BumRes.com - รีวิวร้านอาหารในกรุงเทพ และประเทศไทย
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
24 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
Watermark กินตามดีลกับร้านอาหารอิตาเลียนที่ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร

Watermark Italian Restaurant at Thonglor Soi 11 Bangkok วอเตอร์มาร์ค ร้านอาหารอิตาเลียน ทองหล่อ ซอย 11 Pizza Pasta Steak พิซซ่า พาสต้า สเต็ก




Overall Score  6/10
Taste   2.5/5
Ambiance  4/5
Service  3/5
Value   4.5/5

Watermark Italian Restaurant on BumRes.com (Menu picture is at tab menu)



รีวิวฉบับนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้าน "กินตามดีล" ของผม กับร้าน Watermark ร้านอาหารอิตาเลียนที่ตั้งอยู่ในทำเลแห่งร้านอาหาร -  ทองหล่อ ที่บอกตรง ๆ ว่าผมขับผ่านร้านนี้บ่อยมาก ร่วม ๆ  100 รอบได้แล้วมั้งตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยได้แวะเข้าไปกินเลยสักครั้งเดียว ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณดีลจากเว็บเพื่อนบ้านที่ทำให้ผมมีวันนี้ วันที่แบบไม่รู้เหมือนกันว่าพอกินเสร็จแล้วจะพูดว่าดีใจหรือเสียใจที่ได้ไปร้านนี้ดี -*- จริง ๆ ส่วนนึงที่ผมไม่คิดอยากจะไปลองกินร้านนี้ก็เพราะว่าเคยไปร้านในเครือ ที่มีนามว่า Calderazzo ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Ugolini @ หลังสวน ไปแล้ว และจำได้ว่าไม่ค่อยประทับใจอย่างรุนแรงในเรื่องรสชาติอาหารสักเท่าไร ซึ่งถ้าไม่ได้ส่วนลด  75% กิน 2000 จ่ายแค่ 500 ของดีลในวันนี้ ผมก็คงจะไม่มีโอกาสได้มาร้านนี้จริง ๆ ล่ะครับ

อาหารของทางร้าน Watermark @ Thonglor Soi 9 นี่ผมไม่แน่ใจว่าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เปิดให้ใช้ดีลรึเปล่า เลยทำให้เมนูของทางร้านนั้นมีแต่เมนู a la carte ไม่มีเมนู  set lunch ตามที่ผมคิดว่าร้านนี้ควรจะมี ซึ่งก็ไม่เป็นไร ผมไปกินตอนเที่ยงแต่ได้กินเมนูมื้อเย็นก็ยิ่งดีเลย เพราะกิน set lunch มากี่ที่ ๆ ก็ไม่เคยอร่อยสักกะที่กับร้านอาหารอิตาเลียนเนี่ย ซึ่งตัวอาหารของทางร้านนี้ ก็เหมือนกับ typical Italian Restaurant ทั่ว ๆ ไปล่ะครับ มีอาหารครบหมดทุกหมวดหมู่ของอาหารอิตาเลียนโดยเฉพาะตัว Pizza ที่ส่วนใหญ่ผมจะเห็นครึ่ง ๆ เลยที่จะมีเจ้าเมนูสุดแสนจะอิตาเลียนชนิดนี้ ให้เดาคงเป็นเพราะถ้าจะทำให้อร่อยมันต้องมีเตาถ่าน? ต้องมีคนนวดแป้ง? ต้องทำสด ๆ และบางร้าน ครัวอาจจะเล็ก คนอาจจะไม่พอ ก็เลยทำให้หลาย ๆ ร้านไม่มีเจ้าเมนูประจำชาติตัวเองชนิดนี้? อาหารของร้าน Watermark @ Thonglor นี่ถ้าเอาราคาแบบไม่มีส่วนลดอะไรเลย ก็เรียกได้ว่าเป็นราคามาตรฐานครับ คนปกติมากินคนนึงก็คงจะหมดไปประมาณ 1,000 - 1,500 บาทถ้าไม่ดื่มเยอะสักเท่าไร

