ชีวิตนี้เป็นของตัวเอง ขอใช้มันให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุด...........
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
7 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
วันเหงาๆกับเมืองเก่าริมแม่น้ำโขง....เชียงคาน

ว่ากันว่า....มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม แม้จะเก่งสักเพียงไหน แต่ท้ายที่สุดคนเราก็ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้



ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเหนื่อยมากกับงานหลายๆอย่าง ทั้งหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมอบหมาย และงานประจำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็อยากหนีไปไกลๆ แต่ก็ติดที่ความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองทำให้ไปไหนไกลๆไม่ได้สักที


วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากทำงานเจอหน้าคนไข้ติดต่อกันกว่า 25 วัน ผมเกิดอารมณ์เบื่อโรงพยาบาลสุดขีด ทริปนครวัด-นครธม ก็โดนเพื่อนรักแคนเซิลกะทันหัน ท้ายสุดผมก็ตัดสินใจหาที่ใช้เวลาวันว่างให้กับตัวเองคนเดียวเหมือนเคย


เช้าวันเสาร์ ที่บขส.เลย...

ผมเดินทางถึงบขส.เลยด้วยรถทัวร์ไม่ปรับอากาศชั้นพัดลม หลังจากลงจากรถด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดารา มีสามล้อล้อมหน้าล้อมหลัง ผมก็แหวกฝูงสามล้อออกมาถามทางคนแถวๆนั้นจนได้

"จะไปเชียงคาน ไปทางไหนน้อง??"

"ไปทางนู้น" เด็กรถคนนึงบอกแล้วชี้ไปที่อีกสถานีที่มีรถสองแถวคันใหญ่จอดอยู่

ผมเดินขึ้นรถที่มีป้ายหน้ารถว่า"เชียงคาน" เลือกที่นั่งตามใจชอบเพราะรถสองแถวคันนี้ก็คือรถ6ล้อที่ปรับมาเป็นรถโดยสาร บรรยากาศก่อนรถออกมีแค่ผมแบกเป้1ใบ กับคุณป้าที่หอบถุงผักพะรุงพะรัง

บนรถคันนี้ผมได้เห็นชีวิตที่หลากหลายมากๆ ผู้หญิงที่ขึ้นรถมาใหม่ ชวนคุณป้าคุยเกี่ยวกับถุงผักและท้ายสุดก็เกิดการขายพริกไทยสดบนรถ บางทีป้าอาจจะเป็นแม่ค้ามาซื้อผักไปขายที่เชียงคาน
พอรถแล่นออกมาได้สักพักก็หยุดรับผู้โดยสารตามรายทางเรื่อยๆ ทั้งคุณลุงที่แบกอะไหล่รถยนต์ขึ้นมา เด็กวัยรุ่นที่ฟังแต่i-pod พระภิกษุหนึ่งรูป น้องนักเรียนอีกหลายคน จนท้ายสุดบนรถก็เต็มเอี๊ยดด้วยผู้โดยสาร ไม่อยากบอกเลยครับว่ารถคันนี้เป็นรถที่ขับช้ามากๆๆๆ ระยะทางจากจ.เลยถึงอ.เชียงคานแค่48 กิโลเมตร แต่รถใช้เวลาวิ่ง 1 ชั่วโมงครึ่ง รถหวานเย็นจริงๆ



ผมเดินทางถึงเชียงคานตอนสายๆ ที่พักที่เลือกคือเกสต์เฮ้าส์ที่เป็นบ้านเก่าริมแม่น้ำโขง สิ่งที่ผมติดใจคือเคยอ่านเจอในอินเตอร์เนตบอกว่าที่นี่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไว้หลายตัว ต่อให้มาคนเดียวก็ไม่เหงา

ห้องนอนคืนละ200 บาท มีพัดลมกับโต๊ะเล็กๆให้หนึ่งตัว เตียงเป็นแบบในรูปนี่ละครับ



ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับแต่สะอาดสะอ้านดีทีเดียว ที่นี่มีเปลให้นอนเล่นด้วย เห็นแล้วคิดถึงปาย แต่ที่ปายบรรยากาศน่านอนกว่านี้ เฮ้อ...คิดถึงปายจริงๆ



