ขนมคือชีวิต แคลอรี่คืออุปสรรค ถ้าชีวิตไม่มีอุปสรรคก็คงจืดชืดเหมือนขนมไม่มีแคลอรี่
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
27 มกราคม 2550

วันแรกของการเริ่มเรียนทำอาหาร

และแล้ววันแรกของการเรียนก็มาถึง อย่างที่เคยเล่าให้ฟังกันไปแล้ว คอร์สที่เราเลือกเป็นคอร์สวันอาทิตย์เรียนตั้งแต่ 8:30AM - 5:00PM แต่วันแรกเราต้องไปเช้าเพื่อเอาเอกสารไปให้ และไปสำรวจสถานที่กันก่อน

กว่าจะดันตัวให้ลุกจากเตียงทำอะไรต่อมิอะไรเสร็จก็เกือบเจ็ดโมงครึ่ง (ขอบอกว่าตื่นเช้ากว่าตอนตัวเองไปทำงานอีก ) ไปหาเมย์ที่บ้านก่อนเพราะว่าไม่รู้ทาง จากบ้านเมย์ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงมหาวิทยาลัย

อาคารเรียนหาไม่ยาก ที่ยากก็ตรงที่จอดรถแต่โชคดีอย่างหนึ่งที่เขามีที่จอดรถไว้สำหรับคนมาเรียนด้วย แต่ว่าต้องเสียค่าจอดรถ 200 บาทต่อปี คิดแล้วก็ประมาณครั้งละ 20 บาทกว่าๆ เลยคิดว่าเอาวะ เสียก็เสีย ข้อเสียของที่จอดรถอันนี้คือวงเลี้ยวมันแคบมากๆ แถมเขาดันให้เราไปจอดชั้น 5 เราตีรถครั้งเดียวไม่เคยผ่าน ต้องถอยหลังตั้งหลักใหม่ทุกครั้ง แต่พอเห็นรถเบ๊นซ์ข้างหลังที่เขาตามมาไม่เห็นต้องตั้งหลักใหม่ก็แอบเสีย self เล็กน้อย เพราะว่ารถเขาใหญ่กว่าตั้งเยอะ ทำไมตูถึงเลี้ยวไม่ผ่านฟระ

หลังจากวุ่นวายกับการเอารถตัวเองขึ้นที่จอดรถ เราก็เข้าไปที่เรียน ที่เรียนอยู่บนชั้นหกของตึก 12 (ตึกเดียวกับที่จอดรถนั่นแหละ) พอออกจากลิฟท์จากเจอเคาน์เตอร์ เราก็จัดการยื่นเอกสารการสมัครต่างๆให้เขาแล้วก็เริ่มเดินสำรวจรอบๆ ที่นี่มีทั้งครัวไทย ครัวฝรั่ง ทั้งเคาน์เตอร์ที่เอาไว้ผสมเครื่องดืม และห้องเย็นไว้เก็บวัตถุดิบ ห้องเปลี่ยนชุดก็มี จะเสียก็คือห้องน้ำหญิงมีแค่ห้องเดียว เวลาพักทีห้องน้ำก็ต้องต่อคิวกันยาวเชียว

ห้องที่เราจะไปเรียนกันวันแรกเป็นห้องที่จัดเป็นห้อง lecture มีครัวอยู่ข้างหน้าและมีที่นั่งจัดขึ้นไปเป็นชั้นๆ แน่นอนคนขยันเรียน(น้อย)เช่นข้าพเจ้าก็รีบจับจองที่นั่งไม่ให้ใกล้และไกลเกินไป เอามันกลางๆห้องนี่แหละ

เพื่อนร่วมชะตากรรม(เพื่อนร่วมห้อง)เริ่มเดินเข้าห้องกันมาเรื่อยๆ ห้องนี้เรียนกันเต็มห้องคือ 24 คน ส่วนมากเป็นคนหนุ่มสาว ที่มีอายุหน่อยก็มีแต่ก็ไม่น่าเกิน 40 กว่า ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ผู้ชายก็มีหลายคนอยู่เหมือนกัน อ้อ ลืมเล่าไป ที่นี่ทางเจ้าหน้าที่เขาย้ำว่าเป็นสถานที่ราชการดังนั้นมาเรียนก็อยากให้แต่งตัวสุภาพมา ไม่ให้ใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ แต่วันแรกคนอาจจะไม่ค่อยรู้กันก็เลยใส่กางเกงยีนส์กันมาซะหลายคน

พอเวลาแปดโมงครึ่งปุ๊ป เจ้าหน้าที่หรือว่าอาจารย์ก็ไม่แน่ใจ ขนหนังสือแผ่นพับต่างๆมาแจกให้คนที่มาเข้าเรียน สะดุดใจนิดนึงตรงที่เขาเรียกพวกเราว่าลูกค้าแทนที่จะเป็นผู้เข้าอบรม แต่จะเรียกอะไรก็ช่างเถอะ เพราะตอนนั้นเราสนใจกับเอกสารที่เขาแจกให้มากกว่า

สิ่งที่เขาแจกให้ก็มีตำราหนึ่งเล่มหนาราว หนึ่งนิ้ว ที่รวมเนื้อหาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาหารยุโรป รวมไปถึงสูตรอาหารที่จะใช้ในการเรียนไว้ด้วย นอกจากนี้ก็จะมีแผ่นพับเกี่ยวกับวิชานี้ เราไปสะดุดอยู่ตรงสองที่ คือที่นี่เขาบังคับว่าจะต้องเข้าเรียนมากกว่า 80% ถึงจะได้ใบประกาศ ซึ่งตรงนี้เราคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะด้วยอารมณ์งก เสียตังค์ไปแล้วก็ต้องมาเรียนให้ครบสิ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือที่นี่มีสอบด้วย แถมเป็นทั้งสอบภาคทฤษฎี และปฎิบัติ มาถึงตรงนี้เริ่มมองหน้ากับเพื่อน คนหัวสมองฟองน้ำเช่นข้าพเจ้า (ไม่ใช่ซึมซับความรู้ได้ดีเหมือนฟองน้ำ แต่พรุนเหมือนฟองน้ำ)จะรอดหรือเนี่ย

ถ้าคิดว่านี่เครียดแล้ว มีการตอกย้ำความเครียดกันเข้าไปอีกตอนแนะนำตัว เพราะคนส่วนมากที่มาเรียนไม่เป็น chef อยู่แล้วก็เป็นพวกเจ้าของกิจการรีสอร์ตที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหาร พวกที่มาเรียนเอาสนุกเช่นข้าพเจ้ามีน้อยมาก จากที่เครียดแล้วก็ยิ่งเครียดหนัก แต่เอาเถอะมาถึงนี่แล้วจะถอยหลังกลับก็ไม่ได้

วันแรกของการเรียนมีแต่ภาคทฤษฎี เนื้อหามีอะไรบ้างก็ขอยกไปครั้งหน้าแล้วกัน คราวนี้เอาแค่เรื่องบรรยากาศโดยทั่วไปก่อน อาจารย์ที่จะสอนก็จะมีหลายท่าน เนื้อหาที่สอนก็น่าสนใจ มีการเอาตัวอย่างชีส ตัวอย่างเครื่องปรุงต่างๆเอามาให้ดูด้วย ไม่เบื่อเลย

การเรียนเนื้อหาจะใช้เวลาวันครึ่ง คือวันแรก กับครึ่งวันที่สอง เนื้อหามีการเรียนเรื่องการคำนวณค่าต้นทุนด้วยนะ เผื่อสำหรับคนที่จะเอาไปเปิดร้าน นั่งจดสิ่งที่อาจารย์สอนกันจนมือเมื่อย แต่ก็ยอมรับเลยว่าได้ความรู้เยอะจริงๆ อีกส่วนก็เริ่มกังวลเล็กน้อยว่า เนื้อหาเยอะอย่างนี้จะสอบผ่านไหมหว่า ยิ่งอาจารย์เองก็บอกว่าต้องอ่าน ไม่อ่านคงไม่ผ่าน

เรียนเสร็จห้าโมงก็ต้องมาผจญกรรมกับการเอารถลงจากที่จอดอีก อย่างที่บอกเอาไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อว่าเรียนอะไรกันมั่ง ติดตามอ่านน้า


Create Date : 27 มกราคม 2550
Last Update : 27 มกราคม 2550 11:54:56 น. 10 comments
Counter : 851 Pageviews.  

 
น่าสนใจค่ะ .... แต่ใจไม่รักเอาเสียเลยค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting


โดย: NuiErnik วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:12:24:59 น.  

 
ชอบทำค่ะ เอาภาพอาหารที่ทำแล้วมาให้ชิมบ้างนะค่ะ


โดย: saengjan วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:13:05:39 น.  

 
ไม่ได้ถ่ายรูปมาเหรอค่ะ อยากไปเรียนผสมค๊อกเทลจัง ไม่รู้มีเปิดสอนที่ไหนหรือเปล่า


โดย: คนเมืองช้าง (พนมรุ้ง12 ) วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:13:23:23 น.  

 
ไม่ได้เรียนทำอาหารอย่างเดียว แต่ว่าต้องเรียนคิดค่าต้นทุนกำไรด้วย... น่าสนใจๆ...


โดย: Mocha Macchiato วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:14:55:46 น.  

 
อยากเรียนเหมือนกัน

แต่รู้สึกเหมือนว่าค่าเรียนแพงอ่ะ

เอาเป็นว่ากินผัดผักะไข่เจียวเหมือนเดิม 5555




โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:14:58:55 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาชมกัน

ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะให้ถ่านรึเปล่า เลยไม่ได้ถ่ายน่ะค่ะ แต่สัญญาค่ะว่าถ้าได้ทำจะถ่ายรูปมาลงให้ดูนะคะ


โดย: Cake Hunter IP: 58.8.186.123 วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:17:07:20 น.  

 
เรานะ เป็นคนที่ทำอาหารไม่เป็นเลย
แม้แต่ไข่ต้มยังเคยทำระเบิดมาแล้วอะ

อิ อิ ต้องไปเรียนบ้างแย้วววว


โดย: ความเจ็บปวด (ความเจ็บปวด ) วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:17:51:45 น.  

 
อยากทำขนมให้อร่อยจังเลย
แต่ทำไม่เป็นช่วยสอนหน่อยดิ่


โดย: เด็กอุทัยธานี IP: 203.113.45.168 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:18:35:36 น.  

 
เมื่อวันจันทร์เราพึ่งไปสมัครเรียนช่างฝีมืออาหารไทยมา ก็กลัวเหมือนกันว่าจะสอบไม่ผ่าน เพราะเสียค่าเรียนแพง งัยก็ต้องสู้ๆๆ เสียตังค์แล้วนี่


โดย: ณี IP: 58.137.0.100 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:43:02 น.  

 
น่าทานค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 วันที่: 18 เมษายน 2563 เวลา:12:21:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Cake Hunter
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




แค่คนกลมๆ ที่ชอบขนมเป็นชีวิตจิตใจ
[Add Cake Hunter's blog to your web]