|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
Capturing the Friedman : แด่ครอบครัวที่ล่มสลาย
ความจริง ที่หนังสารคดีนำเสนอ อาจเป็นความจริงแค่ด้านเดียวผ่านมุมมองของคนแค่คนเดียวและหลายครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันผ่านการปรุงแต่งและเลือกสรรมาอย่างดีแล้วก่อนที่จะนำมาบอกกล่าวเล่าขานบนจอให้พวกเรารับรู้
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยอมรับว่าทุกๆครั้งที่ได้ดูสารคดี อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวไปกับภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน ตัวอย่างเช่น ภาพของน้ำแข็งที่ขั้วโลกกำลังละลายในสารคดีโลกร้อนของอัล กอร์ อาจจะดูไม่น่าตื่นตาตื่นใจเมื่อเทียบกับภาพนิวยอร์คโดนถล่มใน the day after tomorrow แต่มันกลับกระทบความรู้สึกได้มากกว่า เพราะเรารู้ว่าภาพที่เห็นนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนผืนโลก
Capturing the Friedman เป็นสารคดีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะนึกถึงเป็นเรื่องแรกๆ กับเรื่องราวที่ว่าด้วยครอบครัวๆหนึ่ง ที่ผู้เป็นพ่อซึ่งมีอาชีพครู ถูกจับดำเนินคดีข้อหากระทำชำเราเด็กนักเรียนชายที่เป็นลูกศิษย์จำนวนหลายสิบคน โดยมีลูกชายคนโตของตนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
หนังได้วัตถุดิบชั้นดีในการนำเสนอเป็น home video ที่มาจากครอบครัว Friedman เป็นคนถ่ายและอนุญาตให้นำมาเผยแพร่ อารมณ์ในหนังจึงรู้สึกสมจริงเสมือนว่าเราเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวนั้น ได้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ตั้งแต่พวกเขายังมีชีวิตที่เป็นปกติ โดนจับกุม ขึ้นศาล และถูกตัดสินจำคุกไปในตอนท้าย หากจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ สารคดีเรื่องนี้จะพาเราไปดูความเป็นไปของครอบครัวfriedmanตั้งแต่เริ่มแรกที่พวกเขายังเป็นปรกติสุข จนกระทั่งตอนท้ายที่ครอบครัวนี้ประสบกับข้อกล่าวหาร้ายแรง ได้เห็นพวกเขาหาทางแก้ปัญหาด้วยกัน กระทั่งหมดสิ้นหนทาง นำพาไปสู่ความขัดแย้งกันเอง และสิ่งที่เคยเรียกว่าครอบครัวก็แตกสลายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
อาจจะเป็นเรื่องง่ายที่เราจะเรียกชายผู้พ่อของครอบครัว Friedman ว่าเป็นไอ้แก่วิปริตร(และดูเหมือนสังคมจะตัดสินพวกเขาเช่นนั้นไปเรียบร้อยแล้ว) แต่อย่าลืมว่าบางครั้งปีศาจก็มีหัวใจ และไม่มีใครเลวได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างน้อยที่สุดเขาก็เป็นฮีโร่ของลูกๆ และเป็นพ่อที่ดีของครอบครัว
ฉากที่สะเทือนใจที่สุดในหนังคือฉากที่ทุกคนนั่งล้อมวงอยู่บนโต๊ะทานข้าว ปรึกษาหารือกันเรื่องการต่อสู้คดีความอย่างจนตรอก เราได้เห็นการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน (โดนเฉพาะผู้เป็นแม่ ซึ่งขัดแย้งกับพ่อและลูกชายอย่างรุนแรงเพราะรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้อย่างสุดๆ) สรรหาถ้อยคำเพื่อมาสร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่าย ทำให้เราแทบลืมกันไปเลยว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพวกเขาเคยเป็นครอบครัวธรรมดาๆครอบครัวหนึ่งที่รักกันและดูมีความสุขแค่ไหน การที่ได้เห็นคนที่ครั้งหนึ่งเคยรักกันหยิบมีดขึ้นมาเชือดเฉือนซึ่งกันและกัน มันเป็นภาพที่ยากจะบรรยาย
สำหรับผมแล้ว คิดว่าสารคดีเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนออย่างเป็นกลาง(ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก) เพราะดูแล้วผู้กำกับดูจะเอนเอียงมาด้านครอบครัว Friedman อยู่มากทีเดียว คดีนี้กลายเป็นที่กล่าวขานกันว่ามีการสรุปคดีที่เร็วเกินไป และหลักฐานที่กล่าวหาครอบครัว Friedman นั้นบางอย่างก็ขัดแย้งกันเอง(และดูเหมือนหนังจะเน้นในจุดนี้) จนบางคนเรียกสารคดีเรื่องนี้เป็นสารคดีที่สร้างขึ้นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบครัว Friedman
ตอนจบของหนัง ที่สุดผู้เป็นพ่อและลูกชายก็ได้รับโทษจำคุก(และผู้พ่อเสียชีวิตในคุกเป็นเวลาต่อมา) ลูกชายคนโตติดคุกจนครบกำหนดและได้ปล่อยตัว ผู้เป็นแม่แต่งงานมีครอบครัวใหม่ ลูกชายคนรองของบ้าน(ซึ่งเป็นคนเล่าเรื่องในสารคดีนี้)กลายเป็นคนมีปัญหาทางจิต ส่วนลูกชายคนสุดท้องนั้นหนีหายไปและไม่ขอมีส่วนร่วมใดๆกับสารคดีเรื่องนี้...เรียกได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบกับทุกคน และเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปโดยสิ้นเชิง
ภาพสุดท้ายของหนัง เมื่อลูกชายคนโตของตระกูล Friedman ออกจากคุกมาวันแรก และออกเดินทางไปพบกับผู้เป็นแม่(ที่ไม่เคยติดต่อหรือไปเยี่ยมเขาระหว่างอยู่ในคุกเลยสักครั้ง) ภาพที่ทั้งสองสวมกอดกันต่อหน้ากล้องจึงทำให้ผมขนลุก และอยากรู้เหลือเกินว่าในใจของพวกเขาคิดอะไรอยู่.
Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 1 มีนาคม 2551 8:34:27 น. |
Counter : 868 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: น้องนู๋แอมป์ (amphobia ) 1 มีนาคม 2551 2:39:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: yatiko 1 มีนาคม 2551 8:46:52 น. |
|
|
|
| |
|
|
โศกนาฏกรรมชัดๆ....