มาถึงวันแรกยังไม่รู้จะไปไหน รู้แค่ว่าหิวมากๆ พี่เจ้าของเกสต์เฮ้าส์แนะนำว่าไปเที่ยวแก่งคุดคู้ไหม ว่าแล้วก็ให้จักรยานมาหนึ่งคัน ปั่นไปแก่งคุดคู้ที่อยู่ห่างไป 5 กิโลเมตร ช่วงนี้น้ำค่อนข้างเต็มและขุ่นทีเดียวครับ



จักรยานคู่ชีพของผมในวันนี้ และสวนภายในรีสอร์ทที่แก่งคุดคู้





ตอนนี้ดูวิวไปก็คงไม่ดื่มด่ำซักเท่าไหร่เพราะท้องมันบอกว่าหิวม๊ากมาก เดินไปเดินมาเจอร้านอาหารริมน้ำเลยเข้าไปนั่งสั่งข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบปลาทันที (ลาวแต๊ๆเลยกรู)
อาหารมาเร็วทันใจเลยได้นั่งจกข้าวเหนียว และชมวิวแม่น้ำพร้อมกัน





กินอิ่มก็ได้เวลาไปเดินเที่ยวและเดินซื้อของฝาก เดินแป๊บเดียวได้หมวกมาหนึ่งใบแทนใบที่ทำหายที่ท่ารถ นอกจากนี้ยังได้เสื้อผ้าฝ้ายกับกางเกงอีกอย่างละตัว
ที่แก่งคุดคู้มีร้านขายของฝากเยอะทีเดียว เป็นร้านหลังคาแดงๆในรูปอ่ะครับ ที่เห็นเด่นๆคือขนมมะพร้าวแก้ว ผมซื้อมาสองถุงใหญ่ๆฝากเพื่อนที่โรงพยาบาล (แต่ก็กินเองเกือบหมดถุง เพราะอร่อยดี)



กินอิ่มก็ได้เวลากลับ ผมกลับถึงเกสต์เฮ้าส์ตอนบ่ายแก่ๆ นอนพักให้หายร้อนก่อนไปเที่ยวล่องเรือในแม่น้ำโขงต่อ
ค่าล่องเรือต่อคนไม่รู้เขาคิดเท่าไหร่ เพราะตอนไปเหมาล่องตามแม่น้ำไปเรื่อยๆสองชั่วโมง



ฟ้าตอนเย็นวันนี้ค่อนข้างครึ้ม ถึงจะมีฝนตกปรอยๆบ้าง แต่ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด มันดูชุ่มชื้นและเย็นดี



วิวสองฝั่งแม่น้ำมีทั้งเรือหาปลาของชาวบ้านและเรือสินค้าไปหลวงพระบาง ชีวิตชาวลาวยังคงผูกพันกับแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต



เรือแล่นทวนแม่น้ำไปเรื่อยๆก่อนวกกลับไปทางแก่งคุดคุ้แล้ววนกลับมาที่ท่าเรือ ช่วงเวลาสองชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่ผมรุ้สึกว่าตัวเองได้พักผ่อนจริงๆ



ท้องฟ้าเริ่มมืดลงพร้อมกับคุนลุงคนขับเรือพาผมมาส่งที่ฝั่ง การเดินทางคนเดียวบางครั้งก็ทำให้จิตใจสงบ แต่บางครั้งมันก็เหงาดี บนเส้นทางกลับเกสต์เฮ้าส์พระอาทิตย์กำลังลาขอบฟ้าไปอย่างเงียบๆ



ผมสะพายกล้องไปเรื่อยๆจากเส้นทางเลียบแม่น้ำเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น
ภาพนี้เป็นร้านของโรงแรมแห่งหนึ่งที่เดินผ่าน แต่ไม่ได้แวะทานที่นี่นะครับ เพราะผมไปทานอีกร้านนึงที่น่าสนใจกว่า



ร้านที่ผมไปทานมื้อเย็นชื่อร้านแสงทองอยู่บนถนนชายโขง เจ้าของร้านเป็นจิตรกร รับสอนศิลปะให้เด็กๆด้วย ในร้านมีภาพวาดฝีมือเจ้าของร้านและมีภาพวาดของเด็กๆแปะไว้ตามข้างฝา บรรยากาศในร้านก็สลัวๆ มีตะเกียงโบราณที่โต๊ะอาหารด้วยครับ



อาหารที่ร้านนี้อร่อยดี ผมดื่มเบียร์ไปเรื่อยๆดูวิวริมแม่น้ำที่มืดสนิท พี่เจ้าของร้านอัธยาสัยดีมาก ลูกสาวอายุประมาณ2-3ขวบก็ชอบเข้ามาเล่นกับลูกค้า เธอชอบเล่นลูกบอลที่ติดกับพวงกุญแจของผม เห็นเด็กเล่นแบบนี้แล้วก็น่ารักดี
คืนนี้ผมกลับถึงเกสต์เฮ้าส์ตอนสี่ทุ่มกว่า คืนนี้นอนหลับเร็วเหมือนเคย แต่หลับไม่สนิทสงสัยเพราะมีเรื่องให้คิดมากมาย....

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้า ออกมาล้างหน้าล้างตาที่ระเบียงก็เจอวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ปลายแม่น้ำพอดี



เช้าวันนี้ออกไปทำบุญตักบาตร เมืองเชียงคานมีตักบาตรข้าวเหนียวเหมือนชาวอีสานทั่วไป ผมเห็นคุณตาคุณยายออกมารอพระแต่เช้า ข้าวเหนียวที่เหลือจากตักบาตรถูกปั้นเป็นก้อนเล็กๆวางไว้ตามรั้วบ้าน วัฒนธรรมนี้คือการให้ทานแก่นกกาเหมือนที่หลวงพระบาง





บนเส้นทางเลียบน้ำโขงหลายร้อยเมตร ผมเห็นบ้านเรือนเก่าที่อายุนับร้อยปี สีน้ำตาลของไม้เก่าๆทาบกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า กลายเป็นเสน่ห์ที่หาดูได้ยาก ผู้คนที่นี่ยังคงมีวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย แม้ความเจริญจะเริ่มเข้ามา







"บ้านแสงทอง" ร้านอาหารที่ผมเพิ่งแวะมาทานเมื่อคืน อาหารพวกปลาอร่อยดี บรรยากาศริมน้ำก็ใช้ได้เลย ถ้าใครไปเชียงคานอย่าลืมแวะไปเยี่ยมที่นี่สักครั้ง





ที่เชียงคานมีวัดอยู่หลายแห่ง ที่ผมได้ไปเยี่ยมคือวัดศรีคูณเมือง เณรน้อยนับสิบรูปกำลังเดินตามพระอาจารย์ไปบิณฑบาต ภาพเหล่านี้บ่งบอกว่าผู้คนที่นี่ยังคงผูกพันกับพุทธศาสนามากทีเดียว





บรรยากาศยามเช้ายังคงเงียบๆไม่มีอะไร เดินมาสักพักก็เจอร้านขายซาลาเปา คนขายยังสวมชุดนอนอยู่เลยครับ ใครจะซื้อก็ตะโกนเรียก เดี๋ยวก็ออกมาขายเอง ลูกละ5บาท แป้งเนื้อนุ่ม รสชาติอร่อยดี





เกสต์เฮ้าส์ที่นี่มีหลายแห่งให้เลือก ราคาไม่แพงเลย ห้องพัดลมก็ประมาณ150-300บาท ห้องแอร์ก็มีอยู่หลายแห่ง
อย่างเกสต์เฮ้าส์ที่ผมพักราคาแค่200บาท มีจักรยานให้ขี่เที่ยว มีกล้วยหอมใส่ตะกร้าให้กินเล่น มื้อเช้าผมสั่งไข่ดาว พี่เขาก็ทอดไข่2ฟอง ปิ้งขนมปังให้กินโดยไม่คิดเงินเลย ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนเป็นครอบครัวกันจริงๆ

ส่วนใครที่ชอบแบบโฮมสเตย์ก็มีนะครับ เพื่อนๆในพันทิปเคยไปพักมาแล้วเล่าว่าเป็นบ้านคุณตาคุณยายที่อยู่ริมแม่น้ำ ทั้งใจดีและดูแลดีมากๆ




