人生は 山もあるし、谷もあります ^_^ invisible tracker
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
走っても 走っても



: : :
อยากจะบอกว่า นี่คือ บริเวณทำงานของเรา
ลอฟท์เพดานสูง หน้าต่างบานใหญ่รับแสงที่สาดเข้ามา
ตึกโครงสร้างเก่า มีเรื่องราวในตัวมันเอง
กับเฟอร์นิเจอร์สวยๆ
แต่ความจริงคือ. . .มันไม่ใช่ที่ทำงานเราค่ะ (อ้าว) :)

มันเป็นมุมในร้านเฟอร์นิเจอร์ที่นิวยอร์กร้านหนึ่ง
พอดีเห็นว่ามุมนี้แสงสวยดี เลยถ่ายมา (อ้าว)
อยากมีห้องอารมณ์แบบนี้บ้างจัง

ช่วงนี้หลังจากกลับจากเมืองไทยแล้ว ก็มาตามล่าซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ต่อ
พอดีต้องซื้อโซฟา กับโต๊ะกินข้าว มาเปลี่ยนแทนอันเก่า หลังย้ายบ้านเมื่อต้นปี
แต่การหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ในนิวยอร์กนี่เป็นอะไรที่เหนื่อยจริง
ยิ่งถ้ามีงบจำกัด แต่ต้องการของดีไซน์โอเคด้วยแล้ว
แทบจะหาไม่เจอเอาเลย ส่วนใหญ่มีแบบดีไซน์ดี แต่แพงไปเลย
หรือไม่ก็ราคาย่อมเยาโอเลย แต่หน้าตาไม่ไหวจริงๆ
ที่ดูใช้ได้แล้วราคาโอเค คงเป็นของ IKEA แต่มันนั่งไม่สบาย
เฮ้อ . . . คงต้องใช้เวลาหากันต่อไป

พักนี้เริ่มไปวิ่งอย่างสม่ำเสมอค่ะ
เริ่มมาได้สามเดือนแล้ว นี่จะเข้าเดือนที่สี่
ก็ตั้งแต่อากาศเริ่มอุ่นขึ้น พอที่จะให้ออกไปวิ่งข้างนอกได้นั่นแหละ
การวิ่งอย่างสม่ำเสมอนี่มันดีจริงๆนะคะ

นับตั้งแต่เราเริ่มวิ่งเพื่อออกกำลังกาย นี่ก็รวมสามสี่ปีได้แล้วมั๊ง
แต่เพิ่งจะมาปีนี้เองที่เริ่มรู้สึกว่า ผ่านเส้นแบ่งจากการวิ่งแล้วรู้สึกทรมาน
มาเป็นวิ่งแล้วรู้สึกผ่อนคลายแล้ว
ช่วงที่วิ่งแล้วรู้สึกทรมาน คือ รู้ว่าวิ่งแล้วมันดีกับร่างกายเลยพยายามออกไปวิ่ง
แต่ตั้งแต่เริ่มออกวิ่งจนถึงหยุดวิ่งนี่ มันเนื๊อย เหนื่อย ไม่สนุกเลย
รู้สึกดีแค่ตอนวิ่งเสร็จแล้ว ว่า วันนี้ทำสำเร็จ ได้ออกกำลังกายตามที่ตั้งใจไว้

แต่เราว่า ปีนี้เราคงดันตัวเองผ่านเส้นแบ่งที่ว่าแล้ว
พักนี้ เวลาเหนื่อยๆ จะอยากเปลี่ยนชุด ใส่รองเท้าผ้าใบ ออกไปวิ่งทันที
ระหว่างวิ่งก็ไม่ทรมาน แต่มีความสุข เหมือนได้สลัดความเหนื่อยจากเรื่อง
จุกจิก นู้นนี้ทิ้งไป วิ่งเสร็จก็รู้สึกใจสงบลง นิ่งขึ้น

แล้วเวลาวิ่ง ก็ทำให้เราสามารถคิดอะไรดีๆออกหลายอย่าง
คิดโน่น คิดนี่ แบบไม่น่าเชื่อว่า จะมีเวลาคิด หรือคิดได้ระหว่างวิ่ง
อย่างเรื่อง เส้นแบ่งระหว่างช่วง"ดัน"ตัวเองให้วิ่ง กับช่วงที่วิ่งแล้วผ่อนคลาย
นี่ก็เหมือนกัน
เราว่า มันเป็นเรื่องที่ใช้ได้กับกิจกรรมทุกอย่าง

เวลาเราเริ่มทำอะไร ทุกอย่างมันจะมี "เส้นแบ่ง" ทั้งนั้น
ตอนแรกๆ ยังไม่เก่ง ทำแล้วเหนื่อย แต่พอทำบ่อยๆเข้า ก็เก่งขึ้น
ถ้าเราหยุดก่อนถึง "เส้นแบ่ง"นี้ เราก็ไปไม่ถึงไหน
เราต้องทำไปเรื่อยๆ จนผ่านไปสู่โซนที่กิจกรรมนั้นเป็นธรรมชาติของเรา
และเราไม่ต้อง"ดัน"ตัวเองให้ทำอีกต่อไป

เพราะฉะนั้น ถ้าจะทำอะไรให้ดี ก็ต้องทนผ่านช่วงทรมานไปจนกว่าจะถึงฝั่ง
พอถึงแล้วก็ต้องรักษาระดับ โดยการฝึกอย่างสม่ำเสมอไว้ด้วย
ไม่งั้น ก็อาจตกมาอยู่ช่วง"ฝึกฝน"ใหม่อีก
แล้วเวลาหยุดทำอะไรนานๆ มันจะเหมือนถอยหลังกลับมา
พอจะเริ่มใหม่อีกที ต้องใช้แรงดันออกตัวเยอะ
เพราะงั้น รักษาระดับเดิมไว้ ใช้แรงน้อยกว่า ถึงจะช้าๆ แต่ต้องไม่หยุด

ตอนนี้ เราภูมิใจที่จะบอกว่า เราวิ่งรอบลู่วิ่งรอบใหญ่ได้แล้วค่ะ ^_^
คือ ลู่นี้ แต่ก่อนเวลาวิ่ง เราต้อง วิ่งแล้วหยุด วิ่งแล้วหยุด ไม่รู้กี่รอบ
แต่มีวันนึงเราลองวิ่งช้าๆ เหยาะๆ ช้ามากๆ จนเหมือนช้ากว่าคนที่เดินอีก
ตอนที่รู้สึกเหนื่อยมั่กมากก เราก็ชะลอความเร็วลงอีก แต่ไม่ยอมหยุดวิ่ง
แล้วสุดท้าย เราก็วิ่งได้ครบรอบ

จากนั้น เราก็ใช้วิธีนี้อีก ทำไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ เราวิ่งได้เร็วขึ้นนิดหน่อยแล้ว และวิ่งต่อเนื่องครบหนึ่งรอบใหญ่
ไม่วิ่งแล้วหยุด วิ่งแล้วหยุด แล้วค่ะ
เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเลย ทั้งตอนระหว่างวิ่ง และตอนวิ่งครบรอบแล้ว

อีกสิ่งนึงที่เราสังเกต คือ
ตอนนั้น(สมัยฝึก)เราจะคิดถึงแต่ว่า วิ่งครบรอบแล้วจะแฮปปี้มาก
คือ ความแฮปปี้มันไปกระจุกตัวอยู่ตอนเข้าถึงเส้นชัยแล้วแค่จุดเดียวเลย
แต่ตอนนี้ เราไม่ค่อยแฮปปี้เรื่องวิ่งครบรอบมากเท่าแต่ก่อนแล้ว
แต่ความแฮปปี้มันมากระจายอยู่ระหว่างทางตอนวิ่งด้วย
คือ วิ่งไปก็แฮปปี้ไปด้วย ถึงเส้นชัยก็แฮปปี้
เรียกว่า แฮปปี้ตลอดทางที่วิ่ง ตั้งแต่ออกวิ่งจนวิ่งเสร็จ
เราว่า นี่คือสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกสนุก
ตอนนี้ เป้าหมายต่อไปของเราก็คือ วิ่งสองรอบต่อเนื่องค่ะ ^^


