ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
12 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ห้องอาหารเหม่ยเจียง กับรสชาติติ่มซำที่คุ้นเคย

อาหารอร่อยราคาแพง ย่อมต้องมีเหตุผล แต่เหตุผลคืออะไร วันนี้มีโอกาสพาคุณผู้อ่าน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปยังฝั่งธนบุรีที่โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ แนะนำให้รู้จักกับเชฟใหญ่ พาสทรี่เชฟ โยฮาน แมทธี (Yoann Mathy) วัย 33 ปี และ เชฟติ่มซำ เฉิง ฮิน ยาน ประจำห้องอาหารจีน เหม่ยเจียง ที่มีประสบการณ์ด้านติ่มซำมานาน 20 ปี


มิสเตอร์ชาร์ลส์ แอล มอร์ริส ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม พาเดินชมห้องครัวทุกครัวทั้งจีน ไทย ครัวอาหารนานาชาติ ครัวขนมอบ ฯลฯ ดูวิธีการจัดเก็บวัตถุดิบที่เป็นระบบระเบียบ สะอาดได้มาตรฐาน เช่นห้องเก็บผลไม้ ห้องเย็นเก็บซาชิมิ ห้องเย็นเก็บเนื้อต่าง ๆ ฟัวร์การ์ ปูอลาสก้า เนื้อวากิว ห้องแกะสลักผัก ผลไม้ ห้องผลิตเค้กแต่งงาน รวมทั้งชมทัศนียภาพรอบโรงแรม แปลงพืชผักสวนครัวสำหรับอาหารไทย มีต้นตะไคร้ มะกรูด มะเขือ พริกขี้หนู กะเพรา ใบชะพลู ใบโหระพา ฯลฯ

แล้วก็มาถึง ครัวจีน ให้เชฟเผยสูตรลับให้เข้าใจว่าทำไมอาหารอร่อย จึงราคาแพง ห้องอาหารเหม่ยเจียง ตกแต่งหรูหรา เน้นตำรับอาหารจีนกวางตุ้ง

มาถึงก้นครัวเข้าไปดูเชฟสาธิตการทำน้ำซุป หูฉลาม และวิธีทำซอสเอ็กซ์โอสูตรพิเศษ ตลอดจนลงมือทำติ่มซำไปด้วย โดยมีเอ็กเซ็คคิวทีฟ ไชนีสเชฟ แจ็คกี้ โฮ ให้เสียงบรรยายตลอดรายการ

เชฟบอกว่า ส่วนผสมน้ำซุป ที่สามารถนำไปทำเป็นซุปหลายอย่างในอาหารจีน ได้แก่ ซุปหูฉลาม มีส่วนประกอบสำคัญคือ แฮมยูนนาน สั่งจากฮ่องกง มีกลิ่นหอมรสหวาน 1 ขา ราคาประมาณ 4,000 บาท ส่วนผสมอื่นมี เนื้อหมูสะโพก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม และ เนื้อไก่แก่ ส่วนผสมทุกอย่างแช่แข็งไว้ จนกว่าจะนำมาปรุง ส่วนวิธีทำคือ ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำเนื้อหมู ลงไปต้มฆ่าเชื้อโรค เหมือนกับลวก แล้วตักขึ้นมาล้างด้วยน้ำเย็น เพื่อล้างสิ่งสกปรก เป็นการบล็อกเลือดไม่ให้ไหลออกมา




จาก นั้นก็นำเนื้อไก่ลงไปต้มฆ่าเชื้อ ให้ทำทีละอย่าง แฮมยูนนานก็เหมือนกัน จากนั้นนำทั้งสามสิ่งนี้ลงไปตุ๋นในหม้อเดียวกัน 6 ชั่วโมง สัดส่วนของวัตถุดิบทั้งหมด ทุกอย่าง 3 กิโลกรัมเท่ากัน เติมน้ำลงไป 25 ลิตร ในการตุ๋น ทำเสร็จแล้วจะเหลือน้ำซุป 12 ลิตร ก็จะได้สุดยอดน้ำซุป เพื่อนำไปทำซุปหูฉลาม ต่อไป

พอตักน้ำซุปที่ 1 ใส่ภาชนะเสร็จเรียบร้อย เติมน้ำเปล่าลงไปในส่วนผสมตุ๋นต่อ ได้เป็นน้ำซุปที่ 2 เติมเกลือลงไปให้มีรสเค็มนิด ๆ น้ำซุปชนิดนี้จะเก็บไว้ลวกผัก ลวกเส้นหมี่ บะหมี่ ฯลฯ ทีนี้รู้แล้วว่าทำไมแค่บะหมี่ลวก หรือผักลวกธรรมดา ก็อร่อย...

เชฟที่นี่ใจกว้าง ไม่หวงสูตร เพราะโชว์วิธีทำ ซอสเอ็กซ์โอ อีกด้วย ส่วนผสมสำคัญมี กังป๋วย (หอยเชลล์แห้งญี่ปุ่น) 1 กิโลกรัม (โลละหมื่นกว่าบาท) เอามานึ่งให้หอยนิ่มพักไว้ แล้วก็มีแฮมยูนนานสับ นำไปอบแห้ง กุ้งแห้งป่น และปลาโซ (ปลาตาเดียวป่นแห้ง) ปลาอินทรีเค็ม ไข่กุ้งอบแห้ง พริกขี้หนูสด พริกขี้หนูป่นหอมแดงสับ กระเทียมสับ น้ำตาล น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง

วิธีทำ : จำง่าย ๆ ตามขั้นตอนคือ นำของสดลงก่อน ทอดก่อน ตั้งน้ำมันถั่วเหลือง พอร้อนก็นำพริกขี้หนูสดลงทอด สุกตักขึ้นพักไว้ จากนั้นนำหอม และกระเทียมสับลงไปเจียวต่อให้สุกประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ จึงใส่พริกขี้หนูป่นลงไป จากนั้นก็ใส่ของแห้งทั้งหลายเช่น แฮมยูนนาน กุ้งแห้ง กังป๋วย ปลาโซ ปลาอินทรี และไข่กุ้งอบแห้ง และน้ำมันงา เสร็จแล้วเร่งไฟแรง สักพักก็เบาไฟ นำพริกขี้หนูสดที่ทอดพักไว้ใส่ลงไป เป็นอันเสร็จ ตักซอสเอ็กซ์โอนี้เก็บไว้ใช้ผัดกับผัก หรือทำข้าวผัดซอสเอ็กซ์โอ หรือจะรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ได้ตามใจชอบ

ซอสเอ็กซ์โอสูตรเพนนินซูล่า เขามีจำหน่ายที่โรงแรม ราคากระปุกละ 800 บาท น้ำหนัก 200 มิลลิกรัม ถ้าไปซื้อที่เพนนินซูล่าฮ่องกง ราคากระปุกละ 1,300 บาท แต่ถ้าใครจะทำรับประทานเองก็ไม่ว่ากัน เชฟเขาเผยสูตรเด็ดเคล็ดลับไปแล้วนี่

จากนั้นเชฟพาไปชมการทำ หูฉลาม จึงได้รู้ว่าแค่นำหูฉลามตากแห้งมาทำให้นิ่ม จวนจะรับประทานได้นั้นไม่ง่ายเลย ที่นี่เขาใช้หูฉลามฮ่องกงแช่น้ำไว้ 10 ชั่วโมง จากนั้นก็มาตรวจสภาพ เอาก้างออก ขูดทรายที่ติดอยู่ออก รูปทรงไม่สวยรับประทานแล้วอาจจะสะดุดลิ้นก็ใช้กรรไกรตัดออก แต่งให้สวยงามรับประทานได้ลื่นคอ