เชียงคานเป็นเมืองที่ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี เป็นเมืองที่ไม่มีอะไร เงียบเสียยิ่งกว่าชนบทของเมืองปายเสียอีก คนที่ชอบแสงสีอาจจะเบื่อ แต่สำหรับคนที่ชอบความสงบ อยากพักผ่อนแบบใช้ชีวิตไปวันๆ ในความไม่มีอะไรนั้นก็เหมาะสำหรับการมานอนเล่นทีเดียว
เรียกว่าความสวยงามของเชียงคานคือความเป็นเมืองเก่าที่ยังคงเป็นเมืองเก่า ไม่มีสีสันหรือสิ่งแต่งแต้มยามค่ำคืนมากเหมือนปาย





วันนี้...เชียงคานยังคงเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกหลายปีข้างหน้าเชียงคานจะเป็นแบบไหน ถ้าคุณมีโอกาส อยากให้ลองแวะมาเยี่ยมที่นี่สักครั้ง ใช้เวลานอนเล่นสักคืน ถึงแม้คุณจะไม่ชอบความเงียบหรือค่ำคืนที่ไม่มีสีสันอะไรของเมือง แต่อากาศเย็นๆและวิวริมแม่น้ำอาจจะทำให้คุณหลงรักเชียงคานได้บ้างไม่มากก็น้อย
มีคนบอกว่า เชียงคานฤดูฝนยังไม่สวยเท่าไหร่ แต่เชียงคานฤดูหนาว สวยและมีเสน่ห์มาก....

บางทีผมอาจจะได้กลับมาเยี่ยมเมืองเก่าแห่งนี้อีกครั้ง เมื่อฤดูหนาวมาเยือน.....



ว่ากันว่า...คนเราไม่สามารถอยู่เพียงลำพังคนเดียวได้ คำกล่าวนี้อาจจะเป็นจริง
ถึงแม้ผมจะเดินทางมาคนเดียว แต่ใจก็ยังคิดถึงคนอื่นๆ

หวังว่าโปสการ์ด คงจะถึงใครบางคน.....






Create Date : 07 มิถุนายน 2550
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 11:58:52 น. 47 comments
Counter : 4397 Pageviews.

 
ตามมาเที่ยวเชียงคานค่ะ ชอบจงถ่ายภาพมุมสวยได้อารมณ์ดี

เคยไปที่นี่ครั้งนึงแต่ไม่เคยไปนอนชอบมากเลย


โดย: chava วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:12:23:28 น.  

 
สวยมาก เห็นแล้วอยากไป ถ้าไปคงหายเหนื่อย


โดย: KnightWin วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:12:37:20 น.  

 
สวยครับ (ทำให้นึกถึงหลวงพระบางเหมือนกัน)


ขอบคุณครับ


โดย: Draught Beer IP: 202.93.60.242 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:14:29:06 น.  

 
สุดยอดครับ...

ทั้งภาพและคำบรรยาย เห็นบรรยากาศเลย ทำให้อยากไปเที่ยว รวมถึงอยากไปอยู่ครับ

ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ครับ


โดย: chai IP: 58.64.44.132 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:14:38:17 น.  

 
รู้สึกเหงาไปตามคำบรรยายด้วย แต่ภาพก็สะท้อนอารมณ์ออกมาได้ดีจัง


โดย: bignui (thamakorn ) วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:42:13 น.  

 
ความสวยงามอยู่ใกล้ๆเรานี่เอง
ดันไปมองซะไกลเลยเรา

สักครั้งต้องไปให้ได้


โดย: รุ้งสีที่แปด IP: 124.157.228.152 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:14 น.  

 
สวยดีเหมือนกัน เหมาะกับการปลีกวิเวกเน๊อะ


โดย: อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:21:02:57 น.  

 
ตอนแรกอ่านไปอ่านมา...
ตาลายนึกว่าเชียงคานที่อ.เชียงของบ้านผมซะอีก
มองไปมองมา....ทำไมมันไม่คุ้นเลยวุ๊ย
ย้อนไปอ่านใหม่"บขส.เลย"......อ่าวววว โง่แตกเลยตรู

ถ่ายรูปได้บรรยากาศตะลอนเที่ยวจริงๆครับ
เจ๋งๆ....เห็นบ้านบางหลังเนี่ยเก่าๆทั้งนั้นเลยน่ะ
ว่าแต่ที่เกสต์เฮาส์เนี่ยเจออะไรเด็ดๆมั่งป่าว
ท่าทางเจ้าที่เจ้าทางแรง...ดูมันเก่าๆอ่ะ
แต่คลาสสิคน่ะครับ...วันหลังจะลองไปเที่ยวดูสักตั้ง


โดย: Dr.Manta วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:22:02:56 น.  

 
โห คราวนี้ข้ามฟากมาไกลจัง
มีความหลังอะไรกับที่นี่หรือเปล่าเอ่ย

ผมเคยไปเยี่ยมเชียงคานตั้งแต่สมัยยังละอ่อนมากๆ 20ปีที่แล้วเห็นจะได้ เหอๆๆ

ดูจากรูปแล้ว เชียงคาน เป็นเมืองริมน้ำโขงเล้กๆที่สงบมากจริงๆนะครับ

แต่ถ้าให้ไปคงเดียวคงไม่ไหวอ่ะ อาจจะเหงาตายไปก่อนกระมัง


ปล. ยังไม่ได้ไปเลยครับ จิ่วไจ้โกว กะ ธิเบตอ่ะ แค่หาเพื่อนร่วมชะตากรรมได้แล้วเท่านั้นเอง ว่าแต่ คุณหมอไม่สนใจมั่งเหรอครับ 20 วันเอง ลาพักร้อนมาเล้ยยย


โดย: vecchio วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:4:49:34 น.  

 
เห็นชื่อหัวข้อหน้าบล๊อกแก๊งแล้วรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดค่ะ

จบได้น่ารักมากเลยค่ะ..อบอุ่น
เชียงคานยังมีผ้าห่มขายอยู่ไม๊น๊อ
อ่านแล้วได้กลิ่นอายและความรู้สึกของเดินทางคนเดียวในเมืองที่ไปแล้วจะรักษาใจให้สงบเลยค่ะ
ชอบจัง...ขอบคุณมากนะคะ

ปล.ถ่ายรูปได้ใจอิชั้นมากเลยค่ะ


โดย: จันทร์สวย วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:7:37:06 น.  

 
แวะไปดูรูปประเพณีเตียวขึ้นดอยแล้วน่ะค่ะ สวยมั๊ก มั๊ก เลยค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บล็อคน่ะค่ะ

ปล.บล็อคนี้รูปสวยจังอ่ะค่ะ


โดย: zaxzophone. IP: 203.154.48.14 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:17:09:26 น.  

 
ได้อารมณ์มากๆ ขอเก็บรูปมุ้งกับรูปเปลไว้เป็นไอเดียนะครับ


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:19:10:39 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆ ที่ blog ร้างๆ ของบัวค่ะ

เพิ่งเข้ามาเมื่อกลางเดือนกุมภา ก็จะว่าเลิก up blog เพราะเวลาไม่ค่อยลงตัวค่ะ แต่ถ้าว่างๆ จะเข้ามาติดตามเรื่องเที่ยวๆ ที่นี่นะคะ ชอบเที่ยวค่ะ

เชียงคาน เมืองเก่าริมแม่น้ำโขง ถ่ายภาพมา บรรยากาศสวยคลาสสิค ทั้งอบอุ่น ทั้งเหงาๆ นะคะ

เคยไปปาย คิดถึงปาย คงต้องหาเวลาไปให้ได้ เร็วๆ นี้ค่ะ


โดย: bua ja วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:20:18:56 น.  

 
เชียงคาน เป็นอีกที่ ที่อยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง สงบเงียบเรียบง่าย
ขอบคุณที่เก็บภาพบรรยากาศมาคะ
คราวหน้าถ้าไปหน้าหนาว หาเพื่อนไปด้วยจิ จะได้ไม่เหงา และคิดถึงคนอื่นที่ไม่ได้ไปด้วย



โดย: แมวมูดี้ IP: 87.179.102.192 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:21:40:52 น.  

 
สวยจัง น่าไปเที่ยวมากเลย


โดย: หนึ่ง IP: 222.123.73.236 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:21:41:41 น.  

