หยาดน้ำค้างพันปี โดย ชมัยภร แสงกระจ่าง
| | | |
หยาดน้ำค้างพันปี โดย ชมัยภร แสงกระจ่าง
สารภาพเลยว่าตอนซื้อเปิดดูผ่านๆ ดูประวัติผู้แต่ง (จบอักษร จุฬา) แล้วซื้อเลย คำนงคำนำอะไรไม่อ่านทั้งนั้นแล้วก็ซื้อเลย คือไม่เคยรู้จักผู้เขียนมาก่อนเลย และเราก็ติดตามแต่นิยายที่เป็นนิย้าย นิยาย ไม่ได้อ่านแวดวงวรรณกรรมไทยเท่าไหร่ ตอนเรียนมหาลัยเป็นช่วงที่เราอ่านวรรณกรรมแบบนี้ เป็นประเภทสะท้อนชีวิตจริง มุมของสังคมต่างๆประมาณนั้น พอเวลาผ่านไปเรารู้สึกว่าชีวิตเราเครียดพอแล้ว ไม่อยากรับรู้ความเครียดเพิ่มเติมอีก (คิดผิดนะ) เลยไม่ค่อยได้อ่านและยังกลัวที่จะอ่านอีกด้วย (ไม่รู้ทำไม เป็นพวกติดสุขมั้ง)
ขนาดมีในครอบครองเรายังลังเลที่จะอ่านเลย แล้วในวันหนึ่งว่างจัด หยิบมาระหว่างมนุษย์ชิ้นส่วนกับเล่มนี้ว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดี เลยหยิบเล่มนี้มาเปิดๆดูซิ อ่านคำนำ เริ่มบทแรกแล้วก็วางไม่ได้เลย
ข้าแต่ศาลที่เคารพ....เพียงคำเริ่มต้นในทุกๆบท ที่สายน้ำบอกเล่าเรื่องราวชีวิตโดยการบอกผ่านศาลมายังผู้อ่าน ก็ทำเราสะท้อนใจมากทีเดียว เห็นใจตัวละครมาก อ่านแล้วอึดอัดมาก คือเราอิน เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครเลย ชีวิตเค้าที่ต้องไปขึ้นศาลตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี (คดีใหญ่ พยาน 500 ปาก) ตกเป็นจำเลยโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเหมือนเสียศูนย์ครั้งใหญ่ ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว จิตใจ มันไปหมด ช่วงครึ่งเล่มแรก เราอ่านแล้วได้รู้สึกถึงความบ้าของสายน้ำเลย เสียสติน่ะ คืออาการหลุดมันเกิดขึ้นได้ถ้าชีวิตเจอเรื่องขนาดนั้น ยิ่งพอสายน้ำเริ่มปักครอสติชนี่คือสุดๆอะ ขนลุก ทำอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ร้อยผืนพันผืน จากพระจันทร์สีเหลืองทอง กลายเป็นพระจันทร์สีดำ นกพิราบร่วง การแสดงออกทางสัญลักษณ์ที่กรีดลึกในอารมณ์ จริงๆ คือถ้าคนเราจะทำได้ขนาดนั้น มันเป็นอารมณ์ที่ฝังอยู่ในจิตสำนึกแล้ว ไม่อย่างนั้นทำไม่ได้ เพราะแต่ละผืนก็ใช้เวลานาน ใช้การปักครอสติชเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทำให้เค้าลืมความเป็นจริงที่เค้าไม่อยากเผชิญในขณะเดียวกันก็สะท้อนสิ่งที่อยู่ภายใน
สิ่งที่คลี่คลายสิ่งต่างๆในเรื่องนี้ นอกจากธรรมะแล้วคือกาลเวลา ตอนแรกอ่านๆไปอืมจะเจอแบบน่าเบื่อๆหรือเปล่า แต่ไม่เลย สายน้ำนำธรรมะมาขบคิดในแบบของเธอแล้วเล่าให้ผู้อ่านฟัง มันดีมาก มีการคิดเปรียบเทียบ โต้แย้ง สนับสนุน
ผู้อ่านได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างไปพร้อมกับสายน้ำ การจมอยู่กับความทุกข์ถ้ามันมากเกินไปมันส่งผลอะไร มันทำให้เราละเลยอะไรไปบ้าง ทุกสิ่งที่เราทำล้วนส่งผลกระทบกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา การมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางทำให้เราละเลยว่าคนอื่นเค้าก็มีปัญหาเช่นกันไม่ใช่แต่เรา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุด (อันนี้ แม้ขณะนี้ก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้) มันไม่แน่ แม้จะเห็นใสๆแล้วสายน้ำก็ยังไม่ประมาทโดยคิดว่ายังไม่แน่ (ตอนตัดสินคดีท้ายสุด)
ชอบแนวคิดของผู้เขียนเกี่ยวกับที่ว่าชีวิตคนเรานั้นเค้าขีดเส้นไว้อยู่แล้ว แต่ในการดำเนินชีวิตของเรานั้นเราก็ขีดเส้นอีกเส้นหนึ่งได้ คือจะใช้ชีวิตอย่างไร (จะคิดอย่างไร) กับชีวิตที่เค้าขีดเส้นมาให้นี้ ตอนท้ายๆ ในส่วนของลีลาที่เธอยอมรับชะตากรรมยอมติดคุกในศาลชั้นต้น 50 ปี และเธอไม่ยื่นฎีกาด้วย แต่ในที่สุดฎีกายกฟ้อง เป็นอะไรที่หักมุม แต่คนอ่านก็ดีใจนะ ทำให้รู้สึกเล็กๆถึงปาฏิหารย์ (ทำดีต้องได้ดี มาเมื่อไหร่ไม่รู้แต่พอถึงเวลามันจะมา)
การที่เรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากเรื่องจริง ทำให้เราคิดว่าความทุกข์ต่างๆที่บรรยายในเรื่องนั้นคงสาหัสจริงๆ มันเป็นความทุกข์แบบเฉือนเนื้อแถหนัง เข้าไปถึงกระดูกจริงๆ และเรื่องนี้ยังสอนอีกว่าให้ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น เป็นนิยายที่ดีมาก ชอบมาก แนะนำเลยค่ะ
| | | | |
Create Date : 26 สิงหาคม 2558 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2558 21:54:40 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3111 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Sab Zab' วันที่: 26 สิงหาคม 2558 เวลา:12:58:19 น. |
|
|
|
โดย: cake&coffee วันที่: 26 สิงหาคม 2558 เวลา:21:56:40 น. |
|
|
|
|
|
|
🌹🌹🌹🌹🌹
สงวนลิขสิทธิ์ข้อความในบล็อกนี้
🌹🌹🌹🌹🌹
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|