"ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคตย่อมไม่มี พระพุทธเจ้าแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยการกล่าวคำจริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี....." "พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง, เป็นหูที่วิเศษยิ่ง, เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง, เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง, เป็นกายที่วิเศษยิ่ง, เป็นใจที่วิเศษยิ่ง, เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง, เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง, เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง, เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง, เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง"จากวัดสามแยก
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

ไม่มีทางลัดสำหรับไปนิพพาน โดยหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล 10 พ.ย. 2555

เนื้อหา บางส่วนจากการแสดงธรรมชุดนี้
      ๑. ทางไปนิพพาน ไม่มีทางลัด ต้องเป็นไปตามลำดับเท่านััน
      ๒. ทำความชั่วเพราะเหตุแห่งพ่อแม่....นรกก็ไม่ยกเว้น
      ๓. อาฬาร-อุทุกดาบสไปเกิดในอรูปพรหม เป็นผู้เสื่อมหนัก
      ๔. พระพุทธเจ้าให้อภัยแก่ผู้ที่จะมาฆ่าพระองค์
      ๕. พระเจ้าพิมพิสารหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวัน
     ฯลฯ

-ทำความชั่วเพราะเหตุแห่งพ่อแม่....นรกก็ไม่ยกเว้น (ธนัญชานิสูตร) เล่ม21หน้า386
-กระดูกพระพุทธเจ้าเป็นท่อนเดียวกันทั้งองค์ (อ.มหาปรินิพพานสูตร) เล่ม13หน้า402
-อาฬาร-อุทุกดาบสไปเกิดในอรูปพรหม เป็นผู้เสื่อมหนัก (พุทธปริวิตกถา) เล่ม6หน้า39
-เจ้ามหากัปปินะาบริวารข้ามน้ำได้ เพราะระลึกถึงพุทธ (อ.สูตรที่9)เล่ม32หน้า486-487
-พระพุทธเจ้าให้อภัยแก่ผู้ที่จะมาฆ่าพระองค์ (ทรงแสดงอนุปุพพิกถา)เล่ม9หน้า290
-ท้าวสักกะและพระพุทธเจ้าอารักขาสามเณรผู้กำลังบำเพ็ญ(เรื่องบัณฑิตสามเณร)เล่ม41หน้า335-340
-พระมหากัสสปเถระมีลักษณะของมหาบุรุษ7ประการ (อ.สูตรที4)เล่ม32หน้า302
-พระเจ้าพิมพิสารหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวัน (เทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร)เล่ม6หน้า117
-ทางไปนิพพาน ไม่มีทางลัด ต้องเป็นไปตามลำดับเท่านััน (กิฏาคิริสูตร)เล่ม20หน้า428

ทางไปนิพพาน ไม่มีทางลัด ต้องเป็นไปตามลำดับเท่านััน(กิฏาคิริสูตร)เล่ม20หน้า428

การตั้งอยู่ในอรหัตผล

[๒๓๘]   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวการตั้งอยู่ในอรหัตผลด้วยการไปครั้งแรกเท่านั้นหามิได้  แต่การตั้งอยู่ในอรหัตผลนั้น ย่อมมีได้ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำโดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็การตั้งอยู่ในอรหัตผลย่อมมีได้. ด้วยการศึกษาโดยลำดับ ด้วยการทำโดยลำดับ ด้วยความปฏิบัติโดยลำดับอย่างไร 

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ เกิดศรัทธาแล้วย่อมเข้าไปใกล้ เมื่อเข้าไปใกล้ย่อมนั่งใกล้เมื่อนั่งใกล้ย่อมเงี่ยโสตลง เมื่อเงี่ยโสตลงแล้วย่อมฟังธรรม ครั้นฟังธรรมย่อมทรงธรรมไว้ ย่อมพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงไว้แล้ว  เมื่อพิจารณาเนื้อความอยู่ ธรรมทั้งหลายย่อมทนได้ซึ่งความพินิจ เมื่อธรรมทนความพินิจได้อยู่ ฉันทะย่อมเกิด เมื่อเกิดฉันทะแล้วย่อมอุตสาหะ ครั้นอุตสาหะแล้วย่อมไตร่ตรอง ครั้นไตร่ตรองแล้ว ย่อมตั้งความเพียร เมื่อมีตนส่งไป ย่อมทำให้แจ้งชัดซึ่งบรมสัจจะด้วยกาย และย่อมแทงตลอดเห็นแจ้งบรมสัจจะนั้นด้วยปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ศรัทธาก็ดี การเข้าไปใกล้ก็ดี การนั่งใกล้ก็ดี การเงี่ยโสตลงก็ดี การฟังธรรมก็ดี  การทรงจำธรรมก็ดี การพิจารณาเนื้อความก็ดี ธรรมอันได้ซึ่งความพินิจก็ดี ฉันทะก็ดี อุตสาหะก็ดี การไตร่ตรองก็ดี การตั้งความเพียรก็ดี นั้น ๆ ไม่ได้มีแล้ว เธอทั้งหลายย่อมเป็นผู้ปฏิบัติพลาด ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติผิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษเหล่านี้ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร.

ทำความชั่วเพราะเหตุแห่งพ่อแม่....นรกก็ไม่ยกเว้น(ธนัญชานิสูตร) เล่ม21หน้า386

[๖๗๒]  สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันสวนที่ใช้เลี้ยงกระแต เขตพระนครราชคฤห์. สมัยนั้นแล ท่านพระสารีบุตรเที่ยวจาริกไปในทักขิณาคิรีชนบท พร้อมด้วยภิกษ์สงฆ์หมู่ใหญ่. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งจำพรรษาอยู่ในพระนครราชคฤห์ ได้เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงทักขิณาคิรีชนบท ได้ปราศรัยกับท่านพระสารีบุตร  ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

สา. ท่านผู้มีอายุ ธนัญชานิพราหมณ์ยังเป็นผู้ไม่ประมาทหรือ.
ภิ. ที่ไหนได้ท่านผู้มีอายุ ธนัญชานิพราหมณ์ของเราจะไม่ประมาท.เขาอาศัยพระราชา เที่ยวปล้นพวกพราหมณ์และคฤหบดี อาศัยพวกพราหมณ์และคฤหบดีปล้นพระราชา  ภริยาของเขาผู้มีศรัทธา  ซึ่งนำมาจากสกุลที่มีศรัทธาทำกาละเสียแล้ว เขาได้หญิงอื่นมาเป็นภริยาหาศรัทธามิได้ เขานำมาจากสกุลที่ไม่มีศรัทธา...

[๖๗๕]  ท่านพระสารีบุตรได้ถามว่า ธนัญชานิ ท่านเป็นผู้ไม่ประมาทหรือ.
-ธนัญชานิพราหมณ์ได้ตอบว่า ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร ที่ไหนข้าพเจ้าจะไม่ประมาท เพราะข้าพเจ้าต้องเลี้ยงมารดาบิดา ต้องเลี้ยงบุตรภริยา ต้องเลี้ยงพวกทาส กรรมกร และคนรับใช้ ต้องทำกิจสำหรับมิตรและอำมาตย์แก่มิตรและอำมาตย์ ต้องทำกิจสำหรับญาติสาโลหิต ต้องทำกิจสำหรับแขกแก่แขก ต้องทำบุญที่ควรทำแก่ปุพเปตชนส่งไปให้ปุพเปตชน ต้องทำการบวงสรวงแก่พวกเทวดา ต้องทำราชการให้แก่หลวง แม้กายนี้ก็ต้องให้อิ่มหนำ ต้องให้เจริญ.

[๖๗๖]  สา. ธนัญชานิ ท่านจะเข้าใจความข้อนั้น เป็นไฉน บุคคลบางตนในโลกนี้  เป็นผู้พระพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งบิดามารดา นายนิรยบาลจะพึงฉุดคร่าเขาผู้นั้นไปยังนรก    เพราะเหตุแห่งการประพฤติไม่ชอบธรรนและประพฤติผิดธรรม เขาจะพึงได้ตามความปรารถนาหรือว่า   เราเป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งมารดาบิดา ขอนายนิรยบาลอยู่พึงฉุดคร่าเราไปนรกเลย หรือมารดาบิดาของผู้นั้นจะพึงได้ตามความปรารถนาว่า  ผู้นี้เป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม  ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งเราทั้งหลาย ขอนายนิรยบาลอย่าพึงฉุดคร่าเขาไปนรกเลย.

กระดูกพระพุทธเจ้าเป็นท่อนเดียวกันทั้งองค์(อ.มหาปรินิพพานสูตร) เล่ม13หน้า402

บทว่า  นาคาวโลกิต ความว่า เหมือนอย่างว่ากระดูกของมหาชนเอาปลายจดปลายตั้งอยู่เหมือนอัฏฐิของพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่เกี่ยวกันเหมือนขอช้าง ฉันใด อัฏฐิของพระพุทธเจ้าหาเหมือนฉันนั้นไม่.     ด้วยว่าอัฏฐิของพระพุทธเจ้าติดเป็นอันเดียวกัน เหมือนแท่งทองคำ เพราะฉะนั้น ในเวลาเหลียวหลัง จึงไม่สามารถเอี้ยวพระศอได้ ก็พระยาช้าง ประสงค์จะเหลียวดูช้างหลังต้องเอี้ยวไปทั้งตัวฉันใด   พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ต้องทรงเอี้ยวพระวรกายไปฉันนั้น. แต่พอพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนที่ประตูพระนคร ก็ทรงเกิดความคิดว่า จะทอดทัศนากรุงเวสาลี แผ่นมหาปฐพีนี้เหมือนจะกราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมาหลายแสนโกฏิกัป มิได้ทรงกระทำ คือเอี้ยวพระศอแลดู จึงเปรียบเหมือนล้อดิน กระทำพระผู้มีพระภาคเจ้าให้บ่ายพระพักตร์มุ่งไปทางกรุงเวสาลี.

อาฬาร-อุทุกดาบสไปเกิดในอรูปพรหม เป็นผู้เสื่อมหนัก(พุทธปริวิตกกถา) เล่ม6หน้า39

[๑๐]   ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงดำริว่า เราจะพึงแสดงธรรมแก่ใครก่อนหนอ ใครจักรู้ทั่วถึงธรรมนี้ได้ฉับพลัน ครั้นแล้วทรงพระดำริต่อไปว่าอาฬารดาบสกาลามโคตรนี้แล เป็นผู้ฉลาด เฉียบแหลม มีปัญญามีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อยเป็นปรกติมานาน ถ้ากระไร เราพึงแสดงธรรมแก่อาฬารดาบสกาลามโคตรก่อน เธอจักรู้ทั่วถึงธรรมนี้ได้ฉับพลัน ทีนั้น เทพดาอันตรธานมากราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อาฬารดาบสกาลามโคตร  สิ้นชีพได้ ๗ วันแล้ว  พระพุทธเจ้าข้า แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงทราบว่า อาฬารคาบสกาลามโคตรสิ้นชีพได้  ๗ วันแล้ว จึงทรงพระดำริว่าอาฬารดาบสกาลามโคตรเป็นผู้มีความเสื่อมใหญ่  เพราะถ้าเธอได้ฟังธรรมนี้จะพึงรู้ทั่วถึงได้ฉับพลัน.

พระมหากัสสปเถระมีลักษณะของมหาบุรุษ7ประการ(อ.สูตรที4)เล่ม32หน้า302

พระมหากัสสปเถระคิดว่า ท่านผู้นี้จักเป็นพระศาสดาของเราเราบวชอุทิศพระศาสดาพระองค์นี้ ดังนี้    จำเดิมแต่ที่ที่มองเห็นได้น้อมกายเดินไป ไหว้ในที่ ๓ แห่ง แล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ    พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก. ลำดับนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะพระมหากัสสปเถระว่า ดูก่อนกัสสป ถ้าเธอจะพึงทำการนบนอบนี้ไว้ในมหาปฐพีไซร้  แม้มหาปฐพีนั้นก็ไม่อาจรองรับเอาไว้ได้การนบนอบที่เธอกระทำ ย่อมไม่อาจทำแม้ขนของเราให้สั่น เพราะตถาคตมีคุณใหญ่หลวงอย่างนี้ นั่งลงเถอะกัสสป เราจะให้ทรัพย์อันเป็นมรดกแก่เธอ. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ประทานอุปสมบทแก่พระมหากัสสปเถระด้วยโอวาท ๓ ประการ ครั้นประทานแล้วก็เสด็จออกจากโคนต้นพหุปุตตกนิโครธเสด็จเดินทางมีพระเถระเป็นปัจฉาสมณะ. พระสรีระของพระศาสดาตระการตาด้วยพระมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ สรีระของพระมหากัสสปประดับด้วยมหาปุริสลักษณะ ๗ ประการ. พระมหากัสสปนั้นเดินตามเสด็จพระศาสดา เหมือนเรือพ่วงไปตามเรือใหญ่สีทองฉะนั้น    พระศาสดาเสด็จเดินทางไปหน่อยหนึ่งแล้วแวะลง (ข้างทาง) แสดงอาการจะประทับนั่งที่โคนไม้แห่งหนึ่ง พระเถระระว่า พระศาสดามีพระประสงค์จะประทับนั่ง  จึงกระทำสังฆาฏิอันเป็นผ้าเก่าที่ตนห่มให้เป็น ๔ ชั้น ปูลาดถวาย.

