โรบินโญ่
หากคุณเป็นแฟนบอลที่ชื่นชอบนักเตะประเภทเทคนิคแพรวพราวแล้วล่ะก็ ชื่อของ โรบินโญ่ กองหน้าของเรอัล มาดริด และทีมชาติบราซิล ก็คงจะรวมอยู่ในนั้นด้วยไม่ยาก เพราะเจ้าตัวเพิ่งจะมีรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและดาวซัลโวประจำศึกโคปา อเมริกา 2006 มาเป็นเครื่องการันตี โรบินโญ่ ซึ่งเพิ่งจะช่วยให้ทีมแซมบ้า คว้าแชมป์โคปา อเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นหนึ่งผู้เล่นที่ถือว่ามีลีลาการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกับบรรดาซูเปอร์สตาร์ชาวบราซิเลียนทั่วๆ ไป จนท้ายที่สุดได้มาเป็นสมาชิกของสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง "ราชันชุดขาว" เมื่อปี 2005 เส้นทางการค้าแข้งของ โรบินโญ่ หรือชื่อเต็มว่า ร็อบสัน เดอ ซัวซ่า เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อเขาได้เซ็นสัญญากับทีมไบร่า มาร์ ซึ่งเป็นทีมท้องถิ่นในรัฐเซา เปาโล และเพียงแค่ปีแรกเขาและเพื่อนร่วมทีมก็สามารถคว้าแชมป์ได้ทันที เจ้าตัวเริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในประเทศบ้านเกิดตอนที่อายุได้เพียง 9 ขวบ เมื่อถล่มประตูได้มากถึง 73 ประตูให้กับปอร์ตัวริออส ซึ่งทีมเป็นฟุตซอล เมื่อปี 1993 ก่อนที่ ซานโต๊ส ทีมดังของลีกแซมบ้า จะจับเขาเซ็นสัญญาในฐานะนักเตะเยาวชน ที่ตอนนั้นมีตำนานลูกหนังอย่าง "ไข่มุกดำ" เปเล่ เป็นคนดูแลอยู่ ก่อนจะย้ายมาเล่นให้กับทีมซานโต๊ส โรบินโญ่ ได้รับการเตือนว่าไม่ควรจะลากเลื้อยหรือโชว์เทคนิคต่างๆ มากเกินไป แต่โชคดีที่เขาไม่สนใจเพราะนั่นกลับทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอลอย่างรวดเร็ว และเขาก็เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เยาวชนชุด ยู-17 ไปครองด้วย จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ทำให้เขาได้รับการโปรโมตขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และเซ็นสัญญาอาชีพเมื่อปี 2002 ซึ่งฤดูกาลแรกเขาทำไป 9 ประตู จากการลงสนาม 24 นัด และช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ลีกได้ด้วย ปี 2003 โรบินโญ่ ได้ลงเล่นมากขึ้นและได้รับการยอมรับว่าเป็นนักเตะตัวหลักของทีมหลังจากลงสนามทั้งหมด 32 นัด ก่อนที่จะมาดังเปรี้ยงปร้างในฤดูกาลถัดมา เมื่อซัลโวได้ถึง 21 ประตูจากการลงสนามในลีก 37 นัด ซึ่งทำให้ ซานโต๊ส คว้าแชมป์ลีกไปครองได้อีกสมัย ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงดังกล่าวทำให้หลายทีมชั้นนำในยุโรปหวังว่าจะเซ็นสัญญากับเขา แต่ต้นสังกัดก็ไม่ยอมปล่อยเนื่องจากต้องการให้อยู่เป็นกำลังสำคัญของทีมต่อไป นอกจากนั้น โรบินโญ่ ยังมีปัญหาส่วนตัวที่ทำให้ต้องอยู่ในบราซิลต่อ ทว่า ปีต่อมาเขากลับประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักเมื่อยิงได้เพียง 4 ประตู ในการลงสนาม 8 นัดในลีก เมื่อดูแล้วว่าเจ้าตัวไม่มีกะจิตกะใจอยากอยู่ต่อ ทำให้ ซานโต๊ส ตัดสินใจยอมปล่อยศูนย์หน้าจอมเทคนิคออกจากทีม หลังจากที่ได้ข้อเสนอจากเรอัล มาดริด เป็นเงินถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1,200 ล้านบาทในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลแรกในลา ลีก้า ของเขาถือว่าล้มเหลว เพราะลงสนามในลีกถึง 37 นัด แต่กลับทำได้แค่ 8 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าไม่สมกับความคาดหวังของกองเชียร์ในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ที่หวังว่าจะเห็นลีลาลากเลื้อยอันแพรวพราวและการพังประตูแบบมหัศจรรย์อย่างที่เจ้าตัวเคยทำได้สมัยค้าแข้งในแดนแซมบ้า ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2006/07 แฟนบอลราชันชุดขาว ก็กลับมาตั้งความหวังอีกครั้งว่า โรบินโญ่ จะคืนฟอร์มเก่งได้เหมือนกับที่เขาเล่นให้ทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายเหมือนที่คิด หลังจากที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาเป็นนายใหญ่ของทีมกาลาคติกอส