บรรยากาศของร้าน Watermark @ ทองหล่อ ซอย 9 นี่ถือว่าทำได้ดีมากครับ ร้านจัดเป็นสัดเป็นส่วน บรรยากาศโปร่ง ๆ โล่งสบาย และคงไว้ซึ่งความหรูหราในระดับนึง แต่การบริการของร้านในวันนี้ถือว่าค่อนข้าง fail ครับ ส่วนนึงคงเป็นเพราะทางร้านมีลูกค้ามา "claim" ดีลเยอะมาก ผมไปตอนวันเสาร์เที่ยงนี่เรียกได้ว่าคนเต็มร้านเลยล่ะ และทุกคนถือใบดีลที่ปริ๊นท์มากันทั้งนั้น ลูกค้าเยอะแบบนี้ก็ไม่แปลกที่การบริการมันจะต้องมีตกหล่นไปบ้าง แต่ถ้าถามว่าอาหารช้าไปมากมั้ย? ก็ตอบได้แบบเต็มปากว่าไม่ช้าเท่าไร คุย ๆ ไปรออาหารไป แปบ ๆ ก็มาครบแล้ว แต่ที่มีปัญหาก็เรื่อง พนักงานจะลืมอุปกรณ์, ไม่ได้เปลี่ยนจาน, เรียกยาก ก็แค่นั้นล่ะครับ






เข้าถือเรื่องอาหารกันซะที เกริ่นอะไรมากมายฮึ? พูดถึงเรื่องเครื่องดื่มก่อนละกันครับ มื้อนี้พวกผมสั่ง  cocktail กันไป 2-3 แก้วมาลอง ๆ กินดี และก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่สั่งไปเพราะว่ารสชาติมัน เฮงซวยมาก ไม่ว่าจะตัว sparkling wine ใส่น้ำส้ม (จำชื่อเรียกไม่ได้ล่ะครับ) หรือ Long Island Ice Tea และ Pinacolada ทั้ง 3 แก้วเฮงซวยขนาดที่เรียกได้ว่าผมชงเองเล่น ๆ กับเพื่อนกินที่บ้านยังอร่อยกว่าเลย ยังไม่นับถึงเครื่องดื่มอันแสนจะแพงเช่น coke light ที่กระป๋องละ 80++ บาท (แต่ก็อาจจะเป็นราคาปกติสำหรับร้านระดับนี้?) หลัง ๆ ผมเลยตัดบทกินแต่น้ำเปล่าซะเลย แม้ว่าจริง ๆ อยากสั่งเครื่องดื่มหลาย ๆ อย่างเพราะว่ามูลค่าดีลมันเยอะมาก ก็ตาม

อาหารในมื้อนี้ เนื่องจากพวกผมไปกันเยอะพอตัว  6 คน และแต่ละคนมีดีลหมด ทำให้มื้อนี้สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มรวม ๆ กันได้ถึง 12,000 บาท ก็เรียกได้ว่าสั่งกันไม่บันยะบันยัง สั่งกันจน(เกือบ)หมดเมนูเลยล่ะครับ แต่แม้ว่าพวกผมจะสั่งกันเยอะขนาดนี้ บอกตรง ๆ ว่าไม่มีจานไหนที่มันอร่อยโดนใจผมเลยซักกะจานเดียว และส่วนใหญ่จะไม่อร่อย, fail ด้วยซ้ำให้ดิ้นตาย เหอ เหอ

ว่ากันไปทีละหมวดก่อนเลยละกัน หมวด appetizer ในมื้อนี้มีสั่ง

Beef carpaccio served with celery, thin sliced parmesan and Italian lemon dressing (350 บาท) ,

Beef tartare with black truffle and parmesan served on a bed of rocket salad topped with a quail egg (420  บาท),

Tender pieces of calamari marinated in white wine, fried and served with tartare sauce (300 บาท) และ

Caparase Salad - Tomatoes with fresh mozzarella and olive oil topped with fresh basil leaf and oregano  (350 บาท) ทั้งหมดก็มี appetizer 4 อย่าง ทั้ง 4 อย่างมาหน้าตาแบบค่อนข้างจะ traditional Italian พอสมควร ส่วนรสชาติ ทุกอย่างธรรมดา ๆ หมดเลยครับ ไม่ถึงกับไม่อร่อย แต่ก็ไม่มีจานไหนที่กินแล้วประทับใจแต่อย่างใด












ซุปในมื้อนี้ก็มีอีก 2 ซุป Seafood and shells soup made by order flavoured by herbs served with crispy garlic bread (290 บาท) กับ  Lobster bisque soup - Canadian lobster bisque and dice flavoured with thyme and fresh cream (320 บาท) ทั้ง 2 อันนี้ไม่ค่อยโดนเท่าไรครับ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ไม่อร่อยก็ว่าได้ รสชาติมันเค็ม ๆ แปลก ๆ ซุปมาไม่ค่อยร้อนเท่าไร แย่จริง ๆ ครับ






Main Course กับ Pasta ในมื้อนี้ก็มีอีกหลายจานเช่นกัน ทั้งหมดที่สั่งก็จะมี ไล่เรียงไปตามนี้ครับ

Selection of the grilled tuna, salmon, snow fish, dory fish and seafood served with grilled vegetables (790 บาท),

Slow cooked shank of lamb served with creamy polenta, sautéed mushrooms and bell pepper confit (780 บาท),

Grilled rack of organic lamb scented with balsamic vinegar served with grilled vegetable (960 บาท),

Pan fried beef tenderloin with spinach and mashed potatoes, served with green pepper sauce (890 บาท),

Lasagna stuffed with a combination of mozzarella, parmesan with plenty of meat sauce (300 บาท),

Linguine with selection of seafood, clams and mussels tossed with spicy tomato sauce (390 บาท),

Home made tortellini with 24 months aged Parma ham, green peas and cream sauce (370 บาท)

เหอ ๆ ผมมานั่งไล่พิมพ์รายการอาหารที่พิมพ์ไปแล้ว ก็นะ อืม .. ลายตาจริง ๆ และก็ไม่รู้จะพิมพ์ทำไม เพราะว่าเช่นเดียวกันกับ appetizer ไม่มีจานไหนที่จะสะกดคำว่าอร่อยให้ได้อีกเช่นกัน อาหารที่ทำได้ดีหน่อยก็จะมีพาสต้า 2  จานที่ทำมาเรียกได้ว่าเป็นพาสต้ามาตรฐานที่ควรจะคาดหวังจากร้านอาหารได้ ส่วนพวก Main Course อย่างอื่น นี่จัดได้ว่า Fail หมดครับ โดยเฉพาะตัวเนื้อปลา ปลาเนื้อเน่ามาก เหม็น ๆ บูด ๆ เอาของเหลือมาทำให้กินหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ

















ส่วนของหวานในมื้อนี้ก็สั่งไป 4 อย่าง แต่ละอย่างก็มาหน้าตาคล้าย ๆ กัน และรสชาติ แค่เห็นหน้าตาก็พอจะเดาได้ตั้งแต่ยังไม่กินว่า ไม่น่าจะ work ซึ่งพอกินแล้วก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ครับ เฮ้อ เป็นของหวานที่ธรรมดา ๆ มาก คือร้านหรูแบบนี้ ราคาแพงขนาดนี้ มันก็ควรจะต้องคาดหวังกับของหวานที่เทพกว่านี้ว่ามั้ยครับ ของหวานในมื้อนี้มี Tiramisu (250 บาท), Rich dark chocolate soufflé served with coconut cream (300 บาท),  Selection of Italian ice cream vanilla, chocolate, mokka (100 per scoop), Panna cotta with caramel sauce (220 บาท)








สรุป มื้อแบบค่อนข้างจัดหนักกับอาหารอิตาเลียนที่ร้าน Watermark - Thonglor Soi 9  แห่งนี้ก็ค่อนข้างจะเป็นไปตามที่ผมคาดหวังเอาไว้ก่อนจะมาครับ คือแม้จะกินอาหารมากมายขนาดนี้ แต่พอกินเสร็จแล้ว มันไม่มีความสุขเกิดขึ้นจากการกินเลยสักนิดเดียว ไม่รู้เพราะว่าทางร้าน Watermark ต้องการให้รสชาติอาหารเป็นแบบนี้อยู่แล้ว หรือว่าเพราะเป็นกินตามดีล เลยใช้วัตถุดิไม่ดีสักเท่าไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคงต้องบอกลาการไปกินอาหารกับร้านในเครือนี้แล้วล่ะครับ กินมา 2 ร้านไม่อร่อยสักร้าน จะมีเป็นข้อยกเว้นก็คงเป็นร้าน Cucina by Calderazzo ตรง ชั้น 7 เซ็นทรัลพระราม 9 ที่แบบอาหารเค้าราคาไม่ค่อยแพง และก็รสชาติผมว่าทำได้ดีกว่า 2  ร้านที่แบบ หรูกว่า อาหารแพงกว่า นี่ซะอีก เฮ้อ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
//www.bumres.com
//www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร


Create Date : 24 ตุลาคม 2555
Last Update : 24 ตุลาคม 2555 5:04:08 น. 2 comments
Counter : 1980 Pageviews.

 
ดูจากรูปแล้วน่าทานดีนะคะ แต่ไม่อร่อยซะงั้น


โดย: Bonjour_KiTTy วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:16:44:21 น.  

 
อิอิ ผมก็เพิ่งไป านมาถ้าไม่ฝด้ราคาตามดีลนี่ท่าจะแย่


คอกเทล์ แย่จริงๆครับ โดยเฉพาะ long island

ตัวเมนผมสั่งเนื้อมาก็โอเคนะครับ

แต่ถ้าจ่ายราคาเต็มนี่คงไม่ฝหวอะครับ


โดย: =Zakk= วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:16:03:08 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

บั่มบั๊มคุง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add บั่มบั๊มคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.