ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ผิวขาวสร้างได้ด้วย การกิน กลูต้าไธโอน...จริงหรือ?

ผิวขาว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ความงามกับผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่คู่กันอย่างไม่อาจแยกได้ ผิวที่ขาว สวย เนียน อมชมพู ก็คือกระแสความงามของหญิงสาวในยุคนี้ ซึ่งหลายคนได้พยายามไขว้คว้าหนทางและทำทุกวิถีทางที่จะนำไปสู่การได้มีผิวที่สวยงามตามที่ตัวเองใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนานาชนิด การใช้ยาเพื่อทา ฉีด หรือกิน

          สำหรับในตอนนี้ กลูต้าไธโอน (Glutathione) ได้กลายมาเป็นสารที่รู้จักกันดีในเรื่องสรรพคุณที่ทำผิวให้ขาว หญิงสาวหลายคนได้หาข้อมูลและสรรหา กลูต้าไธโอน มากินด้วยความเชื่อว่าผิวของตัวเองจะขาวขึ้น ตามที่ผู้จัดจำหน่ายทั้งหลายโฆษณาไว้ แต่ความเชื่อนั้นจะจริงหรือไม่ การกินยากลูต้าไธโอน จะสามารถทำให้ขาวขึ้นได้จริงหรือ และมีผลข้างเคียงอันตรายหรือไม่อย่างไร วันนี้ เรามีคำตอบให้คุณค่ะ

จริง ๆ แล้ว กลูต้าไธโอน เป็นสารที่แพทย์นำมาใช้ในการรักษากลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางด้านประสาท และรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาตับอักเสบ ทั้งยังใช้รักษากลุ่มผู้ป่วยที่ฆ่าตัวตายด้วยการกินพาราเซตามอล เนื่องจาก กลูต้าไธโอน เป็นสารโปรตีนเบื้องต้น ที่ช่วยเพิ่มการทำงานของตับในการฟอกพิษ ขจัดสารพิษ แต่เมื่อพบว่า กลุ่มคนไข้ที่แพทย์ใช้สาร กลูต้าไธโอน มีผิวที่ขาวขึ้น กลูต้าไธโอน จึงถูกนำมาใช้ประยุกต์เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขาวต่าง ๆ มากมาย

          หลายคนคงเคยเห็นว่า ยาเม็ดกลูต้าไธโอน มีการขายอยู่เกลื่อนตามเว็บไซต์ โดยมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท มีการแนะนำวิธีการกิน และอวดอ้างสรรพคุณของ กลูต้าไธโอน ว่าสามารถบำรุงผิวให้ขาวได้ แต่แทบจะไม่มีผู้ผลิตที่ออกมาเตือนผู้บริโภคถึงผลข้างเคียงของการกิน กลูต้าไธโอน เลย ซึ่งสิ่งที่หญิงสาวหลายคนไม่เคยรู้มาก่อนคือ เพราะ กลูต้าไธโอน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำให้มันสลายไปทันทีเมื่อโดนกรดในกระเพาะ ดังนั้นจึงทำให้การกิน กลูต้าไธโอน ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น! และไม่ทำให้ผิวขาวขึ้นแม้แต่น้อย

ที่สำคัญ การกิน กลูต้าไธโอน นั้น เป็นเรื่องผิดพลาดที่นอกจากจะไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้นแล้ว ยังนำมาซึ่งผลข้างเคียงอันเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง ซึ่งผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการกิน กลูต้าไธโอน ก็มีหลายประการ ดังนี้

1. ความดันต่ำ

2. อาจทำให้เกิดอาการหอบหืดเฉียบพลันได้

3. ส่งผลกระทบต่อตาโดยตรง อาจะทำให้เกิดอาการตาอักเสบได้

4. หากผู้ป่วยมะเร็ง กินยากลูต้าไธโอน จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดลดลง

5. เมื่อกินกลูต้าไธโอน เป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับกลูต้าไธโอน ในปริมาณมาก และอาจทำให้เป็นมะเร็งได้

6. หลังหยุดกินกลูต้าไธโอน ผิวอาจจะกลับมาดำคล้ำยิ่งกว่าก่อนกิน หรือในผู้ที่ผิวขาวยู่แล้ว เมื่อหยุดกินก็จะทำให้ดำง่ายขึ้น

แม้จะมีข้อเสียและผลข้างเคียงมากมาย แต่ กลูต้าไธโอน ก็ยังเป็นสารที่มีประโยชน์ ซึ่งตามปกติร่างกายจะสามารถสร้างกลูต้าไธโอน ได้เอง จากสารอาหารธรรมชาติที่รับประทานเข้าไป เนื่องจากมันมีหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ หรือสารพิษต่าง ๆ จากร่างกาย ทั้งยังป้องกันความเสื่อมและเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกายอีกด้วย ดังนั้น สำหรับหญิงสาวคนไหนที่อยากสร้าง กลูต้าไธโอน ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งการกินยาที่ทำให้ผลข้างเคียง เราขอแนะนำให้สร้างเสริม กลูต้าไธโอน ให้ร่างกายด้วยการรับประทานอาหารประเภท นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม



นอกจากนั้นสำหรับคนที่อยากมีผิวพรรณสวยงาม นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้แนะนำให้ทำตามวิธีการดังต่อไปนี้

1. ให้ดูแลรักษาร่างกายให้สะอาด 

2. กินอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มการกินผักและผลไม้ที่รสไม่หวานมาก ให้ได้วันละครึ่งกิโลกรัม เนื่องจากในผักผลไม้จะมีวิตามินซีช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส 

3. ออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที

4. ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

5. ถ้ามีความต้องการดูแลผิวให้สุขภาพดีด้วยสามารถใช้ครีมบำรุงที่ผสมสารกันแดด เพราะแสงแดดก็เป็นตัวการทำลายผิวได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, ศูนย์วิทยบริการ อย.


Create Date : 16 ธันวาคม 2555
Last Update : 16 ธันวาคม 2555 10:41:55 น. 0 comments
Counter : 1683 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.