Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 

The Good Space ขอพื้นที่สำหรับเด็กๆให้ได้เรียน และได้เล่นอย่างมีความสุขกันเถอะค่ะ

บล็อกที่เขียนในวันนี้เกิดจากการที่ได้มีโอกาสร่วมกับยูนิเซฟและแสนสิริ เพื่อเข้าร่วมชมโครงการ The Good Space ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างขึ้นเพื่อพื้นที่สำหรับเด็กๆที่พ่อแม่ทำงานก่อสร้างและต้องใช้ชีวิตในไซด์งานก่อสร้างซึ่งถือว่าค่อนข้างอันตราย แม้แต่ตัวผู้ใหญ่เองก็ตาม ไม่อย่างงั้นคงไม่มีป้ายที่เขียนว่า” อันตราย ห้ามเข้า” ติดว่าไว้หน้าไซด์งานทุกที่หรอก จริงมั๊ย?

โครงการพื้นที่สำหรับเด็ก  “The Good Space” เป็นอีกโครงการ ที่บริษัทแสนสิริจับมือร่วมกับยูนิเซฟในการคุ้มครองเด็กๆ และดูและเด็กๆให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะก่อนหน้านี้ทางแสนสิริและยูนิเซฟก็ร่วมผลักดันโครงการอื่นๆภายใต้ โครงการที่มีชื่อว่า  “Sansiri Social Change” ที่ช่วยเกี่ยวกับสวัสดิภาพเด็กทางด้านต่างๆมาโดยตลอด ทั้งโครงการโรงเรียนในไร่ส้ม 


ที่โบว์เคยไปเยี่ยมเมื่อสัก2ปีก่อน และโครงการที่เด็กๆทุกคนต้องได้รับเกลือไอโอดีน เพื่อป้องกันโรคจนสามารถผลักดันให้กลายเป็นกฎหมายได้ เยี่ยมยอดมากกกกก

 แล้วโครงการ Good Space เป็นอย่างไรล่ะ?

ก่อนอื่นเรามามองภาพกว้างๆกันก่อนนะคะ แทบทุกไซด์งานจะมีคนงานทั้งชาวไทยและเพื่อนบ้านของเราทำงานอยู่หลายร้อยชีวิต ยิ่งเป็นโครงการใหญ่ๆก็จะยิ่งมีจำนวนคนมากขึ้น บางที่ก็มีรถขนคนไปกลับที่พัก แต่บางทีคนเหล่านี้ก็นอนพักที่ไซด์งานกันเลย และมีคนจำนวนหนึ่งที่ทั้งพ่อทั้งแม่ทำงานและหอบลูกมากินนอนที่ไซด์งานด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายในบริเวณเขตก่อสร้าง เพราะปกติเวลาทำงานพ่อแม่ก็ออกไปทำงานก็ทิ้งเด็กๆวิ่งเล่นแถวนั้น บางคนพาลูกเข้าไปในเขตก่อสร้างด้วยก็ยิ่งอันตราย เห็นสื่ออกข่าวมากมายเรื่องเด็กๆโดนเหล็กทับ โดนเครนล้มทับ และอีกหลากหลายสารพัดอุบัติเหตุ  ดังนั้นนี่แหละจึงเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทแสนสิริ ที่ถือเป็นบริษัทอสังหาที่ใหญ่ที่สุดบริษัทนึงในประเทศไทยได้เห็นถึงปัญหานี้และเกิดแนวคิดในการสร้างโครงกร The Good Space ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆในเขตก่อสร้าง และไม่ใช่แค่หาสถานที่ปลอดภัยเท่านั้นนะ เค้ายังพยายามจัดหาครูอาสาเพื่อให้มาสอนหนังสือให้กับเด็กๆเหล่านี้อีกด้วย เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กๆทุกคนควรได้รับค่ะ
และในครั้งนี้โบว์ได้ไปไซด์งานที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นไซด์งานนำร่องของทางแสนสิริที่ขอความร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้างในการสร้างโครงการ Good Space ขึ้นค่ะ จริงๆนี่ถือเป็นงานช้างเลยนะ เพราะใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ บางที่ก็อ้างว่าพื้นที่ไม่พอ บางที่ก็เห็นว่าเป็นภาระ หนทางนี้ยังอีกยาวไกล คงต้องพยายามกันต่อไป 

นอกจากนี้การได้มาในครั้งทำให้โบว์ทราบว่า ทุกโครงการของแสนสิริมีนโยบายไม่ใช้แรงงานเด็กในทุกรูปแบบ ถ้าบริษัทคู่ค้าละเมิดข้อตกลงก็จะเลิกว่าจ้างโดยทันที คือเด็ดขาดมากกกก ปรบมือรัวๆๆๆ 

