บัวลอยงาดำ
บัวลอยงาดำเป็นของหวานของจีนที่ทานแล้วร่างกายอบอุ่น เพราะเป็นอาหารที่ทานกันในเทศกาลฤดูหนาว ( Dong Zhi ตง แปลว่ าหนาว จี้ แปลว่า มาถึง) ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองวันที่กลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี หรือวันเพ็ญเดือน 11 ของจีน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นฤดูหนาวที่เกษตรกรและชาวประมงจีนจะเตรียมอาหารเพื่อไว้ทานในฤดูหนาว
เทศกาล Dong Zhi จะเป็นเทศกาลที่สำคัญรองมาจากตรุษจีน ในเทศกาลนี้จะมีการทำอาหารเลี้ยงฉลองกันในครอบครัวเพื่อฉลองคืนอันยาวนาน โดยจะมีการทำขนมอี๋ (Tong yuen) ซึ่งก็คือบัวลอยของไทยนั่นแหละเป็นอาหารที่ใช้ทานในเทศกาลนี้
ยายผมเล่าให้ฟังว่าสมัยยายเด็กๆ ยายทวดผมจะนวดแป้งและปั้นแป้งไว้ล่วงหน้า 1 คืน พอตีห้าของวันเพ็ญเดือน 11 ของจีนยายทวดจะลุกขึ้นมาต้มขนมอี๋ไหว้ โดยขนมอี๋หรือบัวลอยนี่เป็นอาหารสำคัญในเทศกาลนี้ ขนมอี๋เป็นสัญญลักษณ์ของความสามัคคีเหนียวแน่นของครอบครัว ซึ่งทุกๆ คนในครอบครัวต้องทานขนมนี้จะได้รักกันคิดแต่สิ่งที่บวกๆ แก่ผู้อื่น อีกทั้งมีความเชื่อว่าถ้าได้ทานขนมอี๋ก็จะทำให้กลางคืนอันยาวนานของวันนี้ผ่านไป แล้วผู้ที่ทานก็จะเติบโตก้าวหน้าไป 1 ปี
แหมน่าเอาขนมอี๋ไปให้พวกกบฎ คมช พวกอิจฉาริษยาเค้าแบบ คตส ปีศาจคาบไปป์ เจิมสาก เจ็กลิ้มกบฎ พรรคแมงสาบกินบ้างนะ พวกเดนนรกพวกนี้จะได้รู้จักคิดบวกๆ มีความสุขยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นบ้าง ประเทศชาติจะได้ก้าวหน้า ไม่ต้องถอยหลังไปเป็นเพื่อนบ้านกับพม่าอย่างทุกวันนี้
สำหรับขนมอี๋หรือบัวลอยของจีนมีตั้งแต่แบบง่ายๆ คือ นำแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำร้อนให้เหนียวแล้วปั้นเป็นเม็ดกลมๆ ไปต้มให้ลอยในน้ำเชื่อม หรือแบบที่มีไส้สารพัดไส้ เช่น ไส้งาดำที่คนไทยรู้จักดี นอกจากนี้ยังมีไส้ถั่วลิสงผสมไข่แดงเค็มและงาดำ ไส้น้ำตาลทรายแดง โดยบัวลอยเหล่านี้จะทานกับน้ำเชื่อม น้ำขิงร้อนๆ น้ำใบแป๊ะก้วย น้ำเต้าหู้ นมอัลมอนด์
สำหรับวันนี้แม่ผมทำบัวลอยงาดำทานกับน้ำขิง และทานกับน้ำนมอัลมอนด์ ที่มี 2 น้ำ ไม่ใช่แม่ผมขยันหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่าน้ำขิงที่บ้านผมมีติดบ้านอยู่แล้ว เนื่องจากแม่บ้านบ้านผมต้มให้คุณตาทานทุกวันอยู่แล้ว ส่วนอัลมอนด์มิลด์นั้นแม่ทำเพราะแม่ผมชอบทานเนื่องจากแม่ติดใจจากการไปทานที่ร้านฟาร์มเฮาส์ที่ฮ่องกงมา
บัวลอยงาดำสูตรนี้จะหอมอร่อยกว่าตามร้านอาหารที่ใช้ขนมแช่แข็งเยอะ เพราะเนื้อแป้งบัวลอยแม่บ้านของผมนวดจนเหนียวนุ่ม อีกทั้งไส้งาดำบดก็หอมกลิ่นงาคั่วใหม่ๆ น้ำมันงาและน้ำมันหมู ซึ่งเดี๋ยวนี้บัวลอยงาดำที่ขายๆ ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะใช้เนยขาว หรือไม่ก็กะทิ ไม่ค่อยใช้น้ำมันหมูเป็นส่วนผสมเหมือนตำรับจีนดั้งเดิม จะมีที่ใช้น้ำมันหมูก็เฉพาะเชฟดังๆ ชาวจีน ตามภัตคารจีนที่มีชื่อเสียง
ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วย น้ำร้อนจัด(แต่ไม่ต้องเดือด) 1 ถ้วย
ส่วนผสมไส้งาดำ
- งาดำ 1 1/2 ถ้วย - น้ำตาลทรายบดละเอียด (ไอซิ่ง + น้ำตาลทรายแดง) 1 1/2 ถ้วย - น้ำมันหมูที่แช่เย็นจนแข็ง(เนยขาว) 1/2 ถ้วย - น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำขิง
ขิงแก่ฝานเป็นแว่น 7-10 แว่น น้ำเปล่า 4 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
วิธีทำ
- ล้างงาดำให้สะอาดโดยแช่น้ำคนๆ แล้วนำมาใส่กระชอนคนๆ ให้น้ำไหลผ่าน พักให้สะเด็ดน้ำ
- นำงามาแผ่ใส่ถาดนำไปใส่เตาอบไฟ 175 องศาซีนาน 30 นาที ถ้าไม่มีเตาอบขั้นตอนนี้ก็เอาไปตากให้แห้ง 1 แดด
- นำงาไปคั่วให้ได้กลิ่นหอม ถ้าอบมาแล้วคั่วประมาณ 1 นาที
- นำงาคั่วแล้วไปปั่นให้ละเอียด
- ใส่งาบดลงในชามผสมเติมน้ำตาลทรายบดละเอียด (น้ำตาลต้องละเอียดจริงๆ ถ้าขี้เกียจบดน้ำตาลเวลาเคี้ยวขนมไส้จะกรุบๆ น้ำตาล) คนงากับน้ำตาลให้เข้ากัน
- ใส่น้ำมันงา น้ำมันหมูที่แช่เย็นจนแข็งลงไปขยำจนงาหนึบๆพอปั้นได้
- ปั้นไส้งาดำเป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่าเหรียญบาท
ปั้นได้ครึ่งหนึ่งก็เอาไปแช่เย็นช่องแข็งไว้ให้งาดับจับตัวกับน้ำมันหมู ปั้นใส้ที่เหลือทั้งหมดเสร็จแล้วเอาไปแช่เย็นไว้
- ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำร้อน นวดให้เป็นก้อนไม่ติดภาชนะพอปั้นได้
- หยิบแป้งออกมาเป็นก้อนกลมๆ โดย 1 ก้อนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วกว่าๆ แผ่แป้งออกเป็นแผ่นกลมบางๆ วางไส้งาดำตรงกลาง
แล้วห่อไส้ให้มิด
เด็ดแป้งส่วนเกินออก
คลึงให้เป็นก้อนกลมในถาดที่โรยแป้งไว้
ต้มน้ำเดือด ใส่บัวลอยที่ปั้นไว้ลงในหม้อ เมื่อสุกแล้วแป้งจะลอยขึ้น
ตักขึ้นแช่น้ำเย็นไว้ เพื่อไม่ให้บัวลอยติดกัน
ต้มน้ำกับขิงให้เดือด เติมน้ำตาลทรายแดง คนให้ละลาย ชิมรสหวานตามชอบ ตักบัวลอยใส่ชาม เติมน้ำขิงร้อนๆแล้วเสิร์ฟทันที รสจะมีหวานหอมเผ็ดร้อนเหมาะกับผู้ใหญ่ที่ลิ้นชาทานของเผ็ดร้อนได้
ถ้าสำหรับเด็กๆ หรือฝรั่งเสริฟกับอัลมอนด์มิลค์เหมือนในภัตตาคารที่ฮ่องกงก็ได้ อันนี้จะมันมาก อ้วนมากกว่าเสริฟกับน้ำขิง
Create Date : 23 มิถุนายน 2550 |
|
13 comments |
Last Update : 23 มกราคม 2551 15:09:21 น. |
Counter : 3340 Pageviews. |
|
|
|