space
space
space
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
8 พฤศจิกายน 2555
space
space
space

ท้องผูก ใครคิดว่าไม่สำคัญ

ท้องผูกเป็นภาวะที่พบบ่อย ประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ของคนทั่วไปมักจะมีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งส่งผลรบกวนชีวิตประจำวันบางคนหงุดหงิดไม่สบายใจ บางคนแน่นท้อง ไม่สบายท้อง บางคนถึงกับนอนไม่หลับกระสับกระส่าย สมาธิการทำงานเสียไป ปัญหาท้องผูกมีผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างไรมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับโรคเรื้อรังอื่นๆ

จากการรวบรวมการศึกษาคุณภาพดี ๑๓ การศึกษา (๓ การศึกษาในเด็ก) พบว่า อาการท้องผูกเรื้อรังในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้คุณภาพชีวิต ทั้งด้านกาย ใจ สังคมลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพ่อแม่ของเด็ก มักจะให้คะแนนคุณภาพชีวิตด้านอารมณ์ และสังคมของเด็กต่ำกว่าที่เด็กให้คะแนนตัวเอง เพราะเด็กมักจะไม่คิดว่าท้องผูกเป็นปัญหาของตัวเอง

สำหรับผู้ใหญ่ อาการท้องผูกเรื้อรัง มีผลด้านจิตใจมากว่าร่างกาย เช่น มีผลต่ออารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย มากกว่าความรู้สึกไม่สบายท้อง เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณภาพชีวิตของผู้ที่ท้องผูกเรื้อรัง ลดลงพอๆ กับผู้ป่วยเบาหวาน เข่าเสื่อมเรื้อรัง โรคข้อรูมาตอยด์ และโรคภูมิแพ้เรื้อรัง
สรุปว่า ท้องผูกเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ท้องผูกเป็นประจำในหญิงวัยหมดประจำเดือนเพิ่มโอกาสโรคหัวใจและหลอดเลือด (Constipation and risk of cardiovascular disease among postmenopausal women. Salmorirago-Blotcher E.Am J Med 2011;124:714)
ท้องผูกเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากทั่วโลก โดยเฉพาะสังคมแบบชาวตะวันตก รวมทั้งสังคมไทย (เขตเมือง)

ที่สหรัฐอเมริกา ก่อน ค.ศ.๒๐๐๐ มีการประเมินว่าคนอเมริกันพบแพทย์ด้วยปัญหาท้องผูก ๒.๕ ล้านคนต่อปี และเพิ่มขึ้น ๒ เท่าใน ๑๐ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้หญิงและผู้สูงอายุ จะมีปัญหาท้องผูกเรื้อรังมาก

ประเทศไทย ยาแก้ท้องผูกเป็นยาที่ใช้มากที่สุดชนิดหนึ่งของคนไทยจากการศึกษาที่ผ่านมาบอกให้เรารู้ว่าท้องผูกมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่นท้องผูกเกี่ยวข้องกับการกินอาหารที่มีเส้นใย (ผัก ผลไม้) น้อยเกินไปขาดการออกกำลังกาย เพิ่มโอกาสเบาหวาน ดังนั้นอาการท้องผูกน่าจะเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

การศึกษาที่ชื่อว่า Women’s Health Initiative ในหญิงชาวอเมริกัน ๙ หมื่น ๓ พันกว่าคน ที่ไม่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดติดตามเป็นเวลาเฉลี่ย ๖.๙ ปีจากข้อมูลการขับถ่ายที่รายงานโดยผู้หญิงในโครงการ ๗ หมื่น ๓ พันกว่าคนพบว่า อาการท้องผูกพบร้อยละ ๓๔.๗ แบ่งเป็นอาการไม่มาก(ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน) ร้อยละ ๒๕.๗ อาการปานกลาง(รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง) ร้อยละ ๗.๔ และอาการรุนแรง(รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากถึงมากที่สุด) ร้อยละ ๑.๖

