:: Luka and the Fire of Life : Salman Rushdie ::
นิยายแนว quest หรือตามหาสิ่งสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นมุกที่เขียนกันมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว สร้างความสนุกเพลิดเพลินให้คนอ่านได้ลุ้นตามการผจญภัยของตัวละครได้ไม่ยาก เช่น พ่อมดแห่งออซ อลิซในแดนมหัศจรรย์ เป็นต้น หนังสือเล่มนี้ก็เช่นกัน แต่มากกว่านั้นก็คือ เครื่องปรุงที่ผู้เขียนหยิบมาใส่มีทั้งความเก่า (พวกตำนาน เทพปกรณัม) และความใหม่ (การเดินเรื่องแบบเกมคอมพิวเตอร์) จนทำให้อ่านสนุกได้ไม่แพ้นิยายแนว quest แบบคลาสสิกเท่าใดนัก
Luka เด็กชายในโลกปัจจุบัน ได้ออกเดินทางตามหา "ไฟแห่งชีวิต" มาช่วยชีวิตพ่อ ผู้ซึ่งอยู่ดีๆ ก็หลับไหลไม่ได้สติ จุดหมายปลายทางของ Luka คือโลกมนตราในจินตนาการของผู้เป็นพ่อเอง Rashid พ่อของ Luka เป็นนักเล่าเรื่อง (Shah of Blah) ชอบเล่าเรื่องในดินแดนมนตราแห่งนี้ให้เขาฟังตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ ทำให้เขาจดจำเรื่องราวอันมหัศจรรย์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
ในการเดินทางผจญภัยครั้งนี้ Luka มีผู้นำคือ Nobodady คนประหลาดที่เหมือนพ่อของ Luka ทุกอย่าง นำทางเข้าสู่โลกมนตรา แล้วเดินทางย้อน "แม่น้ำแห่งเวลา" ไปให้ถึงยัง "หุบเขาแห่งปัญญา" เพื่อจะไปขโมยไฟแห่งชีวิตดังว่ามาช่วยพ่อ
แต่ละช่วงตอนของการเดินทาง ผู้เขียนทำให้เหมือนการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ โดยมีทั้งหมดเก้าเลเวล ถ้าผ่านแต่ละด่านจะมีจุดเซฟ เผื่อว่าเกิดตายขึ้นมาจะได้ไม่ต้องไปเริ่มใหม่ และ Luka ก็มีพลังชีวิต 999 ชีวิตตลอดการเดินทาง
นอกจากมี Nobodady แล้ว Luka ยังมี หมาที่ชื่อ "หมี" กับหมีที่ชื่อ "หมา" เดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย ระหว่างทางก็ได้พบกับ In-sultana of Ott (insult-ana of over the top) ซึ่งมีพรมวิเศษพาคณะเดินทางข้ามเลเวลต่างไปได้อย่างว่องไว ไม่ว่าจะ "หมอกแห่งเวลา" "ลมหมุนยักษ์" "บึงติดแหง็ก" "เมืองแห่งฝัน" "ทะเลเรื่องราว" ฯลฯ จนสุดท้ายก็มาถึง "ใจกลางแห่งกลางใจ" ซึ่งมีเหล่า "เทพที่ถูกลืม" ในตำนานต่างๆ ทั่วโลก (ทั้งยุโรป เอเชีย อเมริกาใต้ และแอฟริกา) คอยเฝ้าทางขึ้นหุบเขาแห่งปัญญาอยู่ ต้องใช้อุบายแบบนกต่อ หลอกล่อให้เหล่าเทพนี้สนใจทางอื่น แล้ว Luka ก็ตะปีนป่ายขึ้นเขาไปได้สำเร็จ แต่กว่าจะได้ไฟมาก็ต้องผจญกับ เทพและตัวประหลาดทั้งห้าจากตำนานทั่วโลกอีก
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง Anzu, Mirmir, Argus Panoptes, Kerberos, Fafnir
(ประเด็นเรื่องเทพที่ถูกลืมนี้ เป็นไอเดียเก๋ๆ ที่คล้ายเรื่อง American Gods ของ Neil Gaiman ซึ่งอ่านเมื่อปีที่แล้ว แต่ปวงเทพในเล่มของ Rushdie นี้ แห่กันมาแบบมืดฟ้ามัวดิน แย่งซีนกันสุดชีวิต)
Luka รวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย ให้เหตุผลเกลี้ยกล่อมผู้ปกป้องไฟว่า เขาต้องรีบเอาไฟไปช่วยพ่อ เพราะถ้าพ่อเป็นอะไรไป โลกมนตราทั้งโลกนี้ก็จะหายสูญไปด้วย เพราะมันเกิดขึ้นจากจินตนาการของพ่อล้วนๆ เมื่อได้ยินเท่านั่นแล...เทพทั้งหลายจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นเอออวยช่วยตามกระนั้น แต่ Luka ก็ต้องรีบเหาะกลับไปกับพรมวิเศษ ก่อนที่โลกนี้จะถล่มทลายลงตามสภาพร่างกายของพ่อที่ร่อแร่อยู่ในโลกจริง
อย่างไรก็ดี ยังไม่ทันได้พ้นจากโลกนี้ ก็ต้องเจอกับ Aalim หรือผู้พิษักษ์เวลาทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต กว่าจะผ่านพ้นมาได้ด้วยเหล่าเทพช่วยเหลือ ก็แทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ด้วยความช่วยเหลือของเทพที่ถูกลืมนี่เอง ทำให้ Luka กลับมายังบ้าน ทันช่วยชีวิตพ่อได้สำเร็จ
เนื้อเรื่องง่ายๆ พล็อตเรื่องไม่มีอะไรมาก เป็นแค่การเดินทางของเด็กชายเพื่อช่วยพ่อและค้นพ้นความจริงต่างๆ ระหว่างทาง แต่ที่สนุกคือการนำเสนอความมหัศจรรย์ต่างๆ สีสันของสิ่งที่จับใส่เข้ามาทำให้ตื่นตาตื่นใจ หาเหตุผลไม่ได้ก็จริง แต่ก็อ่านจนจบอย่างว่องไวเพราะมันเป็นแฟนตาซีหลุดโลกนี่แหละ
ที่ชอบอีกอย่างคือการเล่นคำ มีให้เห็นเยอะมาก เช่น permination "จบชีวิตเป็นการถาวร" (permanent termination), Over-rat "หนูผู้อยู่เหนือหนูทั้งปวง" (overrate), Respectorate "ดินแดนในความเคารพ" (protectorate) เป็นต้น
หรือไม่ก็เล่นคำในประโยค "To decide to do a thing was decidedly not the same thing as actually doing the thing." (169)
Rushdie, S. (2010). Luka and the Fire of Life. New York: Random House.
Reading Bingo Challenge 2014
เล่มนี้เพื่อนให้ยืมมาพร้อมเล่มที่แล้ว ก็เลยต้องรีบอ่านให้จบไวๆ จะได้คืนอย่างไม่ต้องเกรงใจว่ายืมนาน แล้วก็ดูเหมือนว่าจะมี "ตัวละครไม่ใช่คน" เยอะแยะไปหมด ทั้งหมีและหมาพูดได้ เทพตกอับต่างๆ ก็เลยเอาใส่ช่อง "A book with non-human characters" ได้สบายๆ
#1 [A best-selling book] : Angels and Damons by Dan Brown
#2 [A book based on a true story] : Gweilo - A Memoir of a Hong Kong Childhood by Martin Booth
#3 [A second book in a series] : Child of All Nations by Pramoedya Ananta Toer
#4 [A book with a blue cover] : Half Blood Blues by Esi Edugyan
#5 [A book of short stories] : The Progress of Love by Alice Munro
#6 [A book with one-word title] : Footsteps by Pramoedya Ananta Toer
#7 [A book with more than 500 pages] : Kane & Abel by Jeffrey Archer
#8 [A book with a number in title] : Fahrenheit 451 by Ray Bradbury
#9 [A book that became a movie] : The Great Gatsby by F. Scott Fitzgerald
#10 [A funny book] : Then We Came to the End by Joshua Ferris
#11 [Free square] : The Time Keeper by Mitch Albom
#12 [A book with non-human characters] Luka and the Fire of Life by Salman Rushdie
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
อยากบอก จขบ.จัง แมวหัวบล็อก น่ารักอะ