พระเจ้าพิมพิสารหลั่งน้ำถวายวัดเวฬุวัน(เทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร)เล่ม6หน้า117

ทรงรับพระเวฬุวันสังฆิกาวาส

[๖๓] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระพุทธดำเนินไปสู่พระราชนิเวศน์ของพระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามาคธราช ครั้นถึงแล้ว ประทับนั่งเหนือพระพุทธอาสน์ที่เขาจัดถวายพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จึงพระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามาคธราช ทรงอังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีต ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์จนให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยเสร็จทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตห้ามภัตแล้ว จึงประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ท้าวเธอได้ทรงพระราชดำริว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าพึงประทับอยู่ ณ ที่ไหนดีหนอ ซึ่งจะเป็นสถานที่ไม่ไกลไม่ใกล้จากบ้านนัก สะดวกด้วยการคมนาคม ควรที่ประชาชนผู้ต้องประสงค์จะเข้าไปเฝ้าได้ กลางวันไม่พลุกพล่าน กลางคืนเงียบสงัด เสียงไม่กึกก้อง ปราศจากลมแต่ชนที่เดินเข้าออกควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการที่สงัด และควรเป็นที่หลีกเร้นอยู่ตามสมณวิสัย แล้วได้ทรงพระราชดำริต่อไปว่า สวนเวฬุวันของเรานี้แล ไม่ไกลไม่ใกล้จากบ้านนัก สะดวกด้วยการคมนาคม ควรที่ประชาชนผู้ต้องประสงค์จะพึงเข้าไปเฝ้าได้ กลางวันไม่พลุกพล่าน กลางคืนเงียบสงัด เสียงไม่กึกก้องปราศจากลมแต่ชนที่เข้าออก ควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการที่สงัด และควรเป็นที่หลีกเร้นอยู่ตามสมณวิสัย ผิฉะนั้น เราพึงถวายสวนเวฬุวันแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ดังนี้  ลำดับนั้น จึงทรงจับพระสุวรรณภิงคารทรงหลั่งน้ำน้อมถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยพระราชดำรัสว่า หม่อมฉันถวายสวนเวฬุวันนั่นแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข  พระพุทธเจ้าข้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับอารามแล้ว  และทรงชี้แจงให้พระเจ้าพิมพิสารจอมเสนามาคธราชทรงเห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้วเสด็จลุกจากที่ประทับเสด็จกลับ ต่อมา พระองค์ทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตอาราม.

พระพุทธเจ้าให้อภัยแก่ผู้ที่จะมาฆ่าพระองค์(ทรงแสดงอนุปุพพิกถา)เล่ม9หน้า290

ทรงแสดงอนุปุพพิกถา

[๓๖๙]  ครั้งนั้น บุรุษคนเดียวนั้นถือดาบและโล่ผูกสอดแล่งธนูแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กลัว   หวั่นหวาด สะทกสะท้าน มีกายแข็งได้ยืนอยู่ในที่ไม่ใกล้พระผู้มีพระภาคเจ้าๆ ได้ทอดพระเนตรเห็นบุรุษนั้น ผู้กลัว หวั่นหวาด สะทกสะท้าน มีกายแข็ง ยืนอยู่ ครั้นแล้วได้ตรัสกะบุรุษนั้นว่า มาเถิด เจ้าอย่ากลัวเลย จึงบุรุษนั้นวางดาบและโล่ปลดแล่งธนูวางไว้ ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ซบศีรษะลงแทบพระบาทยุคลของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วได้กราบทูลว่า  พระพุทธเจ้าข้า โทษมาถึงซึ่งข้าพระพุทธเจ้าตามความโง่  ตามความหลง ตามอกุศล เพราะข้าพระพุทธเจ้ามีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดจะฆ่าเข้ามาถึงที่นี้  ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดรับโทษของข้าพระพุทธเจ้านั้น     โดยความเป็นโทษ เพื่อความสำรวมต่อไปพระพุทธเจ้าข้า

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เอาเถอะเจ้า โทษมาถึงเจ้าตามความโง่ตามความหลง ตามอกุศล เพราะเจ้ามีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดจะฆ่า เข้ามาถึงที่นี้  เมื่อใดเจ้าเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม  เมื่อนั้นเรารับโทษนั้นของเจ้า เพราะผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม  ถึงความสำรวมต่อไป ข้อนั้น เป็นความเจริญในอริยวินัย

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่บุรุษนั้น คือทรงแสดงทาน ศีล สวรรค์ และอาทีนพ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย แล้วจึงทรงประกาศอานิสงส์ในการออกจากกาม เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า บุรุษนั้นมีจิตคล่อง มีจิตอ่อน  มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตสูงขึ้น มีจิตผ่องใส จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลีปราศจากมลทินว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา ได้เกิดแก่บุรุษนั้น ณ ที่นั่นนั้นแล   ดุจผ้าที่สะอาดปราศจากมลทิน ควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น ครั้งนั้น บุรุษนั้นมีธรรมอันเห็นแล้ว  ได้บรรลุธรรมแล้ว ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว ข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัยถึงความเป็นผู้แกล้วกล้าไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนักพระพุทธเจ้าข้า    พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด   บอกทางแก่คนหลงทางหรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป  ดังนี้ ข้พระพุทธเจ้านี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม และภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.

-วัดป่าสามแยก ศึกษาพระธรรมวินัย เบิกบุญ โอนบุญ อกหัก โดนของ ธรรมะ ธรรมทาน คลายเครียด เจริญรุ่งเรือง //www.samyaek.com

-เวบพี่ดาบตำรวจต้น http://www.piyavat.com

-Facebook พุทธพจน์ //www.facebook.com/login.php?next=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fgroups%2FBuddhaspeech

-Download free พระไตรปิฏกพร้อมหัวข้อธรรมสำหรับ apple ipad & iphone ดูรายละเอียดได้ที่เวบ //www.tripitaka91.com ส่วนAndroid ประมาณเดือนมกราคมค่ะ

****หมายเหตุ "แสดงธรรมวันอาสาฬหบูชา ปี 2555" (//youtu.be/l52iDWt3V5Q ) นาทีที่ 6:01:55 ..เป็นต้นไป หลวงปู่ท่านได้พูดถึง ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ท่านใดมีปัญหาด้านกฏหมาย,คดีความต่างๆ ปรึกษาได้ที่ ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ที่เมล์ pasponglawyer@hotmail.com ,เบอร์โทรที่ 0818060981 , 0867809391 ****




 

Create Date : 27 มกราคม 2556
3 comments
Last Update : 27 มกราคม 2556 17:29:52 น.
Counter : 1524 Pageviews.

 

ทุกๆ วันเสาร์เวลาประเทศไทย โดยประมาณ 20:30 น.มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เทศน์โดยหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล จากสำนักสงฆ์ป่าสามแยก

รับชมได้ที่
ดูวีดีโอช่องที่ 1 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทช้า: 56k)
www.samyaek.com

ดูวีดีโอช่องที่ 2 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทเร็ว: 212k)
www.samyaek.com/?channel=2

สำหรับท่านที่มีปัญหาดูถ่ายทอดสดไม่ได้
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2303.0

การใช้ iPad, iPhone, iPod touch ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5531.0

วิธีใช้ Tablet ตระกูล Android ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5512.0

สมาชิกท่านใดมีปัญหาในการรับชม
(ปัญหาอันเกิดจากคอมพิวเตอร์ของท่านเอง)

หากได้แก้ไขตามลิงค์ต่างๆ ข้างต้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถรับชมได้
ให้ท่านติดต่อสอบถามได้ที่ คุณชัยณรงค์ รัตนเกษมสุข (เม้ง)
Dtac : 081-554-1699 , AIS 081-935-1651
e-mail : macmagic99@hotmail.com

 

โดย: Budratsa 27 มกราคม 2556 17:30:37 น.  

 

...แจกฟรี...CD พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด 91 เล่ม ของมหามกุฏราชวิทยาลัย และDVD จากการแสดงธรรมของหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล ได้ที่www.samyaek.com กระดาน "แจกสื่อธรรม" หากท่านใดยังไม่ได้สมัครสมาชิก ใช้
Username : Media
Password : 123456

 

โดย: Budratsa 27 มกราคม 2556 17:31:37 น.  

 

ท่านใดต้องการพระสูตรเสียงอ่านทั้งหมด
แบบถูกต้อง ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะรวบรวมจากเวปทั้งหมด ที่ให้ดาวน์โหลด

จำนวนไฟล์ เกือบ 7Gb ใช้แผ่น dvd 2แผ่น ติดต่อไปที่คุณสาธิต

ส่งที่อยู่ไปที่อีเมล tripitaka91@live.com

 

โดย: Budratsa 27 มกราคม 2556 17:32:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Budratsa
Location :
พิจิตร Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆคนค่ะ
"ดูก่อนอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์ (พุทธพจน์) มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา" เล่มที่ ๑๓ : พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๒๐
Friends' blogs
[Add Budratsa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.