สีสัน "งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011" ไม่ใช่ "รถ" ไม่ใช่ "พริตตี้" แต่เป็นอะไรนั้น รีบคลิกเร็วพลัน!! สีสันที่ว่านี้ไม่ใช่ไม่ใช่ "รถหรู" และ "พริตตี้" หรืออะไรหรอก แต่มันคือเครื่อง "เสียงติดรถยนต์" นั่นเอง ในที่นี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเครื่องเสียงที่ว่า มีความพิเศษอย่างไร .. หลังจาก รถยนต์หลายๆ ค่ายในบ้านเรา นอกจากจะเน้นในเรื่องของสมรรถนะแล้ว ความบันเทิงก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เป็นจุดเด่นของรถตามมาด้วย โดยเฉพาะนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ได้อย่างลงตัว มากกว่านั้น ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสาร หรือระบบจอสัมผัส เช่นเดียวกับงาน "มอเตอร์เอ็กซ์โป 2011" ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 1 - 12 ธ.ค.นี้ ก็ได้นำเอาความสุดยอดของเครื่องเสียงที่ติดในรถยนต์มากระตุ้นต่อความอยาก โดยมีพื้นที่ของโซนเครื่องเสียงมากถึง 7.7 % ของพื้นที่จัดงานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลขนาดตลาดรวมของเครื่องเสียงติดรถยนต์ในปี 2554 ระบุว่า มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราคาต่อหน่วยอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท และมียอดขายต่อปี ประมาณ 600,000 หน่วย จากความก้าวหน้าของตลาดเครื่องเสียงในบ้านเรา "ธนาดร ผดุงถิ่น" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด M-Tech Audio ผู้แทนจำหน่ายเครื่องเสียงติดรถยนต์ ALPINE ในประเทศไทย กล่าวกับ "มติชนออนไลน์" ว่า ตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ในปัจจุบัน จะเน้นการพัฒนาไปในแง่ของคอมพิวเตอร์ค่อนข้างเยอะ กล่าวคือ ต้องสามารถต่อ ไอพอด ยูเอสบี บลูทูธ เนวิเกเตอร์ หรือดูยูทูปได้ และหลังๆ ก็เริ่มมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ จนสามารถเรียกได้ว่า เราใช้ชีวิตในที่ทำงานหรือในบ้านแบบไหน การใช้ชีวิตบนรถยนต์ก็แบบนั้น ส่วนกระแสในการติดเครื่องเสียงนั้น "ธนาดร" บอกว่า ส่วนใหญ่จะชอบในเรื่องของดิจิตอล เพราะพวกดิสต์ทั้งหลายมีน้อยลง ลูกค้านิยมใช้การเชื่อมต่อจากยูเอสบี ฮาร์ดดิสก์ หรือเครื่องเล่นบนมือถือมากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่วนเทรนด์นอกเหนือจากนี้ ก็คือ การเน้นไปที่จอแอลอีดี (LED)เพราะพวกนี้ให้ภาพชัด สีสวย เช่นเดียวกับคันที่นำมาแสดงในงานหลายๆ คัน ก็เน้นแบรนด์แอปเปิ้ล ที่ภายในคันจะประกอบไปด้วย ไอแพด 2 เครื่อง ไอพอดนาโน ด้านหน้าเป็นไอแม็กซ์ขนาด 27 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงชุดใหญ่ ที่ย่อส่วนมาอยู่ในรถยนต์ เพื่อต้องการสื่อให้เห็นถึง ความเป็นเอนเตอร์เทนเม้นท์ หรือสื่อดิจิตอลของแอปเปิ้ล ว่าสามารถเชื่อมต่อกับอัลพายได้อย่างสะดวก ส่วนบริเวณด้านของรถก็จะเชื่อมต่อกับไอพอดคลาสสิค หรือไอโฟน นอกจากนี้ ภายในรถ "ธนาดร" ยังบอกอีกว่า ด้านหน้าก็จะเน้นการฟังเพื่อความไพเราะ ส่วนด้านท้ายรถก็จะเน้นความบันเทิง นอกจากจะดูหนัง ฟังเพลงแล้ว ก็ยังสามารถใช้เล่นเกมได้อีกด้วย ถือว่าครบครันจริงๆ แม้กระทั่งสีของรถก็จะทำออกมาในโทนของแอปเปิ้ลด้วย ส่วนราคานั้น ค่อนข้างจะตกใจนิดหนึ่ง เพราะ "ธนาดร" บอกว่า ราคาทั้งหมดแพงกว่ารถโตโยต้า พรีอุส 1 คัน หรือมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท นี่ถือว่าเป็นตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นการพัฒนาเครื่องเสียงติดรถยนต์ในบ้านเรา ที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการจัดงานมหกรรมโชว์เครื่องเสียงติดรถยนต์ไปแล้ว ที่ตลาดจตุจักรปากช่อง หรือ Khaoyai Car Audio Show 2011 ขณะที่ ในโซนเครื่องเสียง ยังมีรถตัวอย่างให้ชมอีกมากมาย ที่คัดเอาความสุดยอดของเทคโนโลยีมาติดในรถยนต์ให้เห็นกัน นอกจากเครื่องเสียงติดรถยนต์ในงานดังกล่าวแล้ว ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งรถ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะฟิล์มกรองแสง ที่ลามิน่าได้จัดแคมเปญ บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อคิดรอบคันจะได้รับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และเจ้าอื่นๆ ที่ขนโปรโมชั่นมาเพื่องานนี้ครบครัน ถือได้ว่า งานนี้ หากเปิดเพลงจากรถยนต์ที่นำมาแสดงเต็มกำลัง สงสัยค่ายรถยนต์ที่นำรถมาแสดงจะต้องบ่นแน่ๆ ไม่ใช่เพราะผิดข้อหาอะไรหรอก แต่จะไปรบกวนสมาธิคนอื่นเขาเปล่าๆ ที่สำคัญเล่นเอา "พริตตี้" ที่ยืนประกบรถหรู หันมามายืนอวดโฉม ในบูทเครื่องเสียงติดรถยนต์แทน ... Create Date : 07 ธันวาคม 2554 Last Update : 7 ธันวาคม 2554 11:25:43 น. 0 comments Counter : 1084 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet