|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ยายเล่าว่า....ทวดใช้...น้ำว่านหางจรเข้..เป็นยาแก้ไอ
ว่านหางจรเข้ เป็นสมุนไพรที่ครอบจักรวาลจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเอาเจ้าว่านหางจรเข้ไปรักษาอวัยวะส่วนไหน ดูเหมือนจะใช้ได้หมด สมกับที่ได้สมยานามว่า "ไม้เท้ากายสิทธิ์จากสวรรค์" ยายผมเล่าว่าสมัยเด็กๆ เวลายายไอค๊อกๆ แค็กๆ ยายทวดก็จะทำน้ำว่านหางจรเข้มาให้ดื้มแก้ไปทุกครั้งไป
ว่านหางจรเข้ จัดว่าเป็นสมุนไพรที่ใครๆ ทั่วโลกต่างก็รู้จักดี คนไทยสมัยก่อนอาจไม่ได้คุ้นเคยกับว่านหางจรเข้มากนัก เพราะว่านหางจรเข้ไม่ใช้พืชประจำถิ่นของเรา ว่านหางจรเข้เมีแหล่งกำเนิดอยู่ในแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนี่ยน เช่น ซาอุดิอารเบีย บริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เกาะมาดากัสการ์ และหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ปัจจุบันว่านหางจรเข้แพร่กระจายไปทั่วโลก เพราะสมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณมากมาย จนมีการตั้งสถาบันวิจัยเพื่อศึกษาเกี่ยวกับว่านหางจรเข้โดยเฉพาะ
สรรพคุณที่โด่งดังของวุ้นว่านหางจรเข้ ก็คือการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เมื่อถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้นึกถึงว่านหางจรไว้ แต่ต้องใช้ให้มากพอที่จะดับพิษร้อนได้ ว่านหางจรเข้มีสรรพคุณในการดับพิษร้อนได้ดีมาก โดยนำใบที่มีขนาดกว้างประมาณสองนิ้ว ปลอกเปลือกออก แล้วล้างน้ำเอายางสีเหลืองๆ ออกให้หมด แล้วฝานเป็นแผ่นๆ นำไปวางบนบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก จะไม่รู้สึกปวดแสบปวดร้อน แล้วให้เปลี่ยนวุ้นว่านหางจรเข้เรื่อยๆ เมื่อรู้สึกร้อน (ถ้าจะให้ดับพิษร้อนได้ดีขึ้น ควรนำว่านหางจรเข้ที่ฝานเป็นแผ่นๆ ไปแช่ในตู้เย็น แล้วสับเปลี่ยนให้บ่อยๆ จนไม่ปวดแสบปวดร้อนอีกต่อไป ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นวันๆ หรือหลายวันแล้วแต่ความรุนแรง และทำให้เนื้อหนังไม่ถูกทำลาย มีเพียงรอยดำๆ ย่นๆ แต่จะลอกออกมาได้ในเวลาต่อมา
สรรพคุณของจากว่านหางจรเข้ นอกจากจะดับพิษร้อนได้ชะงัดนักแล้ว ยังมีสรรพคุณในการรักษาแผลเรื้อรัง เพราะมีสรรพคุณในการเรียกเนื้อ ช่วยสมานแผล แต่ต้องเตรียมวุ้นว่านหางจรเข้ให้สะอาด โดยการล้างว่านหางจรเข้แล้วเช็ดเปลือกว่านหางจรเข้และมีดปลอกด้วยแอลกอฮอล์ใส่แผล ล้างยางสีเหลืองออกให้หมด จากนั้นขูดเอาวุ้นว่านหางจรเข้ ใส่ในแผลที่ล้างสะอาด แล้วจึงปิดแผลไว้ด้วยผ้าก๊อซ สารอัลอคติน(aloctin) จะช่วยให้แผลตื้นและหายเร็วขึ้น เพราะไปกระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อ
นอกจากนี้การรับประทานวุ้นจากว่านหางจรเข้ จะเป็นยารักษาได้หลายโรคทีเดียว ใครที่ปลูกว่านหางจรเข้ไว้มากๆ จะประหยัดเงินค่ายาได้ในหลายๆ โรคเลยทีเดียว
วุ้นจากว่านหางจรเข้ ช่วยบำบัดในโรคต่างๆ ดังนี้
- โรคเบาหวาน ให้รับประทานวุ้นจากใบสดยาวประมาณ 3 - 4 เซนติเมตรทุกวัน จะสามารถลดการใช้ยาเบาหวานได้ - โรคความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ ไข้หวัด หอบหืด วุ้นจากว่านหางจรเข้ก็ช่วยได้ โดยมีวิธีใช้เช่นเดียวกับโรคเบาหวาน - วุ้นจากว่านหางจรเข้ยังแก้เมารถเมาเรือ โดยให้กินวุ้นจากว่านหางจรเข้ ยาวประมาณ 2- 3 เซ็นติเมตร ก่อนออกเดินทาง - ส่วนโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ อาหารไม่ย่อย ให้รับประทานวุ้นจากใบสด วันละ 4 เซ็นติเมตร แบ่งรับประทานเป็นสองครั้ง
นอกจากที่กล่าวมา วุ้นจากว่านหางจรเข้ยังมีสรรพคุณ เป็นยาบำรุงสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรงสดชื่น มีภูมิต้านทานได้ดีเยี่ยม ส่วนการรับประทานวุ้นสด หรือวุ้นที่ผ่านการปรุงแต่ง เช่น ว่านหางจรเข้กระป๋อง น้ำว่านหางจรเข้ดี แน่นอนว่าวุ้นว่านหางจรเข้สดต้องดีกว่า
ตำราทำอาหารดั้งเดิมของไทย ก็มีที่ทำวุ้นว่านหางจรเข้เชื่อม หรือแม้แต่ในตำรับยาพื้นบ้านในหลายประเทศ ก็ต้มวุ้นว่านหางจรเข้รับประทาน หรือแม้แต่ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ การสะกัดด้วยน้ำร้อนของวุ้นว่านหางจรเข้ ก็มีฤทธิ์ทางเภสัชในห้องทดลอง เช่น ลดคอเลสเตอรอล เป็นต้น ดังนั้น การที่รับประทานวุ้นว่านหางจรเข้ ที่ผ่านต้มด้วยความร้อนนั้น ก็คงยังมีประโยชน์อยู่บางส่วน แต่สู้รับประทานวุ้นสดๆ ไม่ได้
ส่วนกรรมวิธีทานน้ำว่านหางจรเข้แก้ไอของทวดผม คือ นำวุ้นว่านหางจรเข้ไปแช่น้ำเชื่อมน้ำตาลกรวดที่ตากน้ำค้างไว้ 1 คืน
ส่วนน้ำว่านจรเข้ที่แม่ผมทำไว้ดื่มเป็นน้ำหวานบำรุงสุขภาพ พี่เลี้ยงผมจะทำดังนี้
ส่วนผสม
- ว่านหางจระเข้ 2 กิโลกรัม ( 2 ก้านใหญ่ๆ ) - ใบเตยหอม 10 ใบ - น้ำตาลกรวด 300 กรัม - น้ำ 4 ลิตร
วิธีทำ
1. เอาว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก ล้างน้ำเอายางสีเหลืองออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2. นำน้ำใส่หม้อ ใส่น้ำตาลกรวดใบเตยทุบลงไปตั้งไฟให้เดือด (ถ้าเป็นยาแก้ไอแบบทวดผมทำจะยกหม้อน้ำมาตั้งให้เย็นแล้วใส่ว่านหางจรเข้ลงไปโดยไม่ต้มอีก)
3. แต่ถ้าไม่เน้นเป็นยามากเน้นป็นเครื่องดื่ม ก็จะนำว่านหางจรเข้ที่หั่นแล้วใส่ลงไปต้มจนเดือด 3. ตั้งไว้ให้เย็นหรือจะดื่มเลยทันทีก็ได้ (สมัยที่ทวดทำให้ยายดื่มเป็นยาแก้ไอทวดจะเอาไปตั้งตากน้ำค้างไว้ 1 คืน พอเช้าก็เอามาดื่มแก้ไอระคายคอ) ปัจจุบันแม่ผมนำไปแช่ตู้เย็นแล้วค่อยนำมาดื่มก็จะเย็นชื่นใจขึ้น
Create Date : 23 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 30 มีนาคม 2551 2:48:43 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1012 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Malee30 วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:18:46:07 น. |
|
|
|
โดย: J-Nap วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:18:57:36 น. |
|
|
|
โดย: zaesun วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:19:01:24 น. |
|
|
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:19:37:44 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:19:39:16 น. |
|
|
|
โดย: jaja IP: 203.158.160.29 วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:20:04:38 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:20:29:28 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:20:44:01 น. |
|
|
|
โดย: หยก (ลาวดวงเดือน ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:45:31 น. |
|
|
|
โดย: ต๊ะติงนอย IP: 61.7.142.152 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:48:03 น. |
|
|
|
โดย: korn555 IP: 58.136.68.121 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:20:51 น. |
|
|
|
โดย: พิ้งกี้ IP: 61.7.152.182 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:10:53:03 น. |
|
|
|
โดย: โอ IP: 118.172.229.234 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:6:47:49 น. |
|
|
|
โดย: คนสวย IP: 202.176.88.151 วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:56:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้ที่นี่อากาศเย็นๆ 2 คนพ่อลูก ไอคอก ไอแคก เลยค่ะ