เมื่อได้หูฉลามตามต้องการแล้ว เรียงหูฉลามลงในไต้ไม้ไผ่สาน มีสองด้านประกบกันกลัดให้แน่น เพื่อไม่ให้หูฉลามเสียรูปทรง แล้วนำไปต้ม 8 ชั่วโมง ในน้ำที่ต้มนั้นใส่เหล้าขาวจีน ขิงบด ได้ที่แล้วนำออกมาต้มน้ำเปล่าทิ้งอีก 3 นาที ได้หูฉลามที่มีคุณภาพตามต้องการแล้วเสิร์ฟในน้ำซุปแฮมยูนนาน (ที่บอกวิธีทำไปก่อนหน้านี้แล้ว) มาถึงนี่ได้เห็นขั้นตอน วิธีทำ ทราบราคาของวัตถุดิบ ผนวกกับแรงงานของเจ้าหน้าที่ในครัว ทุกอย่างรวมกันแล้ว บ่นว่าแพงไม่ออกเลยสักคำ...

ซีนต่อไป... เชฟเฉิง ฮิน ยาน สาธิตวิธีทำ ติ่มซำ อันเป็นสูตรเด็ดของเขา ซึ่งเชฟมีความชำนาญในศิลปะการทำติ่มซำมากว่า 20 ปี เขาเริ่มต้นอาชีพการทำงานที่โรงแรมสองแห่งในฮ่องกง และค้นพบว่าตนเองมีความรัก และสนใจในการทำติ่มซำเป็นพิเศษ จึงฝึกฝนจนชำนาญ และก่อนที่จะมาอยู่เมืองไทย เชฟยาน เข้าร่วมงานกับห้องอาหาร Sung Fa ในฮ่องกง 3 ปี

เชฟบอกว่า ส่วนใหญ่เขาถนัดทำติ่มซำจากอาหารทะเล จานเด่นได้แก่ ติ่มซำกุ้งผสมผักกองฉ่อย ซึ่งเป็นผักที่หายากไม่มีในบ้านเรา


“เมนูนี้ผมได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศจีน เพราะผมค้นพบผักกองชอยที่นั่น เป็นผักที่เพิ่มเนื้อสัมผัสที่หวานกรอบ เมื่อมาผสมผสานกับรสชาติของเนื้อกุ้งสดแล้วสามารถเข้ากันได้ดี ผมมองว่าโลกของการปรุงอาหารนั้นไม่มีวันจบ พยายามมองหาสิ่งใหม่ ๆ ใช้เป็นวัตถุดิบ และหาวิธีปรุงอาหารที่แปลกใหม่ไปเรื่อย ๆ ครับ”




ติ่มซำของเชฟ มีชื่อว่า ฮะเก๋า (Hargau) นั่นเอง และไม่หวงสูตรบอกอย่างละเอียด ดังนี้

ส่วนผสม : แป้งมันฮ่องกง (ตั่งหมิ่น) ใบกุยช่ายคั้นเอาน้ำออกมา เนื้อกุ้งสับ หน่อไม้สดนึ่งสุก สับละเอียด เกลือ น้ำตาล แป้งข้าวโพด ผักกองชอย (Gung Choi) ลักษณะคล้ายถั่วฝักยาว มีเมล็ดเล็ก ๆ นำมาแช่น้ำ 1 ชั่วโมง แล้วตัดเป็นท่อน ๆ

วิธีทำ :
1. นำกุ้งสับ หน่อไม้ เกลือ น้ำตาล แป้งข้าวโพด และผักกองชอย มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้
2. นำแป้งมันฮ่องกงผสมกับน้ำร้อน นวดแล้วใส่น้ำใบกุยช่ายที่คั้นไว้แล้ว นวดต่อจนแป้งขึ้น ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
3. แล้วนำแป้งมาคลึงเป็นเส้นเล็ก ๆ แล้วตัดออกเป็นก้อนเล็ก ๆ ใช้ไม้คลึงแป้งให้เป็นแผ่นบาง ๆ (ใช้แป้งมันฮ่องกงโรยกันแป้งเหนียวติดมือและติดอุปกรณ์)
4. ตักไส้ในข้อ 1 ใส่ลงไป แล้วจับจีบตามชอบ ถ้าจะให้ถูกต้องตามสูตรของเชฟฮ่องกงคนนี้ต้องจับให้ได้ 13 จีบ จึงจะผ่าน หรือใครเก่งกว่านั้นจีบให้ได้ 15 จีบ ตามแบบฉบับ 'ฮะเก๋า' แต่ถ้าเป็นไส้ฮะเก๋าส่วนใหญ่เป็นกุ้งสับกับหน่อไม้ ไม่มีผักกองชอย ซึ่งเป็นสูตรลับซิกเนเจอร์ของเชฟยาน ใครไม่ถนัดจีบก็จับแบบราวิโอลี่ก็ได้ง่ายดี คือจับพับครึ่งแล้วบีบปลายแผ่นแป้งให้แน่นติดกัน แค่นี้ก็เสร็จ

