space
space
space
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
space
space
8 เมษายน 2551
space
space
space

คุณเป็นพ่อแม่ประเภทใด

คุณเป็นพ่อแม่ประเภทใด
รหัส H2200-0601-04

สิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดูลูกตลอดจนทัศนคติของ พ่อแม่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อพัฒนา การของลูกมาก ฉะนั้นการที่เด็กจะเติบโตขึ้นมีบุคลิกภาพเช่นใดนั้น นอกจากพันธุกรรมแล้ว การอบรมอย่างเลี้ยงดูเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก เด็กถูกเลี้ยงดูมาอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำให้เขามีบุคลิกภาพที่ดีมีการปรับตัวต่อปัญหาต่าง ๆได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้เขามีบุคลิกภาพที่ดีมีการปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ มีอารมณ์ที่มั่นคง แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเด็กถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสมก็ทำให้เด็กมีพัฒนาการ และบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม จะเป็นปัญหาต่อการปรับตัว และเป็นผลทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตได้ง่าย

การที่พ่อแม่จะอบรมเลี้ยงดูอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพอารมณ์ของพ่อแม่ ความสัมพันธ์ในชีวิตสมรสของพ่อแม่ ลักษณะเฉพาะของลูกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครอบครัวนั้น ๆประสบการณ์ที่พ่อแม่ได้รับการอบรมเลี้ยงดู และการเลี้ยงดูลูกคนแรกด้วยปัจจัยดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาทางบุคลิกภาพไม่เหมือนกัน เนื่องจากสาเหตุดังกล่าว






ฉะนั้น วิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้องของพ่อแม่ เป็นปัจจัยอันหนึ่งที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม ท่านคิดว่าตัวท่านเองเป็นพ่อแม่ประเภทใด ก็อย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลใจ

1. ประเภทรักมากและปกป้องมากเกินไป คือการให้ ความรักแก่ลูกมาก ทนุถนอมมากเกินไปปฏิบัติตัวเหมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ ทั้งที่ลูกก็โตแล้ว พ่อแม่ก็นั่งประคบประหงมเหมือนไข่ในหิน ไม่ยอมให้ห่างสายตา ไม่ยอมให้ทำอะไรเลย เพราะกลัวจะเป็นอันตราย ลูกไม่ต้องคิดหรือ ตัดสินใจทำอะไรเลยพ่อแม่จะเป็นคนจัดการให้หมด การเลี้ยงดูลูกแบบนี้ ทำให้ทักษะในการช่วยเหลือตัวเองช้า การที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ ที่มีความมั่นใจในตัวเองมีน้อยมาก เพราะไม่เคยตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเลย ทำให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนเด็กคือเลี้ยงเท่าไรก็ไม่รู้จักโต

2.ประเภทที่ไม่ต้องการลูก พ่อแม่ที่มีทัศนคติแบบนี้ก็จะไม่รักลูก และพาลเกลียดลูกซึ่งอาจเนื่องมาจากการมีลูกทำให้พ่อแม่ ต้องลำบากยิ่งขึ้นอีก หรือขณะแม่ตั้งครรภ์มีอาการไม่สบายมากทำงานไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าลูกคนนี้นำความทุกข์มาให้ อาจจะเกิดตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ หรือภายหลังคลอดลูกแล้วก็
ได้ พ่อแม่ก็ซักทอดว่าเป็นเพราะ ลูกคนนี้ทำให้ครอบครัวลำบาก นอกจากนี้พ่อหรือแม่อาจจะเกลียดลูกซึ่งตนโทษว่าเป็นเหตุให้แม่ หรือพ่อบังเอิญมาตายระหว่างตั้งครรภ์ หรือการคลอดลูกคนนั้นพ่อแม่ที่มีความรู้สึกเช่นนี้ ก็จะปฏิบัติกับลูกด้วยความรุนแรง ทั้งวาจา พฤติกรรม และสีหน้า และไม่สนใจลูกทำให้ลูกพัฒนาไปเป็นเด็กที่กระด้าง ก้าวร้าว ชอบทะเลาะวิวาท หงุดหงิด และมีลักษณะต่อต้านสังคม อาจเกิดปัญหาสุขภาพจิต ติดยาเสพติด ติดเหล้า ติดการพนัน ลักขโมยเป็นต้น

3. ประเภทตามใจมากจนไม่มีขอบเขต พ่อแม่มักจะตามใจลูกทุกอย่าง โดยเฉพาะทางวัสดุ ลูกจะได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการเท่าที่ฐานะทางเศรษฐกิจ ของพ่อแม่จะอำนวย และไม่รู้จักอบรมลูกว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูก อะไรควรอะไรไม่ควรปฏิบัติ ปล่อยให้ลูกทำตามใจตัวเองตามความพอใจ ผลเสียก็คือเมื่อลูกออกสู่สังคมนอกบ้าน ก็จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ยาก ทำให้เกิดปัญหาในการปรับตัว เอาแต่ใจตัวเองและขาดความอดทน มีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นที่ไม่ราบรื่น เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาอื่น ๆตามมาอีกมากมาย

4. ประเภทวิตกกังวลหวาดกลัวมากเกินกว่าเหตุ พ่อแม่มักจะตีตนไปก่อนไข้แสดงความวิตกกังวลในตัวลูกมากเกินกว่าเหตุ เช่น กลัวว่าลูกจะได้รับอุบัติเหตุ ลูกจะถูกหลอกไป ไม่ค่อยยอมให้ออกไปเที่ยวข้างนอกกลัวโดนแดดหรือกร่ำฝนจะไม่สบาย เวลาลูกไม่สบายเจ็บป่วยเพียงน้อยก็แสดงความวิตกกังวลมากย้ำถามย้ำปฏิบัติ การเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้ลูกเติบโต เป็นเด็กที่มีความวิตกกังวลหวาดกลัว ห่วงใยในเหตุการณ์ต่าง ๆจนไม่มีความสุข และขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง

5. ประเภทเจ้าระเบียบจัด พ่อแม่แบบนี้จะเป็นคนระเบียบจัดต้องการให้ทุกอย่างเรียบร้อย เป็นระเบียบถูกต้อง ทุกอย่างไม่รู้จักผ่อนปรนให้ ต้องคอยชี้แจง ซ้ำซากตลอดเวลา ถ้าลูกทำไม่ได้ดังใจก็จะโกรธ และตำหนิรุนแรง และคอยจุกจิก จู้จี้กับลูก แม้ในเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆ การเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้เด็กพัฒนา ไปเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง และมีปมด้อย เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี ไม่มีความสามารถ เพราะทำอะไรไม่เคยถูกใจพ่อแม่เลย


จะเห็นว่าการเลี้ยงลูกประเภทดังกล่าวทั้ง 5 แบบนี้ ทำให้การพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กเป็นไปในทางที่ไม่เหมาะสม ฉะนั้น พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการอบรมเลี้ยงดู ลูกที่จะทำให้เกิดผลเสียดังกล่าว แต่ควรปฏิบัติเลี้ยงดูโดยทางสายกลางเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป ควรอบรมเลี้ยงดูลูกให้เหมาะสมกับความสามารถและวัยของเด็ก ไม่ควรใช้อารมณ์ แต่ควรอบรมสั่งสอนลูกอย่างมีเหตุผลมีวินัยที่ดีแต่ต้องไม่เข้มงวดจนเกินไป และไม่ควรตามใจเด็กเกินไป หรือปล่อยปละละเลยจนเกินไป ควรให้ความรักอย่างเหมาะสมและมีเหตุผล ไม่ใช่รักมากอย่างไม่มีขอบเขต ตลอดจนพ่อแม่ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กได้เลียนแบบ ความผาสุกในชีวิตแต่งงานของพ่อแม่ การปฏิบัติต่อกันของพ่อแม่ด้วยความรัก ความเข้าใจเห็นอกเห็นใจกัน จะทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น มั่นคง อันจะเป็นรากฐานของการที่เด็กจะเจริญเติบโตมาด้วยความผาสุข และความพอใจอันจะมีผลดีทั้งต่อตัวเด็กเอง และสังคมต่อไปในอนาคต

ข้อมูลจาก ramaclinic.com




 

Create Date : 08 เมษายน 2551
1 comments
Last Update : 7 ตุลาคม 2551 17:16:50 น.
Counter : 1465 Pageviews.

 

ลดน้ำหนัก 3-5 kg. ใน 1 เดือน ปลอดภัย ได้ผล (ไม่ใช่ยา)
- ควบคุมน้ำหนัก 3-5 kg. ใน 1 เดือน ( ไม่กลับมาอ้วนอีก )
- ลดต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และสะโพก
- ไม่ใช่ยา เป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ
- ป้องกันโรคต่างๆ เช่นเบาหวาน และอื่นๆ
- ปลอดภัยควบคุมโดย อย. ไม่มีผลข้างเคียง ( รับประกันคืนเงิน )
- เผาผลาญไขมัน สลายไขมัน
- ระบบขับถ่ายไม่ดีจึงมีผลต่อระบบการเผาผลาญไขมัน
สนใจเชิญชมเว็บไซค์...www.hp-fullbody.com…ขอบคุณมากครับที่สละเวลาเยี่ยมชมครับ

 

โดย: nattawut IP: 125.24.40.210 12 เมษายน 2551 11:44:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

tanas251235
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space