กัปตันลูกชุบ
กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่8: เที่ยวหอพิพิธภัณฑ์์ วัดป่าฮวก วัดวิชุนนะราช และวัดอาฮาม

สวัสดีครับ รีวิวคราวนี้มาถึงตอนที่ 8 แล้วนะครับ สำหรับรีวิวในครั้งนี้ ผมจะพาไปเที่ยวชม วัดป่าฮวก (Wat Pa Huak) วัดนี้จะอยู่ตรงทางขึ้นพูสี แล้วไปต่อกันที่หอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง (Luang Pra Bang National Museum) ซึ่งเคยเป็นพระราชวังหลวงเดิม สำหรับในวันนี้นั้นผมต้องย้ายที่พักไปอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งผมจะรีวิวไว้ในรีวิวอันถัดไป จึงทำให้วันนี้ผมอาจจะเที่ยวไม่ต่อเนื่องกันไปนิดหน่อยครับ

หลังจากที่ผมย้ายที่พักเรียบร้อยแล้วนั้นผมออกเช่ารถจักรยาน เพื่อปั่นเที่ยวชมเมืองหลวงพะบางและเพื่อไปแวะเที่ยวชม วัดวิชุนนะราช (Vat Visounnarath) และต่อด้วยวัดอาฮาม (Wat Aham) ซึ่งสองวัดนี้จะอยู่ใกล้กันครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็ปั่นจักรยานเที่ยวชมเมืองหลวงพะบางอีกครั้ง โดนหลังๆจะชมใช้เวลาชมทางด้านฝั่งแม่น้ำคานมากกว่าครับ เพราะด้านนั้นผมยังไม่เคยไปชมเลย แล้วต่อจากนั้นช่วงเย็นๆ ผมก็นำรถจักรยานไปคืน แล้วก็ตบท้ายด้วยการเดินชมตลาดมืดอีกเช่นเคยครับ

เล่ารีวิวครั้งนี้คราวๆแล้ว ไปชมรีวิวฉบับเต็มในแบบฉบับของ กัปตันลูกชุบ กันดีกว่าครับ ^____________^

ป.ล. 1 ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รีวิวและคำแนะนำของเพื่อนๆในห้อง blueplanet ขอบคุณมากๆนะครับ

ป.ล. 2 สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเอ่ยถึงผมบางแห่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสะกดเป็นภาษาไทยถูกรึเปล่า นอกจากนี้คำบรรยายต่างๆก็มาจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอ และอ้างอิงจากข้อมูลในหนังสือท่องเที่ยวครับ ถ้ามีผิดพลาดอะไรก็สามารถท้วงติงกันได้นะครับ

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10054673/E10054673.html

กัปตันลูกชุบพาเที่ยวลาวเหนือ ตอนที่ 7: One Day Trip ไปเที่ยวถ้ำติ่งและน้ำตกตาดกวางซีกันครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=21-12-2010&group=12&gblog=7
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เช้าวันนี้ ผมตื่น 05.30 น. แล้วออกมาชมตักบาตรข้าวเหนียว ผมออกมาอยู่แถวบริเวณหน้า Tourist Information Center ของเมืองหลวงพะบาง รออยู่นานมากครับ ไม่ค่อยเห็นพระสักเท่าไหร่



รออยู่สักพักพระท่านก็มา แต่ไม่เยอะเลยครับ มากันห่างๆ พอสมควร หรือผมรอที่ผิดก็ไม่ทราบ



ไม่แน่ใจว่าผมรอที่ผิด หรือผมมาช้าเกินหรือยังไง แต่ขบวนนี้เป็นขบวนเดียวที่ผ่านที่ผมนั่งรออยู่ครับ



ผมก็นั่งรออยู่แถวๆนี้เรื่อยๆ



นั่งรอสักพัก จากนั้นจึงตัดสินใจกลับ ก่อนกลับเลี้ยวเข้าซอยนี้เพื่อทะลุไปยังตลาดเช้า ซอยนี้ยามค่ำคืนจะขายไก่ย่าง ปลาย่างกันคึกคัก แต่เช้าๆเงียบจริงๆ



เดินชมครับ ผักสดๆวางขายกันเยอะแยะเลยทีเดียว



เดินเที่ยวชมตลาดเช้ากันครับ



วันที่ผมเดินชมนี้ก็แปลกนะครับ ผมไม่ค่อยเห็นสัตว์แปลกๆวางขายเลย ส่วนมากเห็นแต่ผักสด



เดินชมจนเพลินเลยจริงๆ



เดินกลับที่พักกันครับ ก่อนกลับแวะชมบรรยากาศริมน้ำโขงช่วงเช้าสักหน่อย



ผ่านไปชมร้านกาแฟดังสักหน่อย หลังจากนั้นผมก็กลับที่พักเพื่ออาบน้ำ และทานอาหารเช้า แล้วก็เริ่มออกเที่ยวกันต่อครับ



ผมเดินจากที่พักมายัง หอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง (Luang Pra Bang National Museum) แต่ผมยังไม่แวะที่นี่ก่อนนะครับ



ผมเดินขึ้นมายังทางขึ้นพูสี เพื่อแวะมาเที่ยวชมวัดป่าฮวก (Wat Pa Huak) ก่อน



วัดนี้เป็นวัดร้างเหลืออยู่เพียงสิมเดียวเท่านั้นครับ และไม่มีพระอาศัยอยู่



ภาพบนฝาผนังแบบปูนเปียก งดงามและสมบูรณ์ที่สุดของหลวงพะบาง



ตรงส่วนนี้จะเป็นรูปภาพและของที่ระลึกที่ตั้งขายอยู่ภายใน



ภายในรวมๆครับ สวยงามจริงๆ



จากที่นี่มองไปยังหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง เดี๋ยวเข้าไปเที่ยวชมกันครับ



จากนั้นผมก็ข้ามถนนมายังหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง



หอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง (Luang Pra Bang National Museum) หรือพระราชวังหลวงเดิม



หอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบางจะปิดทุกวันอังคารนะครับ และปิดในช่วงวันหยุดสำคัญ ค่าเข้าชมคนละ 30,000 Kip ควรแต่งกายให้สุภาพในการเข้าชมนะครับ แถวของต้นตาลทั้งซ้ายขวา ดูมีเสน่ห์และเข้ากับตัวอาคารมากๆครับ



ถัดจากประตูทางเข้าหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของโรงละคร



อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีสว่างวงศ์



อาคารเป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างตะวันออกและตะวันตก ตรงส่วนของมณฑปสร้างตามแบบตะวันออก



ดูสวยงามมากครับ แล้วผมก็เดินเข้าชมด้านในแต่ภายในนั้นห้ามนะกล้องเข้าไปและห้ามถ่ายรูป เลยไม่ได้เก็บบรรยากาศมาให้ได้ชมกัน แต่การเข้าไปนั้นชมนั้นผมรับรองว่าคุ้มค่าแน่ๆครับ



หลังจากชมเสร็จ ผมเดินอ้อมไปด้านหลัง



ด้านข้างของตัวตึกดูสวยงามไม่แพ้ด้านหน้าเลยครับ



แล้วจากนั้นผมจึงเดินไปชมตรงตึกนี้ ภายในจะแสดงรถพระที่นั่ง ภายในห้ามถ่ายรูปครับผม



ชมส่วนนี้เสร็จเดินออกไปเพื่อไปตึกอื่นต่อ



จุดหมายต่อไปครับ



ขึ้นไปบนตึกนี้ชั้นสอง ที่จัดแสดงภาพด้านบนนี้ห้ามถ่ายรูปเช่นกันครับ



มองวิวจากชั้นสองบนตึก ด้านหลังของหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบางจะติดกับถนนเลียบโขง



ชมเสร็จผมจึงเดินออกไปเพื่อไปยังส่วนด้านหน้าของหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง



จากจุดนี้เห็นยอดพูสีอยู่ไกลๆ



ชมหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบางกันอีกมุม



เดินออกไปเพื่อไปชมหอพะบางกันครับ



จากจุดด้านหน้าประตูเริ่มแรกทางขวามือจะเป็นหอพะบาง หอนี้แต่เดิมตั้งใจสร้างเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพะบาง



ขึ้นไปชมด้านบนกันครับ



ลวดลายสวยงามไปอีกแบบ



ด้านบนอีกมุม



ภายใน



มองจากด้านบนของหอพะบาง



ก่อนออกจากหอพิพิธภัณฑ์์แห่งชาติหลวงพะบาง หันกลับไปชมความสวยงามอีกรอบครับ



จากนั้นผมเดินกลับไปเพื่อที่จะหาอะไรทานนิดหน่อยที่ร้านโจมา ส่วนรูปนี้เป็นวัดใหม่สุวันนะพูมาราม พอดีเดินผ่านเลยเก็บมาฝากกันอีกรอบ



ภายในร้านโจมามีหลายอย่างให้เลือกสั่งทาน



อีกมุมภายในร้านครับ



มื้อนี้ ผมสั่ง Fruit Shake, Brownies, และ Frozen Cappuccino ค่าเสียหายอยู่ที่ 41,000 Kip



ผมชอบบรรยากาศในร้านโจมามากครับ ตกแต่งได้สวยงามน่านั่ง



หลังจากทานเสร็จผมก็กลับไปเช็คเอาท์ออกจากหลวงพะบางริเวอร์ลอดจ์ (Luangprabang River Lodge) เพื่อย้ายไปที่พักที่ใหม่ ที่พักในวันนี้ผม คือ Maison Souvannaphoum Hotel ในส่วนของที่พักวันนี้ ผมจะรีวิวในคราวหน้านะครับ จากนั้นผมพักผ่อนในที่พักใหม่สักพัก แล้วจึงออกไปทานอาหารที่ร้านนางแอ เนื่องจากที่พักใหม่นองผมนั้นอยู่บริเวณวงเวียนน้ำพุ และแผนของผมวันนี้ช่วงบ่ายคือปั่นจักรยานเที่ยว หลังจากที่ผมเช่าจักรยานเรียบร้อย ผมจึงปั่นไปทางไปรษณีย์บนถนนเจ้าฟ้างุ้ม แล้วเลี้ยวขวาไปยังถนนเสดถาทิลาด ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจ้าสีสุพันนั้น ร้านนางแอจะอยู่ทางขวามือมุมถนนพอดีครับ วันนี้ผมเลยขอลองอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ คือ แหนมจึ้น อร่อยดีครับ



ส่วนอีกจานเป็นข้าวผัดหมู ราคาอาหารมื้อนี้อยู่ที่ 38,000 Kip รวมน้ำแล้วนะครับ



จากนั้นผมก็ปั่นไปเที่ยวต่อ จากร้านนางแอ ผมปั่นไปเรื่อยๆ แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าถนนพมมะทา ปั่นอีกไม่นานก็จะเจอวัดวิชุนนะราช (Vat Visounnarath) เปิดทุกวันครับ ค่าเข้าชมคนละ 20,000 Kip



เดินเข้าไปชมจะเจอพระธาตุหมากโม อยู่ด้านหน้าสิม พระธาตุหมากโมนี้จะมีรูปทรงไม่เหมือนพระธาตุอื่นๆในเมือง เลยทำให้เป็นจุดเด่นและน่าสนใจของที่นี่ครับ



อีกรูป



ตัวสิมเป็นงานแบบสกุลช่างไทยลื้อครับ



บานประตูลวดลายสวยงามมากครับ



พระประธานองค์ใหญ่ภายในสิมของที่นี่



ภายในสิมที่นี่เก็บของไว้เก่าไว้พอสมควรทีเดียวครับ ซึ่งได้รวมรวบมาจากวัดร้างทั้งหลายเพราะว่าที่นี่เคยเป็นหอพิพิธภัฑณ์ก่อนจะย้ายไปยังที่ปัจจุบัน



ด้านหลังยังมีพระพุทธรูปไม้และสำริดวางให้ได้เดินชมกันครับ



อีกมุมครับ



เดินออกมาจะเจอพระธาตุหมากโมอีกครั้ง แล้วผมก็เดินลัดเลาะผ่านซุ้มประตูเล็กๆ เรียกว่าซุ้มประตูโขงซึ่งอยู่ระหว่างวันวิชุนนะราชและวัดอาฮามแต่เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายมาเลยครับ



พอผ่านประตูมาเห็น ก็เข้าเขตของวัดอาฮามแล้วครับ ค่าเข้าชมคนละ 20,000 Kip เปิดทุกวัน ที่สำคัญอีกอย่างคือที่นี่เป็นที่เก็บชุด ปู่เยอ - ย่าเยอ ด้วยครับ



วัดอาฮามเป็นสัดเล็กๆ สิมของที่นี่เป็นตามแบบของเชียงของ



อีกมุมครับ



เดินขึ้นไปชมภายในกันครับ



บานประตูของที่นี่ก็มีลวดลายที่สวยงามมากๆ



เข้าไปชมภายในกันต่อครับ พระพุทธรูปภายใน และลวดลายบนผนังที่สวยงามมากครับ



ภายในอีกมุม



ชมทางด้านฝั่งประตูทางเข้าบางครับ



ชมเสร็จผมออกเดินไปเอาจักรยานที่จอดล็อคล้อไว้ทางด้านหน้าครับ



มองไปยังถนนด้านหน้าวัด



ต่อจากนั้นเมื่อผมออกจากวัดแล้วผมก็ปั่นจักรยานเที่ยวไปเรื่อยๆ หลักๆปั่นไปชมทางด้านฝั่งแม่น้ำคานครับ ภาพนี้ก็เป็นวิวแม่น้ำคาน



ส่วนบันไดนี้เป็นส่วนที่สามารถขึ้นไปยังพูสีได้อีกฝั่งหนึ่งครับ เป็นทางขึ้นด้านลงทางด้านหลัง



ถนนหนทางทางฝั่งนี้



ชมวิวแม่น้ำคานไปเรื่อยๆ



จากนั้นผมก็ปั่นจักรยานไปต่อเรื่อยๆ ผ่านเรือนพักสายน้ำคานอีกรอบ



หันไปมองอีกฝั่งของแม่น้ำคาน



ฝั่งนี้ก็มีที่พักน่าพักอยู่เยอะพอสมควรครับ ที่นี่ Apsara



ปั่นมาเรื่อยๆ ไม่นานก็เจออีกที่ที่น่าพัก The Chang Heritage Hotel



ร้านอาหารของโรงแรมฝั่งแม่น้ำคาน



ส่วนอันนี้ผมไม่ทราบว่าเขาจะทำเป็นอะไร แต่เห็นตากไว้เยอะทีเดียวครับ



อีกภาพ น่าจะเป็นอาหารท่าทางจะน่าอร่อยนะครับ



จากนั้นผมก็ปั่นจักรยานเล่นไปเรื่อยๆครับ ก่อนสุดทางของถนนฝั่งคาน ผมผ่านที่พักอีกที่ Villa Somphong ที่พักย่านฝั่งนี้ก็ดูน่าพักไปอีกแบบนะครับ ส่วนรีวิวครั้งนี้ผมขอจบไว้ที่ภาพนี้ครับ แล้วอย่าลืมตามชมรีวิวครั้งหน้าของผม กัปตันลูกชุบนะครับ ^__________^




Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 4 มกราคม 2554 13:00:42 น. 7 comments
Counter : 2679 Pageviews.

 
มาเจิมค่า

อ่า..จขบ.ออกไปตอนกี่โมงหละคะ? เอ..ถ้าพระน้อยนี่ เค้าต้องออกตั้งแต่กี่โมงกันน้อ

ตัววังกับพิพิธภัณฑ์น่าเที่ยวมากค่ะ เสียดายที่เค้าไม่ให้ถ่ายรูป ไม่งั้นคงได้ชมรูปงามๆ จากเจ้าของบล็อกอีกแน่ๆ เลยค่ะ

ร้านโจมาน่านั่งมาก มาเก็บข้อมูลค่ะ เผื่อจะได้ไปเที่ยวบ้าง ฮี่ๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:13:40:28 น.  

 
เหมือนข้าวแตนเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:16:16:44 น.  

 
แวะมาชมภาพครับ บ้านพี่เมืองน้อง แต่คนลาวไม่นับพี่ไทยเป็นบ้านพี่ครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:21:10:11 น.  

 
สวัสดีปีกระต่ายจ้ะ

มาเที่ยวต่อ...

เฮ้อ...วัดวาอารามเค้า สวยงามเนาะ

ขายของแบกะดิน ยังมีอยู่เยอะเลย...

แค่เดินดูไม่ได้ซื้อ ก็เพลินแล้วเนาะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:17:17:38 น.  

 


บรรยากาศดูสงบ น่าสบายจังเลยค่ะคุณกัปตัน
ตื่นแต่เช้าได้ตักบาตรทำบุญด้วย
ชอบเป็นพิเศษตรงภาพเขียนสีภายในวัดค่ะ
บรรยากาศรอบๆ วัดก็สวยร่มรื่นมากๆค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:18:12:23 น.  

 
แวะทักทายจ้ะ คุณกัปตัน...




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:18:15:35 น.  

 
งือ เที่ยวละเอียดกว่าผมมากเลย


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:11:23:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กัปตันลูกชุบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กัปตันลูกชุบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.