มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
24
25
26
27
29
30
 
All Blog
บ้าน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

บ้าน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช


เมื่อเอ่ยชื่อ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินชื่อท่าน อาจจะมีบ้างที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยทราบประวัติของท่านอย่างละเอียด แต่คนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่อย่างผม ย่อมจะทราบดีว่าท่านเป็นปราชน์คนหนึ่งของเมืองไทย ท่านมีผลงานมากมายที่ฝากไว้เป็นเอนกอนันต์

จากหนังสือ "สยามรัฐ ฉบับพิเศษ ครบรอบ 83 ปี คึกฤทธิ์ ปราโมช"ได้ยกย่องท่านว่าเป็นผู้ที่อนุรักษ์ความเป็นไทยมากที่สุด มีผลงานเกี่ยวกับความเป็นไทยของท่านมากมาย อาทิ คึกฤทธิ์กับการส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีหัวข้อย่อยอีกหายหัวข้อ เช่น การส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ภาษาไทย นาฎศิลป์ไทย และประเพณีไทย เป็นต้น
เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวเล็กๆเกี่ยวกับบ้านของท่านในซอยสวนพลูออกมาทางสื่อมวลชน โดยมีใจความสำคัญว่า "มูลนิธิคึกฤทธิ์ 80" จะเลิกดูแลบ้านของท่าน ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน นี้ เป็นต้นไป ข่าวนี้สังคมโดยรวมอาจจะไม่สนใจ แต่ผมและบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โปรดดูบ้านของท่านแล้วไปอ่านรายละเอียดกันครับ





บ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์"เลขที่19 ซอยพระพินิจ ถนนสาทรใต้ หรือที่ลูกศิษย์ลูกหานักการเมืองรุ่นเก๋ารู้จักกันดี ในนาม 'บ้านสวนพลู' นิวาสถานบ้านพักอันลือลั่น ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งยงของไทย ท่านพำนักอาศัยในบ้านเรือนไทยหลังนี้มานาน 35 ปี จนถึงแก่อสัญกรรม


เรือนไทยแบบภาคกลางปลูกอย่างประณีตงดงามหลังนี้เปิดให้สาธารณชนเข้าชม ซึ่งเก็บค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กและนักเรียนในเครื่องแบบ 20 บาท โดยมี "มูลนิธิคึกฤทธิ์ 80" ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เข้ามาบริหารบ้านเรือนไทยแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2543 เป็นต้นมา

ทว่าล่าสุดอำนวย วีรวรรณ ฐานะประธาน "มูลนิธิคึกฤทธิ์ 80" เปิดแถลงข่าวว่าจำเป็นต้องเลิกกิจการบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนนี้
7 ปีที่ผ่านมานายอำนวย เล่าว่า ม.ล.รองฤทธิ์ปราโมช เจ้าของบ้านอนุญาตให้มูลนิธิเข้ามาใช้บ้านโดยข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการ ต่อมามูลนิธิเสนอขอเช่าบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ทั้งบริเวณอย่างเป็นทางการเพื่อขยายงานตามวัตถุประสงค์ คือ การสอนนาฏศิลป์และดนตรีไทย และเปิดเป็นห้องสมุด เพื่อจัดแสดงและรวบรวมผลงานของอดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ กอปรกับวาระฉลองครบรอบ 100 ปีม.ร.ว.คึกฤทธิ์เมื่อปี 2554 การขยายงานต้องมีการลงทุนเป็นจำนวนมากจึงจะขอเช่าระยะยาว แต่ท่านเจ้าของบ้านไม่สะดวกที่จะให้เช่าเป็นระยะเวลานาน มูลนิธิจึงต้องเลิกการบริหารกิจการบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์

