|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
วันเหงาๆกับเมืองเก่าริมแม่น้ำโขง....เชียงคาน
ว่ากันว่า....มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม แม้จะเก่งสักเพียงไหน แต่ท้ายที่สุดคนเราก็ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเหนื่อยมากกับงานหลายๆอย่าง ทั้งหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมอบหมาย และงานประจำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็อยากหนีไปไกลๆ แต่ก็ติดที่ความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองทำให้ไปไหนไกลๆไม่ได้สักที
วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากทำงานเจอหน้าคนไข้ติดต่อกันกว่า 25 วัน ผมเกิดอารมณ์เบื่อโรงพยาบาลสุดขีด ทริปนครวัด-นครธม ก็โดนเพื่อนรักแคนเซิลกะทันหัน ท้ายสุดผมก็ตัดสินใจหาที่ใช้เวลาวันว่างให้กับตัวเองคนเดียวเหมือนเคย
เช้าวันเสาร์ ที่บขส.เลย...
ผมเดินทางถึงบขส.เลยด้วยรถทัวร์ไม่ปรับอากาศชั้นพัดลม หลังจากลงจากรถด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดารา มีสามล้อล้อมหน้าล้อมหลัง ผมก็แหวกฝูงสามล้อออกมาถามทางคนแถวๆนั้นจนได้
"จะไปเชียงคาน ไปทางไหนน้อง??"
"ไปทางนู้น" เด็กรถคนนึงบอกแล้วชี้ไปที่อีกสถานีที่มีรถสองแถวคันใหญ่จอดอยู่
ผมเดินขึ้นรถที่มีป้ายหน้ารถว่า"เชียงคาน" เลือกที่นั่งตามใจชอบเพราะรถสองแถวคันนี้ก็คือรถ6ล้อที่ปรับมาเป็นรถโดยสาร บรรยากาศก่อนรถออกมีแค่ผมแบกเป้1ใบ กับคุณป้าที่หอบถุงผักพะรุงพะรัง
บนรถคันนี้ผมได้เห็นชีวิตที่หลากหลายมากๆ ผู้หญิงที่ขึ้นรถมาใหม่ ชวนคุณป้าคุยเกี่ยวกับถุงผักและท้ายสุดก็เกิดการขายพริกไทยสดบนรถ บางทีป้าอาจจะเป็นแม่ค้ามาซื้อผักไปขายที่เชียงคาน พอรถแล่นออกมาได้สักพักก็หยุดรับผู้โดยสารตามรายทางเรื่อยๆ ทั้งคุณลุงที่แบกอะไหล่รถยนต์ขึ้นมา เด็กวัยรุ่นที่ฟังแต่i-pod พระภิกษุหนึ่งรูป น้องนักเรียนอีกหลายคน จนท้ายสุดบนรถก็เต็มเอี๊ยดด้วยผู้โดยสาร ไม่อยากบอกเลยครับว่ารถคันนี้เป็นรถที่ขับช้ามากๆๆๆ ระยะทางจากจ.เลยถึงอ.เชียงคานแค่48 กิโลเมตร แต่รถใช้เวลาวิ่ง 1 ชั่วโมงครึ่ง รถหวานเย็นจริงๆ
ผมเดินทางถึงเชียงคานตอนสายๆ ที่พักที่เลือกคือเกสต์เฮ้าส์ที่เป็นบ้านเก่าริมแม่น้ำโขง สิ่งที่ผมติดใจคือเคยอ่านเจอในอินเตอร์เนตบอกว่าที่นี่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไว้หลายตัว ต่อให้มาคนเดียวก็ไม่เหงา
ห้องนอนคืนละ200 บาท มีพัดลมกับโต๊ะเล็กๆให้หนึ่งตัว เตียงเป็นแบบในรูปนี่ละครับ
ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับแต่สะอาดสะอ้านดีทีเดียว ที่นี่มีเปลให้นอนเล่นด้วย เห็นแล้วคิดถึงปาย แต่ที่ปายบรรยากาศน่านอนกว่านี้ เฮ้อ...คิดถึงปายจริงๆ
มาถึงวันแรกยังไม่รู้จะไปไหน รู้แค่ว่าหิวมากๆ พี่เจ้าของเกสต์เฮ้าส์แนะนำว่าไปเที่ยวแก่งคุดคู้ไหม ว่าแล้วก็ให้จักรยานมาหนึ่งคัน ปั่นไปแก่งคุดคู้ที่อยู่ห่างไป 5 กิโลเมตร ช่วงนี้น้ำค่อนข้างเต็มและขุ่นทีเดียวครับ
จักรยานคู่ชีพของผมในวันนี้ และสวนภายในรีสอร์ทที่แก่งคุดคู้
ตอนนี้ดูวิวไปก็คงไม่ดื่มด่ำซักเท่าไหร่เพราะท้องมันบอกว่าหิวม๊ากมาก เดินไปเดินมาเจอร้านอาหารริมน้ำเลยเข้าไปนั่งสั่งข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบปลาทันที (ลาวแต๊ๆเลยกรู) อาหารมาเร็วทันใจเลยได้นั่งจกข้าวเหนียว และชมวิวแม่น้ำพร้อมกัน
กินอิ่มก็ได้เวลาไปเดินเที่ยวและเดินซื้อของฝาก เดินแป๊บเดียวได้หมวกมาหนึ่งใบแทนใบที่ทำหายที่ท่ารถ นอกจากนี้ยังได้เสื้อผ้าฝ้ายกับกางเกงอีกอย่างละตัว ที่แก่งคุดคู้มีร้านขายของฝากเยอะทีเดียว เป็นร้านหลังคาแดงๆในรูปอ่ะครับ ที่เห็นเด่นๆคือขนมมะพร้าวแก้ว ผมซื้อมาสองถุงใหญ่ๆฝากเพื่อนที่โรงพยาบาล (แต่ก็กินเองเกือบหมดถุง เพราะอร่อยดี)
กินอิ่มก็ได้เวลากลับ ผมกลับถึงเกสต์เฮ้าส์ตอนบ่ายแก่ๆ นอนพักให้หายร้อนก่อนไปเที่ยวล่องเรือในแม่น้ำโขงต่อ ค่าล่องเรือต่อคนไม่รู้เขาคิดเท่าไหร่ เพราะตอนไปเหมาล่องตามแม่น้ำไปเรื่อยๆสองชั่วโมง
ฟ้าตอนเย็นวันนี้ค่อนข้างครึ้ม ถึงจะมีฝนตกปรอยๆบ้าง แต่ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด มันดูชุ่มชื้นและเย็นดี
วิวสองฝั่งแม่น้ำมีทั้งเรือหาปลาของชาวบ้านและเรือสินค้าไปหลวงพระบาง ชีวิตชาวลาวยังคงผูกพันกับแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต
เรือแล่นทวนแม่น้ำไปเรื่อยๆก่อนวกกลับไปทางแก่งคุดคุ้แล้ววนกลับมาที่ท่าเรือ ช่วงเวลาสองชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่ผมรุ้สึกว่าตัวเองได้พักผ่อนจริงๆ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงพร้อมกับคุนลุงคนขับเรือพาผมมาส่งที่ฝั่ง การเดินทางคนเดียวบางครั้งก็ทำให้จิตใจสงบ แต่บางครั้งมันก็เหงาดี บนเส้นทางกลับเกสต์เฮ้าส์พระอาทิตย์กำลังลาขอบฟ้าไปอย่างเงียบๆ
ผมสะพายกล้องไปเรื่อยๆจากเส้นทางเลียบแม่น้ำเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น ภาพนี้เป็นร้านของโรงแรมแห่งหนึ่งที่เดินผ่าน แต่ไม่ได้แวะทานที่นี่นะครับ เพราะผมไปทานอีกร้านนึงที่น่าสนใจกว่า
ร้านที่ผมไปทานมื้อเย็นชื่อร้านแสงทองอยู่บนถนนชายโขง เจ้าของร้านเป็นจิตรกร รับสอนศิลปะให้เด็กๆด้วย ในร้านมีภาพวาดฝีมือเจ้าของร้านและมีภาพวาดของเด็กๆแปะไว้ตามข้างฝา บรรยากาศในร้านก็สลัวๆ มีตะเกียงโบราณที่โต๊ะอาหารด้วยครับ
อาหารที่ร้านนี้อร่อยดี ผมดื่มเบียร์ไปเรื่อยๆดูวิวริมแม่น้ำที่มืดสนิท พี่เจ้าของร้านอัธยาสัยดีมาก ลูกสาวอายุประมาณ2-3ขวบก็ชอบเข้ามาเล่นกับลูกค้า เธอชอบเล่นลูกบอลที่ติดกับพวงกุญแจของผม เห็นเด็กเล่นแบบนี้แล้วก็น่ารักดี คืนนี้ผมกลับถึงเกสต์เฮ้าส์ตอนสี่ทุ่มกว่า คืนนี้นอนหลับเร็วเหมือนเคย แต่หลับไม่สนิทสงสัยเพราะมีเรื่องให้คิดมากมาย....
