โรคอุจจาระร่วง หมายถึงการถ่ายอุจจาระเหลวจำนวน 3 ครั้งต่อวันหรือมากกว่า หรือถ่ายมีมูก หรือมูกปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 1 ครั้งขึ้นไปภายใน 1 วัน (เด็กแรกเกิด ที่กินนมแม่อาจถ่ายอุจจาระนิ่มเหลวไม่มีมูกปนเลือดหรือกลิ่นเหม็น โดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน หรือเป็นไข้ถือว่าปกติ)
สาเหตุ อุจจาระร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อมีสาเหตุ จากการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มไม่สะอาด การไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนการเตรียมหรือปรุงอาหาร และภาชนะสกปรกหรือมีเชื้อ โรคปะปน
อันตรายจากโรคอุจจาระร่วง อุจจาระร่วงทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ไปพร้อมกับอุจจาระจำนวนมาก จนอาจทำให้ช็อกหมดสติและถึงแก่ความตายได้โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการอุจจาระร่วงที่บ้าน 1. กินหรือดื่มของเหลวมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และเกลือแร่ ได้แก่ สารละลายน้ำตาล เกลือแร่ โออาร์เอส น้ำแกงจืด หรือน้ำข้าวใส่เกลือ 2. รับประทานอาหารเพื่อป้องกันการขาดสารอาหารดังนี้ o เด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่ ให้ลูกดูดนมแม่มากขึ้น o เด็กที่กินนมผสม ให้ผสมนมตามปกติแล้วให้กินครึ่งหนึ่งสลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส อีกครั้งหนึ่ง ปริมาณเท่ากับนมที่เคยกินตามปกติ o เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ให้อาหารเหลวที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ปลาต้ม เนื้อสัตว์ต้มเปื่อยเป็นต้น o ผู้ใหญ่ รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย 3. พาผู้ป่วยมาพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น ดังนี้ o ยังคงถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก o อาเจียนบ่อย o กินอาหาร หรือดื่มน้ำไม่ได้ o มีไข้ o กระหายน้ำมากกว่าปกติ o อ่อนเพลียมาก ตาลึกโหล o ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด
วิธีป้องกันโรคอุจจาระร่วงด้วยตัวเอง o ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งก่อนปรุง หรือรับประทานอาหารและภายหลังถ่ายอุจจาระ o ดื่มน้ำสะอาด ถ้าเป็นน้ำต้มสุกจะดีที่สุดและเลือกซื้อน้ำแข็งที่ถูกหลักอนามัย oเลือกรับประทานอาหารที่สะอาดสุกใหม่ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารที่สุกๆ ดิบๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอม หากจะเก็บอาหารที่เหลือจากการรับประทานหรืออาหารสำเร็จรูปที่ชื้อไว้ ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและอุ่นให้เดือดทั่วถึงทุกครั้งก่อนรับประทานl ผักหรือผลไม้ ก่อนรับประทานให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง o ส่งเสริมให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้เด็กมีภูมิต้านทานโรค o ขวดนมล้างให้สะอาด และต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที o กำจัดขยะมูลฝอย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวัน เช่น อุจจาระเด็กกำจัดหรือทิ้งในโถส้วมหรือกลบให้มิดชิด o ถ่ายอุจจาระในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ
ดื่มน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส ช่วยป้องกันและรักษาอาการขาดน้ำได้ o วิธีผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่โออาร์เอส - ผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส 1 ซอง ในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว (240 ซีซี) -ถ้าไม่มีอาจเตรียมได้เอง โดยใช้เกลือแกงครึ่งช้อนชา และน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำต้มสุก 1 ขวดน้ำปลากลม (750 ซีซี) -หากผสมมาแล้วกินไม่หมดภายใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) ให้เททิ้งและผสมใหม่
oวิธีดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส ในแต่ละครั้งที่ถ่ายอุจจาระ - เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ให้ดื่มครั้งละ 1-4 - 1-2 แก้ว ควรใช้ช้อนตัก ป้อนบ่อยๆ 1 ช้อนชา ทุก 1-2 นาที เพื่อให้ย่อยและดูดซึมได้ทัน - เด็กอายุมากกว่า 2 ขวบ - 10 ขวบให้ดื่มครั้งละ 1-2 - 1 แก้วโดยให้จิบจากแก้วน้ำบ่อยๆ ไม่ควรให้เด็กดูดจากขวดนม เพราะเด็กกระหายน้ำจะดูดอย่างรวดเร็วจนได้รับสารน้ำปริมาณมากในครั้งเดียว จะทำให้เกิดอาการอาเจียนหรือดูดซึมไม่ทัน ทำให้ถ่ายมากขึ้น - ถ้าอาเจียนให้หยุดพักก่อนสัก 10 นาที แล้วค่อยป้อนใหม่ช้าๆ - อายุตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไป ให้ดื่มครั้งละ 1 แก้วขึ้นไป โดยดื่มทีละน้อยๆ แต่บ่อยๆ
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้ยา อุจจาระร่วงส่วนใหญ่จะหายได้เอง ถ้าให้การป้องกันและรักษาภาวะการขาดน้ำ และให้อาหารที่เหมาะสม การกินยาหยุดถ่ายหรือยาแก้ท้องเสียทำให้ลำไส้ต้องเก็บกักเชื้อโรคไว้นานขึ้น นอกจากนั้นการใช้ยาหยุดถ่ายเกินขนาดในเด็กเล็ก อาจเกิดภาวะพิษได้ซึ่งเป็นอันตรายมาก การกินยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ยาหรือดื้อยาได้ การใช้ยาควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาใดๆ
ขอขอบคุณ doctor.or.th
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2552 7:20:14 น. |
Counter : 1021 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีนะคะ