เด็กเรียนเกรียนต้องโดด
สวัสดีครับ ผมคิดว่าใครหลายๆคนคงเคยได้มีโอกาสโดดเรียนตอนที่ตัวเองยังเป็นนักเรียนกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อยละ ผมก็คนหนึ่งละที่ค่อนข้างจะถนัดกับเรื่องเเบบนี้ ผมเป็นเด็กเรียบร้อยนะเเต่ของอย่างนี้ต้องมีบ้างละ เเละเหตุการณ์โดดเรียนของผมที่ทำให้ผมประทับใจในความสามารถของผมนั้นมีดังต่อไปนี้ครับ



สมัยผมเรียนอยู่ม.ต้นผมอยู่ห้อง3/2เเละในวันหนึ่งซึ่งเป็นวันตรุษจีน เด็กนักเรียนเกือบครึ่งจะหยุดเรียนกัน บ้างคนหยุดเรียนทั้งๆที่ตัวเองไม่มีเชื้อจีนกะเขาเลยเเต่ก็ยังอาศัยมั่วหยุดไปกับเขาด้วย ผมซึ่งชอบการมาโรงเรียนในวันตรุษจีนเพราะโรงเรียนมักร้างการสอนในวันนั้นเนื่องจากเด็กนักเรียนมาเรียนกันน้อย ผมกับเพื่อนได้รวมตัวอ่านการ์ตูนกันเพลิน คาบหนึ่งก็เเล้ว คาบสองก็เเล้วไม่มีวี่แววอาจารย์มาสอนซักคน ผมก็ได้ใจพรางสะแหยะยิ้มคิดว่างานนี้เสร็จโจร ฮ่าๆๆ เเต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า ณ. ห้องม.3/2ของผม ในคาบเรียนที่สามอาจารย์วิชาภาษาอังกฤษท่านได้เดินทางมาพร้อมกับอุปกรณ์ทรมานนักเรียนอย่างผมครบมือ ทั้งหนังสือเรียนภาษาอังกฤษเเบบต่างๆ ชีสเเบบทดสอบปึกใหญ่ พร้อมด้วยไมโครโฟนไร้สายอันเป็นสิ่งที่เเกภูมิใจมากรวมทั้งรังสีอำมหิตที่พร้อมจะฆ่านักเรียนให้ตายคาห้องได้เเม้เพียงเเค่ท่านชายตามอง





เมื่อผมเห็นท่านมีทีท่าว่าจะเข้าสอน ผมก็อุทานเป็นภาษาปาปัวนิวกินีตะวันออกว่า บ๊ะฮี้ฮ่าเเอ๊กป๊อก!!!! เเละด้วยการที่ผมภูมิใจในความโง่วิชาภาษาอังกฤษของตัวเองมากขนาดที่ผมสามารถไปเรียนภาษาอังกฤษกับเด็กป.6เเล้วสอบเเข่งกันผมยังอาจจะเเพ้ได้ ทำให้ผมต้องเรียกสติของตัวเองที่หลุดลอยไปเเล้วกลับเเละทำการชักชวนเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก2คนทำการเเหกหนีออกจากห้องเรียนนี้ไป สาเหตุที่ผมกับเพื่อนต้องทำเเบบนี้เพราะได้ไปสาบานต่อหน้าเจ้าพ่อปลาทองที่ตัวใหญ่ที่สุดในบ่อหน้าต้นหูกวางว่าวันนี้เราทั้ง3คนจะไม่ยอมเรียนหนังสือ(เฉพาะวันนี้เท่านั้น)ใครที่ผิดคำสาบานขอให้ตอนสอบปลายภาคได้โผยข้อสอบของปลอม
เเต่ว่าประตูหน้าห้องถูกท่านอาจารย์วิชาภาษาอังกฤษยืนสร้างอิทธิพลเเละคุมเชิงอยู่เเต่ท่านยังไม่ได้เข้าห้องเพราะยืนคุยกับเด็กนักเรียนคนอื่นอยู่ ยังมีประตูหลังที่สามารถอาศัยเป็นช่องทางผ่านของเหล่าบรรดาศิษย์เเสบได้อยู่ ตอนเเรกผมกะจะม้วนหน้าหกสูงพุ่งออกไปทางประตูหลังห้องเเต่ต้องหยุดการโชว์ยิมนาสติกไว้เพราะมีอาจารย์ที่ปรึกษาของผมมานั่งทำอะไรบ้างอย่างซึ่งมิอาจทราบได้เเละไม่มีเวลาถาม






ในเมื่อประตูห้องถูกปิดตายทั้ง2บานอย่างนี้เเละเวลาที่ผมมีอยู่ก็เหลือน้อยนิด สิ่งเดียวที่ผมนึกขึ้นมาได้นั้นก็คือการอาศัยวิชาที่ฝึกมาจากวัดเส้าหลินนั้นก็คือวิชาศิษย์กระโดดหน้าต่าง เมื่อเป็นเช่นนั้นผมเเละเพื่อนอีก2คนได้ทำการใช้วิชาที่สืบทอดกันมาในประเทศจีนกว่า2000ปีอย่างวิชาศิษย์กระโดดหน้าต่างโดยที่ผมเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันกระโดดนำหน้าเพื่อนทั้ง2คนท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาเพื่อนนักเรียนหญิงที่เห็นเหตุการณ์กว่า4-5คน เเต่ผมมั่นใจว่าพวกเธอจะปิดปากเงียบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะผมหล่อหรอกนะเเต่เป็นเพราะผมคือลูกหนี้รายใหญ่ของพวกเธอนั้นเอง5555 ซึ่งพวกเธอคงรู้ว่าการที่พวกเธอจะเอาเรื่องของผมไปฟ้องอาจารย์นั้นเท่ากับว่าหนี้สินของผมกับพวกเธอมีอันเป็นศูนย์(อืม...มรึงช่างเป็นลูกผู้ชายจริงๆ5555)






ในเมื่อผมเห็นว่าผมมีความได้เปรียบขนาดนั้นผมจึงไม่ลังเลใจที่จะเดินหน้าทำภารกิจต่อไปให้สำเร็จ(เรื่องเลวๆนี้ตั้งใจทำจริงๆ) เมื่อพวกผมทั้ง3คนได้กระโดดออกมาที่หน้าต่างเเล้วมายืนอยู่ตรงระเบียงนอกอาคารเรียนเเล้วซึ่งอยู่บนชั้นที่2ของตึกเรียน ผมมีเวลาจำกัดที่ต้องรีบทำภารกิจนี้ให้เสร็จเพราะด้านหลังตึกที่ผมออกมายืนนั้นเป็นทางเดินของบรรดานักเรียนซึ่งมีนักเรียนกว่า30-40คนได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมทำเเละพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เป็นเจ้าหนี้ของผมด้วย หลายคนยืนรวมกลุ่มกันวิพากษ์วิจารณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บ้างก็ว่าอาจจะเป็นลางร้ายของโลก บ้างก็ว่าหวยเลขท้าย2ตัวงวดนี้อาจจะเป็นเลขคู่ เฮ้ย..ไม่เกี่ยวกัน5555





ในฐานะหัวหมู่ทะลวงฟันผมจึงจำเป็นที่ต้องรักษาชีวิตของชาวบ้านไว้(ไม่ใช่บางระจัน) เฮ้ย....ของเพื่อนด้วยการรีบนำทัพจำนวน3คนพร้อมกระเป๋านักเรียนเเละรองเท้านันยางคนละคู่รีบพุ่งไปที่หน้าต่างของห้องม.3/3ทำการปีนหน้าต่างเพื่อเข้าตีต่อไป เเต่คุณพระ!!! ผมได้อุทานเป็นภาษาปาปัวนิวกินีตะวันออกอีกครั้งว่า บ๊ะฮี้ฮ่าเเอ๊กป๊อก!!!! อีกครั้งเพราะห้องม.3/3กำลังทำการเรียนการสอนกันอยู่ ฉับพลันมีสายตาคู่หนึ่งของนักเรียนสาวสวยน่ารักที่นั่งอยู่ตรงหน้าต่างคนหนึ่งได้มาสบตากันกับผม ดวงตาที่กลมโต จมูกได้รูป ริบฝีปากชมพู เเก้มใสๆ มันทำให้ผมนึกได้ว่านางฟ้าที่เขาว่าไม่มีจริงได้มานั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้เเล้ว(ตอนหลังได้รู้ชื่อของเธอเเละได้เป็นเพื่อนกันเเค่นั้นจริงๆ เซ็ง..อยากจะบอกว่าเพื่อนมีเยอะเเล้ว) เเต่สิ่งเเรกที่ผมรู้สึกได้จากเเววตาของเธอคือ เธอพยายามจะบอกอาจารย์ในห้องว่า "อาจารย์ขา...มีตัวเงินตัวทอง3ตัวกำลังจะปีนเข้ามาในห้องคะ "






ผมจำเป็นต้องชักธงยกทัพกลับเเละเลือกเก็บความสวยน่ารักของเธอไว้เป็นพลังของหัวใจ ครั้งนี้ผมกับเพื่อนได้ย้ายทัพขึ้นเหนือไปที่ห้องม.3/1เเละระหว่างการเดินทางไปตามระเบียงนอกตึกเรียนยังมีสายตาของบรรดานักเรียนตรงทางเดินข้างล่างมองอยู่เเละคงคิดว่าไอ้พวกนี้มันทำอะไรกันวะ เเละเมื่อผมได้ไปถึงห้องม.3/1เป็นที่เรียบร้อย ผมได้ทำการสังเกตว่าในห้องนี้มีอาจารย์อยู่หรือเปล่าเเละผลก็คือไม่มีครับนอกจากเหล่าบรรดานักเรียนเจ้าของห้องที่กำลังสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยงราวกับว่าประเทศไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกไปกว่า30เหรียญทอง ผมได้ทำการตะโกนบอกไปว่า ฆ่ามัน ไม่ใช่เเล้ว ผมได้นำเพื่อนอีก2คนปีนเข้าไปในห้องท่ามกลางบรรดาสายตาของนักเรียนในห้องนั้นที่เห็นเหตุการณ์การเข้าตี บังเอิญว่านักเรียนในห้องนั้นกว่า20คนผมรู้จักดีไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นเจ้าหนี้ผมนะ เอาเป็นว่าผมก็เป็นคนมีเพื่อนกะเขาเหมือนกันเเล้วกัน





ผมได้เดินไปทำความเคารพกับหัวหน้าห้องนี้ซึ่งผมรู้จักเธอดีเเละได้บอกกับเธอว่า ห้องของคุณกับห้องผมเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันเเละกันเสมอมา ผมอยากจะเสนอให้ยุบรวมห้องทั้ง2เป็นห้องเดียวกันโดยใช้ชื่อว่าห้องม.3/1-2 เธอตอบกลับมาว่า "จะบ้าเหรอ เมื่อเช้ากินยาผิดขวดมารึไง" ผมเข้าใจว่าเธอคงคิดว่าเป็นความเห็นที่ปัญญาอ่อนเเต่ไม่ใช่ครับ เธอพูดต่อไปว่า เดี๋ยวต้องเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมของสหประชาชาติก่อนว่าจะเอายังไง อ้าวเฮ้ย ฮ่าๆๆๆ





ป.ล.เรื่องที่เขียนขึ้นมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมสมัยเรียนม.ต้นจริงๆ เเต่อาจจะเขียนให้มันเว่อไปบ้างเพื่อความสนุกนะครับเเต่โดยรวมเป็นเรื่องจริงกว่า90% ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ที่นี้ด้วยครับ เเล้วผมจะหมั่นเข้ามาเขียนเรื่องสนุกๆสมัยเรียนทั้งตอนมัธยมเเละมหาวิทยาลัยให้อ่านกันครับ ชีวิตมีสาระเยอะเเล้วเอาเรื่องที่ไม่มีสาระบ้างก็ดีนะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบ มีอะไรเเนะนำก็เชิญได้ครับ



Create Date : 07 ธันวาคม 2552
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 14:17:37 น.
Counter : 963 Pageviews.

6 comments
  
เนี่ยนะเด็กเรียบร้อย
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:10:24:09 น.
  
โหย อดประเดิมเลย ฮ่าๆ
เรื่องโดดเรียนมันเป็นศิลปะของวัยรุ่นครับ ฮ่าๆ
โดย: จอนนี่ ย่าง วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:23:53:08 น.
  
ฮ่าๆ กล้าเอาความดีมาเล่าเนอะ เราจะเก็บความดีอย่างนี้เข้ากรุเลย ฮิๆ เพราะเราเองก็ใช่ย่อย โดนเรียกเข้าห้องปกครองทุกเดือน แม่ต้องรีบบอกว่าจะไม่ไปอีกแล้ว เพราะโดนครูเชิญไป จนรู้จักเกือบครบโรงเรียนแล้ว
ถือว่าเป็นเกียรติของเราเลยนะเนี่ย ใครไม่มีประสบการณ์อย่างนี้เสียดายแย่ เกิดมาทั้งทีเนอะ ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆยิ้มด้วยความภูมิใจ
โดย: far_sexy คนขี้เหงา วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:0:48:04 น.
  
อ่านโปรไฟล์แล้วโดนใจมาก

ใช่ค่ะคนฉลาดคือคนที่ใช้ชีวิตที่ดีงามอย่างมีความสุขค่ะ

โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:11:06:31 น.
  
อรุณสวัสดิ์ยามเย็นๆๆ จ๊ะ โดดเรียนเป็นช่วงที่สนุกไปเลย นะจ๊ะ 5555
โดย: arisagirl วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:18:02:58 น.
  
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him
โดย: da IP: 124.120.23.163 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:1:00:25 น.

Don't try this at home.
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 101 คน [?]



ชื่อยูครับ ยินดีที่ได้รู้จัก
ถึงแม้จะไม่มีใครอยากรู้จักก็ตาม

ตอนเด็กอยากรีบโต
ตอนโตอยากกลับเป็นเด็ก
แต่ผมก็ไม่เล็กนะครับ




New Comments
ธันวาคม 2552

 
 
1
2
3
4
5
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add Don't try this at home.'s blog to your weblog]