"ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคตย่อมไม่มี พระพุทธเจ้าแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยการกล่าวคำจริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี....." "พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง, เป็นหูที่วิเศษยิ่ง, เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง, เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง, เป็นกายที่วิเศษยิ่ง, เป็นใจที่วิเศษยิ่ง, เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง, เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง, เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง, เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง, เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง"จากวัดสามแยก
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
3 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

การแผ่เมตตาที่ถูกต้อง โดยหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล 17 พ.ย. 2555

เนื้อหา บางส่วนจากการแสดงธรรมชุดนี้
      ๑. ชาวพุทธต้องมีธรรมเป็นที่พึ่ง จึงจะเจริญในศาสนา
      ๒. ผู้ที่ยังมีหนี้สินติดตัวอยู่ พระพุทธเจ้าห้ามบวช
      ๓. ผู้ทรงศีลในพุทธศาสนา ถ้าทำผิดย่อมเสื่อมจกคุณอันใหญ่
      ๔. กลุ่มพระยสะได้อสุภกรรมฐาน เพราะเผาศพคนอนาถา
      ๕. ถ้านับถือพุทธศาสนาผิดๆ จะเหมือนถูกอสรพิษร้ายกัด
     ฯลฯ

-ผู้ที่ยังมีหนี้สินติดตัวอยู่ พระพุทธเจ้าห้ามบวช (ห้ามคนมีหนี้บวช)เล่ม6หน้า254
-ผู้ทรงศีลในพุทธศาสนา ถ้าทำผิดย่อมเสื่อมจกคุณอันใหญ่ (อ.มหาสุญญตาสูตร)เล่ม23หน้า36
-เทวดาและพรหมมาโลกมนุษย์ ก็เพระความเดือดร้อน (กรรณกัตถลสูตร)เล่ม21หน้า218
-ในพระวินัย "นม" จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง (โภชนวรรคสิกขาบทที่9)เล่ม4หน้า549
-ทำลายจิตที่พึ่งปฏิสนธิในครรภ์ ก็จัดเป็นการฆ่ามนุษย์ (ทุติยปาราชิกกัณฑ์)เล่ม2หน้า381
-กลุ่มพระยสะได้อสุภกรรมฐาน เพราะเผาศพคนอนาถา (อ.ยสวัตถุสูตร)เล่ม6หน้า75
-พระพุทธเจ้ารับรองคำกล่าวของ "พรหม" ว่าถูกต้อง (อัคคัญญสูตร)เล่ม15หน้า164
-แม้ความสุขในฌานที่ย่อมแผ่ไปในรูปกายทั้งสิ้น (มหาอัสสปุริสูตร)เล่ม19หน้า212
-พระพุทธเจ้าเทียบเวลาระหว่างโลกมนุษย์และสวรรค์ (อุโปสถสูตร)เล่ม34หน้า390
-พราหมณ์หนุ่มอยากเห็น อวัยวะเพศ ของพระพุทธเจ้า (พรหมายุสูตร)เล่ม21หน้า233
-พุทธกล่าวว่า แม้พราหมณ์ก็เกิดจากช่องคลอดของแม่ (อัคคัญญสูตร)เล่ม15หน้า147
-ถ้านับถือพุทธศาสนาผิดๆ จะเหมือนถูกอสรพิษร้ายกัด (ปริยัติ3ประเภท)เล่ม75หน้า52
-ชาวพุทธต้องมีธรรมเป็นที่พึ่ง จึงจะเจริญในศาสนา (จักกวัตติสูตร)เล่ม15หน้า99
-พระพุทธเจ้ารับรองพระสารีบุตรว่าสอนให้หลุดพ้นได้ (สัจจวิภังคสูตร)เล่ม23หน้า381
-ภิกษุที่บวชเมื่อแก่ หายากที่จะเป็นผู้ทรงธรรมวินัย (ปฐมทุลลภสูตร)เล่ม36หน้า149
-เทวดาอนุเคราะห์ดาบสเดินทางไกลให้คลายความลำบาก (อ.ชาลิยสูตร)เล่ม12หน้า116
-ให้บุญเทวดาถูกเวลา เทวดาจะช่วยเหลือการงานได้ดี (อ.ภัตตสูตร)เล่ม36หน้า481
-"ถ้าสัทธิวิหาริกป่วย" อุปัชฌาย์พึงอุปัฏฐากเธออย่างดี (สัทธิวิหาริกวัตร)เล่ม6หน้า154บรรทัด15

ชาวพุทธต้องมีธรรมเป็นที่พึ่ง จึงจะเจริญในศาสนา(จักกวัตติสูตร)เล่ม15หน้า99

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง จงมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่งอย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเป็นอย่างไร.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ 

พิจารณาเห็นกายในกายอยู่
พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่
พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่

มีความเพียร มีสัมปชัญญะมีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้. ดูก่อนภิกษุทั้งหลายภิกษุมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่  อย่างนี้แล. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวไปในโคจรซึ่งเป็นวิสัยอันสืบมาจากบิดาของตน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายเที่ยวไปในโคจรซึ่งเป็นวิสัยอันสืบมาจากบิดาของตน มารจักไม่ได้โอกาส จักไม่ได้อารมณ์. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุญนี้ ย่อมเจริญขึ้นอย่างนี้เพราะเหตุที่ถือมั่นธรรมทั้งหลายอันเป็นกุศล.

ผู้ที่ยังมีหนี้สินติดตัวอยู่ พระพุทธเจ้าห้ามบวช(ห้ามคนมีหนี้บวช)เล่ม6หน้า254

ห้ามบวชคนมีหนี้

[๑๐๘] ก็โดยสมัยนั้นแล ลูกหนี้คนหนึ่งหนีบวชในสำนักภิกษุ พวกเจ้าทรัพย์พบแล้ว กล่าวอย่างนี้ว่า   ภิกษุรูปนี้คือลูกหนี้ของพวกเราคนนั้น ถ้ากะไรพวกเราจงจับมัน.

เจ้าทรัพย์บางพวกพูดทัดทานอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายอย่าได้พูดเช่นนี้เพราะพระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามาคธราช. ได้มีพระบรมราชานุญาตไว้ว่า กุลบุตรเหล่าใดบวชในสำนักพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร  กุลบุตรเหล่านั้นใคร ๆ จะทำอะไรไม่ได้ เพราะธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว จงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด.

ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้ มิใช่ผู้หลบหลีกภัย ใครๆ จะทำอะไรไม่ได้ แต่ไฉนจึงให้คนมีหนี้บวชเล่า  ภิกษุทั้งหลายกราบทูลความเรื่องนั้นแด่พระผู้พระภาคเจ้า.พระผู้มีพระภาคเจ้ารับ สั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนมีหนี้ภิกษุไม่พึงให้บวช รูปใดให้บวชต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธเจ้ารับรองพระสารีบุตรว่าสอนให้หลุดพ้นได้(สัจจวิภังคสูตร)เล่ม23หน้า381

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเสพ จงคบสารีบุตรและโมคคัลลานะเถิด ทั้งสองรูปนี้เป็นบัณฑิตภิกษุ ผู้อนุเคราะห์ผู้ร่วมประพฤติพรหมจรรย์ สารีบุตรเปรียบเหมือนผู้ให้กำเนิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนผู้บำรุงเลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำโสดาปัตติผล โมคคัลลานะ ย่อมแนะนำในผลชั้นสูง  สารีบุตรพอที่จะบอก แสดงบัญญัติ  แต่งตั้งเปิดเผย จำแนก ทำให้ง่ายซึ่งอริยสัจ ๔ ได้โดยพิสดาร.

 ภิกษุที่บวชเมื่อแก่ หายากที่จะเป็นผู้ทรงธรรมวินัย(ปฐมทุลลภสูตร)เล่ม36หน้า149

ปฐมทุลลภสูตร ว่าด้วยธรรมที่หาได้ยากสำหรับผู้บวชเมื่อแก่

[๕๙]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบวชเมื่อแก่ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ หาได้ยาก ธรรม ๕  ประการเป็นไฉน  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบวชเมื่อแก่ เป็นคนละเอียด หาได้ยาก เป็นผู้มีมารยาทสมบูรณ์หาได้ยาก เป็นพหูสูตร หาได้ยาก เป็นธรรมกถึก หาได้ยาก เป็นวินัยธร หาได้ยาก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบวชเมื่อแก่ ผู้ประกอบด้วย ธรรม ๕ ประการนี้แล  หาได้ยาก.

ผู้ทรงศีลในพุทธศาสนา ถ้าทำผิดย่อมเสื่อมจกคุณอันใหญ่(อ.มหาสุญญตาสูตร)เล่ม23หน้า36

 แท้จริงการบวชภายนอกพระศาสนามีลาภน้อย และในการบวชนอกศาสนานั้น ไม่มีทางจะให้เกิดคุณใหญ่หลวงได้เลย จะมีก็เพียงแต่สมาบัติ ๘ อภิญญา ๕ เท่านั้น. เปรียบเหมือนผู้ที่พลัดตกจากหลังลา ย่อมไม่มีทุกข์มากจะมีก็เพียงแต่ตัวเปื้อนฝุ่นเท่านั้นฉันใด ในลัทธินอกศาสนาก็ฉันนั้น จะเสื่อมก็เพียงโลกิยคุณเท่านั้น ฉะนั้นอุปัททวะสองอย่างข้างต้น ท่านจึงไม่กล่าวไว้อย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้. แต่การบวชในพระศาสนามีลาภมาก และในการบวชในพระศาสนานั้น มีคุณอันจะพึงได้บรรลุใหญ่หลวงนัก  คือมรรค ๔ ผล นิพพาน ๑.

 ขัตติยกุมารผู้อุภโตสุชาต ประทับบนคอช้าง เสด็จเลียบพระนคร เมื่อตกจากคอช้างย่อมถึงทุกข์มาก ฉันใด ผู้ที่เสื่อมจากพระศาสนาก็ฉันนั้น  ย่อมเสื่อมจากโลกุตตรคุณ ๙ ประการฉะนี้.  เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวอุปัททวะของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ไว้อย่างนี้.

"ถ้าสัทธิวิหาริกป่วย" อุปัชฌาย์พึงอุปัฏฐากเธออย่างดี(สัทธิวิหาริกวัตร)เล่ม6หน้า154/15

สัทธิวิหาริกวัตร

[๘๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  อุปัชฌายะพึงประพฤติชอบในสัทธิวิหาริก
วิธีพระพฤติชอบในสัทธิวิหาริกนั้น มีดังต่อไปนี้:-

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌายะพึงสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริกด้วยสอนบาลีและอรรถกถา   ด้วยให้โอวาทและอนุศาสนี.

ถ้าอุปัชฌายะมีบาตร สัทธิวิหาริกไม่มีบาตร อุปัชฌายะพึงให้บาตรแก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ บาตรพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก.

ถ้าอุปัชฌายะมีจีวร สัทธิวิหาริกไม่มีจีวร อุปัชฌายะพึงให้จีวรแก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่าด้วยอุบายอย่างไรหนอ จีวรพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก.

ถ้าอุปัชฌายะมีบริขาร สัทธิวิหาริกไม่มีบริขาร อุปัชฌายะ พึงให้บริขารแก่สัทธิวิหาริก หรือพึงทำความขวนขวายว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอบริขารพึงบังเกิดแก่สัทธิวิหาริก.

ถ้าสัทธิวิหาริกอาพาธ อุปัชฌายะพึงลุกแต่เช้าตรู่ แล้วให้ไม้ชำระฟันให้น้ำล้างหน้า ปูอาสนะไว้.

ในพระวินัย "นม" จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง(โภชนวรรคสิกขาบทที่9)เล่ม4หน้า549

เรื่องพระสัมภูตสาณวาสีถาม

[๖๔๘]  พระเถระทั้งสองสนทนากันมาโดยลำดับค้างอยู่เพียงเท่านี้ครั้งนั้น. ท่านพระสัมภูตสาณวาสีมาถึงโดยลำดับจึงเข้าไปหาท่านพระสัพพกามีอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้เรียนถามว่า  ท่านเจ้าข้า พวกพระวัชชีบุตรชาวเมืองเวสาลีนี้ แสดงวัตถุ ๑๐ ประการในเมืองเวสาลี ว่าดังนี้ :-

๑.  สิงคิโลณกัปปะ  ควร
๒.  ทวังคุลกัปปะ  ควร
๓.  คามันตรกัปปะ  ควร
๔.  อาวาสกัปปะ  ควร
๕.  อนุมัติกัปปะ  ควร
๖.  อาจิณณกัปปะ  ควร
๗.  อมถิตกัปปะ  ควร
๘.  ดื่มชโลคิ  ควร
๙.  ผ้าปูนั่งไม่มีชาย  ควร
๑๐. ทองและเงิน   ควร

ทำลายจิตที่พึ่งปฏิสนธิในครรภ์ ก็จัดเป็นการฆ่ามนุษย์(ทุติยปาราชิกกัณฑ์)เล่ม2หน้า381

[อธิบายปฐมจิตของมนุษย์ผู้เริ่มลงสู่ครรภ์]

บัดนี้ ท่านพระอุบาลีเถระ กล่าวคำเป็นต้นว่า ชื่อว่ากายมนุษย์เพื่อจะแสดงอัตภาพของมนุษย์  ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้  ในคำว่า ปลงกายมนุษย์เสียจากความเป็นอยู่ นี้ ตั้งแต่แรก.

บทว่า (ปฐมจิต)  อันใด (เกิดขึ้นแล้ว)ในท้องแห่งมารดา ท่านพระอุบาลีเถระกล่าว เพื่อแสดงอัตภาพอันละเอียดที่สุดด้วยอำนาจแห่งเหล่าสัตว์ผู้นอนในครรภ์. ปฏิสนธิจิต ชื่อจิตดวงแรก.  บทว่าผุดขึ้น ได้แก่เกิด. คำว่า วิญญาณดวงแรก มีปรากฏ นี้ เป็นคำไข ของคำว่า จิตดวงแรก ที่ผุดขึ้น นั้นนั่นแหละ. บรรดาคำเหล่านี้ ด้วยคำว่าจิตดวงแรก (ที่ผุดขึ้น) ในท้องมารดา นั่นแหละ เป็นอันท่านแสดงปฏิสนธิของสัตว์ผู้มีขันธ์ ๕ แม้ทั้งสิ้น. เพราะเหตุนั้น กายมนุษย์อันเป็นที่แรกที่สุดนี้ คือ จิตดวงแรกนั้น ๑ อรูปขันธ์ ๓  ที่เกี่ยวเกาะด้วยจิตนั้น ๑ กลลรูปที่เกิดพร้อมกับจิตนั้น ๑. บรรดาอรูปขันธ์ และกลลรูปแห่งจิตดวงแรกนั้น รูป๓ ถ้วน ด้วยอำนาจแห่งกาย ๑๐ วัตถุ ๑๐ และภาวะ  ๑๐ แห่งสตรีและบุรุษ,รูป ๒๐ ด้วยอำนาจแห่งกาย ๑๐ และวัตถุ ๑๐ แห่งพวกกะเทย ชื่อว่ากลลรูป.

บรรดาสตรี  บุรุษ และกะเทยนั้น กลลรูปของสตรีและบุรุษ มีขนาดเท่าหยาดน้ำมันงาที่ช้อนขึ้นด้วยปลายข้างหนึ่ง แห่งขนแกะแรกเกิด เป็นของใสกระจ่าง จริงอยู่ ในอรรถกถาท่านกล่าวคำนี้ว่า
หยาดน้ำมันงา หรือสัปปิใส ไม่ขุ่นมัว
ฉันใด,  รูปมีส่วนเปรียบด้วยสี  ฉันนั้น
เรียกว่ากลลรูป.

กลุ่มพระยสะได้อสุภกรรมฐาน เพราะเผาศพคนอนาถา(อ.ยสวัตถุสูตร)เล่ม6หน้า7

ดังได้ยินมา ในอดีตกาล สหาย ๕๕  คน จะทำบุญร่วมพวกกัน จึงเที่ยวช่วยกันจัดการศพคนอนาถา. วันหนึ่งพวกเขาพบทญิงมีครรภ์ทำกาลกิริยา คิดว่า จักเผา จึงนำไปยังป่าช้า. ในพวกเขา เว้นไว้ที่ป่าช้า ๕  คน สั่งว่า จงช่วยกันเผา ส่วนที่เหลือพากันเข้าบ้าน. พ่อยศผู้ทรามวัย แทงและพลิกศพนั้นให้ไหม้อยู่ ก็ได้อสุภสัญญา. เขาได้แสดงแก่อีก ๔  คนด้วยว่า ผู้เจริญจงเห็นของไม่สะอาด น่าเกลียดนี่. อีก ๔ คนนั้นก็ได้อสุภสัญญาในศพนั้นบ้าง. เขาทั้ง ๕ พากันไปบ้านแล้วบอกแก่สหายที่เหลือ. ฝ่ายพ่อยสผู้ทรามวัยไปบ้านแล้วได้บอกแก่มารดาบิดาและภรรยา. ชนเหล่านั้นทั้งหมดได้เจริญอสุภสัญญาบ้าง.
บุพประโยคของชนเหล่านั้นเท่านี้. เพราะเหตุนั้นความสำคัญในเหล่าชนฟ้อนว่า เป็นดังป่าช้านั่นแล   จึงได้เกิดขึ้นแก่พระยศผู้มีอายุ. และด้วยอุปนิสัยสมบัตินั้น ความบรรลุธรรมพิเศษได้เกิดแก่ทุกคนแล.

-พระพุทธเจ้ารับรองคำกล่าวของ "พรหม" ว่าถูกต้อง (อัคคัญญสูตร)เล่ม15หน้า164

[๖๙]  ดูก่อนวาเสฎฐะและภารทวาชะ กษัตริย์ก็ดี พราหมณ์ก็ดี แพศย์ก็ดี  ศูทรก็ดี มีปกติทำกรรมทั้งสองอย่าง  ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจมีความเห็นเจือปนกัน ยึดถือกรรมด้วยอำนาจความเห็นอันเจือปนกันเพราะการยึดถือกรรมด้วยอำนาจความเห็น  อันเจือปนกันเป็นเหตุ เบื้องหน้าแต่ตาย  เพราะกายแตก  ย่อมได้เสวยสุขบ้าง ทุกข์บ้าง.

[๗๐]  ดูก่อนวาเสฎฐะและภารทวาชะ กษัตริย์ก็ดี  ฯลฯ  พราหมณ์ก็ดี ฯลฯ  แพศย์ก็ดี ฯลฯ  ศูทรก็ดี      สำรวมทางกาย สำรวมทางวาจาสำรวมทางใจ อาศัยการเจริญโพธิปักขิยธรรมทั้ง ๗ แล้ว
ย่อมปรินิพพาน ในโลกนี้แท้.

[๗๑]  ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ บรรดาวรรณะทั้ง ๔ เหล่านี้ วรรณะใดเป็นภิกษุผู้อรหันต์ สิ้นอาสวะแล้ว อยู่จบแล้ว มีกรณียะอันกระทำแล้ว ปลงภาระได้แล้ว ตามบรรลุประโยชน์ของตนแล้ว มีสังโยชน์เครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพสิ้นแล้ว นับแล้ว เพราะรู้โดยชอบ วรรณะนั้นปรากฏว่าเป็นผู้เลศกว่าวรรณะเหล่านั้นโดยธรรม หาใช่โดยอธรรมไม่.

ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ธรรมเท่านั้นประเสริฐที่สุดในหมู่ชนทั้งในทิฏฐธรรมและอภิสัมปรายภพ. ดูก่อนวาเสฏฐะแลภารทวาชะ แม้สนังกุมารพรหมก็ได้กล่าวคาถาไว้ว่า

[๗๒]  กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้มีความ
รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและ
จรณะ เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดาและมนุษย์ดังนี้.

ถ้านับถือพุทธศาสนาผิดๆ จะเหมือนถูกอสรพิษร้ายกัด(ปริยัติ3ประเภท)เล่ม75หน้า52

ว่าด้วยปริยัติ ๓ ประเภท
 
จริงอยู่ ปริยัติมี ๓ ประเภท คือ
๑.  อลคัททูปมปริยัติ  (ปริยัติเปรียบด้วยอสรพิษร้าย)
๒.  นิสสรณัตถปริยัติ  (ปริยัติเพื่อประโยชน์แก่การสลัดออก)
๓.  ภัณฑาคาริกปริยัติ (ปริยัติเปรียบด้วยขุนคลัง).

บรรดาปริยัติเหล่านั้น ปริยัติที่ถือเอาไม่ดี คือเรียนเพื่อเหตุแห่งการโต้แย้งเป็นต้น ชื่อว่า อลคัททูปมปริยัติ ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอา ตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้มีความต้องการอสรพิษมีพิษร้าย ย่อมแสวงหาอสรพิษมีพิษร้าย เมื่อเที่ยวแสวงหาอสรพิษมีพิษร้าย เขาเห็นอสรพิษมีพิษร้ายด้วยใหญ่ ก็พึงจับอสรพิษนี้นั้น  ที่ขนดหรือที่หาง อสรพิษนั้นพึงแว้งขบเอาที่มือ หรือแขน หรืออวัยวะน้อยใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่งของบุรุษนั้น บุรุษนั้นพึงเข้าถึงความตาย หรือทุกข์ปางตาย  เพราะการขบกัดนั้นเป็นเหตุ ข้อนั้นเพราะเหตุแห่งอะไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อสรพิษร้ายอันบุรุษจับแล้วไม่ดี  แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตะ ฯลฯ เวทัลละ บุรุษเหล่านั้นครั้นเรียนธรรมนั้นแล้ว  ย่อมไม่ใคร่ครวญเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญา เมื่อโมฆบุรุษเหล่านั้นไม่ใคร่ครวญอรรถด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้นย่อมไม่ทนต่อการเพ่ง โมฆบุรุษเหล่านั้น มีการโต้แย้งเป็นอานิสงส์ และมีการยังตน ให้พ้นจากวาทะนั้น ๆ เป็นอานิสงส์ ย่อมเรียนธรรม และย่อมเรียนธรรมเพื่อประโยชน์แก่ธรรมใด ย่อมไม่เสวยผลแห่งธรรมนั้น ธรรมเหล่านั้นอันโมฆบุรุษเหล่านั้นเรียนแล้วไม่ดี ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนานข้อนั้นเพราะเหตุแห่งอะไร  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เพราะความที่ธรรมทั้งหลายอันโมฆบุรุษนั้นเรียนแล้วไม่ดี ดังนี้.

พุทธกล่าวว่า แม้พราหมณ์ก็เกิดจากช่องคลอดของแม่(อัคคัญญสูตร)เล่ม15หน้า147

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ พวกพราหมณ์ระลึกถึงเรื่องเก่าของตนไม่ได้  จึงกล่าวอย่างนี้ว่า พราหมณ์เท่านั้นเป็นวรรณะประเสริฐที่สุด วรรณะเหล่าอื่นเลวทราม พราหมณ์เท่านั้นมีวรรณะขาว วรรณะเหล่าอื่นดำ พวกพราหมณ์เท่านั้นบริสุทธิ์ หมู่ชนที่ไม่ใช่พราหมณ์หาบริสุทธิ์ไม่ พวกพราหมณ์ เป็นบุตรเกิดแต่อุระ เกิดจากปากของพระพรหม เกิดจากพระพรหม พรหมเนรมิตขึ้น  เป็นทายาทของพรหม ดังนี้. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ตามที่ปรากฏชัดเจนอยู่ว่า นางพราหมณีของพวกพราหมณ์ทั้งหลายมีระดูบ้าง มีครรภ์บ้าง ตลอดอยู่บ้าง ให้ลูกดื่มนมบ้าง ก็พราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้เกิดทางช่องตลอดของนางพราหมณีทั้งนั้น พราหมณ์เท่านั้นเป็นวรรณะประเสริฐที่สุด ฯลฯ  เป็นทายาทของพรหม ดังนี้. ก็พราหมณ์เหล่านั้นย่อมกล่าวตู่พระพรหม และพูดมุสา พวกเขาจะต้องประสพ สิ่งไม่เป็นบุญมากมาย.

เทวดาอนุเคราะห์ดาบสเดินทางไกลให้คลายความลำบาก(อ.ชาลิยสูตร)เล่ม12หน้า116

ดาบส ๕๐๐ คนจากป่าหิมพานต์ พากันไปยังกรุงโกสัมพี เพื่อตากอากาศอบอุ่น. เศรษฐีสามคนนั้น ได้สร้างบรรณกุฏิในอุทยานของตน ๆ ทำการบำรุงแก่ดาบสเหล่านั้น. อยู่มาวันหนึ่ง ดาบสเหล่านั้นมาจากป่าหิมพานต์ ได้รับหนาวจัดลำบากในทางกันดารมาก ถึงต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่ง พากันนั่งรอรับการ สงเคราะห์จากสำนักของเทวดาที่สิงสถิตอยู่ในต้นไทรนั้น.  เทวดาได้เหยียดแขนซึ่งประดับด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง ให้วัตถุมีน้ำดื่มน้ำใช้เป็นต้นแก่ดาบสเหล่านั้นบรรเทาความลำบาก.

ให้บุญเทวดาถูกเวลา เทวดาจะช่วยเหลือการงานได้ดี(อ.ภัตตสูตร)เล่ม36หน้า481

บทว่า น  กาเลน กฏิปูเชนฺติ  ความว่า พวกเขาไม่หุงต้มยาคูในเวลายาคู ของขบเคี้ยวในเวลาขบเคี้ยว   อาหารในเวลาอาหาร จึงไม่บูชาตามเวลา เพราะเวลาที่ประกอบขวนขวายล่วงเลยไปแล้ว. ชื่อว่า ให้ด้วยจิตของตนเท่านั้น.ต่อมา เมื่อพวกชนเหล่านั้น มาสู่เรือนของตน เขาก็ย่อมกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน. แม้เทวดาผู้คอยรับพลีมาแล้ว ตามประเพณีแห่งตระกูล  ต่อได้ลาภตามกาลอันเหมาะอันควรจึงรักษาคุ้มครอง. แต่เมื่อได้รับความบีบคั้นไม่ได้ตามเวลาไม่ทำอารักขาด้วยคิดว่า พวกเหล่านี้เป็นผู้ไม่เอื้อเฟื้อในพวกเรา ดังนี้. แม้สมณพราหมณ์ ย่อมไม่ทำกิจที่ควรทำในงานมงคลและอวมงคล ด้วยคิดว่าในเรือนของคนเหล่านั้น ไม่มีอาหารในเวลาอาหาร  เขาให้ในเวลาเที่ยงตรงดังนี้.

-วัดป่าสามแยก ศึกษาพระธรรมวินัย เบิกบุญ โอนบุญ อกหัก โดนของ ธรรมะ ธรรมทาน คลายเครียด เจริญรุ่งเรือง //www.samyaek.com

-เวบพี่ดาบตำรวจต้น http://www.piyavat.com

-Facebook พุทธพจน์ //www.facebook.com/login.php?next=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fgroups%2FBuddhaspeech

-Download free พระไตรปิฏกพร้อมหัวข้อธรรมสำหรับ apple ipad & iphone ดูรายละเอียดได้ที่เวบ //www.tripitaka91.com ส่วนAndroid ประมาณเดือนมกราคมค่ะ

****หมายเหตุ "แสดงธรรมวันอาสาฬหบูชา ปี 2555" (//youtu.be/l52iDWt3V5Q ) นาทีที่ 6:01:55 ..เป็นต้นไป หลวงปู่ท่านได้พูดถึง ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ท่านใดมีปัญหาด้านกฏหมาย,คดีความต่างๆ ปรึกษาได้ที่ ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ที่เมล์ pasponglawyer@hotmail.com ,เบอร์โทรที่ 0818060981 , 0867809391 ****




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2556
3 comments
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2556 17:21:32 น.
Counter : 3039 Pageviews.

 

ทุกๆ วันเสาร์เวลาประเทศไทย โดยประมาณ 20:30 น.มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เทศน์โดยหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล จากสำนักสงฆ์ป่าสามแยก

รับชมได้ที่
ดูวีดีโอช่องที่ 1 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทช้า: 56k)
www.samyaek.com

ดูวีดีโอช่องที่ 2 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทเร็ว: 212k)
www.samyaek.com/?channel=2

สำหรับท่านที่มีปัญหาดูถ่ายทอดสดไม่ได้
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2303.0

การใช้ iPad, iPhone, iPod touch ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5531.0

วิธีใช้ Tablet ตระกูล Android ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5512.0

สมาชิกท่านใดมีปัญหาในการรับชม
(ปัญหาอันเกิดจากคอมพิวเตอร์ของท่านเอง)

หากได้แก้ไขตามลิงค์ต่างๆ ข้างต้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถรับชมได้
ให้ท่านติดต่อสอบถามได้ที่ คุณชัยณรงค์ รัตนเกษมสุข (เม้ง)
Dtac : 081-554-1699 , AIS 081-935-1651
e-mail : macmagic99@hotmail.com

 

โดย: Budratsa 3 กุมภาพันธ์ 2556 17:22:45 น.  

 

...แจกฟรี...CD พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด 91 เล่ม ของมหามกุฏราชวิทยาลัย และDVD จากการแสดงธรรมของหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล ได้ที่www.samyaek.com กระดาน "แจกสื่อธรรม" หากท่านใดยังไม่ได้สมัครสมาชิก ใช้
Username : Media
Password : 123456

 

โดย: Budratsa 3 กุมภาพันธ์ 2556 17:23:35 น.  

 

ท่านใดต้องการพระสูตรเสียงอ่านทั้งหมด
แบบถูกต้อง ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะรวบรวมจากเวปทั้งหมด ที่ให้ดาวน์โหลด

จำนวนไฟล์ เกือบ 7Gb ใช้แผ่น dvd 2แผ่น ติดต่อไปที่คุณสาธิต

ส่งที่อยู่ไปที่อีเมล tripitaka91@live.com



 

โดย: Budratsa 3 กุมภาพันธ์ 2556 17:23:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Budratsa
Location :
พิจิตร Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆคนค่ะ
"ดูก่อนอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์ (พุทธพจน์) มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา" เล่มที่ ๑๓ : พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๒๐
Friends' blogs
[Add Budratsa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.