กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้หญิง เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ หากรักษาสุขอนามัยให้ดี
ดังคุณยายวัยกว่า 70 ปี มาหาหมอด้วยอาการถ่ายปัสสาวะแสบ ขัด ขุ่น พอซักประวัติได้ความว่าคุณยายเป็นขาไพ่ มีขาครบ 4 คนทีไรเป็นตั้งวงไพ่นั่งเพลินไม่ยอมลุกไปไหนแม้จะปวดฉี่ ก็อั้นปัสสาวะไว้ พอนานไปหน่อยเลยฉี่ขัด
อันที่จริงหมอเป็นคนคัดค้านอบายมุขทั้งปวง แต่คุณยายรายนี้เป็นผู้สูงอายุอยู่บ้านว่างๆ จึงเหงา ชักชวนเพื่อนบ้านตั้งวงเป็นประจำ หากไม่มีกิจกรรมเสียบ้าง สมองเสื่อมไว การเล่นไพ่ช่วยให้ได้ใช้สมองเพื่อคิดเลขบ้าง พอช่วยประทังสมองให้เสื่อมช้าลง จะให้ทำกิจกรรมอื่นก็ไม่รู้จะทำอะไร คุณยายเล่นตาละบาท สองบาท พออนุโลมได้แต่ก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี
อย่างไรเสียคุณยายก็ไม่ควรเพลิน อั้นฉี่นานจนกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่วนสาวๆ ที่เป็นโรคนี้มักเกิดจากฉี่ไม่ออกถ้าห้องน้ำไม่สะอาด หรือไม่ก็ทำงานเพลินไม่อยากเดินไปเข้าห้องน้ำ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อโรคซึ่งส่วนใหญ่มาจากบริเวณช่องคลอดและทวารหนัก รุกล้ำเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ เหตุเพราะผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย เชื้อโรคจึงเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า และจึงเป็นโรคนี้กันมากกว่าผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากขึ้นในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมักมีต่อมลูกหมากโต ถ่ายปัสสาวะขัดลำกล้องร่วมด้วย
อาการ
. ถ่ายปัสสาวะครั้งละน้อยๆ และบ่อยๆ . แสบขัดบริเวณท่อปัสสาวะขณะถ่ายปัสสาวะ . ปัสสาวะขุ่น อาจมีเลือดปน และมีกลิ่นเหม็น . ปวดบริเวณท้องน้อย และส่วนล่างของหลัง . อาจมีไข้หนาวสั่น แต่พบได้น้อยมาก
ภาวะแทรกซ้อน
การอักเสบลุกลามขึ้นไปที่ไต ทำให้กรวยไตอักเสบ มักมีอาการเฉียบพลันภายใน 2-3 ชั่วโมง ดังนี้
o ไข้สูง หนาวสั่น o คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย o ปวดหลังบริเวณใต้ชายโครง
สาเหตุ
เชื้อโรคเข้าไปในท่อปัสสาวะ ในผู้หญิงเกิดจาก
o ทำความสะอาดหลังถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะจากด้านหลังมาหน้า ทำให้เชื้อโรค (ซึ่งมีมากมายในอุจจาระ) จากทวารหนักและช่องคลอดเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้โดยง่าย o การมีเพศสัมพันธ์โดยอวัยวะเพศหญิงสัมผัสกับมือหรืออวัยวะเพศชายที่ไม่สะอาด o การใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดด้วยมือที่ไม่สะอาด o การคุมกำเนิดโดยใช้สารฆ่า sperm อย่างไม่ถูกสุขอนามัย
. การตีบตันของท่อปัสสาวะจากต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก ทำให้น้ำปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี . หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายตีบ . ความอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศจากการสวมกางเกงคับ ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี . การสอดท่อสวนปัสสาวะหรือเครื่องมือแพทย์เข้าไปในท่อปัสสาวะ และทิ้งไว้นานจนติดเชื้อ
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
. ผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ภูมิคุ้มกันลดลงมากแล้ว . ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก . ต่อมลูกหมากอักเสบ . หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายตีบ . การตั้งครรภ์
ข้อควรปฏิบัติ
. พบแพทย์เพื่อรับการรักษา . ไม่กลั้นปัสสาวะ . ถ่ายปัสสาวะทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ . ดื่มน้ำในปริมาณมากเพื่อให้ถ่ายปัสสาวะบ่อย เป็นการชะล้างเชื้อโรคออกไปจากกระเพาะปัสสาวะ . ดื่มน้ำผสม โซเดียม ไบคาร์บอเนตครั้งละ 1 ช้อนชา เพื่อลดความเป็นกรดของปัสสาวะ เป็นการลดอาการระคายเคืองของกระเพาะปัสสาวะ . กินยาแก้ปวด
การรักษาโดยแพทย์
. ตรวจปัสสาวะเพื่อวินิจฉัยโรค . แยกโรคอื่นที่มีอาการคล้ายคลึงกันออกไป เช่น เบาหวาน นิ่วในทางเดินปัสสาวะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ . ให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม . หาโรคที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ โดยเฉพาะในผู้ชายเพื่อรักษาต้นเหตุ เช่น ต่อมลูกหมากโต
การป้องกัน
. รักษาความสะอาดร่างกาย อาบน้ำทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยสบู่อ่อน . ทำความสะอาดหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้งโดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง . ดื่มน้ำปริมาณมาก ประมาณวันละ 8-10 แก้ว . ไม่กลั้นปัสสาวะ เพราะปัสสาวะที่ค้างในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานานเป็นแหล่งเพาะเชื้ออย่างดี . ในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ ควรถ่ายปัสสาวะทุกครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์เพื่อชะล้างเชื้อโรคที่อาจเข้าไปในท่อปัสสาวะออกไป . ทำความสะอาดมือและอวัยวะเพศทุกครั้งทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ . เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้น เพราะเลือดเป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดี . ใช้ชุดชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้าย และไม่คับจนเกินไปเพื่อป้องกันความอับชื้น
ข้อมูลจาก teenee.com
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2552 7:15:12 น. |
Counter : 1475 Pageviews. |
|
|
|