วิเคราะห์ครีมหน้าขาวหน้าเด้ง St.Dalfour จากข้อมูล [ครั้งที่ 1]

วันนี้ช่วงเย็นๆ เป็นครั้งแรกที่โซได้ยินชื่อ St.Dalfour...
ตอนได้ยินรู้สึกคุ้นๆนะ แต่ไม่แน่ใจ สิ่งที่มันใจคือ St.Dalfour ที่โซรู้จัก ไม่ใช่ครีมหน้าใสแน่นอน!

หลังจากเกิดความสงสัย นิสัยคนมือบอนไม่รอช้า เปิด Google พร้อม search หาข้อมูลของสิ่งนี้ทันที

สิ่งที่ปรากฎ เป็นบรรดาร้านค้า Online ที่ขายผลิตภัณฑ์นี้ หรือก็คือ ครีมหน้าใส่ยี่ห้อ St.Dalfour

จากสรรพคุณ เมื่อเริ่มอ่านทำให้เริ่มลังเล...ไม่มั่นใจว่า ครีมนี้จะปลอดภัยหรือเปล่า ดังจะเห็นได้ดังนี้ค่ะ

St.dalfour คือครีมหน้าขาว รับรองผลใน 1 สัปดาห์ (อีกแล้ว) ซึ่งอ้างว่า เป็นของฝรั่งเศสค่ะ

ตามสรรพคุณที่เค้าระบุไว้คือ

หน้าขาวใส ใน 1 สัปดาห์ หลังจากใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง (เช้า-เย็น)
รูขุมขนกระชับ เล็กลง
ความมันบนใบหน้าลดลง
ปลอดภัยไม่แพ้ (!?)

รับประกันของแท้ 100% (อีกแล้ว ไม่ต่างจากหมอจุฬา)

และยังมีการระบุอีกว่า

ไม่มีสารไฮโดรควินนิน
ไม่มีปรอท
ไม่มีสารฟอกขาว และสารอันตรายอื่นๆ

ได้รับการตรวจสอบโดย LAB ชั้นนำ (ซึ่ง...มันคือที่ไหน? ไม่ระบุ)

ทดลองกับผู้ใช้ 140 คน (แล้วผู้ทดสอบเป็นใคร? ที่ไหน ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ)

ส่วนผสมจากธรรมชาติช่วยรักษารอยฝ้า กระ รอยไหม้ ปัญหาสิว และจุดด่างดำต่างๆ

สิ่งที่คิดได้ คือ ลักษณะคำอวดอ้าง คิดว่าไม่ต่างจากบาชิ หมอจุฬา และฟูจิค่ะ

ทีนี้ ขอวิเคราะห์ลักษณะผลิตภัณฑ์

เนื้อครีม
ด้วยความว่า ยังเห็นไม่ค่อยชัดและยังไม่เคยเห็นของจริง แต่ดูจากสี ค่อนข้างใกล้เคียงกับหมอจุฬา ซึ่งเป็นครีมสีขาว ออกเนื้อๆ ขุ่นๆ

บรรจุภัณฑ์
เหมือนขวดแยม คิดว่าถ้าเอาชื่อ St. Dalfour มาจากฝรั่งเศสจริง (แต่ไม่ได้ผลิตจากฝรั่งเศสจริง) การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์นี้ ถือว่าเลือกได้ดี และแนบเนียนมาก

เหตุผล คือ

St.Dalfour มีอยู่ในฝรั่งเศสจริง
แต่ St.Dalfour ในที่นี้กลับกลายเป็น แยมผลไม้ ไปซะได้ ดังข้อความนี้

ST DALFOUR ALL NATURAL GOURMET FOODS

It was at the end of the eighties when the very first jars of St Dalfour were introduced to the UK. These 100% Fruit Spreads, being all natural with rich, luscious ingredients, superb taste and outstanding presentation, soon became very popular. They are regarded by many as a culinary masterpiece.

Nearly 20 years on, St. Dalfour 100% Fruit Spreads have become famous in more than 120 countries worldwide with the United Kingdom considered as the flagship of the brand. With annual sales exceeding 5 million jars, one would imagine St. Dalfour would have come of age. Yet while many have been enjoying their

St. Dalfour fruit spreads with their morning croissant, toast or teatime scone, we at St. Dalfour have been busy developing new ideas and recipes for you to make the very most of each fruit variety and the most out of your daily cooking experiences.

With the fruits of our labour continually evolving, it is great to see how rewarding it is to add St. Dalfour to your favourite and most reassured recipes.
So if you have not yet discovered St. Dalfour, we suggest you pop down to your local favourite retailer and start. Pick up a jar of St. Dalfour 100% Fruit Spread and indulge your taste buds. See where your journey will take you.

(จากส่วนของ UK ในเวปไซต์ //www.stdalfour.com/ ค่ะ)

แต่ถ้าคุณเลือกเข้าไปในหน้าของ USA แล้วเลือกที่ PRODUCT สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าทั้งหมด คือ แยม ชา และผลไม้อบแห้งค่ะ

ไม่มีครีมเทพที่ชื่อ St.Dalfour แต่อย่างใด

ส่วนเรื่องเวปไซต์ในประเทศไทยนั้น มีเช่นกันค่ะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล เป็นเพียงเวปไซต์ขายของ ซึ่งดูไม่น่าเชื่อถือค่ะ ขอยกตัวอย่างเวปไซต์ที่คิดว่าน่าจะเป็นเวปหลักค่ะ //www.stdalfourthai.com

รวมทั้ง ไม่มีส่วนประกอบ และเอกสารซึ่งแสดงความปลอดภัยในเวปทั้งสิ้นค่ะ

จึงขสรุป ณ ตอนนี้ เป็นส่วนที่ 1 ข้อมูลจากเวปว่า

1. St.Dalfour มีตัวตนจริงๆที่ฝรั้งเศส แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัวเวชสำอางใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจริงๆแล้ว St.Dalfour คือผู้ผลิตแยมและผลิตภัณฑ์จากผลไม้ในฝรั่งเศสค่ะ
2. ไม่มีแหล่งอ้างอิงของผู้ผลิตครีมนี้ในฝรั่งเศสค่ะ
3. ไม่มีหน้าเวปที่น่าเชื่อถือค่ะ

หลังจากนั้น คุณ นู๋ ม. ให้ข้อมูลเวป ซึ่งเป็นเวปที่ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ผลิต และขายส่งค่ะ

คุณ นู๋ ม. ให้ข้อมูลของครีมสัญชาติยุโรปมาว่า
1. ครีมฝรั่งเศสจริงๆ จะออกแบบแพจเกตได้หรูมาก ไม่ว่าจะเป็นระดับใดก็ตาม และในแพจเกตนั้นๆ ปกติต้องมีภาษาฝรั่งเศส แสดงความเป็นชาตินิยมด้วย ไม่มีทางจะมีภาษาอังกฤษแบบที่เห็นกัน เหมือนเอามาห่อกันเอง เขียนเอง ปรินต์ A4 แล้วมาแปะกันเอง

2. ครีมฝรั่งเศส ถ้าชื่อซ้ำกัน ต้องหาทางฉีกการออกแบบแพจเกตให้มากที่สุด ไม่มีทางมาใช้เหมือนกัน แม้จะเป็นบริษัทผลิตเดียวกันก็ตาม

3. ถ้าเป็นเวชสำอาง ปกติจะมีวิธีการใช้เขียนบนบรรจุภัณฑ์ด้วยเสมอ และต้องมีกล่องที่เขียนถึงส่วนผสมของครีม ถ้าไม่มี ไม่ใช่สินค้าเวชสำอางจากสหภาพอียูแน่นอนค่ะ

4. เกิดมาไม่เคยเห็นครีมฝรั่งเศสที่เอากระดาษพันกระปุกเป็นชื่อครีมแบบนี้ ราวกับผลิตตามมีตามเกิด ปกติเขาจะพิมพ์ชื่อและสรรพคุณครีมลงบรรจุภัณฑ์ของเขาโดยตรงค่ะ

