Dik +Kie & Us (เลียนแบบ Marley & Me)
เมื่อคืน ได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง Marley & Me ...แหะๆ ชาวบ้านเขาดูกันเป็นชาติแล้ว จนเขาสปอยด์กันซะ เจ๊แหนมก็เพิ่งจะได้ดูซะงั้น เริ่มแรก ที่อยากดูเพราะนางเอก เจนนิเฟอร์ อนิสตัน สุดเลิฟ แต่ที่อยากดูเขาไปอีก เพราะ "ขนุน" ศิษย์แมวดื้อ แท้ๆ ได้ไปลูบไล้ ไซร้ดึง..(อันหลังนี้เว่อร์เล็กน้อย) เพ่หนุน สุดน่ารัก หลังจากจีบแมวดื้อมาเป็นเวลาหลายปี เพิ่งจะได้มีโอกาสงับ คริ คริ เจอขนุนตัวจริงๆ ใครว่าจะขนุนอวบอ้วน ถังแก๊ส ยังไง ..................เจ๊แหนมว่า................... ขนุน น่า รัก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ดิ๊กและกี้ อย่าน้อยใจแม่น๊าลูก) ถึงขนาดเก็บไประลึก ฝันถึง ว่าขี่มอเตอร์ไซค์เคิล คลิ๊กขาว ไปเยี่ยมขนุน ไปแอบกอด อยู่ข้างๆบ้านแมวดื้อ เพราะด้วยกลัว แมวดื้อเอาไปนินทา คริ คริ ฝันไปได้....... แต่แล้วน้าพุ้ยก้ทำฝันเจ๊แหนมเป็นจริง หาหนัง Marley & Me มาให้ดู เมื่อคืนนี้เอง เนื้อเรื่อง ก็เกี่ยวกับ ชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ หางานทำ มีบ้าน มีรถ ตามอัถตภาพ แต่แล้ววันหนึ่ง ฝ่ายหญิง เกิดอยากมีลูก ฝ่ายชายจึงปรึกษาเพื่อนซึ่งเป็นคนโสด แนะนำว่าให้ไปหาหมาให้เธอเลี้ยงจะได้ไม่ว่าง....ซะงั้น ก็เป็นไปตามแผน ก็คือ Marley ลาบาดอร์หนุ่มแสนซน พลังเยอะ แต่ก็ไม่วายที่ทั้งคู่ก็มีลูก(คน) และเรื่องราวของครอบครัว ที่มีทั้ง ทุกข์ สุข วุ่นวาย ตามประสาครอบครัว ก็ดำเนินไป โดยมี Marley กับตัวฝ่ายชาย ที่ผูกพันธ์ ดำเนินเรื่อง จนกระทั่ง.... วันหนึ่ง Marley เกิดภาวะป่วย จนมีเหตุทรุดหนัก ด้วยอายุ และสุขภาพ ตอนนี้แหละท่านๆเอ๋ย.... น้ำตาแตก การจากลา ที่ไม่ง่าย การทำใจ กับความผูกพันธ์ที่มีต่อ สิ่งมีชึวิต ที่พูดไม่ได้ ที่เราๆเรียกกันว่า "หมา"...(บ้านๆไปเลย) ซึ่งตัวเอกของเรื่อง ทั้งคนและหมา ผูกพันธ์มีกันและกัน ในสภาวะขับคัน สุข เศร้า มีด้วยกันมาตลอด.... ยิ่งต้องรู้ถึงวันที่ต้องลากัน รู้ถึง ท้ายที่สุด จะเกิดอะไรขึ้น...... เศร้า โพดๆ เศร้าๆๆๆๆ แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 15 นาทีก่อนหนังจบ เจ๊แหนมร้องซะปาน อ้วนจะไป.... ดูหนังแล้วย้อนดูตัวเอง...ดูลูกน้อย(แต่ตัวอ้วนบั๊ก) ระหว่างร่ำไห้ เพราะหนัง ก็เอาตัวเองเข้าไปผูกกับเหตุการณ์ ที่Marley ใกล้จะจากลา เพราะโรคที่รุมเร้า เจ๊แหนมก็ไปอุ้มอ้วนมากอด และไม่กล้าหันไปมองหน้า น้าพุ้ย... อ้วนก็เหมือนรู้ว่า แม่มันพลีสกับมัน... ลูบอ้วนไปตลอดจนหนังจบ พร้อมกับคราบน้ำตาที่นองหน้า.... อ้วนงง....เล็กน้อย แต่กับรับรู้ความรู้สึก ผ่านมือ พ่อกะแม่ ที่ลูบอ้วนตลอด 15 นาทีนั้น หลายๆฉาก ที่เป็นภาพสวยๆ ตามสไตล์หนัง ขายวิว และความประทับ บางฉากก็ทำให้นึกถึง เวลาที่เรามีร่วมกับดิ๊ก เวลาที่อยากจะบีบคอมัน เวลาที่ เฮ้ย....ไหงมันเหมือนกันอย่างนี้หว่า มาขโมยบทจากบ้านฉันเหรอเนี่ย ชีวิตที่ดำเนินตลอดมาของตัวแสดงและชีวิตของน้าพุ้ยและเจ๊แหนม เหมือนกันมากๆ ก็คือมีดิ๊กและกี้...อยู่ร่วมทุกเหตุการณ์ อยู่ด้วยกันตลอด กิน นอน เที่ยว สุข ทุกข์ เราอยูด้วยกันตลอด..... หนังจบ อุ้มอ้วนลงจากเตียง ไปนอนที่ผ้าของอ้วน อ้วนงง...อีกรอบ ขยับอ้วนให้เข้าที่เข้าทาง แต่... อ้วนก็ยังเป็นอ้วน หันมาขู่หนึ่งฟ่อ...หึ หึ ประหนึ่งจะบอกว่า "ยังไม่ตาย อ้วนยัง..ไม่(ยอม)ตาย" อาทิตย์ก่อนพาอ้วนไปหาหมอตา หมอว่าเป็นต้อ แต่ทำอะไรไม่ได้มาก ให้ยามาหยอดเพื่อประทั่ง หมอยังทักเลย่ว่า "....น้องอายุเยอะเนอะ...แต่ก็น้อยกว่าหมอ" ใช่อ้วนอายุ 13 ปีแล้ว อ้วนแก่แล้ว แต่ใจอ้วนยังสู้เหมือน Marley ในหนัง มีพี่คนหนึ่งที่สนิทกัน เมื่อครั้งเลี้ยงอ้วนใหม่ๆ พี่แกก็ชอบนะ แต่ติว่า อ้วนมันโคตรดุ และแกก็เล่าว่า เคยมีเหมือนอ้วนนีแหละ เลี้ยงมา 15 ปี และวันหนึ่งก็จากไปตามอายุขัย แกว่า แกทำงานไม่ได้เป็นเดือน ความผูกพันธ์ มันยึดติดไว้ แกก็ไม่อยากเลี้ยงอีกแล้ว ไม่อยากเศร้า ทุกวันนี้เจอพี่เขาที่ไร คุยกันเรื่องหมาๆ ซึ่งตอนนี้พี่แก ก็เป็น"แม่หมา 3 ตัว" 5555 เป็นไงล่ะ เลิกไม่ได้ เลี้ยงแล้วก็ติดใช่ป่ะ แกก็จะทักไว้ว่า "ดิ๊กอีก 2 ปี ก็จะ 15 แล้ว ทำใจไว้บ้างน๊า" ด้วยความที่สนิทกัน แกก็จะเตือนเราบ่อยๆ แต่ถ้าถึงวันนั้น เราจะทำใจได้ไหม เราจะเศร้าขนาดไหน เราจะเป็นเหมือนในหนังหรือเปล่า... เจ๊กะน้า.....ไม่รู้ เจ๊กะน้า......จะเศร้าปางตายไหม ไม่รู้จิ..... ทุกครั้งที่เคยพูดกันเรื่อง อ้วน ไม่อยู่ น้าพุ้ยก็จะรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่ก็ตาแดงๆใส่กัน แต่เจ๊แหนมก็พูดปรายๆไว้ว่า... น้าจะเลือกต้นอะไรปลูกไว้หลุมพี่ดิ๊ก.... แค่นี้...ก็พาลจะร้องไห้กันต่อแล้ว.... ในฐานะแม่หมา.......ที่ดูหนังเรื่องนี้.... หนังดีมากในความผูกพันธ์ ระหว่างคนกะหมา กับครอบครัว กับคนด้วยกัน กับเด็ก กับสังคม... หามาดูกันน๊า...
พอน้าพุ้ยปิดทีวีเสร็จ ก็หันไปบอกน้าว่า.... " หนังอย่างนี้.....จะดูเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว....." น้าพุ้ย รู้ความหมาย และได้แต่ยิ้มให้เจ๊แหนม ผู้ซึ่งตาบวมยันเช้า ประหนึ่ง โดนสามีด่า แล้วร่ำไห้ ให้ชาวบ้านให้ยิ้มเยาะ อิ อิ
Free TextEditor
Create Date : 08 สิงหาคม 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 14:47:06 น. |
Counter : 816 Pageviews. |
|
|
|
แล้ว....กลัว ช่วงนี้ไม่อยากร้องไห้
แต่...เมื่อ 2 เดือนก่อน ดันพลาด
ไปดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง 10 promise to my dog
ขอบอก....ไอ้อ้อมเป่าปี่ตั้งแต่กลางเรื่อง ดีนะดูคนเดียว
คือ ยังไม่ไคลแม็กซ์ของเรื่องเลย มันบีบหัวใจนู๋ จนไหลออกมาเป็นน้ำตา
เห็นแล้วคิดถึงหมาชิมากๆ แต่ตอนนั้นดึกแล้ว จะโทรไปหามันเด๋วแม่ด่าเอา
ก็เลยรอโทรตอนเช้า โทรไปหาแม่เพื่อขอพูดกะชิมันเลย
แต่....ชิมันทำหน้าเหนื่อยใส่โทรศัพท์อ่ะเจ๊
มันได้ยินเสียงอ้อม แล้วมันหันไปมองหน้าแม่
ทำหน้าประมาณว่า "เสียงยัยเจ๊นี่อีกและ"
แล้วถอนหายใจ เฮ้อ!
ประมาณว่า เมื่อไหร่จะพูดจบจะไปวิ่งเล่น
คือ ได้ยินแม่บอกแบบนี้ก็รู้เลย ว่าชิมีความสุขดี
แม่ก็บอก ไม่ต้องห่วง ชิมันลั๊ลลาทุกวัน
เพราะดูหนังแล้วมันมี 10 คำสัญญาที่เคยให้ไว้แก่กัน
อ้อมผิดคำสัญญากับชิมันหลายข้อเลย สำนึกผิดสุดๆ
ก็เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่า...แม่ก็ดูชิมันอย่างดีที่สุดนะ
ไม่ต้องห่วงหรอก ชิมันมีความสุขทุกวัน
มันมีความสุขมากจริงๆ แหละเจ๊ ตอนนี้มันอ้วนหนัก 7 กิโลแล้วอ่ะ
คิดถึงเจ๊มากมาย (พี่อาท + พี่ดิ๊ก + น้องกี้ ด้วย)
ปล. อ้อมสบายดีค่ะ