ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
17 เคล็ดลับกระชับหุ่น

ลดความอ้วน

17 เคล็ดลับกระชับหุ่น (รักลูก)

หากเคยลดน้ำหนักแล้วไม่สำเร็จสักทีล่ะก็ ลองนำเคล็ดลับ 17 ข้อนี้ไปใช้ รับรองว่าได้ผลจริงและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วยค่ะ

1.เริ่มต้นด้วยอาหารมื้อเช้า

การวิจัยของ the University of Minnesota พบว่า คนที่กินอาหารมื้อเช้าจะมีปริมาณมวลรวมในร่างกายต่ำกว่าคนที่ข้ามมื้อแรกของ วันไป

2.กินซีเรียลตอนเช้า...ไม่อ้วน

พบว่าคนที่กินซีเรียลเป็นอาหารเช้าทุกวัน น้อยคนมากที่พบว่าเป็นโรคอ้วน หรือเป็นโรคเบาหวาน เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้กินซีเรียลตอนเช้า

3.กินถั่ว...ดีชัวร์

การวิจัยของ the City of Hope National Medical Center บอกว่าคนที่มีน้ำหนักมากที่กินแอลมอนด์เป็นประจำ จะน้ำหนักลดลงมากกว่ากลุ่มที่ควบคุมน้ำหนักโดยวิธีอื่น

4.อย่านอนน้อย

ผลวิจัยของ France’sINSERM organization รายงานว่าสาเหตุของการนอนน้อยประมาณ 23-24% มีเพิ่มขึ้นเพราะความหิว ซึ่งน้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

5.กินช้า ๆ

เมื่อน้ำหนักลดลงช้า ๆ และสม่ำเสมอ ถือว่าคุณมาถูกทางค่ะ ซึ่งนักวิจัยจาก the Unversity of Rhoden Island พบว่ากินเร็วๆ จะสูญเสียพลังงานไป 646 แคลอรี่ แต่ถ้ากินอาหารชนิดเดียวกันแต่กินช้า ๆ จะสูญเสียพลังงานเพียง 579 แคลอรี่เท่านั้น

6.ห่อข้าวมากินเอง

ควรนำอาหารกลางวันและของว่างที่ดีต่อสุขภาพมากินเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ที่โรงเรียน การไปช้อปปิ้งหรือสถานที่อื่น ๆ เพื่อที่คุณจะได้ยืดระยะเวลาในการกินได้ค่ะ

7.ห่อข้าวกลับบ้าน

ร้านอาหารมักเสิร์ฟอาหารที่มีปริมาณมาก ๆ ควรขอกล่องใส่กลับไปทานที่บ้านด้วย เมื่อถึงบ้านก็นำไปแช่ตู้เย็น และนำออกมากินเป็นอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นในมื้อต่อไป

8.หาเพื่อนลดความอ้วน

การมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ย่อมดีกว่า ฉายเดียวแน่นอนค่ะ เพราะเพื่อนจะช่วยให้คุณน้ำหนักลดลงได้เร็วขึ้น และได้ผลชะงัดเชียวค่ะ

9.ตามใจตัวเองบ้าง

การลดความอ้วนที่ได้ผลดีกว่า ก็คืออนุญาตไว้ตัวเองซื้อของที่อยากกินบ้างเป็นครั้งคราว เช่น เค้กสตรอว์เบอร์รี่สักชิ้น แต่ก็ควรจะอยู่ในความพอดีนะคะ

10.ปิดทีวีกันเถอะ

มีนักวิจัยพบว่าเด็กที่ดูทีวีมากเกินไป รวมถึงการให้กินอาหารหน้าทีวี จะทำให้กินได้ปริมาณเยอะกว่าคนที่ไม่ดูทีวี

11.ทำกิจกรรมที่ตื่นเต้น

ควรหากิจกรรมที่น่าตื่นเต้นในฟิตเนส เช่น กิจกรรมแนวผจญภัยอย่าง kick-boxing rock-climbing หรือหาอะไรทำในห้องครัว เช่น ทำกับข้าวที่ต้องออกแรงค่ะ

12.กลิ่นหอม ๆ ก็ช่วยได้

นายแพทย์ Alan R. Hirsch ผู้อำนวยการด้านประสาทวิทยาของ Chicago’s Smell & Teste Treatment and Research Foundation ได้ศึกษาวิจัยใจในอาสาสมัคร 3,000 คน พบว่าคนจำนวนมากที่ได้สูดกลิ่นหอม ๆ จะมีความหิวที่น้อยลงและน้ำหนักจะลดลงด้วย ซึ่งกลิ่นหอมที่ได้ทำการวิจัยก็คือกลิ่นจากกล้วยหอม แอปเปิ้ล และกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์

13.อาหารสีฟ้า ลดความอยากกิน

เช่น บลูเบอรี่และมันฝรั่งสีม่วงบางชนิด รวมทั้งร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยสีฟ้าอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สีฟ้าทำให้สมองลดความอยากอาหารลงและทำให้หิวน้อยลง

14.ใช้เครื่องวัดจำนวนก้าวเดิน

วิธีนี้เป็นการลงทุนเพื่อลดน้ำหนักที่ดีที่สุดทางหนึ่งค่ะ จากการวิจัยของ Annals of Family Medicine พบว่าเพียงการใส่เครื่องวัดจำนวนก้าวเดิน ทำให้คนน้ำหนักลดได้พอประมาณ แม้คุณจะไม่ได้อยู่ในช่วงลดน้ำหนักก็ตาม

15.ทำบันทึก

สูตรลดน้ำหนักที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งคือการจดบันทึก (food diary) ซึ่งเราสามารถบันทึกอาหารที่กิน ตารางออกกำลังกายร่วมถึงบันทึกน้ำหนักแต่ละช่วง ที่เรากำลังลดได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เรามีระบบที่ชัดเจนมากขึ้น

16.ไม่ควรชั่งน้ำหนักบ่อย

เราควรชั่วน้ำหนักอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ก็พอค่ะ ซึ่งการชั่งน้ำหนักหลาย ๆ ครั้งในหนึ่งวันไม่ทำให้เห็นผลที่ชัดเจน และอาจผิดพลาดได้ เพราะน้ำหนักตัวของคุณจะขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมง

17.อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง

ตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้และควรปฏิบัติให้ได้ตามนั้น เช่น ถ้าคุณกำหนดว่าภายในหนึ่งเดือนจะลดน้ำหนักให้ได้เท่านั้นเท่านั้น แล้วจะซื้อรองเท้าคู่ใหม่หรือเสื้อตัวใหม่ ให้เป็นของขวัญสำหรับตัวเอง และเมื่อคุณรู้สึกดีที่ลดน้ำหนักได้ตามที่ตั้งใจไว้ ก็จะมีกำลังใจที่จะทำมันต่อไปค่ะ


Create Date : 14 ตุลาคม 2553
Last Update : 14 ตุลาคม 2553 21:05:34 น. 0 comments
Counter : 1566 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.