และหลังจากนั้น โซได้ Search หาต้นตอด้วยชื่อบริษัทผู้ผลิต ก็ยังคงไม่พบข้อมูลน่าเชื่อถือใดๆ ซึ่งส่วนใหญ่ ลักษณะเป็นการลงประกาศในเวปค้าขาย ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ไม่น่าเชื่อถือค่ะ

หลังจากนั้น เมื่อได้ที่ติดต่อ จึงได้ส่งเมล์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับครีมตัวนี้ ดังนี้

1. ร้านค้าในไทย ได้มีการอวดอ้างเอาไว้ว่า ครีมนี้ไม่มีส่วนประกอบอันตรายผสมอยู่ จริงหรือไม่
2. ร้านค้าในไทยอ้างว่า ครีมนี้มีต้นกำเนิดอยู่ในฝรั่งเศส ใช่หรือไม่
3. ครีมนี้ มีการทดสอบกับคนจำนวน 140 คนแล้ว จริงหรือไม่
4. อวดอ้างสรรพคุณเอาไว้ว่าครีมนี้ สามารถทำให้ผิวหน้าขาวใสได้ใน 1 อาทิตย์ จริงหรือไม่
5. ทำไมบรรจุภัณฑ์ ถึงไม่มีเอกสารเกี่ยวกับตัวครีม หรือระบุส่วนผสมลงไปในครีมเลยแม้แต่น้อย
6. ทำไมถึงได้ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกแยมของ St. Dalfour
7. เมื่ออ้างว่ามีการส่งตรวจสอบกับทางแลป เพราะฉะนั้น ขอหลักฐานการตรวจสอบจากทางแลปได้หรือไม่

นี่คือคำถามทั้งหมดค่ะ

ส่วนคำตอบที่ได้ คือ

1. เรื่องสารอันตราย
ยังคงไม่ได้คำตอบใดๆที่ดีไปกว่า เรายืนยันค่ะ ว่าครีมของเราไม่มีสารอันตรายประกอบอยู่
2. เรื่องต้นกำเนิดในฝรั่งเศส
ได้คำตอบแล้วว่า ทั้งหมดทั้งมวล เป็นการอวดอ้างจนเกินจริงของพี่ไทยเท่านั้น เนื่องจากต้นกำเนิดของตัวครีมนี้ อยู่ที่คูเวท ไม่ใช่ฝรั่งเศสอย่างที่ร้านค้าพยายามจะทำให้ทุกคนเข้าใจแบบนั้น
3. เรื่องการทดลอง
ไม่ได้รับคำตอบค่ะ
4. ขาวใสใน 1 อาทิตย์
ทางผู้ผลิต ยังคงยืนยันว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ
5. การไม่ระบุส่วนผสมลงในบรรจุภัณฑ์
ไม่ได้รับคำตอบค่ะ
6. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระปุกแยมของ St.Dalfour
ได้รับการยืนยันว่า กระปุกที่นำมาใช้ คือกระปุกแยมของ St.Dalfour จริงอย่างที่โซเข้าใจค่ะ
7. การทดลองและรับลองจากแลป
ไม่ได้คำตอบค่ะ

สุดท้าย คำตอบที่ได้ยังคงเป็น ครีมนี้ทำให้หน้าขาวได้ใน 7 วัน ไม่มีสารอันตราย และจบลงที่ การยังไม่มีข้อพิสูจน์และหลักฐานที่แน่ชัดเช่นเดิมค่ะ

สรุปในส่วนที่ 2 ยังคงไม่ได้ความนาเชื่อถือค่ะ เพราะไม่มีหลักฐาน และคำตอบอะไรที่จะอ้างอิงถึงความน่าเชื่อถือได้ค่ะ

จบการวิเคราะห์ครั้งที่ 1 ค่า กะว่า จะลองหาตัวอย่างครีมมาส่งตรวจสอบ หรือถ้าไม่มีจริงๆจะซื้อมาส่งตรวจสอบดูค่ะ (ทำใจก่อนเพราะราคาแพงมาก T__T) ขอบคุณที่อ่านเรื่องเพ้อเจ้อของเราจ้า

Create Date : 20 สิงหาคม 2552		1 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 23:56:49 น.
Counter : 2613 Pageviews.
Share Tweet