Group Blog All Blog
|
ข้างหลังชีวิต ตอนคำนำ เมื่อไม่นานมานี้ผมเคยเขียนอัตตชีวประวัติของผมขึ้นไว้เล่มหนึ่ง ชื่อว่า "สานฝันไว้ในอดีต" แนวของเรื่องก็เป็นการเล่าถึงการทำงานของผมในอดีตที่ผ่านมา จำนวน 21 แห่ง(บริษัท) แต่หนังสือเล่มนี้ผมพิมพ์ออกมาจากคอมฯและเย็บเล่ม จำนวนเพียง 5 เล่มเท่านั้น แจกเพื่อนๆที่สนิทกันอ่าน เป็นทำนองโยนหินถามทางประมาณนั้น ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเลยสักคน เข้าใจว่าเพื่อนๆที่รับแจกไปคงชั่งกิโลขายไปแล้ว ต่อมาเมื่อเร็วๆนี้ผมได้รับคำกระตุ้นเตือนจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งคือ อาจารย์ไพบูลย์ ให้ลองเขียนใหม่ ผมจึงเริ่มต้นเขียนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ใช้ชื่อข้อเขียนชุดนี้ว่า "ข้างหลังชีวิต" แบ่งออกเป็นสามภาคคือ ภาคปฐมวัย ภาคมัชฌิมวัย และภาคปัจฉิมวัย แต่ละภาคมีเรื่องย่อยๆอีกหายตอน แล้วแต่จะนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ ขณะนี้ผมเขียนไปแล้วหลายตอน โดยเขียนที่บล็อก https://www.1938centuryboy.wordpress.com และผมจะก๊อปปี้มาวางไว้ที่นี่เพื่อให้อ่านกันต่อไป วันนี้เชิญอ่าน คำนำ ก่อนครับ คนเราที่เกิดมาบนโลกอันสับสนวุ่นวายใบนี้ เมื่อเกิดมาแล้วมักจะมองไปข้างหน้า ไม่ค่อยมีใครมองไปข้างหลัง ถ้าใครมองไปข้างหลังหรือแม้จะเล่าเรื่องความหลัง จะถูกค่อนขอดว่าเป็นคนแก่ เพราะมีคำพังเพยแบบไทยๆที่ผมได้ยินมานานเต็มทน แต่ไม่ทราบว่าใครคิดขึ้นคือ ชอบของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง นั่งวิปัสนา แต่วันนี้บล็อกของผมนี้จะไม่สนใจกับคำพังเพยดังกล่าวแล้ว เพราะผมกำลังจะมองไปข้างหลังชีวิต(ของผม) ว่า ผมนั้นดำเนินชีวิตมาอย่างไร อะไรๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งแน่นอนย่อมมีทั้งความสมหวัง(ไม่ใช่แห้ว) ความผิดหวัง(แห้ว) ความสุข ความทุกข์ ความฝันที่เป็นจริง และความฝันที่เป็นไปไม่ได้ ฯลฯ สารพัดละที่ชีวิตผมผ่านพบประสบการณ์ต่างๆตามที่กล่าวมา วิธีการที่ผมจะมองไปข้างหลังชีวิตคือ การเล่าเรื่อง(เก่า)ชีวิตผม ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ที่มานั่งเขียนบล็อกนี้ก็เป็นเวลา 72 ปีแล้ว เห็นใหมล่ะ มันน่าจะมีเรื่องราวอะไรๆมากมายที่จะเล่านะ เรื่องที่เล่านี้ไม่แน่ใจว่าจะจบลงตรงไหน เวลาใด แต่ที่แน่ๆคือมันจะจบลงอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ผมสิ้นชีวิต เพราะนั่นคือบทสุดท้ายของข้างหลังชีวิต ถามว่าเรื่องนี้จะเขียนให้ใครอ่าน ผมไม่ค่อยสนใจนักว่าจะมีใครอ่านหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็คงมีกลุ่มผู้อ่านกลุ่มหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าจะมีสักกี่คน คงจะอ่านบ้างเมื่อได้รับหนังสือเล่มนี้จากงานพระราชทานเพลิงศพผม(ซึ่งภรรยาของผมคงจัดให้เป็นครั้งสุดท้าย) เอาละวันนี้คงเขียนเพียงเป็นสัมโมทนียคาถาแค่นี้ก่อน ต่อไปก็จะฟื้นความจำในสมองที่ใช้มานานถึง 72 ปี นำเรื่องข้างหลังชีวิตมาเขียนให่อ่านกันเป็นตอนๆไป อาจจะยาวบ้าง สั้นบ้าง ตามอำเภอใจและความบันดาลใจที่จะเขียน สวัสดีครับ พบกันโอกาสหน้าครับ ข้อมูลจาก //www.1938cenuryboy.wordpress.com ข้อมูลจาก https://www.1938centuryboy.wordpress.com สวัสดีค่ะคุณหนุ่มร้อยปี
แวะเข้ามาอ่านเรื่องราวนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:38:05 น.
สวัสดีครับ คุณ"คนผ่านทางมาเจอ" และคุณ"แม่หมู" ขอบคุณที่กรุณาอ่านครับ ตอบคำถามคุณผ่านทางมาเจอ ปีใหม่ผมยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหนเลยครับ แล้วคุณล่ะ?
โดย: หนุ่มร้อยปี (ศตวรรษ ศรีสมบูรณ์ (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:57:53 น.
ผมเริ่มเข้ามาอ่านแล้วครับ ตั้งความหวังไว้ว่าจะให้เป็นหนังสือที่ระลึกงานศพ ก็จะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องใครจะอ่านหรือไม่อ่านครับ.
โดย: เจียวต้าย IP: 58.11.27.62 วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:11:53:55 น.
|
หนุ่มร้อยปี
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?] บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง Friends Blog
|
ผ่านงานมาตั้ง 21 บริษัท..
โอ้โฮ..เก๋าจริงๆค่ะ..
ดีค่ะ..สนับสนุนเรื่องเขียนหนังสือค่ะ..
ปีใหม่วางแผนจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ?