|
นักการเมือง'ยุชาวบ้านพังคันกั้นน้ำ! อุปสรรคของทหารป้องกันภัยน้ำ เผยหากป้องกันไม่ได้ ท่วมเขตเศรษฐกิจ
นักการเมือง'ยุชาวบ้านพังคันกั้นน้ำ! อุปสรรคของทหารป้องกันภัยน้ำ
ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน
พลันที่คันกั้นน้ำบริเวณคลองหลักหก จ.ปทุมธานี รวมทั้งคันกั้นน้ำบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ที่ทำหน้าที่กั้นน้ำบริเวณคลองรังสิต ตัดกับ ถ.พหลโยธิน แตกชำรุดเป็นทางยาว "น้ำเหนือ" ปริมาณมหาศาลก็ไหลทะลักเข้าท่วมเขตสายไหม และดอนเมือง ของกรุงเทพฯ ทันที ณ วันนี้คันกั้นน้ำบริเวณดังกล่าวก็ยังไม่อาจซ่อมแซมได้ ประกอบกับเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม ที่ผ่านมา จึงทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมเขตบางเขน ตามแนว ถ.วิภาวดีรังสิต เรื่อยไปจนถึงบางพื้นที่ของ ถ.รามอินทรา หากยังไม่สามารถสกัดกั้นน้ำเหนือได้ทันท่วงที...น้ำปริมาณมหาศาลอาจไหลทะลักเข้าพื้นที่ชั้นใน ซึ่งเป็น "เขตเศรษฐกิจ" อันถือเป็นหัวใจสำคัญของทั้งกรุงเทพฯ และของประเทศไทย !! นายทหารที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบคันกั้นน้ำในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลสะท้อนปัญหาการดูแลคันกั้นน้ำในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำหน้าที้เป็น "ปราการด่านสุดท้าย" ก่อนเข้าสู่กรุงเทพฯ ซึ่งการที่คันกั้นน้ำหลายจุดพังทำให้น้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ในหลายเขตทางทิศเหนือ นายทหารคนดังกล่าวบรรยายถึงภารกิจความรับผิดชอบของกองทัพว่า ทหารต้องรับผิดชอบดูแลพื้นที่ที่ประสบภัย โดยเฉพาะใน 6 จังหวัดหลักๆ คือ นครสวรรค์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังต้องรับผิดชอบแนวคันกั้นน้ำสำคัญที่ทำหน้าที่ปกป้องกรุงเทพฯ ชั้นใน เช่น คลองหลักหก จ.ปทุมธานี, คลองระพีพัฒน์ รวมทั้งแนวคันกั้นน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ และคลองทวีวัฒนา ที่ส่งกำลังเข้าไปร่วมภารกิจกับกองทัพเรือ "แม้กองทัพบกจะส่งกำลังพลกว่า 6 หมื่นนาย เข้าไปป้องกันคันกั้นน้ำ และช่วยเหลือประชาชน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานปริมาณน้ำอันมหาศาลได้ อย่างไรก็ตาม การที่คันกั้นน้ำพังทลาย นอกจากสาเหตุจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากแล้ว ยังเกิดจากปัญหาการพังคันกั้นน้ำของประชาชนด้วย โดยในบางแห่ง เช่น จ.ปทุมธานี หรือเขตสายไหม และดอนเมือง มีนักการเมืองบางคนไปยุยงให้ชาวบ้านเข้าไปพังคันกั้นน้ำเพื่อไม่ให้ท่วมบ้านของชาวบ้าน โดยหวังผลทางการเมืองของตน" นายทหารคนเดิม กล่าว อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาการพังคันกั้นน้ำจะเป็นอุปสรรคต่อภารกิจการป้องกันน้ำท่วมของกองทัพ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ก็ได้ส่งสัญญาณมาโดยตลอดว่า ไม่ต้องการให้บังคับใช้กฎหมายกับประชาชน โดยเฉพาะแนวคิดการออกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน นายทหารคนเดิมระบุถึงพื้นที่ที่มักจะประสบปัญหาในการพังกั้นน้ำ ได้แก่ 1.พื้นที่คันกั้นน้ำในความรับผิดชอบของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก(นปอ.) ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และนนทบุรี ที่มักจะมีข่าวนักการเมืองนำประชาชนไปพังคันกั้นน้ำบ่อยครั้ง 2.พื้นที่คันกั้นน้ำในเขตสายไหม และดอนเมือง ของกทม. ในความรับผิดชอบของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ที่มักเกิดปัญหาการรื้อคันกั้นน้ำบ่อยครั้ง ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญในการระบายน้ำออกฝั่งตะวันออกของกทม. 3.พื้นที่คันกั้นน้ำในความรับผิดชอบของกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ริมฝั่งเจ้าพระยา โดยเฉพาะส่วนที่เป็น "ฟันหลอ" หรือพื้นที่คันกั้นน้ำไม่ถาวร ก่อด้วยกระสอบทราย เช่น ซอยสามเสน 21 ที่เป็นพื้นที่เอกชน มักจะมีคนเข้ามาตกปลาและเหยียบคันกั้นน้ำจนพัง "พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับกำลังพลของกองทัพบกว่า ให้หลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งกับประชาชนตามชุมชนต่างๆ โดยการแก้ปัญหาคันกั้นน้ำให้พยายามใช้การพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะทหารเข้ามา เดี๋ยวก็ไป แต่ชุมชนต้องยังอยู่ในพื้นที่นั้นต่อไป การเข้าไปดูแลคันกั้นน้ำต้องเข้าไปภายหลังความขัดแย้งยุติลงแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการทำงาน" ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ยังได้มอบหมายให้ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ควบคุมการบังคับบัญชาสั่งการในพื้นที่กทม. และปริมณฑล เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปตามทิศทางเดียวกัน นายทหารคนเดิม กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ว่าทหารจะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับประชาชนเรื่องการพังคันกั้นน้ำ แต่ก็มักจะเกิดปัญหาในการทำงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ล่าสุดเหตุการณ์ที่ชาวชุมชนคลองสามวา รวมตัวประท้วงให้มีการเปิดประตูระบายน้ำให้กว้างขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้น และตำรวจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็ส่งทหารเข้าไปเคลียร์ ซึ่งทหารก็ไม่อยากทำ เพราะเป็นการสร้างปัญหาแก่ประชาชน
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 12:21:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 637 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|