้ตกแต่งเป็นเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีราคาแพงมาก

ผลิตภัณฑ์เซรามิคเนื้อเอิร์ทเทนแวร์และสโตนแวร์มีลักษณะเนื้อไม่สวยงามดังนั้นโรงงานเซรามิคจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการเคลือบผิว และวาดลวดลายตกแต่งด้วยสี เทคนิคการเคลือบ   ปัจจุบันสีที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นสีของออกไซด์ของโลหะโดยเฉพาะสีที่มีส่วนผสมของออกไซด์ของตะกั่ว จะได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์จะให้สีสันที่สดใสสวยงาม  อย่างไรก็ตามสารตะกั่วนับได้ว่าเป็นพิษต่อร่างกายสามารถซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัส ดังนั้นในระยะหลังผลิตภัณฑ์เซรามิกจึงหลีกเลี่ยงการใช้สี ซึ่งมีส่วนผสมของตะกั่ว ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภค จึงควรระมัดระวังและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรามิกให้เหมาะสมคือ ควรเลือกภาชนะบรรจุอาหารที่ไม่มีสีสันฉูดฉาดโดยเฉพาะบริเวณที่ต้องสัมผัสกับอาหาร และในการเลือกซื้อควรดูตำหนิที่เกิดขึ้นบริเวณผิวของผลิตภัณฑ์ที่เคลือบไม่ควรมีรูฟองอากาศที่เรียกว่ารูเข็มไม่มีรอยแตกหรือราน

โอกาสของความอยู่รอดในการแข่งขันของโรงงานเซรามิคหรืออุตสาหกรรมเซรามิคของไทย

อุตสาหกรรมเซรามิกของไทยกำลังเผชิญหน้ากับคู่แข่งใหม่ๆในภูมิภาคเดียวกัน เช่น จีน และเวียดนามก็เป็นโอกาสที่ไทยจะต้องแสวงหาช่องทางพิเศษ (niche)และโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมอยู่รอดได้ ดังต่อไปนี้

1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีมูลค่าสูงเป็นแนวทางสำคัญที่จะหลีกหนีจากการแข่งขันในตลาดระดับล่างที่รุนแรงและเข้มข้นขึ้นทุกวัน โดยหันไปผลิตสินค้าที่มีพัฒนาด้านคุณภาพ รูปแบบ และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเพื่อสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น

2. การผลิตสินค้าที่มีศักยภาพด้านการตลาดและมีมูลค่าเพิ่มค่อนข้างสูง ได้แก่เครื่องสุขภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นรูปและ/หรือวาดลวดลายด้วยมือ ลูกถ้วยไฟฟ้า ฯลฯ

3. ศึกษาลู่ทางและความเป็นไปได้ในการผลิตสินค้าเซรามิก High Tech ตลอดจนสินค้าเซรามิกยุคใหม่ (NewCeramics) ในเชิงธุรกิจอุตสาหกรรม เช่น เซรามิกสำหรับประกอบวาล์ว (CeramicSeals) กระบวนการผลิตชิ้นส่วนเซรามิกยุคใหม่สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมรถยนต์
เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศ

4. การย้ายฐานของบรรษัทข้ามชาติจากประเทศที่มีค่าแรงแพงรวมทั้งผู้ผลิตด้านวัตถุดิบและสารเคมีตลอดจนการร่วมทุนผลิตสินค้าขั้นสุดท้ายจะช่วยให้เกิดการไหลเวียนของความรู้และเทคโนโลยีในประเทศอย่างกว้างขวางและทำให้การให้บริการลูกโซ่การผลิตในประเทศครบวงจร

เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งหนึ่งที่โรงงานเซรามิคต้องคำนึงถึงจำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมให้เป็นอย่างดี  หลายโรงงานได้รับ ISO 14000หรือที่กำลังจะเตรียมตัวขอ  เนื่องด้วยการส่งออกสินค้าไปยังยุโรปและเอมริกานั้นก็จะต้องถูกตรวจสอบเรื่องผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย และจะมีเกณฑ์ในการยอมรับค่อนข้างสูงจนดูเหมือนเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ผลิตแต่จริงๆแล้วการที่เราสามารถนำเอาของเสียจากกระบวนการกลับมาใช้นั้นจะทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลงถึงแม้จะมีการลงทุนบ้างในช่วงแรกแต่ก็จะคุ้มทุนได้จะเป็นระยะเวลาช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินลงทุนและขนาดของโรงงาน การที่สิ่งแวดล้อมของเราดีขึ้นทั้งสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงานเองซึ่งจะส่งผลกับขวัญและกำลังใจของพนักงานรวมทั้งสิ่งแวดล้อมรอบ ๆโรงงานเซรามิคซึ่งจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ของบริษัทและตัวสินค้าด้วย

Create Date : 18 สิงหาคม 2560
Last Update : 18 สิงหาคม 2560 13:55:25 น.		0 comments
Counter : 5824 Pageviews.
Share Tweet