อาการท้องผูกจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุ (อายุยิ่งมาก โอกาสท้องผูกจะยิ่งมากขึ้น)ตามการสูบบุหรี่ เบาหวาน ไขมัน คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง อ้วนการออกกำลังกายน้อย กินอาหารที่มีเส้นใยน้อย ภาวะซึมเศร้าและประวัติครอบครัวที่เป็นหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจตาย

สำหรับอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือด (ได้แก่ อาการแน่นหน้าอกกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ อัมพฤษ์ อัมพาตการผ่าตัดต่อหลอดเลือดหรือใส่ขดลวดในหลอดเลือดและการตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ)

ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังปานกลางถึงรุนแรง เกิดโรคหรือภาวะดังกล่าว เฉลี่ยร้อยละ๑.๔๒ และ ๑.๙๑ ในเวลา ๑ ปี เมื่อเทียบกับหญิงที่ไม่มีอาการท้องผูกเกิดโรคดังกล่าวร้อยละ ๐.๙๖ หมายความว่าหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีอาการท้องผูกรุนแรงเป็นประจำเพิ่มโอกาสโรคหัวใจและหลอดเลือด ๒ เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีอาการท้องผูกแต่หลังจากปรับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่นแล้ว พบว่าหญิงที่มีอาการท้องผูกรุนแรงเท่านั้นที่เพิ่มโอกาสเกิดโรคหรือภาวะหลอดเลือดและหัวใจร้อยละ ๒๓ เมื่อเทียบกับหญิงที่ไม่มีอาการท้องผูก

สรุปว่า อาการท้องผูกเป็นตัวบ่งบอกพฤติกรรมเสี่ยง (เช่น กินเส้นใยอาหารน้อยกิจกรรมทางกายน้อย สูบบุหรี่) และปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด (เช่นความอ้วน เบาหวาน ภาวะซึมเศร้า) ขณะเดียวกันก็เป็นตัวช่วยบอกโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วยโดยเฉพาะผู้ที่มีอาการท้องผูกรุนแรงเป็นประจำ                                                                                                                                                                                                   
ทำอย่างไรดีถ้าท้องผูกเรื้อรัง
อันดับแรกคือ หาเหตุปัจจัยที่ทำให้เราท้องผูกตัวเรากินอาหารที่มีเส้นใยมากหรือไม่ ควรกินผักสดอย่างน้อย ๒ฝ่ามือต่อมื้อ (ผักสุก ๑ ฝ่ามือต่อมื้อ) ผลไม้ ๑๕ คำต่อวันธัญพืชได้กินบ้างหรือเปล่า

ยา หรืออาหารบางอย่างที่ทำให้ท้องผูก เช่น ยาแคลเซียมเม็ด ฝรั่ง ชา กาแฟ

นั่งๆนอนๆ ไม่ยอมขยับทั้งวันหรือเปล่า มีโอกาสเดินเร็ว ออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมงหรือยัง เครียด หงุดหงิด ซึมเศร้าทั้งวัน (ยิ่งเครียดลำไส้ยิ่งไม่ทำงาน ท้องยิ่งผูก)

ลงมือเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การอยู่ใช้ชีวิตให้มีคุณภาพมากขึ้น ด้วยการกินผัก ผลไม้ ธัญพืช เส้นใยอาหารกินมะขาม มะละกอ ลูกพรุน ซึ่งจะช่วยในการขับถ่าย ออกกำลังกายเป็นประจำอารมณ์เบิกบาน แจ่มใส คลายเครียด คลายกังวล

ถ้าอาการท้องผูกยังไม่ดีขึ้นหลังเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุท้องผูกเรื้อรังและแก้ไขต่อไปเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดโอกาสโรคหัวใจและหลอดเลือดในหญิงวัยหมดประจำเดือน                           ขอบคุณ   หมอ  ชาวบ้าน




 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555
0 comments
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 12:30:26 น.
Counter : 1641 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

tanas251235
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space