 
เมืองในฝันเลยค่ะ

ตอนแรกกะแค่แวะบล๊อกแว๊บๆ
แต่รูปสวย เล่าสนุก (ถึงจาเหงาไปนิดๆก็เหอะ)
อยากไปอ๊ะ อยากไป อยากไป


โดย: พีจัง พีจัง IP: 125.24.16.163 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:22:32:16 น.  

 
พระอาทิตย์ตกริมฝั่งโขง สวยจังเลยคะ


โดย: noo1 IP: 125.27.3.12 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:23:35:11 น.  

 
ชอบจังครับ การเดินทางที่เงียบสงบ มีเวลาให้กับตัวเอง
สำหรับผม คงอีกนาน กว่าจะได้เดินทางสู่โลกกว้าง อย่างมั่นคง

ตอนนี้ขอตามรอยในภาพไปก่อนนะครับ
ยินดีรู้จักครับผม


โดย: northern_not วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:3:25:51 น.  

 
ภาพสวยมาก ๆ ครับ อิจฉานะครับ


โดย: POL_US วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:7:58:30 น.  

 
ภาพที่ตื่นเช้าแล้วเจอพระอาทิตย์กำลังขึ้นเป็นแสงฟุ้งๆ สวยมีเสน่ห์ดีนะครับ วันนี้ผมตื่นเช้า อยากเห็นภาพแบบนั้นจัง อยากไปดูให้เห็นกับตา
สักวันคงได้ไปส่งโปสการ์ดหาใครบางคนแถวนั้นบ้าง ^^


โดย: BAYROCKU วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:9:27:40 น.  

 
มาทักทายครับ

งามจริงๆ ครับ น่าอยู่มาก ๆ เลย


โดย: DAN_KRAB วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:0:11:50 น.  

 
ภาพสวย ดูสงบเงียบเหมาะแก่การไปพักผ่อนจริงๆครับ

คิดถึงตอนไปเที่ยว "ลาว" ขึ่นมาทันทีเลยครับผม


โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:13:03:07 น.  

 
ตามมาดูแล้วนะคะคุณหมอ..อิอิอิ

แต่..เราก็หากันจนเจอ...สวยดีคะ..

เราก็หน้าแตกคิดว่าเป็นเชียงรายไป

ซะงั้น..รักษาสุขภาพด้วยเห็นงานยุ่งๆ

ว่างๆมาเฉลยหน่อยนะว่าอันไหนจริง.

อิอิอิ...


โดย: null (^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ ) วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:16:05:41 น.  

 
ท่องเที่ยวแบบนี้ดูมีความสุข และมีชีวิตชีวาดีค่ะ มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและต้องการ



โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:19:48:30 น.  

 
แล้วส่งโปสการ์ดไปกี่ใบละครับ ^^
งั้นผมมายืนยันว่าใครคนนั้นคงได้รับแล้วหละครับ (หรือเปล่าหว่า)

ได้รับโปสการ์ดจากเพื่อนๆ ทีไร ผมก็นั่งอ่าน นั่งยิ้ม ได้ตลอดเวลา

แปลกดีนะครับ แค่การ์ดใบเล็กๆ พร้อมภาพและเรื่องราว สามารถสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจให้เราได้เสมอ

เมื่อวัน ศ ผมเสิร์จคำว่า เชียงคาน อืม... หนาวนี้คงได้ไปเยือนสักครั้ง

ใครจะได้ไปก่อนกันละเนี่ย (ฮา)

ปล ปายตอนนี้เหมือนสาวใจแตกไปแล้วกระมัง แต่ถ้าลองไปช่วง สค ได้เห็นนาข้าวเขียวขจี แม้อากาศจะไม่หนาว แต่ก็ไม่ร้อนครับ อาจจะเห็นปายในวัยสดสัยอีกครั้ง
ผมไปปายครั้งแรก ด้วยความรู้สึกที่ดี แต่ไปอีกครั้งกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

คงหาเวลาไปปายอีกครั้งเพื่อน "ทวงคืน" สิ่งที่หายไป


โดย: JayMelb IP: 124.121.83.2 วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:20:41:01 น.  

 
สวยจังค่ะ อยากปายยยยยย


โดย: หนูนีล (นางน่อยน้อย ) วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:7:04:23 น.  

 
อา............ไปมั่งดีกว่า


โดย: Marvellous Boy วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:12:43:02 น.  

 
ตามมาเที่ยวคร้าบ เที่ยวแบบนี้ก็น่าสนุกไปอีกแบบนะครับ ดูอิสระดี

หายเบื่อหน้าคนไข้เร็วๆนะครับ อิอิ


โดย: tpipe วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:17:08:41 น.  

 
ชอบปายมากเลย ไปมาสองรอบแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ ปีนี้ก็จะไปอีก
แต่ก็ไม่แน่ จะไปเชียงคานด้วยเหมือนกัน



โดย: enuging IP: 202.90.118.251 วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:19:39:32 น.  

 
โอย

อ่าน+ดูรูปสวยๆแล้วอยากไปมั่งจัง
ใช้กล้องอะไรถ่ายเนี่ย ภาพออกมาจับอารมณ์ดีจัง


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:19:47:04 น.  

 
เชียงคานถีบจักรยานไปเที่ยว ดูลำน้ำโขง ยามพระอาทิตย์ตกน้ำ สวยมากคะ


โดย: dolores วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:20:18:48 น.  

 

เข้ามาในบล๊อกของคุณหมอ แล้วไม่ผิดหวัง

ได้เห็นได้อ่าน และได้รับทราบประสบการณ์ดีๆ ที่น่าตามไปเที่ยวเมืองเชียงคาน

บรรยากาศแบบเรียบๆ มีน้ำใจ ยังมีอยู่นะครับ ในผืนแผ่นดินของเรา

ฝีมือถ่ายภาพ สวยครับ



โดย: yyswim วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:14:03:23 น.  

 
เยี่ยมม


โดย: -*-Superbaker วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:2:09:13 น.  

 
น่าอ่าน น่าติดตามมากๆ รูปก็สวย ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดีๆนะคะ ^^


โดย: pun@ru วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:7:58:14 น.  

 
สวยมากเลย
ผมมองข้ามไปได้ไงเนี่ย
น่าไปมากๆ ครับ

ปล. โปสการ์ดเชียงคานได้แล้วครับ
ขอบคุณมากครับ


โดย: man@ (manatto ) วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:18:26:01 น.  

 
อยากไปที่นี่บ้างจังเลยค่ะ อยากไปคนเดียว เที่ยวคนเดียว ไปสร้างมิตรภาพกับคนไม่รู้จักคงดีกว่า


โดย: เคียวแสงจันทร์ IP: 61.7.182.129 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:23:46:26 น.  

 
อยากไปจิงๆ อยากดูพญานาคอ่ะ
ว่ามีจิงมั้ย


โดย: Kang Dong Ye วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:19:46:37 น.  

 
แอบค้นหาบ้านพักที่นี่ ก็มาเจอ blog นี้โดยบังเอิญค่ะ กำลังชั่งใจว่าถ้าไปคนเดียว จะไหวมั้ยเนี่ย แต่เห็นภาพและเรื่องเล่ายิ่งชวนให้อยากไปค่ะ


โดย: Look Pear IP: 124.120.185.171 วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:3:22:42 น.  

 
ดิฉันเป็นคนเชียงคาน เกิดและโตที่เชียงคาน อยู่ซะนานจนรู้สึกชินกับความเงียบและเรียบง่ายจนม่ายเคยเห็นคุณค่าของมัน หลังจากเรียนจบได้ไปทำงานที่กรุงเทพ ความวุ่นวายในเมือง ทำให้ใจเรียกร้องถึงความสงบและความเรียบง่ายมาก ในเมืองถึงแม้จะมีผู้คนมากมายแต่ก็ทำให้จิตใจของเราเหงาได้เหมือนกันน่ะค่ะ รูปที่คุณหมอถ่ายสวยมากเลยน่ะค่ะ และเล่าเรื่องได้สนุกค่ะ น่าติดตาม สามารถรับจ๊อบเป็นนักเขียนเพิ่มได้เลยน่ะค่ะ


โดย: aris IP: 125.26.173.170 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:20:36:49 น.  

 
บ้านเราอยู่เลย เวลาเซ็งก็หนีไปเที่ยวเชียงคานบ้างแต่ไม่เคยได้ค้างสักทีเพราะบรรยากาศมันเหงามาก เลยหนีไปค้างที่เกษตรที่สูงภูเรือ บรรยากาศเหงาเหมือนกัน(ก็จะไม่เหงาได้ไง คืนนั้นมีเต๊นท์เราเต๊นท์เดียว มิหนำซ้ำไฟห้องน้ำเสียอีกต่างหาก คิดแล้วยังหยองอยู่เลย) แต่ก็น่าอยู่นะค่ะ มันเหงาแบบไม่วุ่นวาย ไม่มีผู้คน มีแต่ภูเขากะท้องฟ้ามองแล้วสบายใจดี ถ้าว่างลองแวะไปเที่ยวสิค่ะ นี่ก็ว่าถ้าว่างจะแว๊บไปอีกเหมือนกัน เบื่อเมืองหลวงเต็มที่แล้ว


โดย: hemmu IP: 202.149.25.234 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:57:40 น.  

 
เราเกิดที่เชียงคาน
บั้นปายชีวิต ก้อคงไปอยู่ เงียบสงบที่เชียงคาน หน้าหนาว ก้ออากาศเย็นดี ครับ ชอบมากเลยครับ คนที่นี้เป็นกันเอง
จิตใจดีงาม คนแก่ที่นี้ เค้าไม่เคยไปในเมือง ถึงไป ก้ออยู่ไม่ได้ ไม่เหมือน บ้านที่มีคนรู้จัก ทั้งบ้านเหนือ บ้านใต้ ครับ



โดย: กบ IP: 202.183.211.197 วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:15:41:46 น.  

 
ดีจังได้ไปเที่ยวหลายที่
แถวยังเก็บผ้าประทับใจมาฝากอีก
ขอบคุณมากมายค่ะ


โดย: อร IP: 58.10.146.168 วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:27:41 น.  

 
เคยผ่านไปก็หลายครั้ง พักบ้างไม่พักบ้างก็หลายหน แต่นึกไม่ถึงว่าเชียงคานที่ผ่านมุมมองและเลนส์กล้องสวยๆของคุณแล้วจะได้อารมณ์และความรู้สึกขนาดนี้ ภาพสวยมากครับ


โดย: พีพี IP: 125.26.89.76 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:55:43 น.  

 
ไปมาแล้ว คร้า

เมืองน่าอยู่ดี

ผู้คนก้อน่ารักคร้า

ชอบๆๆ




โดย: นิลจา IP: 10.10.0.201, 61.19.86.226 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:21:43:10 น.  

 
เขียนได้ดีมากค่ะ รู้สึกเหมือนได้อยู่บรรยากาศด้วยจริงๆ เลยค่ะ ภาพก้อสวย..มาก เยี่ยมค่ะ เป็นกำลังใจให้คนทำงานค่ะ ขอให้มีเวลาพักผ่อนชาร์ตแบทให้ตัวเองแบบนี้บ่อยๆ นะคะ


โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 124.122.84.52 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:12:10:59 น.  

 
อยากไปๆๆ


สวยยยยย


โดย: มุ้ย IP: 125.26.170.147 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:15:13:20 น.  

 
ชอบรูปแมวนอนหลับตาพริ้ม อากาศตอนเช้าคงเย็นสดชื่น(กำลังดี) กับแสงอาทิตย์ที่ส่องตึกเก่าๆ
ตึกเก่าๆสวย ดูสิลป์มากๆ
(แต่มีคอนทราสดีก็คือถังขยะสีเหลืองสดใส)
รูปเหล่านี้ผ่านไปหลายปีมากแล้ว แต่ก็ยังเล่าเรื่องราวดีๆให้คนมาแวะอ่าน แวะดู ชื่นชมค่ะ อิอิ:)


โดย: น้ำฝนเดือนหก IP: 203.146.12.196 วันที่: 17 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:36:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Carlziess Lens
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"a man is not where he lives,bus where he loves.. ...."

Friends' blogs
[Add Carlziess Lens's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.