มิถุนายน 2554

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
หาเช้าเรียนค่ำ (หาค่ำเรียนเช้า) ๒
ผ่านไปเป็นปีๆ ไม่ได้อัพบล็อกทางเรื่องนิวยอร์คเลย มัวแต่ไปอัพเรื่องสวยๆ งามๆ เชื่อว่าคนรออ่านก็คงรอจนเบื่อแล้วเบื่ออีก แล้วก็เลิกรอ อิอิอิ

ขอโทษทีนะคะ

เมื่อหลายเดือนก่อน ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเมนูอาหารไทยในนิวยอร์ค ไว้ที่ห้องอาหารการกิน โต๊ะจตุจักร เหมือนกัน กะว่าทิ้งไว้สักพัก จะก็อบมาลงบล็อก แต่มัววุ่นๆ ไม่มีเวลา

มี ๓ ตอนด้วยกันค่ะ

๑. เหงาๆ ขอเล่าบ้าง *****ครัวไทย ในนิวยอร์ค<ซิตี้>*****
//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9504946/D9504946.html

๒. อาหารจานหลัก = Entree ของร้านไทย ในนิวยอร์ค<ซิตี้>
//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9507889/D9507889.html

๓. ของหวาน = Dessert ของร้านไทย ในนิวยอร์คซิตี้//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/08/D9564899/D9564899.html




ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมีสมาธิ + เวลาจำกัด ก็นึกคิดเรื่องอะไรมาเขียนยาวๆ ไม่ค่อยได้ จะเขียนสั้นๆ ไว้มาต่อวันหลัง ก็กลัวว่าจะมาต่อไม่ได้จนจบ จะกลายเป็นไปขึ้นเรื่องใหม่คาไว้อีก เวลาจะเขียนทีนึงก็เลยต้องใช้เวลา และสมาธิมากๆ (แหม ทำอย่างกับเป็นนักเขียนอาชีพ ๕๕๕๕๕๕๕)

และก็ด้วยเหตุนี้เหมือนกัน ตอนหลัง จึงตัดสินใจย้าย รร. เพราะว่า ตอนเรียนภาษาในคอลเลจ รีเวลที่สูงขึ้น วิชา Writing ก็ถูกจะเน้นหนักขึ้นมาหน่อย ไอ้เราก็นอนดึกทุกวัน กลับถึงบ้านก็ตี ๑ กว่า เหนื่อยสุดๆ กลับมาจะนั่งทำการบ้าน จะเขียนอะไร ก็ไม่มีสมาธิ ขอนอนดีกว่า! ถึงเวลาเข้าห้องเรียน ก็เหมือนสมองกลวงๆ อื้ออึง อ.ให้เขียนเรื่องอะไรก็นั่งนึก..นึก..นึก.. แล้วก็นึก อยู่นั่นแหละ ไม่ค่อยจะปะติดปะต่อ เวลาก็วิ่งไปเรื่อยๆ พอจะคิดได้ก็หมดเวลาต้องรีบไปทำงานอีกละ เฮ้อ...ชีวิต

แต่ก็ไม่ใช่ว่า ทุกคนจะเหมือนเรา คนที่ทำได้ก็มี ที่เขามีมานะพยายามจริง ก็เรียนจนจบประสบความสำเร็จ ในขณะที่ทำงานร้านอาหารไปด้วย แต่เราขอยอมรับตรงๆ ว่าทำไม่ได้
มันอาจจะเป็นความขี้เกียจส่วนตัว และสมองอันน้อยนิดของเราด้วยที่มันไม่ค่อยจะรับ อีกอย่างตอนนั้นก็ไม่มีเป้าหมายชีวิตที่แน่นอน แค่ว่าเอาตัวให้รอด ให้ผ่านพ้นไปวันๆ เท่านั้นเอง


ความจริง หลายคนก็บอกให้ย้ายรร.ตั้งนานแล้ว เพราะว่าค่าเทอมแพงมาก แล้วยังขึ้นราคาฮวบๆ อย่างกะทองอีกนะ เรียนไปได้เทอม ๒ เทอม ขึ้นมาอีกประมาณ ๓๐๐ เหรียญ แต่ด้วยความที่เราติดบรรยากาศที่เรียน คือ อ.หลายคนสอนสนุก เข้าใจง่าย โดยเฉพาะอ.ที่สอนแกรมม่า และไหนจะเพื่อนๆ ด้วย (ความรู้สึกของเราเองว่า เพื่อนๆ ในคอลเลจ จะเหนียวแน่นกว่าสถาบันภาษา เพราะมักมีกิจกรรมงานกลุ่มให้ทำ และค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องเวลาเรียน และยังไปเที่ยว (hang out) กันบ่อย ทำให้เราใช้เวลาด้วยกันมาก เลยผูกพันกันมากกว่า)
จนสุดท้าย ตัดสินใจย้ายก็เพราะ หมุนเงินไม่ทันจริงๆ หาเงินไม่ทันค่าจ่ายค่าเทอม





ย้ายมาสถาบันภาษา ซึ่งทยอยจ่ายเป็นงวด เดือนต่อเดือนได้
รร.ที่ ๒ เป็นสถาบันสอนภาษาใกล้บ้าน เดินไปเรียนได้ ก็เลยมีเวลานอนเพิ่ม (ห่วงเรื่องนี้มาก เรื่องสำคัญ อิอิ) ประหยัดค่ารถได้อีก แถมยังประหยัดค่ากิน เพราะกินที่บ้านได้

ที่นี่ก็เป็น รร. ที่ดี แห่งนึง แต่คนไทยมักไม่ค่อยรู้จัก รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม น้อยคน (แต่ตอนนี้รู้จักกันเยอะขึ้นแล้วค่ะ จากปากต่อปากด้วย และจากอินเตอร์เน็ตด้วย)
แต่วิชา และรอบ สามารถเลือกที่จะเรียนได้ค่ะ แต่ไม่ได้มีครบถ้วนทุกวิชาอย่างใน คอลเลจ ก็จะมีผลัดเปลี่ยนวิชาละ ๕ สัปดาห์ นร.ส่วนใหญ่ก็มักเลือกตามอ. ที่ตัวเองชอบ
อ.ที่สอนสนุก

ที่ว่าเป็นรร.ที่ดี รร.นึง เพราะมีการวางระบบการเรียนการสอน รวมถึงสุ่มตรวจคุณภาพอ.ผู้สอน ที่เราพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจส่วนนึงเพราะรร.นี้ด้วยค่ะ



กลับจากเมืองไทยคราวที่แล้ว ก็ตั้งปณิธานกับตัวเองไว้แล้วว่า ต้องพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดี เพื่อที่จะรับโทรศัพท์ให้ได้ เพื่อที่จะได้ก้าวเป็นเวทฯ (พนักงานเสิร์ฟ waitress) กับเขาได้บ้าง เพราะหลายร้าน เขาต้องการเวทที่รับโทรศัพท์ได้ ซึ่งถ้าเรารับได้ เราก็อาจจะมีทางเลือกมากขึ้น ทำงานเบาขึ้น และเงินที่เยอะขึ้น
ตอนแรกพยายามจะตื๊อไปขอฝึกกับเพื่อน ที่เป็นเวทเฝ้าร้านอยู่คนเดียว ให้เขาช่วยพูดกับเจ้าของร้านเขาให้หน่อยว่ามาขอฝึกไม่เอาเงินก็ได้ แต่เพื่อนก็เหมือนจะไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่


เที่ยวนี้รู้สึกว่า งานร้านอาหารจะหายากกว่าเดิม อาจจะเพราะมีคนไทยมาอยู่กันเยอะขึ้น การแข่งขันกันเองก็มากขึ้น การติดป้ายประกาศรับสมัครพนักงาน ที่ร้านไทย เลยน้อยลง
ประกอบกับเป็นช่วงหน้าหนาวด้วย ร้านคงจำกัดจำนวนพนักงาน เพราะขายในร้าน (Dine in) ได้น้อยลง

เราเองก็ไม่ได้โดดเด่น จนเข้าตากรรมการ


ในเมื่องานร้านอาหารหายากนัก เราก็เลยขอแหวกแนวไปลองหาอย่างอื่นทำบ้างดีกว่า





Create Date : 13 มิถุนายน 2554
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 18:17:07 น.
Counter : 1568 Pageviews.

7 comments
  
รีบเข้ามาอ่าน ....นานๆชื่อนี้จะอัพบล็อค

พี่เอาชื่อกระทู้ที่คุณน้องโดดฯ บอกว่าหายไปไม่ได้เก็บเข้าคลังให้อากู๋กูเกิ้ลช่วยหาให้ ...
เจออยู่ในคลังกระทู้เรียบร้อยโรงเรียนนิวยอร์คแล้วเน้อ

//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/08/D9564899/D9564899.html

//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9507889/D9507889.html


ขอตัวไปเตรียมบทเรียนวันพรุ่งนี้ก่อน...นิ
โดย: Sao'Padlung วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:2:25:41 น.
  
ว่าจะเข้ามาแก้ว่าโพสต์ไว้ห้องอาหาร เพราะเมื่อคืนพึ่งนึกได้ ว่าไม่ได้โพสต์ไว้ในไกลบ้านสักหน่อย อิอิอิ ไม่ค่อยได้เข้าไป

มาเจอพี่สาวพัทลุง พอดี เป็นไงบ้างคะพี่ สบายดีไหม?

ขอบคุณนะคะ อุตส่าห์ไปค้นให้จนเจอ หนูนี่เสร่อ จริงๆ หาไม่เจอ
ตอนที่เป็น Appitizer ก็ อยู่ในนี้ หาไม่เจอเพราะหัวเรื่องไม่ได้ระบุโดยตรง แป่ว !!!!//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/07/D9504946/D9504946.html

เดี๋ยวไว้จะรวบรวมมาใส่ไว้ในบล็อกอีกทีนะคะ ขอบคุณพี่มากๆ


โดย: โดดเดี่ยวผู้น่ารัก วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:18:02:05 น.
  
โอ๋สบายดีป่าว คิดถึงๆ จำกันได้มั๊ยเนี่ย อิอิ

หลงเข้ามาบล็อคโอ๋จากการที่เราค้นเรื่องเรียนนวด+เสริมสวยจ้า
ห่างหายไปจากบล็อค+พันทิพนานเลยเรา เพื่อนๆห้องงานฝีมือหายหมดเลย

ตอนนี้เราว่างงาน เพิ่งเลิกทำร้านการ์ตูนอ่ะ ก็ตั้งใจจะไปเรียนที่ศูนย์ฝึกอาชีพ แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะเรียนอะไรดี อยากเรียนไปหมดทุกสิ่งอัน เหอๆๆ

เข้ามาอ่านถึงได้รู้ว่าเพื่อนโอ๋โกอินเตอร์ซะแล้ว นึกยังไงไปเรียนนิวยอร์กล่ะเนี่ย หรือมีญาติอยู่นั่นจ๊ะ
โดย: calamine วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:1:37:55 น.
  
นึกสงสัยอยู่พอดีเลย เรื่องจำนวนคนกับงาน เพราะเห็นในห้องไกลบ้านก็มีคนเข้ามาถามเรื่องงานในร้านอาหารไทยบ่อยๆ เราไปทีไรร้านนึงก็มีพนักงานเสริฟท์อยู่ 3-4 คนเท่านั้นเองค่ะ

แล้วได้หยุดเสาร์อาทิตย์มั๊ยเอ่ย?
ขอบคุณนะคะที่เล่าให้ฟัง เราผูกปิ่นโตblogนี้ไว้เลยดีกว่า มีทั้งเรื่องสนุก มีทั้งความสวยความงาม แถมยังมีของกินอีกด้วย ^^
โดย: เสาไฟมุมถนน IP: 75.36.143.133 วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:17:19:49 น.
  
จะได้หยุดเสาร์ อาทิตย์หรือไม่ คงแล้วแต่ร้านด้วยค่ะ

ส่วนตัวเคยได้หยุดนะคะ เพราะบางร้าน เสาร์ อาทิตย์ เขาสโลว์ (ขายได้น้อยลง) แต่เราก็ไปทำร้านอื่นเพิ่มเอา แป่ว อิอิอิ


อย่างร้านที่ทำเลเป็นย่านออฟฟิศ เขาก็จะขายดีกลางวันวันธรรมดา ส่วนวันหยุดจะเงียบๆ ราคาอาหารก็จะถูกหน่อย (ก็มีผลกับทิปเหมือนกันนะคะ เพราะบางคนเขาให้ตามเปอร์เซ็นต์ ประมาณ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๒ เท่าของ tax (ภาษี) อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ)
แต่ถ้าร้านที่เป็นย่านท่องเที่ยว,ผับ หรือย่านพักอาศัย ก็มักจะคึกคัก ตอนเย็นวัน พฤหัส,ศุกร์,เสาร์,อาทิตย์

เขาจึงนิยมทำ Lunch special ราคาถูก อย่าง 6.95, 7.95, 8.95, 9.95 ประมาณนี้
แล้วลดปริมาณอาหารลง แต่แถม แอพิไทเซอร์หน่อยนึง หรือ ซุป ถ้วยเล็กๆ (ขนาดประมาณซุปข้าวมันไก่) หรือ สลัด (ประมาณ ๑ หยิบมือ) เพื่อ ดึงลูกค้าเข้าร้านตอนกลางวันน่ะค่ะ
โดย: โดดเดี่ยวผู้น่ารัก วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:20:47:52 น.
  
Before Tsunami, we have known.
I was in Koh Lanta, if you remember.
Always think about you and glad to see you again.
โดย: Viroj IP: 124.122.17.123 วันที่: 9 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:36:11 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ
สบายดีนะคะ

โดย: addsiripun วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:23:20:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โดดเดี่ยวผู้น่ารัก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]