วันนี้ พล่ามอะไรอีกแล้ว
แต่คิดว่า เรื่องที่เล่า มันน่าจะเอาไปปรับใช้ได้กับหลายๆเรื่อง
ส่วนชื่อเรื่องวันนี้ เราเลียนแบบมาจากหนังญี่ปุ่นเรื่องนึงชื่อ
歩いても 歩いても (aruitemo aruitemo) หรือเดินไปเรื่อยๆ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนเราที่เหมือนการเดินไปเรื่อยๆจาก รุ่นปู่ย่าตายาย
สู่ลูกสู่หลาน เราเลยปรับเป็น
走っても 走っても (hashittemo hashittemo)
วิ่งไปเรื่อยๆค่ะ เพราะยังไงเราก็ต้องวิ่ง ถ้างั้นก็ขอวิ่งอย่างสนุกละกัน :)


Create Date : 11 กรกฎาคม 2554
Last Update : 11 กรกฎาคม 2554 20:38:47 น. 5 comments
Counter : 734 Pageviews.

 
ร้านสวยมากก ..ชอบเก้าอี้สีขาวที่อยู่ขวามือจัง ^^

เป็นร้านขายของมือสองรึเปล่าคะ


โดย: bag by pat IP: 125.24.17.156 วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:12:10:48 น.  

 
ขายทั้งของวินเทจ และของใหม่ค่ะ
เป็นร้านใหญ่มากๆ มีทั้งหมดหกชั้น
เดินกันจนเมื่อยไปเลย :O


โดย: Bumu_Chan วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:49:55 น.  

 
ไม่ได้เข้ามานานเลยค่ะ บุมุจังสบายดีป่าว

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเราก็พยายามจะกลับมาวิ่งออกกำลังเหมือนกัน แต่เราข้ามเส้นแบ่งไม่ได้เลยค่ะ นานที่สุดที่เราทำได้คือ 3 เดือน มันทรมานม๊ากมาก หาความสุขไม่ได้เลย คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะครบรอบซะที

แต่พ่อเราบอกเหมือนบุมุจังเลยค่ะ ว่าเค้าใช้เวลาหลายปีกว่าจะรู้สึกเสพติดการวิ่ง จากนั้นต่อให้ฝนตกฟ้าร้องเค้าก็ยังอยากออกไปวิ่ง ^^"


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:39:25 น.  

 
^
^
หวัดดีค่ะ คุณปลา
หายไปนานจิงๆ เรายังนึกถึงอยู่เลยว่า สงสัยจะยุ่ง
ไม่รู้ยังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่รึเปล่า :)

เรื่องวิ่ง สู้ๆนะคะ เราก็ทำแล้วหยุด ทำแล้วหยุดตอนแรกๆ
แต่พอมองย้อนไปสามสี่ปีที่ผ่านมา มันก็มีความต่อเนื่องอยู่ ถ้าไม่หยุดไปเลยซะก่อน


โดย: Bumu_Chan วันที่: 20 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:38:49 น.  

 
มันก็ยุ่งๆ + ไปบ้าบออยู่กะอย่างอื่นด้วยอ่ะค่ะ

ไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วว เสียดายมั่กๆ ตอนใกล้จบคอร์สมันเป็นช่วงยุ่งระเบิดระเบ้อของอาชีพเราเลยอ่ะค่ะ เลยต้องตัดใจให้กับงาน

เรื่องวิ่งขอทำใจก่อนละกันค่ะ แหะๆ มันทำใจย๊ากกจริงๆ นะคะ เฮ้ออ...


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:50:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bumu_Chan
Location :
* United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"All man's miseries derive from not being able to sit quietly in a room alone."
- Blaise Pascal
Friends' blogs
[Add Bumu_Chan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.