อย่างที่รู้กันดีว่ากุนซือชาวอิตาเลียนเน้นเกมรับเป็นหลัก และนั่นก็ทำให้ โรบินโญ่ ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรอง แต่หลังจากช่วงพักเบรกฤดูหนาวแล้ว หัวหอกชาวบราซิเลียน ก็เริ่มกลับมาเล่นได้อย่างเข้าฝักเมื่อได้รับโอกาสจาก คาเปลโล่ ก่อนจะช่วยให้ราชันชุดขาว ผงาดคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ4 ปีทั้งที่ก่อนหน้านี้ถูกกาชื่อทิ้งจากสารบบการลุ้นแชมป์ไปแล้ว ส่วน ผลงานในทีมชาติของ โรบินโญ่ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2003 ซึ่งทัวร์นาเมนต์แรกที่เขาประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของบราซิล เกิดขึ้นในศึกคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ จากนั้นก็ลงสนามอย่างต่อเนื่องรวมถึงในศึกฟุตบอลโลก 2006 ด้วย และที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ก็คือศึกโคปา อเมริกา ซึ่ง บราซิล เอาชนะเต็งจ๋าอย่าง อาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศ ไปแบบเหลือเชื่อ 3-0 และคงจะไม่ผิดนักหากจะบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ โรบินโญ่ ในนามทีมชาติ เพราะเขาโชว์ฟอร์มได้เยี่ยมมาตลอดจนคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครองแบบไร้ข้อกังขา หลังทำไปถึง 6 ประตูจนทำให้ควบรางวัลดาวซัลโวไปครองด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟนบอลเรอัล มาดริด ทุกคน คงหวังว่า โรบินโญ่ ในวัย 23 ปี จะรักษาฟอร์มการเล่นแบบที่เวเนซุเอล่าได้อีกครั้ง เมื่อฤดูกาล 2007/08 เปิดฉากขึ้น เพราะหากเจ้าตัวยังทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม โอกาสที่จะพาราชันชุดขาวป้องกันแชมป์ลีก และลุ้นตำแหน่งเจ้ายุโรปคงจะสดใสไม่น้อยโรบินโญ่! แมนคูเนียน แห่งบราซิล อาจพูดได้ว่าโรบินโญ่มีทุกสิ่งที่ยอดนักเตะในโลกพึงจะมีทั้งการเป็นนักเตะที่มีค่าตัวและค่าเหนื่อยแพงที่สุด หรือการได้รับคำยกย่องให้เป็นเปเล่คนใหม่ จากเจ้าของฉายา "ไข่มุกดำ" โรบินโญ่ เคยมีประสบการณ์แบบนี้สมัยย้ายไปเล่นให้บาร์เซโลน่าเมื่อ 22 ปีก่อน ภายใต้การคุมทีมของคนจากเกาะอังกฤษด้วยกันอย่าง เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ "ผมไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหากับการย้ายมาที่นี่ เพราะนับจากวันแรกที่ย้ายมา เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิต ที่แมนเชสเตอร์ ฮิวจ์สพูดถึงลูกน้องรายนี้ที่มีค่าตัวถึง 32 ล้านปอนด์ แม้แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือคู่แข่งร่วมเมือง ยังยอมรับในฝีเท้าของโรบินโญ่ หลายคนอาจสงสัยว่า เงิน32 ล้านปอนด์ที่แมนฯ ซิตี้จ่ายไป จะคุ้มค่าไหม? คำตอบคงอยู่ในข่ายคุ้ม เพราะอย่างน้อยเขาสามารถทำในสิ่งที่นักเตะหลายคนไม่สามารถทำได้ ย้อนไปในช่วงที่โรบินโญ่ยังอยู่เรอัล มาดริด ทีมที่ใช้เงิน 24 ล้านยูโร เพื่อฉีกสัญญาของเขากับซานโตสในเดือนกรกฎาคม 2005 และเพียงเกมแรกบนแผ่นดินสเปนที่กาดิซ หนังสือพิมพ์กีฬาที่ทรงอิทธิพลของประเทศอย่างมาร์ก้าถึงกับยกย่องว่า "พระเจ้าสร้าง โรบินโญ่" หรือจะเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับโอลิมเปียกอส ที่โรบินโญ่ได้สร้างนิยามการลากบอล แบบใหม่ขึ้นมา ชนิดที่คู่แข่งดักรออยู่ตรงนั้น แต่เขาก็ยังจะไป แถมมันยังได้ผลอีกด้วย แน่นอนว่า การลากเลี้อยจะเป็นของโปรด โรบินโญ่ แม้กระทั่งชื่อหมาตัวเอง เขายังตั้งว่า "เปดาลาดา" (Pedalada) ที่หมายถึง "ลากเลื้อย" อีกต่างหาก แต่ใช่ว่าเส้นทางของโรบินโญ่จะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเมื่อ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ไปจากทีม โดยมีแบร์นด์ ชูสเตอร์ เข้ามาแทน สถานภาพของเขาเริ่มเปลี่ยนไป "ตอนนั้นใครก็รู้ว่าผมชอบเล่นให้บราซิลมากกว่ามาดริด เพราะทุกคนที่นั่นยังเชื่อมั่นผมมากกว่าที่สเปนเสียอีกผมจบที่มาดริดไม่สวย อาจเป็นเพราะพวกเขามีแต่บอร์ดบริหารแย่ๆ ก็ได้ ที่นั่นอาจเต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอด แต่ดูสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกับผมสิ มันเหมือนว่าผมเป็นนักเตะธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น" คำว่า "ปฏิบัติ" ในที่นี้ของโรบินโญ่ อาจหมายถึงเรื่องที่มาดริดต้องการปล่อยเขาออกจากทีม เพื่อดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามา โดยเฉพาะข่าวลือที่หนาหูว่าพวกเขาเสนอโรบินโญ่ เป็นหนึ่งในข้อแลกเปลี่ยนให้กับแมนเชสเตอร์ "การที่แมนฯ ซิตี้ มีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ความกระหายของทุกคนก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน เราอาจมีนักเตะฝีเท้าดีอยู่ในทีม แต่ถ้าทีมต้องการยิ่งใหญ่กว่านี้ เราต้องซื้อนักเตะเข้ามาอีก หากผมเลือกได้ ผมจะเอาทั้ง ริคาร์โด้ กาก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้ามา" ทุกสิ่งทุกอย่างที่โรบินโญ่แสดงออกมาราวกับนักสู้ ซึ่งมันเหมือนกับนักเตะบราซิลส่วนใหญ่ ที่ต้องใช้สองเท้าตัวเองไต่เต้าขึ้นมาเพื่อชื่อเสียงและเงินทอง Full name Robson de Souza Birth The 25.01.1984 In São Vicente [SP] Height 172 Weight 60 Current club Manchester City Position Forward Partenaires Career Clubs 2002-25/08/2005: Santos FC-SP 26/08/2005-31/08/2008: Real Madrid - Spain 01/09/2008: Manchester City - England Club titles Brazilian League: 2002, 2004 Confederations Cup: 2005 Spanish League: 2007, 2008 Copa America: 2007 Personal titles Brazilian Bola de Prata (Placar): 2002 Brazilian Bola de Ouro (Placar): 2004 Copa America's top scorer: 2007 Copa América's best player: 2007 Goals in Selecao 2572 Games in our cards : 10.02.2009 Italy, 19.11.2008 Portugal, 15.10.2008 Colombia, 12.10.2008 Vénezuela, 10.09.2008 Bolivia, 07.09.2008 Chile, 18.06.2008 Argentina, 15.06.2008 Paraguay, 06.06.2008 Vénezuela, 31.05.2008 Canada, 26.03.2008 Sweden, 06.02.2008 Ireland, 21.11.2007 Uruguay, 18.11.2007 Peru, 18.10.2007 Ecuador, 14.10.2007 Colombia, 12.09.2007 Mexico, 09.09.2007 United States, 22.08.2007 Algeria, 15.07.2007 Argentina, 10.07.2007 Uruguay, 07.07.2007 Chile, 04.07.2007 Ecuador, 01.07.2007 Chile, 27.06.2007 Mexico, 05.06.2007 Turkey, 01.06.2007 England, 27.03.2007 Ghana, 24.03.2007 Chile, 15.11.2006 Switzerland, 10.10.2006 Ecuador, 07.10.2006 Kuweit, 05.09.2006 Wales, 03.09.2006 Argentina, 16.08.2006 Norway, 01.07.2006 France, 22.06.2006 Japan, 18.06.2006 Australia, 13.06.2006 Croatia, 04.06.2006 New-Zealand, 30.05.2006 Luzern Selection, 12.11.2005 United Arab Emirats, 12.10.2005 Vénezuela, 09.10.2005 Bolivia, 06.09.2005 FC Sevilla, 04.09.2005 Chile, 17.08.2005 Croatia, 29.06.2005 Argentina, 25.06.2005 Germany, 22.06.2005 Japan, 19.06.2005 Mexico, 16.06.2005 Greece, 08.06.2005 Argentina, 05.06.2005 Paraguay, 27.04.2005 Guatemala, 30.03.2005 Uruguay, 27.03.2005 Peru, 09.02.2005 Hong Kong, 05.09.2004 Bolivia, 25.01.2004 Paraguay, 23.01.2004 Chile, 22.01.2004 Argentina, 18.01.2004 Colombia, 15.01.2004 Chile, 11.01.2004 Uruguay, 09.01.2004 Paraguay, 07.01.2004 Vénezuela, 27.07.2003 Mexico, 23.07.2003 United States, 19.07.2003 Colombia, 16.07.2003 Honduras, 13.07.2003 Mexico,
Create Date : 09 มีนาคม 2552
Last Update : 9 มีนาคม 2552 10:54:53 น.
1 comments
Counter : 819 Pageviews.
โดย: อาว์แสง IP: 125.24.246.11 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:19:31:33 น.
อาจจะเพราะด้วยรูปร่างหน้าตาก็ได้ทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้น
แต่ผมก็เชื่อว่า เขามีคว่ามสามารถแฝงบางอย่าง ที่จะพาบราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ได้สำเร็จ