"เรื่องการสร้างห้องสมุดและสถานที่สอนนาฏศิลป์ มูลนิธิจึงจะต้องหาสถานที่สร้างและทำอย่างถาวรต่อไป คณะกรรมการ 'มูลนิธิคึกฤทธิ์๘๐' ล้วนเป็นลูกศิษย์ลูกหาก้นกุฏิอาจารย์หม่อมทั้งนั้นมูลนิธินี้ตั้งขึ้นมาโดยไม่หวังผลกำไร ขณะนี้มีเงินทุนเหลืออยู่ราว 18 ล้านบาท โดยมูลนิธิยังจะดำเนินการต่อไป เพียงแต่จะไม่มีส่วนกับการบริหารกิจการบ้านอีก" นายอำนวยกล่าว
ตั้งแต่เปิดบ้านให้สาธารณชนเข้าชมประธานมูลนิธิ กล่าวว่า มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ใหญ่ 20,432 คน เด็ก 7,520 คน รวม 27,952 คน แต่ค่าเข้าชมก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายอยู่ดี มูลนิธิจึงพยายามหารายได้เพิ่มโดยการจัดจำหน่ายอาหารแก่ผู้ที่เข้าชมเป็นหมู่คณะ ต่อมามีผู้สนใจขอใช้สถานที่ในการจัดงานต่างๆ โดยบริจาคเงินบำรุงมูลนิธิ ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิจะอนุญาตเฉพาะรายที่เห็นสมควร ด้วยเห็นว่าไม่เสียหาย ตรงกันข้ามการอนุญาตให้เข้ามาจัดงานนอกจากเป็นการหารายได้เพิ่มแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้คนไทยและต่างชาติ ได้รู้จัก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์และวิถีการดำรงชีวิตของท่านมากขึ้นซึ่งเป็นการส่งเสริมวัตถุประสงค์ของมูลนิธิที่ต้องการเผยแพร่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เพราะผู้ที่เข้ามาขอใช้สถานที่ส่วนใหญ่เป็นคู่แต่งงานที่ต้องการบรรยากาศแบบไทย สำหรับคนต่างชาติส่วนมากเป็นผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทข้ามชาติ ซึ่งต้องการให้จัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทยเป็นการต้อนรับ ส่วนใหญ่บ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์จะจัดแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพฯ และหุ่นละครเล็กโจ หลุยส์

"การจัดงานเช่นนี้มีผู้สนใจมากเกินความคาดหมาย ซึ่งบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ไม่สามารถจะรับได้ เพราะสถานที่และอุปกรณ์ไม่อำนวย โดยเฉพาะเรื่องการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ มูลนิธิเห็นว่าไม่ควรจะรบกวนเพื่อนบ้านตลอดไป ทั้งๆ ที่ท่านเหล่านั้นมีความอดทนให้ความร่วมมือ เพราะเห็นว่าเป็นกิจการเพื่อส่งเสริมการกุศลและการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย" นายอำนวย กล่าว

และนี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มูลนิธิแถลงถึงความจำเป็นต้องหยุดการบริหารกิจการแต่บ้านหลังนี้ก็ยังเปิดให้คนเข้ามาชมตามปกติ โดยนายอำนวย กล่าวว่า เจ้าของบ้านคงต้องบริหารดูแลแทนมูลนิธิต่อไป

ม.ล.วิสุมิตราปราโมช ธิดาคนสุดท้องของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการมูลนิธินี้ด้วย อธิบายว่า "ดิฉันไม่ใช่เจ้าของบ้าน เป็นแค่น้องสาวเจ้าของบ้าน (ม.ล.รองฤทธิ์) ดิฉันเข้ามาทำงานในมูลนิธิเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้บ้านหลังนี้เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา แต่ก่อนบ้านหลังนี้ก็ทรุดโทรมจนเกือบร้าง กระทั่งมูลนิธิมาขอซ่อม และใช้เป็นสถานที่สืบทอดเรื่องศิลปวัฒนธรรมโดยเฉพาะเรื่องโขนที่พ่อตั้งคณะขึ้นมา ถ้าจะเสียดายก็คงตรงที่กว่า 7 ปีที่บ้านเปิดขึ้นมา เด็กๆ เยาวชนจำนวนมากได้เข้ามาเดินดูของเก่าสวยๆ งามๆ ที่พ่อเก็บไว้ ได้ทั้งความรู้และสัมผัสตัวตนคุณพ่อ ส่วนการเก็บค่าเข้าดูส่วนหนึ่งนอกจากบำรุงบ้านก็ยังใช้ในการดำเนินงานเพื่อการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์อีกด้วย ต่อไปบ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สมบัติของพี่ชาย ดิฉันไม่เกี่ยว อนาคตจะอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้าของบ้าน" ม.ล.วิสุมิตรา สรุปทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์มีอายุครบ 80 ปี มิตรสหายและลูกศิษย์ได้จัดงานฉลองขึ้นในวันที่ 20 เมษายน 2534 และในวันนั้นก็ได้รวบรวมเงินจัดตั้งเป็นเงินทุน "มูลนิธิคึกฤทธิ์ 80" มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในด้านนาฏศิลป์และดนตรีโดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เป็นประธานกรรมการมูลนิธิคนแรก และมีการปรึกษาหารือกันว่าจะซ่อมแซมบ้านหลังนี้แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ 'อาจารย์หม่อม' ถึงแก่อสัญกรรมเสียก่อนมูลนิธิจึงขออนุญาต ม.ล.รองฤทธิ์ปราโมช เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการซ่อมแซมบ้าน โดยการซ่อมแซมบ้านครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พระราชทานเงินก้นถุงและรับมูลนิธิไว้ในพระราชูปถัมภ์

เมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้วสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2543 ทรงมีพระราชดำริว่าไม่ควรปิดบ้านไว้เฉยๆเพราะจะทำให้ทรุดโทรมอีก น่าจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมเพื่อให้คนรุ่นปัจจุบันโดยเฉพาะเยาวชนได้ระลึกถึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ซึ่งได้ทำคุณประโยชน์ไว้แก่ชาติบ้านเมืองไว้เป็นอเนกอนันต์ และการจัดแสดงไม่ควรจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่จัดให้เป็นบ้านเหมือนตอนอาจารย์คึกฤทธิ์ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเรือนไทยที่อยู่อาศัยจริงๆ ไม่ใช่จัดขึ้นเพื่อแสดงหาดูได้ยาก การจัดบ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ในรูปที่อยู่อาศัยจะทำให้คนรุ่นหลังเห็นถึงความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษ ที่เน้นความสมถะเรียบง่ายและสอดคล้องกับธรรมชาติ ซึ่งจะไม่เห็นแล้วในปัจจุบัน โดย บ้าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เปิดให้เข้าชมเฉพาะเสาร์, อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ข้อมูลและภาพบริเวณบ้านทรงไทย
จาก นสพ.คม ชัด ลึก
ฉบับประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2550

ภาพ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
และภาพ หลังคาบ้านทรงไทย
จาก หนังสือ สยามรัฐ ฉบับพิเศษ ครบรอบ 83 ปี
มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช













































Create Date : 23 มิถุนายน 2550
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 10:53:18 น.
Counter : 5558 Pageviews.

9 comments
  
ชอบอ่านบล็อกนี้ค่ะ
ให้ความรู้ดีมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ
สำหรับข้อมูลดี ๆ ที่สรรหามา
โดย: โสดในซอย วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:19:23 น.
  
เพิ่งเข้ามาที่บล๊อกนี้ เจอแต่สิ่งที่ดี มีความรู้มีประโยชน์คะ ทำงานเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยวด้วย ขออนุญาติ แอดบล๊อกนะคะ
โดย: tete' my little star วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:35:39 น.
  
ขอบคณมากเลยค่ะ คิดว่าสักวันต้องไปเยี่ยมชมแน่นอนค่ะ
โดย: karnlaka วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:18:29:06 น.
  


เห็นข่าวออกว่าญาติทะเลาะกันเรื่องเกี่ยวกับบ้าน
น่าเศร้าใจเน๊าะ
ขอบคุณคุณลุงที่นำเรื่องดีดีมาบอกเจ้าค่ะ
ชอบๆๆๆๆ
โดย: อุ้มสี วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:21:13:26 น.
  
สวัสดีครับ คุณโสดในซอย/คุณ อุ้มสี/คุณ tete my little star, karnlaka
ขอบคุณที่กรุณาให้เกียรติเข้ามาอ่านบล็อกของผมครับ มีอะไรจะแนะนำยินดีครับผม
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:9:00:15 น.
  
สวัสดีครับคุณหนุ่ม หลังไมค์เต็มส่งข้อความไม่ได้เลยครับ555+ แล้วผมจะส่งโค้ดไปให้นะครับ
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:10:51:33 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหนุ่มร้อยปี บ้านสวนพลูเป็นที่ที่อยากไปเยี่ยมชมมากเลย แต่ยังไม่มีโอกาสไปค่ะ ขอบคุณทีนำข้อมูลมาให้ชม
โดย: ดา ดา วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:23:19:12 น.
  
อยากพาเพื่อนต่างชาติไปเที่บวบ้านสวนพลู แต่อยากโทรศัพท์ไปถามรายละเอียดก่อน จะโทร ไปที่หมายเลขอะไรครับ
โดย: ตื๊มู IP: 125.25.27.33 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:7:35:13 น.
  
ผมเคบไปที่บ้าน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ด้วย
โดย: พงศกร IP: 182.52.121.43 วันที่: 1 เมษายน 2554 เวลา:22:09:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง