Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Norwegian Wood : ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย



ผมนั่งคนเดียวบนม้าหินอ่อนหลังบ้าน ซดกาแฟดำแก้วที่สามพร้อมทั้งปัดมดแดงที่หล่นจากต้นไม้มาเกาะบนแก้มให้กระเด็นไปบนพื้น หยิบหนังสือขึ้นมาอีกครั้ง...เปิดไปยังบทสุดท้าย

ผมหลับตา จินตนาการถึงชะตากรรมของตัวละครในเรื่อง จินตนาการถึงเสียงกีตาร์เศร้าสร้อย ความตายของตัวละคร คิดถึงฉากเซ็กส์ที่ทั้งน่าขันและน่าเศร้า กลิ่นทุ่งหญ้าในฤดูร้อนโชยจากหน้ากระดาษออกมาแตะจมูก หากไม่เผลอลืมตาเสียก่อนเพื่อจะพบว่าที่ๆตัวเองนั่งอยู่ไม่มีทุ่งหญ้าใดๆ มีเพียงผมนั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นมะม่วง พร้อมกับกาแฟที่เย็นชืดวางอยู่บนม้าหินอ่อน

ผมย้อนกลับไปอ่านบทนำใหม่อีกครั้ง จากครั้งแรกที่อ่านในตอนต้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเท่าไหร่ แต่หลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบลง บทแรกของหนังสือนี่แหละที่ทำให้ผู้อ่านอย่างเราๆหัวใจสลายเอาง่ายๆ
.
.
.

รู้สึกดีกับตัวเองมากที่ในที่สุดก็สามารถอ่านงานของมราคามิเล่มแรกจบจนได้ หลังจากเคยประสบความล้มเหลวสุดขีดกับการอ่าน “แกะรอยแกะดาว” ซึ่งพาลให้ตัวเองเป็นโรคกลัวมูราคามิไปเลย (และพร้อมที่สรรเสริญนักเขียนท่านนี้ให้คนอื่นฟังทุกครั้งที่มีโอกาส) จนกระทั่งมีคนแนะนำมาว่าลองอ่าน Norwegian wood ดู เล่มนี้น่าจะงงน้อยกว่าเล่มอื่นๆ และตัวละครมันก็ไม่หลุดโลกจนเกินไป

จะว่าเล่มนี้อ่านง่ายกว่าก็ไม่เชิงซะทีเดียว สิ่งที่ทำให้ผมเคยขยาดมูราคามิก็ยังมีอยู่ใน Norwegian wood อย่างครบครัน สำนวนภาษาที่อึดอัด บทบรรยายที่บางครั้งแน่นเอี้ยดจนรู้สึกหายใจติดขัดหากอ่านติดต่อกันนานๆ แต่ผมชอบตัวละครในเรื่องนี้ ชอบการกระทำ การตัดสินใจของตัวละคร รู้สึกต่อติดกับมันเป็นพิเศษ และนั่นช่วยให้ผมอ่านมันจนจบตลอดรอดฝั่ง

ถามว่าประทับใจรึเปล่า คงตอบได้ว่าประทับใจมากกว่าที่คิดไว้เยอะ โดยปกติแล้วหากเป็นนิยายเรื่องอื่น ผมคงเชียร์ให้ตัวละครบางตัวเอาปืนกรอกปากระเบิดหัวตัวเองตายซะตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง แต่อย่างที่บอกไป ผมชอบตัวละครในเรื่องนี้ ผมชอบที่ได้เห็นพวกเขาแหวกว่ายอยู่ในทะเลแห่งความเศร้า ชอบที่ได้เห็นพวกเขาดิ้นรนทรมานหวานปนสุข อ่านไปก็ภาวนาไปว่าอย่าเพิ่งตายเร็วๆเลยนะ ช่วยทรมานต่อไปอีกสักพักนึงเถอะ...ฉันกำลังสนุก

แม้ตอนจบมันอาจจะไม่มืดหม่นเหมือนอย่างที่คาดเดาไว้เล่นๆ(ไม่ทราบเหมือนกันว่าเล่มอื่นๆจะจบอารมณ์ประมาณนี้รึเปล่า) แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าชื่อภาษาไทยของมัน “ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย”นั้น เป็นชื่อที่เหมาะสมและไม่โอ้อวดเกินจริงเลยสักนิด

ลองนึกเล่นๆหลังจากอ่านจบ ตัวละครที่ตายไปอาจจะเป็นคนโชคดีแล้วก็ได้ที่สามารถปลดปล่อยตัวเองออกจากวงจรนั้นได้เสียที คนที่ยังอยู่ซะอีกที่ต้องใช้ชีวิตกันต่อ บางคนทิ้งมันไว้ข้างหลัง บางคนวิ่งหนีมันพร้อมทั้งแกล้งลืมว่าที่จริงแล้วมันยังติดตามอยู่ไม่หนีหายไปไหน บางคนใช้ชีวิตอยู่กับมันได้อย่างไม่เดือดร้อนแต่ก็ปล่อยให้ตัวเองถูกมันกัดกร่อนไปอย่างช้าๆ ก็ไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่หรือคนที่ตายใครจะโชคดีกว่ากัน...

รู้สึกดีกับมูราคามิขึ้นเยอะ (จากที่เมื่อก่อนเคยจัดให้ตัวเองอยู่ในกลุ่ม “คนเกลียดมูราคามิ”) วันนี้แม้จะเพิ่งอ่านจบไปหนึ่งเล่มแต่ก็เกิดแรงจูงใจที่จะหยิบ แกะรอยแกะดาว ขึ้นมาพยายามอ่านอีกรอบ...และหวังว่าเราคงไปกันได้ดีกว่าครั้งแรก.



Create Date : 29 ตุลาคม 2551
Last Update : 29 ตุลาคม 2551 10:43:18 น. 6 comments
Counter : 3281 Pageviews.

 
อ่านนานมากแล้ว จำรายละอียดไม่ค่อยได้ จำได้แต่ความรู้สึกตอนที่อ่านจบว่า ... โลกเรามันช่าง. วับซ้อนจังเลยเนอะ ... ประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ

รู้สึกว่าโลกในเรื่องมันต่างจากเราที่เป็นอยู่ตอนนี้มากๆเลยอ่ะ
ส่วนเล่มอื่นของ Murakami ซื้อม่าแต่ต้องบอกว่า - ไม่กล้า- อ่านค่ะ

อ่านเล่มแรก hear the wind sings ชื่อนี้รึเปล่านะ ไม่แน่ใจ เล่มเล็กๆอ่ะค่ะ ไปเล่มเดียว ที่เหลือ ยังเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ค่ะ รอความพร้อมของตัวเอง


โดย: blueschizont วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:21:02:19 น.  

 
555

เรายังไม่ได้อ่านอ่ะ

ไว้ได้ฤกษ์คงได้อ่านเอง

แต่อยากอ่านเล่มนั้นเป็นแล่มแรก คือเอ...จำชื่อไมได้ ทีเรื่องมันเกี่ยวกับรักสามเศร้า ผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงอีกคนที่อยากเป็นนักเขียนแต่ไม่รู้จะเขียนอย่างไร แต่ผู้หญิงคนนั้นไปรักผู้อหญิงอีกคน ประมาณนั้นอ่ะ



โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:22:25:15 น.  

 
อ่านไปก็ภาวนาไปว่าอย่าเพิ่งตายเร็วๆเลยนะ ช่วยทรมานต่อไปอีกสักพักนึงเถอะ...ฉันกำลังสนุก
^
^
โหดอ้ะ


เป็นเล่มที่ชอบที่สุดของลุงหมูค่ะ สำหรับเรา


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:16:02:58 น.  

 
ดองมูราคามิไว้หลายเล่มค่ะ เพราะเคยจัดตัวเองไว้อยู่ฝั่ง"คนไม่อ่านมูราคามิ" แหะ ๆ แต่อ่านรีวิวบล็อกนี้แล้วมีกำลังใจขึ้นมานิดนึง
เดี๋ยวจะค่อย ๆ "แกะรอย" มูราคามิทีละเล่ม ได้เรื่องยังไงจะนำมารีวิวลงบล็อกละกัน อิอิ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:15:54:50 น.  

 
ของ Murakami เราก็เพิ่งอ่านเล่มนี้ไปเล่มเดียวเหมือนกันค่ะ พูดไม่ได้เต็มปากนะว่าชอบ แต่เป็นเล่มที่ติดค้างในความรู้สึกอยู่นานมากๆค่ะ


โดย: azzurrini วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:59:44 น.  

 
บางครั้งความตายก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีสำหรับตัวเอง แต่อย่างว่าคนที่ฆ่าตัวตายนั้น คือคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด เพราะเขาคิดถึงแต่ตัวเอง แต่ไม่คิดว่าคนที่อยู่รอบตัวเสียใจมากแค่ไหน



โดย: YoiChi_KunG วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:22:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yatiko
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add yatiko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.