Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
# 34 :: Wolf Hall : Hilary Mantel :: [RBC 2014]







:: Wolf Hall : Hilary Mantel ::


เล่มนี้หนังสือแนว retelling ประวัติศาสตร์รัชสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ของอังกฤษ หรือในสมัยราชวงศ์ทิวดอร์ เป็นยุคที่หนังสือและหนังชอบนำมา "ทำใหม่" กันมาก เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่หยิบยกช่วงนี้มาเล่าใหม่ แต่ความตั้งใจของผู้เขียนคือการเล่าผ่านมุมมองของ Thomas Cromwell ผู้ที่เป็น Master Secretary เรียกได้ว่ามีอำนาจรองเป็นที่สองต่อจากกษัตริย์ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของเขาเลยทีเดียว

หนังสือเล่าผ่านมุมมองของ Cromwell แต่ใช้ลักษณะบุรุษที่ 3 เล่า ในบทแรกๆ นำเสนอชีวิตวัยเด็กของเขาที่หนีออกจากบ้าน เพราะพ่อทุบตี จนต้องไปเป็นทหารรับจ้างที่อิตาลี กระทั่งโตเป็นหนุ่มก็กลับมาแต่งงานกับลูกสาวคนขายผ้า ก่อร่างสร้างตัวจนเริ่มมีหน้ามีตา โดยอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของพระคาร์ดินัล Wolsey ซึ่งเรืองอำนาจอยู่ขณะนั้น

ช่วงประวัติศาสตร์ที่มักนำมาเล่าในหนังสือและหนังต่างๆ คือประเด็นพระเจ้าเฮนรี ทรงต้องการหย่าจากพระนางแคเธอรีน เจ้าหญิงจากสเปนที่เสด็จมาเพื่อเป็นราชินีคู่บัลลังก์ของพระเชษฐาของพระเจ้าเฮนรี หรือมกุฏราชกุมารที่แท้ หากพระเชษฐาสวรรคตก่อนวัยอันควร จึงทำให้พระเจ้าเฮนรีทรงขึ้นครองบัลลังก์แทน พร้อมทรงรับพระนางแคเธอรีนมาแต่งงาน จนมีพระธิดาเป็นเจ้าหญิงแมรีหนึ่งพระองค์ 

เรื่องมาปั่นป่วนก็เมื่อพระเจ้าเฮนรีทรงทำทุกวิถีทางเพื่อหย่าจากพระนางแคเธอรี โดยทรงอ้างว่าพระนางฯ ไม่สามารถประทานพระโอรสเพื่อมาสืบทอดบัลลังก์ได้เสียที หากใครกล้าคัดง้างกับพระองค์ก็จะถูก "เด้ง" ออกจากตำแหน่ง พระคาร์ดินัล Wolsey ก็เป็นตัวอย่างของคนที่คัดค้างจนต้องลงจากจำแหน่ง เป็นโอกาสให้ Cromwell ค่อยๆ คืบคลานเจ้ามาในราชสำนักแทน ท่ามกลางศัตรูที่แวดล้อมอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็น Duke of Norfolk หรือ Duke of Suffolk ซึ่งต่างเกี่ยวดองกับ Anne Boleyn หญิงสาวที่พระเจ้าเฮนรีทรงยกขึ้นมาแทนพระนางแคเธอรีน

บทบาทของ Cromwell นั้น ถูกเล่าใหม่ในเรื่องนี้เพื่อให้เห็นความสามารถและกุศโลบายต่างๆ ที่เขาช่วยให้พระเจ้าเฮนรีได้อภิเษกสมรสกับ Anne ตลอดจนความพยายามที่จะประกาศตัดขาดจากนครวาติกัน และสถาปนาพระเจ้าเฮนรีเป็นประมุขศาสนา สร้างนิกาย Church of England ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นผลต่อเนื่องมาตั้งแต่การที่พระสันตปาปาทรงคัดค้านการหย้าครั้งนั้น 