จากนั้นเชฟยังปล่อยวิชาการครัวต่อด้วยการสอนทำ พัฟฟ์หัวผักกาด มีส่วนผสมของกุ้งแห้งฮ่องกง หัวไช้เท้า ขึ้นฉ่ายจีน และกุยช่ายต้มสุกแล้วบีบน้ำออก กำจัดกลิ่นไม่ให้แรงเกินไป มีแฮมยูนนานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เกลือ น้ำตาล แป้งข้าวโพด ส่วนแป้งนั้นมีส่วนผสมของแป้งมันฮ่องกง ผสมไข่ไก่ และแป้งคัสตาร์ด นวดแป้งด้วยไม้นวด คลึงแล้วนวดหลายครั้ง ตามสูตรการทำขนมพัฟฟ์ เพื่อให้แป้งซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ยากตอนที่รีดแป้งให้เป็นชั้นที่ต้องอาศัยความชำนาญ พอนำแป้งห่อกับไส้ขนม แล้วนำลงไปทอดในกระทะ กลิ่นหอมก็โชยมาพาให้หิว รับประทานเมนูนี้ร้อน ๆ แกล้มกับชายามบ่ายก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี

เมื่อได้เวลาอาหารกลางวัน เมนูต่าง ๆ ที่เชฟปล่อยสูตร สาธิต และร่วมลงมือทำ ก็นำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ประกอบด้วย ติ่มซำทั้งหลาย มีฮะเก๋า เกี๊ยวหอยเชลล์อด (หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟ) ก๋วยเตี๋ยวหลอด ข้าวผัดซอสเอ็กซ์โอ ซุปหูฉลามเสิร์ฟกับจิ๊กโฉว่แดง ไก่หนังกรอบ และปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว ตบท้ายด้วย สาคูมะม่วงใส่เนื้อส้มโอ เพิ่มความสดชื่นแก่ร่างกาย

จากนั้นก็มีสารพัดชาชั้นดี เช่น ชาขาว ที่มีสรรพคุณต้านสารอนุมูลอิสระ ชาลิงเก็บ มีประวัติว่าต้องใช้ลิงไปเก็บตามหน้าผา ปัจจุบันนำมาเพาะพันธุ์ปลูกได้แล้ว เป็นชาในตระกูลอู่หลง ชากู้เอ๋อ เป็นชาหมัก ดื่มชาพอตื่นดีก็เข้าครัวลงมือทำเบเกอรี่กับเชฟโยฮานต่อ เขาเป็นเชฟคนใหม่ของที่นี่แต่มีประสบการณ์ยาวนาน เพราะสนใจเข้าครัวตั้งแต่อายุ 12 ปี

“สมัยผมเด็ก ๆ ไปเยี่ยมคุณป้ากับญาติ มักจะเรียกร้องให้ผมทำอาหารให้พวกเขาทาน ผมมีความสุขมากที่พวกเขาชอบอาหารที่ผมทำ และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมก้าวสู่วงการอาหารนับแต่นั้น ...”

เมื่อรู้ตัวชอบเข้าครัว เชฟได้เข้าเรียนทำอาหารในหลายสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมถึงตะวันออกกลางด้วย เขาบอกว่า

“ผมอยากทราบว่าคนท้องถิ่นต่าง ๆ เขาชอบกินอะไร รสชาติอย่างไร และผมชอบที่จะค้นหาวัตถุดิบใหม่ ๆ จากตลาดของแต่ละท้องถิ่น ที่บางอย่างผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน”

แนวคิดของเชฟตรงกับเจตนารมณ์ของโรงแรม ที่เน้นการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารแบบตะวันออกและตะวันตก และผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับความทันสมัย เพื่อให้ได้สิ่งที่สด และแปลกใหม่อยู่เสมอ

เชฟโยฮาน มีประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารระดับ 2 และ 3 ดาวมิชลินทั่วโลก เคยฝึกหัดกับเชฟชื่อดังระดับสูงสุดของมิชลิน ไกด์ เชฟโจเอล โรบูชอง (Joel Robuchon) นับ 3 ปี เคยร่วมงานกับร้านอาหาร La Rotonde ระดับสองดาวมิชลินที่ Casino Le Lyon Vert ในเมืองโรน ประเทศฝรั่งเศส และ Robuchon A Galera ร้านอาหารชื่อดังระดับสามดาวมิชลินในมาเก๊า ประเทศจีน ในตำแหน่งเอ็กเซ็คคิวทีฟ พาสทรี่ ซูเชฟ อีกด้วย

เชฟบอกว่าเขาหลงรักวัตถุดิบ 2 ชนิด ที่กลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในของหวานของเขาคือ ฝักวานิลลา และ ช็อกโกแลต

“ฝักวานิลลาเป็นวัตถุดิบที่ทุกคนรู้จักและใช้กันมาก และชื่นชอบในรสชาติของมัน ส่วนช็อกโกแลตนั้นผมเลือกใช้หลายชนิดที่แตกต่างกัน เช่น เลือกช็อกโกแลตจากโรงงานต่าง ๆ ในฝรั่งเศสสัก 4-5 แห่ง

ช็อกโกแลตต้องประกอบไปด้วยฝักโกโก้และเนยเท่านั้น และต้องเป็นช็อกโกแลตบริสุทธิ์ 100% นอกจากส่วนประกอบเหล่านี้แล้วผมยังให้ความสำคัญกับความแตกต่างระหว่างความ ร้อนและเย็น เมื่อมาอยู่ในขนมแล้วจะทำให้เกิดรสชาติที่แตกต่าง ท้าทายผู้ลิ้มลอง”


เมื่อเข้าชมห้องผสมน้ำตาลที่ใช้ตกแต่งเค้กแต่งงาน ดูการแกะสลักช็อกโกแลตเป็นรูปนางอัปสร จากนั้นเชฟโยฮาน สาธิตการทำมาการูน หรือมากาฮอง พอให้ผู้มาเยือนได้หยิบจับ และงับเข้าปากชิมกันอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนไปลงมือทำขนมปังฝรั่งเศส และขนมปังครัวซองท์ ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเยี่ยมชมทุกซอกทุกมุมของครัวโรงแรมจนทั่ว เรียกว่าแง้มสูตรลับ ตำรับครัวเพนนินซูล่า มาฝากแฟน ๆ @ taste เป็นกรณีพิเศษ

** ห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน 11.30 - 14.30 และ 18.00 - 22.30 น. รองรับได้ 114 ที่นั่ง มีห้องส่วนตัว 5 ห้อง แต่ละห้องจุได้ 10 ที่นั่ง ราคาเฉลี่ยของอาหารต่อ 1 ที่ตกประมาณ 850 บาท (มื้อกลางวัน) 1,600 บาท (มื้อเย็น) เมนูแนะนำ เป็ดปักกิ่ง ปลาหิมะนึ่งมะนาวดองซีอิ๊ว ติ่มซำ และชาจีนหลากหลายชนิด โทร.02-861-2888




ข้อมูล //www.bangkokbiznews.com/



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 10:33:09 น. 1 comments
Counter : 3803 Pageviews.

 
สามารถเข้าไปแชร์ Tips เนื้อหาแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารผ่าน //www.hotskoop.com อีกทางนึงได้นะค่ะ เป็นอีกช่องทางในการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลแก่คนอื่นๆได้อ่านรีวิวร้านอาหารของคุณได้ ค่ะ ^^


โดย: looklipair วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:17:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.