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้า ออกมาล้างหน้าล้างตาที่ระเบียงก็เจอวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ปลายแม่น้ำพอดี
เช้าวันนี้ออกไปทำบุญตักบาตร เมืองเชียงคานมีตักบาตรข้าวเหนียวเหมือนชาวอีสานทั่วไป ผมเห็นคุณตาคุณยายออกมารอพระแต่เช้า ข้าวเหนียวที่เหลือจากตักบาตรถูกปั้นเป็นก้อนเล็กๆวางไว้ตามรั้วบ้าน วัฒนธรรมนี้คือการให้ทานแก่นกกาเหมือนที่หลวงพระบาง
บนเส้นทางเลียบน้ำโขงหลายร้อยเมตร ผมเห็นบ้านเรือนเก่าที่อายุนับร้อยปี สีน้ำตาลของไม้เก่าๆทาบกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า กลายเป็นเสน่ห์ที่หาดูได้ยาก ผู้คนที่นี่ยังคงมีวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย แม้ความเจริญจะเริ่มเข้ามา
"บ้านแสงทอง" ร้านอาหารที่ผมเพิ่งแวะมาทานเมื่อคืน อาหารพวกปลาอร่อยดี บรรยากาศริมน้ำก็ใช้ได้เลย ถ้าใครไปเชียงคานอย่าลืมแวะไปเยี่ยมที่นี่สักครั้ง
ที่เชียงคานมีวัดอยู่หลายแห่ง ที่ผมได้ไปเยี่ยมคือวัดศรีคูณเมือง เณรน้อยนับสิบรูปกำลังเดินตามพระอาจารย์ไปบิณฑบาต ภาพเหล่านี้บ่งบอกว่าผู้คนที่นี่ยังคงผูกพันกับพุทธศาสนามากทีเดียว
บรรยากาศยามเช้ายังคงเงียบๆไม่มีอะไร เดินมาสักพักก็เจอร้านขายซาลาเปา คนขายยังสวมชุดนอนอยู่เลยครับ ใครจะซื้อก็ตะโกนเรียก เดี๋ยวก็ออกมาขายเอง ลูกละ5บาท แป้งเนื้อนุ่ม รสชาติอร่อยดี
เกสต์เฮ้าส์ที่นี่มีหลายแห่งให้เลือก ราคาไม่แพงเลย ห้องพัดลมก็ประมาณ150-300บาท ห้องแอร์ก็มีอยู่หลายแห่ง อย่างเกสต์เฮ้าส์ที่ผมพักราคาแค่200บาท มีจักรยานให้ขี่เที่ยว มีกล้วยหอมใส่ตะกร้าให้กินเล่น มื้อเช้าผมสั่งไข่ดาว พี่เขาก็ทอดไข่2ฟอง ปิ้งขนมปังให้กินโดยไม่คิดเงินเลย ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนเป็นครอบครัวกันจริงๆ
ส่วนใครที่ชอบแบบโฮมสเตย์ก็มีนะครับ เพื่อนๆในพันทิปเคยไปพักมาแล้วเล่าว่าเป็นบ้านคุณตาคุณยายที่อยู่ริมแม่น้ำ ทั้งใจดีและดูแลดีมากๆ
เชียงคานเป็นเมืองที่ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี เป็นเมืองที่ไม่มีอะไร เงียบเสียยิ่งกว่าชนบทของเมืองปายเสียอีก คนที่ชอบแสงสีอาจจะเบื่อ แต่สำหรับคนที่ชอบความสงบ อยากพักผ่อนแบบใช้ชีวิตไปวันๆ ในความไม่มีอะไรนั้นก็เหมาะสำหรับการมานอนเล่นทีเดียว เรียกว่าความสวยงามของเชียงคานคือความเป็นเมืองเก่าที่ยังคงเป็นเมืองเก่า ไม่มีสีสันหรือสิ่งแต่งแต้มยามค่ำคืนมากเหมือนปาย
วันนี้...เชียงคานยังคงเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกหลายปีข้างหน้าเชียงคานจะเป็นแบบไหน ถ้าคุณมีโอกาส อยากให้ลองแวะมาเยี่ยมที่นี่สักครั้ง ใช้เวลานอนเล่นสักคืน ถึงแม้คุณจะไม่ชอบความเงียบหรือค่ำคืนที่ไม่มีสีสันอะไรของเมือง แต่อากาศเย็นๆและวิวริมแม่น้ำอาจจะทำให้คุณหลงรักเชียงคานได้บ้างไม่มากก็น้อย มีคนบอกว่า เชียงคานฤดูฝนยังไม่สวยเท่าไหร่ แต่เชียงคานฤดูหนาว สวยและมีเสน่ห์มาก....
บางทีผมอาจจะได้กลับมาเยี่ยมเมืองเก่าแห่งนี้อีกครั้ง เมื่อฤดูหนาวมาเยือน.....
ว่ากันว่า...คนเราไม่สามารถอยู่เพียงลำพังคนเดียวได้ คำกล่าวนี้อาจจะเป็นจริง ถึงแม้ผมจะเดินทางมาคนเดียว แต่ใจก็ยังคิดถึงคนอื่นๆ
หวังว่าโปสการ์ด คงจะถึงใครบางคน.....
Create Date : 07 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 11:58:52 น. |
|
47 comments
|
Counter : 4397 Pageviews. |
|
|
|
โดย: chava วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:12:23:28 น. |
|
|
|
โดย: KnightWin วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:12:37:20 น. |
|
|
|
โดย: Draught Beer IP: 202.93.60.242 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:14:29:06 น. |
|
|
|
โดย: chai IP: 58.64.44.132 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:14:38:17 น. |
|
|
|
โดย: bignui (thamakorn ) วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:42:13 น. |
|
|
|
โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 124.157.228.152 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:14 น. |
|
|
|
โดย: Dr.Manta วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:22:02:56 น. |
|
|
|
โดย: vecchio วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:4:49:34 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์สวย วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:7:37:06 น. |
|
|
|
โดย: zaxzophone. IP: 203.154.48.14 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:17:09:26 น. |
|
|
|
โดย: ต่อตระกูล วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:19:10:39 น. |
|
|
|
โดย: bua ja วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:20:18:56 น. |
|
|
|
โดย: แมวมูดี้ IP: 87.179.102.192 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:21:40:52 น. |
|
|
|
โดย: หนึ่ง IP: 222.123.73.236 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:21:41:41 น. |
|
|
|
โดย: พีจัง พีจัง IP: 125.24.16.163 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:22:32:16 น. |
|
|
|
โดย: noo1 IP: 125.27.3.12 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:23:35:11 น. |
|
|
|
โดย: POL_US วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:7:58:30 น. |
|
|
|
โดย: BAYROCKU วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:9:27:40 น. |
|
|
|
โดย: DAN_KRAB วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:0:11:50 น. |
|
|
|
โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:13:03:07 น. |
|
|
|
โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:19:48:30 น. |
|
|
|
โดย: JayMelb IP: 124.121.83.2 วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:20:41:01 น. |
|
|
|
โดย: หนูนีล (นางน่อยน้อย ) วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:7:04:23 น. |
|
|
|
โดย: tpipe วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:17:08:41 น. |
|
|
|
โดย: enuging IP: 202.90.118.251 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:19:39:32 น. |
|
|
|
โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:19:47:04 น. |
|
|
|
โดย: dolores วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:20:18:48 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:14:03:23 น. |
|
|
|
โดย: pun@ru วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:7:58:14 น. |
|
|
|
โดย: man@ (manatto ) วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:26:01 น. |
|
|
|
โดย: เคียวแสงจันทร์ IP: 61.7.182.129 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:23:46:26 น. |
|
|
|
โดย: Look Pear IP: 124.120.185.171 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:3:22:42 น. |
|
|
|
โดย: aris IP: 125.26.173.170 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:20:36:49 น. |
|
|
|
โดย: hemmu IP: 202.149.25.234 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:57:40 น. |
|
|
|
โดย: กบ IP: 202.183.211.197 วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:15:41:46 น. |
|
|
|
โดย: อร IP: 58.10.146.168 วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:27:41 น. |
|
|
|
โดย: พีพี IP: 125.26.89.76 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:55:43 น. |
|
|
|
โดย: นิลจา IP: 10.10.0.201, 61.19.86.226 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:21:43:10 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 124.122.84.52 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:10:59 น. |
|
|
|
โดย: มุ้ย IP: 125.26.170.147 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:15:13:20 น. |
|
|
|
โดย: น้ำฝนเดือนหก IP: 203.146.12.196 วันที่: 17 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:36:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เคยไปที่นี่ครั้งนึงแต่ไม่เคยไปนอนชอบมากเลย