เรื่องมาจบตอนที่ Thomas More ผู้รั้งตำแหน่ง Chancellor ซึ่งไม่ยอมลงนามแสดงความเห็นชอบกับการประกาศตัวเป็นอิสระจากวาติกันนั้น ต้องถูกประหารชีวิต ศัตรูตัวฉกาจของ Cromwell ถูกกำจัดไปเช่นนี้แล้ว Cromwell ก็ก้าวขึ้นมามีอำนาจอย่างที่ไม่มีใครกล้าต้านทาน

หนังสือจะดำเนินต่อไปอีกสองเล่ม คือ Bring up the Body (2012) กับ The Mirror and the Light (กำลังเขียนอยู่) เล่มแรกเป็นช่วงที่ Anne ถูกประหารเนื่องจากไม่สามารถมีพระโอรสให้พระเจ้าเฮนรีได้ และโดยใส่ความเรื่องชู้สาว ส่วนเล่มสุดท้ายเป็นเล่มที่เล่าช่วงที่ Cromwell ค่อยๆ อับแสงลง


Wolf Hall น่าสนใจตรงที่ผู้เขียน "สร้าง" ชีวิตครอบครัว ชีวิตส่วนตัวของ Cromwell ขึ้นมา ให้เห็นภาพที่เป็นมนุษย์ปุถุชนของเขา (ดูสัมภาษณ์คนเขียน คุณป้าฮิลารีเล่าว่าประวัติศาสตร์บันทึกแต่บทบาทของ Cromwell ในฐานะคนสำคัญของราชสำนักสมัยนั้นเอาไว้อย่างชัดเจน แต่เรื่องราวส่วนตัวไม่มีการบันทึกไว้เท่าใดนัก เหมือนเป็นฝันร้ายของนักประวัติศาสตร์ แต่เป็นสวรรค์สำหรับนักเขียนนิยาย) หนังสือเล่มนี้อ่านไม่ง่าย ทั้งนี้เพราะสไตล์การเขียนฉวัดเฉวียนและตัวละครมีมาก ชื่อก็ซ้ำๆ กันจนเวลาอ่านไปก็ต้องเปิดลิสต์ตัวละครที่แถมให้มาด้วยอยู่เรื่อยๆ อีกอย่างคือไม่ค่อยเข้าใจจารีตหรือธรรมเนียมสมัยโน้น ภาษาที่ใช้แม้ไม่ยากมาก แต่เหมือนต้องตีความหลายชั้น ยิ่งเวลา Cromwell เจรจากับตัวละครอื่นๆ ถ้าไม่รู้แบรกกราวน์ทางประวัติศาสตร์มาบ้างก็ถึงกับมึนอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ถึงเล่มจะหนากับพอรู้เรื่องราวอยู่แล้ว แต่กลับไม่รู้สึกเบื่อเท่าไหร่ เพราะอยากรู้ว่า Cromwell มีกลวิธีอย่างไรให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ

ความชอบ: 


Mantel, H. (c2010). Wolf Hall. London: Fourth Estate.




Reading Bingo Challenge 2014






และแล้วก็ได้ติ๊กช่องสุดท้าย เป็นอันสิ้นสุดบิงโกตารางนี้เสียที เล่มนี้ถือเป็น "A book at the bottom of your TBR pile" จริงๆ เพราะว่าซื้อมาตั้งแต่มิถุนาฯ ปีที่แล้ว จนเล่มอื่นๆ ที่ซื้อมาพร้อมกันอ่านจบไปหมดแล้ว เหตุที่ไม่อ่านเสียทีเพราะเล่มหนาและยังไม่อยากไปหาอ่านประวัติศาสตร์ประกอบช่วงในหนังสือ


#1 [A best-selling book] : Angels and Damons by Dan Brown
#2 [A book based on a true story] : Gweilo - A Memoir of a Hong Kong Childhood by Martin Booth
#3 [A second book in a series] : Child of All Nations by Pramoedya Ananta Toer
#4 [A book with a blue cover] : Half Blood Blues by Esi Edugyan
#5 [A book of short stories] : The Progress of Love by Alice Munro
#6 [A book with one-word title] : Footsteps by Pramoedya Ananta Toer
#7 [A book with more than 500 pages] : Kane & Abel by Jeffrey Archer
#8 [A book with a number in title] : Fahrenheit 451 by Ray Bradbury
#9 [A book that became a movie] : The Great Gatsby by F. Scott Fitzgerald
#10 [A funny book] : Then We Came to the End by Joshua Ferris
#11 [Free square] : The Time Keeper by Mitch Albom
#12 [A book with non-human characters] Luka and the Fire of Life by Salman Rushdie
#13 [A book that is more than 10 years old] House of Glass by Pramoedya Ananta Toer
#14 [A book set on different continent] The Songlines by Bruce Chatwin
#15 [A book your friend loves] The Secret History by Donna Tartt
#16 [A book you heard about online] Maya by Jostein Gaarder
#17 [A book by a female author] February by Lisa Moore
#18 [A book that scares you] The Angel's Game by Carlos Luiz Zafon
#19 [The first book by a favorite author] The Kite Runner by Khaled Hosseini
#20 [A book written by someone under thirty] Burial Rites by Hannah Kent
#21 [A forgotten classic] Oliver Twist by Charles Dickens
#22 [A book with a mystery] Gone Girl by Gillian Flynn
#23 [A book published this year] The Ocean at the End of the Lane by Neil Gaiman
#24 [A book of non-fiction] Discourse and the Translator by Basil Hatim and Ian Mason
#25 [A book at the bottom of your tbr pile] Wolf Hall by Hilary Mantel






Create Date : 16 พฤษภาคม 2557
Last Update : 16 พฤษภาคม 2557 21:03:22 น. 9 comments
Counter : 1842 Pageviews.

 
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจด้วยค่ะ ไม่ถึง 5 เดือนดีกับตารางเต็มๆ สุดยอดเลยค่ะ เป็นคนที่มีวินัยมั่กๆๆๆๆ


โดย: Sab Zab' วันที่: 16 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:18:17 น.  

 
ขอบคุณครับพี่ฝน สองเล่มหลังนี่แอบหืดขึ้นคอนิดนึง แต่ก็ดีใจมากที่ลุล่วงไปได้ด้วยดี

ตานี้จะได้เลือกอ่านอะไรก็ได้สบายใจละ บิงโกนี่หาเรื่องแท้ๆ


โดย: Boyne Byron วันที่: 16 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:57:59 น.  

 
ดีใจด้วยค่ะ ทั้งหมด 20 กว่าเล่ม น่าจะช่วยลดกองดองลงได้เยอะทีเดียวนะคะ


โดย: kunaom วันที่: 17 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:28:02 น.  

 
ฝันร้ายของนักประวัติศาสตร์
แต่เป็นสวรรค์สำหรับนักเขียนนิยาย

เป็นคำที่เท่มาก


โดย: prysang วันที่: 18 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:42:18 น.  

 
ขอบคุณครับคุณ kunaom กองดองไม่ค่อยลดเล่าไหร่ฮะ เพราะระหว่างเล่นบิงโกก็ไปหามาดองเพิ่มต่อไปอีก

ตอนฟังสัมภาษณ์ครั้งนั้นทางยูทูปก็คิดว่าพูดได้เจ๋งมากเหมือนกันฮะ คุณ prysang


โดย: Boyne Byron วันที่: 18 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:31:59 น.  

 
Wow!


โดย: jackfruit_k วันที่: 18 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:48:03 น.  

 
เย้ๆ ในที่สุดพี่บอยน์ก็บิงดกครบทุกช่อง ยกนิ้วให้เลยครับ เก่งมาก!!


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 19 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:35:53 น.  

 
ไวสุดๆ! ยินดีด้วยค่า ตั้งใจไว้ว่าจะมีของแสดงความยินดีเล็กๆน้อยๆให้คนที่ทำบิงโกตารางได้คนแรก มีส่งหลังไมค์ไปหา รบกวนเช็คหน่อยนะคะ


โดย: Froggie วันที่: 19 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:20:04 น.  

 
ขอบคุณครับ เพิ่งเช็คหลังไมค์ตะกี้นี้เอง


โดย: Boyne Byron วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:44:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Boyne Byron
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add Boyne Byron's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.