Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
++ อ่านหนังสือ เซต ๓ ++

+









ถนนสายสเน่หา – กฤษณา อโศกสิน


ชายคนหนึ่งได้รับโทษทัฑณ์ทางใจด้วยการระทมทุกข์จากกาที่ตนทำผิดมาร่วมสิบเก้าปี !

โชคตะชาเล่นตลกกับเขาอีกครั้ง ทำให้เขาต้องเข้ากรุงเทพฯ ด้วยผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับ ‘ผู้หญิงอีกคน’ คนที่เขาเป็นคนลงมือกระทำการปลิดชีพหล่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เขาจึงต้องกลับมาใช้กความระทมทุกข์ที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง แต่เขาไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว มูลมีปรู...เมียสาวที่ไร้เดียงสา อยากสวย อยากสบายอยู่ข้างๆ

มูลไม่รู้ว่าเขาสมควรจะกลับมาหรือไม่ แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ในบ้านของวิชิตาผู้ที่มีหน้าตาคล้ายๆ กับอรดี...แฟนสาวสมัยก่อนซึ่งเขาพลั้งมือฆ่าหล่อนตายเมื่อสิบเก้าปีก่อน

หากถามว่า การทุกข์ทรมานทางกายจากการขังคุก กับการระทมทุกข์ทางใจนับสิบเก้าปีนี้ อย่างไหนแสนสาหัสกว่ากัน และจากการที่เขาต้องทนระทมกับความรู้สึผิดมาถึงขนาดนี้จะสาสมกับเขาแล้วหรือยัง ?

...เรื่องนี้อ่านไปด้วยความรู้สึก ลุ้นว่ามูลตัวเอกของเรื่องจะถูกจับได้หรือเปล่า และแอบเอาใจช่วยโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่เขาเป็นฆาตกรมาก่อน แต่เหตุที่เขาสำนึกผิดแล้ว ก็ทำให้คนอ่านเผลอสงสารในความทุกข์ที่เขามีและไม่อยากให้เขาไปติดคุกอีกครั้งไม่ได้

...แต่สุดท้าย เขาก็ได้พบทางสว่างแก่ตัวเองในที่สุด

...คุณกฤษณาเขียนเรื่องได้จังหวะจะโคนดีเหลือเกิน อ่านไปก็กระตุ้นอารมณ์ไป แต่ก็ยังมีการดึงจังหวะ ผ่อนสายป่านของเรื่องที่กำลังตึงไป ทำอย่างนี้ไปตลอดเรื่อง จนทำให้เรารีบอยากอ่าน ติดตามว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร

...เรื่องนี้จึงนับว่าเป็น หนังสือเล่มบางที่คุ้มแก่การอ่าน (โดยความเห็นส่วนตัว เพราะไม่ชอบเรื่องทำนองหวานหยดย้อย พระเอกนางเอกหวานกันแล้วกรี๊ดสลบนัก) เพราะเรื่องนี้ดราม่าพอประมาณ ทั้งยังให้ข้อคิดในตอนท้าย

“เขารู้สึกว่า ฟากฟ้าคืนนี้ลำยองผ่องพรรณอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในชีวิตของเขา ดาวนิดๆ ที่เขารู้สึกว่ามีแสงแดงราวกับนัยน์ตาของคนกำลังร่ำไห้ กลับสุกสว่างด้วยรัศมีอันโอภาส พระจันทร์ที่เกคยเห็นว่าซูบซีดราวกับคนไข้ ก็ดูมีชีวิต ระบายด้วยแสดงสีทองอร่าม”







เรื่องของชายชื่อกนกสามคน – ชมัยภร แสงกระจ่าง


นับว่าเป็นอารมณ์ต่อเนื่องจากเรื่องด้านบนได้เป็นอย่างดี เรื่องของชายชื่อกนกสามคนนี้ ถามคำถามคล้ายๆ กับในลักษณะที่ว่า คนกระทำความผิดมาครั้งหนึ่ง สมควรที่สังคมจะให้อภัยหรือไม่

เรื่องนี้เริ่มต้นโดยกนกอินทร์กับกนกรัฐต้องมีโชคชะตาผูกกันด้วยการประสบอุบัติเหตุ และจากการประมาณเลิ่นเล่อของลูกเศรษฐีที่ทำตัวไร้ค่าอย่างกนกอินทร์ก็ทำให้คนที่โดยสารมาในรถตาย รวมทั้งครูสาวอย่างแหวนลงยาที่โดยสารมากับกนกรัฐในรถอีกคนด้วย ที่รอดมาได้คือ กนกอินทร์ กนกรัฐ และปาฏิหาริย์ เพื่อนของกนกอินทร์

นับแต่รอดชีวิตมาได้ สองคนก็มีนิสัยกลับกันโดยสิ้นเชิง กนกอินทร์สำนึกว่า ชีวิตเขาไม่มีค่าอะไรเลย เขาได้ทำให้คนอื่นตาย ดังนั้น ชีวิตที่เหลืออยู่คือการไถ่บาปแกญาติๆ ของผู้รับเคราะห์ จนได้มาพบกับ แหวนพลอย น้องสาวของแหวนลงยาที่แค้นเคืองกนกอินทร์ที่ทำให้พี่สาวซึ่งเป็นหัวเรียวหัวแรงของครอบครัวต้องตาย ส่วนกนกรัฐ เนื่องจากเขาคิดว่า ชีวิตที่เหลือน้อยนัก เขาควรจะกอบโกยความสุขให้มาที่สุดเท่าที่จะทำได้ กอปรกับเขาได้เข้ามาทำงานในบริษัทของคุณหญิงย่าของกนกอินทร์ เขาจึงมีฐานะดีขึ้น และใช้ชีวิตอย่างเปลืองลมหายใจมากๆ

...เรื่องนี้ชอบอีกเรื่องหนึ่งในงานของอาจารย์ชมัยภร (ชอบมากกว่ารังนกบนปลายไม้อีก) ชอบการตั้งโจทย์ของเรื่องที่ต้องการจะถามคนว่าชีวิตคนเราจะเอาอะไรมาก และเราอยู่ไปเพื่ออะไร กนกอินทร์ใช้ชีวิตที่รอดตายมาเพื่อไถ่บาป อาจารย์ก็สร้างกนกรัฐมาเป็นตัวเปรียบเทียบให้เห็นว่าเมื่อก่อนเขาเคยเป็นอย่างไร ทั้งยังส่งแหวนพลอยมาทวงกรรมที่เขากระทำไว้กับพี่สาวเธออีก...และก็ทำให้ทั้งสองคนรักกันในที่สุด

...เรื่องนี้แรกๆ อ่านหลายคนอาจว่าอืดๆ แต่มันจำเป็นสำหรับเรื่องส่วนหลังที่เข้มข้นมากๆ อ่านสนุก เพลินโดยไม่รู้ตัว ด้วยการใช้ภาษาเรียบง่ายของอาจารย์ ทำให้อ่านรื่น แม้แต่บทพระนางก็บรรยายอย่างตรงไปตรงมาแม้ไม่หวานหยดย้อย แต่อ่านแล้วมั้น “จี๊ดๆ” มากๆ เลยล่ะ





เพลงรักริมขอบฟ้า – ดวงตะวัน


จุดใหญ่ใจความของเรื่องนี้ คือการตั้งคำถามว่า ชีวิตที่ทะเยอทะยานให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนปรารถนานั้น เป็นสรณะของชีวิตแท้จริงหรือไม่

นีรา...หรือน้ำตาลจึงถูกสร้างมือเป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่มีความคิดดังนั้น ถึงขนาดวางแผนซ้อนแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่สนใจเลยว่า หล่อนต้องแลกมาด้วยความเจ็บช้ำเสียใจของใครต่อใคร และชื่อเสียงนักร้องดังที่หล่อนกำลังได้รับ

กิดาการ...ลูกผู้พี่จึงเข้ามาเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมนี้ และนำให้เธอได้มาพบกับ เบน...หมากอีกตัวที่ถูกฝ่ายตรงข้ามกับนีราดึงเข้ามาเล่นเกมด้วย

...เรื่องนี้ชอบตรงการผูกปมและคลายปมทีละเปราะของคุณดวงตะวัน มันทำให้เรื่องน่าติดตาม อ่านไปเรื่อยๆ เพราะอย่างรู้ว่า เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร

...คุณดวงตะวันได้เล่นกับภาวะสับสนของจิตใจคนได้อีกในรูปของการบรรยาย ประกอบกับเหตุการณ์ทันสมัย จึงทำให้เชื่อได้ว่า (เด็ก)ผู้หญิงอย่างนีราก็อยู่ได้ในชีวิตนี้ เห็นหน้าตาสวยใสอาจแฝงร้ายได้โดยไม่คาดคิด เพราะสังคมเป็นตัวหลอมให้เธอคิดและทำอะไรต่างๆ อย่างที่เราอาจคิดไม่ถึง






เล่ห์ร้อยรัก – อรพิม


เรื่องนี้เป็นเรื่องของนางเอกที่ออกแนวสิบแปดมงกุฏเล็กน้อย แต่ก็ทำด้วยความจำเป็น เรื่องนี้สำหรับนางเอกจึงแหวกขนบของนางเอกคนดีไปสักหน่อย (แต่เบื้องลึกของใจ ญาดานางเอกของเรื่องก็เป็นคนดีเหมือนกัน)

ญาดาติดหนี้การพนัน เพราะนิสัยติดการพนันอย่างงอมแงม เธอต้องหาทางเอาเงินพนันมาใช้คือและไถ่ตัวน้องสาวที่หลงเข้าไปช่วยเธอแต่ติดอยู่ที่ปอยเปตให้ได้ เรื่องจึงดำเนินให้เธอมาพบกันพระเอกผู้ชื่อภูบดี เธอเห็นเขาถูกทำร้าย แต่กำลังจะช่วยนั้น เธอก็เห็นแหวนของเขา ก็เลยหวังจะ “แฮ็ป” ไปเอง แต่ต้องจัดพลัดจับผลูมาเป็นภรรยาของเขา เออออห่อหมกตาม เมื่อพาเขามาที่โรงพยาบาล แล้วที่ร้าย พระเอกก็รับสมอ้างเข้าไปอีก

เรื่องยุ่งๆ เลยตามมาตรงที่ พระเอกที่ชื่อภูบดีเกิดเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน และนำมาซึ่งการแก่งแย่งสมบัติกันอีก ดังนั้น จึงมีเรื่องการปองร้ายปนมาในเรื่องเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเป็นนิยายสืบสวนสอบสวน

เรื่องนี้มีการหักมุมอยู่หลายจุดทำให้อ่านอย่างน่าติดตาม พระเอกนางเอกแง่งอนกันเยอะมากกกก... คงถูกใจใครหลายคน

คู่รองก็น่ารักดี มนทกานติ์กับบุญทัน แต่รู้สึกว่ามนทกานติ์จะรักและชอบบุญทันง่ายไปหน่อยเท่านั้นเอง (ความคิดเห็นส่วนตัวนะ)

เรื่องนี้สนุกในแง่ที่ว่าอ่านง่ายๆ สบายๆ แต่ก็ลุ้นไปกับเหตุการณ์ว่าใครอยู่เบื้องหลังการปองร้าย การทิ้งปมไว้ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้ลุ้นในตอนหลังๆ แต่เราก็แอบเดาได้นะว่าใครเป็นคนปองร้าย เพียงแต่เดาเหตุผลจูงใจไม่ออก จนมาเฉลยเอาตอนหลังๆ ถึงได้รู้






แดนดาว – แก้วเก้า


สราลัยพลัดหลงเข้าไปในดินแดนคู่ขนาด โดยอิทธิพลของดาวหางที่วิ่งผ่านโลก !

และโลกดังว่านี้ก็คือสถานทีที่เดียวกับที่ที่เธออยู่ หากแต่ไม่ได้ชื่อประเทศไทย แต่เป็นประเทศสยาม

ทุกอย่างในโลกนี้ช่างแตกต่างเสียเหลือเกิน นับตั้งแต่บ้านเมืองเป็นระเบียบมาก ตึกรามบ้านช่องเป็นระเบียง ผู้คนไร้น้ำใจ ประเทศสยามตกเป็นเมืองขึ้นตะวันตก แต่ที่สำคัญ เมืองหลวงไม่ใช่กรุงเทพฯ แต่เป็นอยุธยา

สราลัยไม่ได้พบความแปลกใจเท่านั้น หล่อนยังไม่ได้พบกับสังคมที่เขม็งเกรียวอยู่ในขณะนั้นของประเทศสยามด้วย นั่นคือการแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนระหว่างไสยศาสตร์กับวิทยาสาตร์ (อ่านไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือน ประชาธิปไตยกับสังคมนิยม อาจแปรเจตนาของผู้เขียนที่จะเทียบเคียงผิดไปก็ได้) ตัวหญิงสาวจึงตกเป็นเป้าความต้องการของอีกฝ่าย เนื่องจากหล่อนไม่แพ้หมอกพิษซึ่งคนทุกคนในที่นั้นสูดดมแล้วตาย

...เรื่องนี้เป็นแนวผจญภัยทะลุมิติขนาดใหญ่ มีความเป็นไซไฟที่บวกรวมเข้ากับการนำเอาประวัติศาสตร์มาเล่นกับการเป็นยุคปัจจุบัน นั่นคือการเล่นกับประเด็นที่ว่า หากกรุงศรีอยุธยาไม่แตก ประเทศไทยจะพัฒนาไปทางด้านไหน

...ชอบการบรรยายลักษณะบ้านเมือง ผู้คน ความคิดความอาจ ที่แปลกๆ และต่างจากโลกปัจจุบัน แต่อยากให้ผู้เขียนได้เติมกลิ่นตรงนี้เข้าไปเยอะ ยังรู้สึกไม่อิ่มพอ (ฮ่าๆ) เพราะคิดว่าอาจารย์ผู้เขียนน่าจะเพิ่มเข้าไปได้ ให้หน้ากว่านี้






โอบิลิสก์สิเน่หา – เงาตะวัน


เป็นอีกเรื่องที่เกิดการทะลุมิติ แต่หนนี้ย้อนไปไกลสักหน่อย ทาร่า...ไกด์สาวชาวฝรั่งเศสหลงไหลในเสาหินโอบิลิสก์ซึ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัสปลาส เดอ ลา กองกอร์ด ที่กรุงปารีส ซึ่งเป็นของอียิปต์มาก่อน (แต่รัฐบาลอียิปต์ขายเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ประเทศ)

หญิงสาวของเราเกิดอ่านมนตร์ที่สลักไว้บนเสาได้ จึงทำให้ตนเองล่วงลงไปสู่กระแสกาล วกกลับไปเจอกับคาเนมพระเอกในยุคอียิปต์โบราณ คาเนมเป็นคนไม่ชอบรบทัพจับศึก เขาชอบงานปลูกสร้างมากกว่า เขาเป็นผู้คุมงานการสร้างเสาโอบิลิสก์ จนหญิงสาวนามทาร่าหลงมาจึงได้พบ อย่างไรก็ดี เจ้าชายเล็กๆ ที่ไร้ความสำคัญ ก็อาจจะก้าวไปถึงตำแหน่งฟาโรห์ เมื่อคาเนมผู้เมินเฉยต่อลาภยศได้พบสตรีต้องใจ ในหัวใจของคาเนม(รา) จึงไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่านางในดวงใจอีก

เขาหลงรักเธอทันที เพราะนางต่างจากหญิงในยุคนั้น ผมสีทอง ผิวสีขาว ประทับใจเขาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เขาจึงหาทางทุกวิถีทางที่จะนำเธอกลับไปสู่ยุคปัจจุบันให้ได้ อย่างไรก็ดี เธอก็มาทำให้เขาปั่นป่วนใจทุกเวลาที่อยู่ด้วย เพราะเธอช่างแตกต่าง มีแนวความคิดที่แตกต่างจากคนยุคนี้ นั่นยิ่งทำให้เขาหลงรักเธอ

ฝ่ายทาร่า แม้จะไม่เข้าใจในความเป็นคนระดับสูงของคาเนมที่ไม่เห็นคุณค่าของคน สั่งฆ่าใครก็ได้ แต่ยิ่งไม่เข้าใจ มันกลับทำให้เธอหลงรักเขาเช่นกัน





ไม่ได้อัพบล็อกเสียนาน อัพซะหน่อยนึง


Create Date : 06 มีนาคม 2551
Last Update : 31 มีนาคม 2551 11:40:18 น. 19 comments
Counter : 586 Pageviews.

 
คุณ Boyne หายไปนานจริงๆ ค่ะ

เล่มสุดท้ายนี่ น่าไปหามาอ่านจัง


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:11:55:43 น.  

 
คุณแพนด้าฯ - ตกใจหมดเลย มาเม้นต์เร็วมาก
เล่มสุดท้ายเชียร์ครับ


โดย: Boyne Byron วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:12:14:25 น.  

 
หวัดดีจ้า
6 เล่มนี้น่าอ่านทั้งนั้นเลย
ปล. หัวบล็อกสวยจัง


โดย: Jevanni วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:16:09:30 น.  

 
ถนนสายเสน่หาน่าสนใจดีค่ะ นึกว่าเป็นแนวสามีภรรยากับมือที่สามแบบหลายเรื่องเสียอีก

ชายชื่อกนกฯ ก็น่าสนแฮะ

นางเอกเล่ห์ร้อยรักนี่เหมือนสาวยุคนี้ดีค่ะ
คือมีความร้ายและปลิ้นปล้อนพองาม
ไม่ได้ขาวบริสุทธิ์เป็นนางแก้วแบบนิยายยุคโน้น

แดนดาว - อยากให้ยาวกว่านี้จริง ๆ นะ

โอบิลิสก์กับเพลงรักฯ - ดองอยู่ แหะแหะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:18:33:22 น.  

 
อ่านสามในหกค่า...ถนนสายเสน่หา...เพลงรักฯ แดนดาว...

เล่มแรกนั่นเก่ามาก ๆ ที่มีอยู่ไม่ใช่ปกนี้ค่ะ เป็นของสนพ.ต้นอ้อ...เล่มไม่หนามาก แต่เข้มข้นเชียวตามแบบฉบับอ.กฤษณา...

เพลงรักริมขอบฟ้าก็ออกแนวหนักเหมือนกัน ยิ่งตัวเองอ่านเล่มนี้หลังจากอ่านกาลครั้งหนึ่งของหัวใจของคนเขียนคนเดียวกัน...ได้อารมณ์ที่พลิกคนละขั้วเลย

แดนดาวก็...สั้นไปนิดจริงด้วย...
อีกสามเล่มก็น่าอ่านเชียว


โดย: แม่ไก่ วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:20:18:06 น.  

 
อยากอ่านแดนดาวอ่า...

ชอบงานของคุณชมัยภรค่ะ รู้สึกว่าเขียนโดยใช้ภาษาง่ายๆ แต่อ่านแล้วชอบ


โดย: BoOKend วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:14:39:26 น.  

 
น่าสนใจ โอบิลิสก์สิเน่หา – เงาตะวัน กับ แดนดาว – แก้วเก้า

อ่านเรื่องเพลงรักฯ กับ เล่ห์ร้อยรักแล้ว สนุกดีนะคะ ถึงแม้บางคนจะไม่ชอบเรื่องนี้ของอรพิม


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:19:00:08 น.  

 
ส้มได้อ่าน "เล่ห์ร้อยรัก" เล่มเดียวเองค่ะ นอกนั้นไม่เคยเห็นเลย สงสัยต้องลิสต์ไว้ไปหาในงานซะแล้วววว


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:19:39:56 น.  

 
ตาลุกเลยค่ะ อยากอ่านทั้งหมดเลย แต่คงต้องทยอยหามา เพราะต้องรบกวนคนที่บ้านส่งมาให้ อยูเมืองนอกมันลำบากอย่างนี้แหล่ะจ้า


โดย: น้องหมาบีเกิ้ล วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:0:43:48 น.  

 
เข้ามาฝากเนื้อฝากตัว และนิยายเล่มแรกครับ


โดย: ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:14:42:26 น.  

 
ตอนนี้ปั๊บ ลำนำหกพิภพ ก็โกอินเตอร์แล้ว


โดย: ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:17:06:08 น.  

 
อ้าว..เดี๋ยวนี้ไม่ให้ดาวแล้วเหรอ?

งานน่าอ่านหลายเล่มเลยอ้ะ

ขยันจัง อัพทีเซ็ทใหญ่เลยอ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:12:17:51 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านซักเรือ่งเลย

ต้องตามๆๆๆๆ



โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:14:29:49 น.  

 
k Jevanni - บล็อกของคุณสวยก่าอีกครับ อิอิ

k ยาคูลท์ - แนะนำโอบิลิสก์ฯ ครับ

k แม่ไก่ - แดนดาวสั้นไปจริงๆ ด้วยเนาะคุณเนาะ

k BoOKend - ดีใจ มีคนชอบงานอาจารย์ชมัยภร เหมือนกัน

k หมูย้อมสี - เล่ห์ร้อยรัก ผมเฉยๆ นะฮะ ไม่ถึงกับไม่ชอบ แต่ก็ชอบไม่มาก

k ส้มแช่อิ่ม - ลองหาเล่มอื่นๆ มาอ่านสิครับ

k น้องหมาบีเกิ้ล - เห็นใจคนอยู่เมืองนอกเหมือนกันฮะ อิอิ

k ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา - ปั๊บมันไปเรียนต่อนี่ฮะ

k สาวไกด์ใจซื่อ - ไม่ให้ดาวแล้วดีกว่าครับคุณสาวไกด์ฯ คิดว่ามันเป็นการชี้นำกันเกินไป บางคนอาจชอบหรือไม่ชอบสิ่งที่เราอ่านก็ได้ อยากให้ความเคารพกับเรื่องอ่านทุกๆ เรื่องครับ แม้จะเป็นแนวที่คนกล่มน้อยชอบก็ตาม ดังนั้น เลยเอาออกดีกว่า เอาเป็นว่ามาเล่าสู่กันฟังว่าอ่านเรื่องไหนให้ฟัง

k nonnoiGiwGiw - ติดตามได้เลยครับ


โดย: Boyne Byron วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:21:43:58 น.  

 
น่าอ่านทุกเล่มเลยครับ ว่าจะเริ่มที่ชายชื่อกนกก่อน ตามด้วยแดนดาว ส่วนเล่มอื่นๆอ่านมาบ้างแล้ว อิอิ


โดย: เมฆซาร่า IP: 118.174.58.72 วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:16:27:05 น.  

 
k เมฆซาร่า (ไม่ยอมชราเลยใช่ไหม 555) - ชายชื่อกนกฯ ถือว่าเป็นนิยายอีกเล่มที่ชอบเลยละฮะ


โดย: Boyne Byron วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:16:42:59 น.  

 

สามในหก เหมือนข้างบน แต่คนละเล่ม

ชายชื่อกนกสามคน ชอบเวลานักเขียนใช้ภาษาง่ายๆ เรื่องหนักๆ จี๊ดจริงๆ
เพลงรักริมขอบฟ้า ชอบระดับหนึ่งต่ะ แต่ถ้าหนักกว่านี้อีก จะชอบกว่านี้อีกนะ
เล่ห์ร้อยรัก อ่านเบาๆ เดาตอนจบได้ แต่ก็ยังอ่านอยู่ดี เพราะเขียนกุ๊กกิ๊กได้ไม่เลี่ยน

หาโอกาสอ่านแดนดาวอยู่ค่ะ เฮ้อ.. อยากมีเวลามากๆ มากกว่านี้

เกาะโลมาสีน้ำเงิน เก่าแล้วแต่ดีนา ถ้าเห็นต้องฉวยไว้


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:15:24:26 น.  

 
k อั๊งอังอา - รับทราบครับ เด่วงานหนังสือไปเดินหาเกาะโลมาฯ ดีกว่า


โดย: Boyne Byron วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:23:09:42 น.  

 
หมดนี่ เคยอ่านแดนดาวแค่เรื่องเดียวเองค่ะ
อ่านแล้วไม่ชอบเลย หลุดโลกมากๆ (จริงๆ เราชอบเรื่องเพ้อฝันทำนองข้ามมิติ หรือย้อนเวลา ระลึกชาติอยู่นะ แต่อันนี้รับไม่ค่อยได้จริงๆ)

คุณบรรยายได้น่าอ่านเลยค่ะ สงสัยต้องกลับไปอ่านใหม่อีกที ^^


โดย: nibble วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:18:17:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Boyne Byron
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add Boyne Byron's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.