Giorgio Locatelli
ตอนนี้ชั้นอยากจะพูดถึงเชฟคนโปรดของชั้นค่ะ เค้าคือ จิออจิโอเค้ามีรายการอาหารของเค้าชื่อ โทนี่ แอน จิออจิโอ อยู่ที่ช่อง bbcคือการทำงานเป็นเชฟ นอกจากจะต้องมีความรู้เรื่องอาหารแล้ว ควรจะรู้เรื่องเชฟดังๆ ไว้บ้างเพราะเวลาหลังเลิกงานก็จะมีการมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อเปิดโลก และมุมมอง ถ้าพูดถึงความเป็นเซเลบแล้ว จิออจิโอ ก็คงไม่ดังเท่า เจมี่ โอลิเวอร์ หรือ กอดอน แรมซี่นะคะที่เจมี่ ดังไม่ใช่เพราะว่า ฝีมือนะคะ แต่เป็นเพราะว่า บุคลิกของเค้าที่สามารถดึงดูดผู้ชมให้สนุกสนานไปกับการทำอาหารได้ส่วน กอดอน แรมซี่ นั้น ฝีมือได้รับการยอมรับถึงขึ้นได้แฮนเดิลงานเลี้ยงใหญ่ๆ ส่วนรายการของเค้า บอยลิ่ง พอยท์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อน และหยาบคายในการทำงานในครัว ถ้าดูละครแล้วย้อนดูตัว ก็พบว่าชีวิตจริงของชั้นนั้นก็เคยเจอเฮด เชฟสไตล์รุนแรงแบบนี้มาแล้ว ก็เลยไม่นิยมชมชอบ กอดอน แรมซี่เท่าไรในหนังสือ เมดอินอิตาลี่ ของจิออจิโอ นั้นได้มีการเล่าถึงประสบการณ์กว่าจะมาเป็นเชฟของเค้าซึ่งในบทแรก เค้าใช้การเปิดตัว ที่ โดน ค่ะ เชฟฝึกหัดส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะในครัวฝรั่ง) ก็คงจะได้รับการปฎิบัติแบบแย่ๆ มานะคะทั้งการพูดดูถูกก็ดี การระบายอารมณ์โกรธแบบไม่มีเหตุผลก็ดีกว่าจะมีวันนี้ของเค้าผ่านมาทั้งสุข และทุกข์ อ่านแล้วได้มีกำลังใจและแง่คิดในการทำงานเพื่อเป็นการปัดฝุ่นภาษาที่เริ่มถอยหลังลงคลอง ชั้นก็อยากจะแปลบางส่วนที่ชั้นประทับใจในหนังสือเล่มนี้ค่ะChapter 1 You will never be a chef, Locatelli!ผมเริ่มทำอาหารตั้งแต่อายุห้าขวบในร้านอาหารของลุงแต่มาวันนี้เมื่ออายุสิบหกปี ผมได้เข้าสู่โลกของความเป็นจริงในการทำงาน เฮดเชฟคนนี้ก็ไม่รู้เป็นอะไร ชอบติ ชอบว่าผมเสมอกุ้ง กุ้ง ส่งกุ้งมานี่ กุ้งอยู่ใหน มันพร้อมรึยัง เฮดเชฟถามผมตอนนี้เค้าต้องการกุ้ง แต่มันยังไม่พร้อมน่ะซิขณะนี้น้ำในหม้อใกล้เดือดแล้ว การต้มกุ้งต้องรอให้น้ำถึงจุดเดือดก่อนแต่ด้วยความรีบ และลนลาน ผมรีบโยนกุ้งลงในหม้อทันที ทั้งอย่างนั้นเลยเฮดเชฟเห็นผมทำอย่างนั้นแล้ว ก็เดือดขึ้นมายิ่งกว่าน้ำในหม้ออีกเค้าตะโกนด่าใส่ผมว่า อย่างนาย ไม่มีวันได้เป็นเชฟหรอก จิออจิโอ เธอมันโง่ เข้าใจมั้ยผมไม่มีวันลืมคำ คำนั้นเลย มันอยู่ในหัวผมตลอดมาในวันนั้น เมื่อผมกลับถึงบ้าน ผมเล่าให้ย่าฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที ทั้งคำพูดเสียดสีที่เชฟด่าผม จนทำให้ผมอยากจะออกจากงานซะวันนั้นเลยเจ้านี่มันเป็นใครกัน มันจะไปรู้อะไร ทุกๆ ครั้งที่ผมรู้สึกแย่ ย่ามักจะพูดปลอบให้กำลังใจเสมอจิออจิโอ เธอจะลาออกเพราะคำพูดเจ้านี่ไม่ได้นะเธอต้องกลับไป และทำให้เค้าเห็นว่าเธอเป็นใคร เป็นยังไง มีความสามารถแค่ใหนและผมก็ทำได้ตามที่ย่าพูดจริงๆจบตอนที่หนึ่งจิออจิโอมีร้านอยู่ในลอนดอน ได้รับดาวมิชลิน มีรายการอาหาร มีหนังสือสองเล่มเค้าเคยผ่านงานที่ร้านดังๆ มากมาย เช่น โรงแรม the Savoy ในอังกฤษในฝรั่งเศส อย่าง Restaurant Laurent ที่มีปรมาจารย์เชฟ โจเอล โรโบชอง เป็นที่ปรึกษาและ La Tour D Argent ซึ่งเป็นร้านดังในฝรั่งเศส ที่ได้รับสามดาวมิชลิน(ขอบคุณรูปจาก //www.locandalocatelli.com/html/intro.html )
แล้วมาอ่านบล็อคคุณ.....ดีจัง
ชีวิตในครัวนี่น่าสนใจเนอะ
ว่างๆมาเล่าเรื่องของคนอื่นมาอีกนะครับ