เอาล่ะโบว์จะพาไปดู กันว่า “The Good Space” เป็นอย่างไรบ้าง
เริ่มตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ จะเห็นเป็นที่อยู่แบบง่ายๆแบ่งเป็นห้องๆให้แต่ละครอบครัวอยู่กัน 








พอเดินเข้ามาก็เห็นห้องน้ำแยกชาย หญิง และยังมีร้านขายของด้วย เสมือนเมืองย่อมๆเมืองนึงเลยนะ แล้วพื้นที่คือดูสะอาดสะอ้านดีคะ ขอชื่นชมนะคะ





เดินมาเรื่อยๆก็มาถึงห้องเรียนของเด็กๆแล้วค่ะ ก็เป็นห้องเรียนแบบง่ายๆ เป็นห้องสี่เหลี่ยมชั้นเดียวนี่แหละค่ะ เพราะถ้าโครงการก่อสร้างสร้างเสร็จ สถานที่ที่เห็นมาตั้งแต่ต้นก็ต้องถูกรื้อถอนออกไปและไปสร้างกันใหม่ในโครงการก่อสร้างอื่นๆ ซึ่งนี่แหละก็จะเป็นปัญหาอีก แล้วจะบอกตอนท้ายๆนะคะว่าปัญหาคืออะไร



เอาละเราไปกันต่อ เข้ามาด้านในเราก็จะเห็นเด็กๆเยอะแยะ กำลังเรียนกันอยู่เลยค่ะ สำหรับการเรียนของที่นี่ ไม่ได้เรียนเอารางวัลนะคะ แต่เป็นการเรียนเพื่อให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขค่ะ อย่างเช่นเรียนให้อ่านออกเขียนได้เผื่อ ใครป่วยจะได้บอกได้ว่านี่ยาอะไรกินมื้อไหน บางคนพ่อแม่ไม่ได้เรียนหนังสืออ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เด็กเหล่านี้ก็จะสามารถช่วยอ่านช่วยเขียนแทนได้ เป็นต้น เหมือนเรียนแบบสายอาชีพอ่ะคะเรียนแล้วสามารถเอาไปทำงานหารายได้ได้เลยแบบนี้



บางคนก็วาดรูป คือวาดสวยอ่ะเค้ายังอาย เด็กเหล่านี้โบว์ว่ามีศักยภาพนะเพียงแต่ไม่ได้รับโอกาสเท่านั้น



บางคนก็ทำแบบฝึกหัด




ถ้าเป็นเด็กเล็กๆก็จะเล่นของเล่นพวกตัวต่อเลโก้ 



หลายๆคนอาจจะสงสัย อ้าวแล้วใครมาสอนเด็กๆเหล่านี้ล่ะ ขอบอกว่าโชคดีมากกก ที่เชียงใหม่มี Kids Home Foundation เป็นมูลนิธิสำหรับเด็กรับครูอาสาทั้งไทยและชาวต่างชาติที่อยากจะเข้ามาสอนเด็กๆ  ซึ่งทาง Kids Home Foundation ก็มองหาคนที่มีแนวคิดเดียวกันอยู่พอดี สุดท้ายเลยได้ร่วมมือกันในโครงการ The good space นี้แต่ตอนนี้ทางมิลนิธิก็ประสบปัญหาเรื่องกำลังคนนะคะ ถ้าใครมีเพื่อนต่างชาติหรือคนในท้องที่ที่อยากเป็นครูอาสา ก็บอกต่อกันได้นะคะ โบว์ลองไปเสิร์ชเน็ตมา มีข้อมูลแค่นี้ค่ะ ตามลิงค์ไปเลยนะคะ






คนนี้มาจากเบลเยียมมั้งค่ะ ถ้าจำไม่ผิด พูดไทยได้นิดหน่อยถึงน้อยมาก ดังนั้นเด็กๆก็ต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปค่ะ ซึ่งถือว่าดีค่ะ 



ดูกิจกรรมของเด็กๆจนถึงกลางวันก็มีข้าวกล่องมาส่งค่ะ ที่ประทับใจอีกอย่างคือเด็กๆทุกคนต้องเก็บกวาดให้สะอาดแล้ว ไปล้างมือก่อนทานข้าวค่ะ ชอบๆๆๆๆๆปรบมือให้เลย





หลังจากนั้นก็ต้องกลับกันแล้วค่ะ ครั้งนี้มาแล้วได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างทำให้คันปากอย่างบอกต่อ คือโบว์ว่ามันเป็นเรื่องของการให้ค่ะ โครงการนี้เป็นโครงการที่คงไม่มีใครนึกถึง แล้วทางแสนสิริก็ทำแบบไม่ได้โปรโมทอะไร ทำด้วยใจล้วนๆ แต่รู้มั๊ยค่ะ แสนสิรินี่ดังถึงในระดับ UN และ Unicef นะคะ เมื่อเร็วๆนี้ก็เพิ่งด้รับเชิญไปเป็นตัวแทนของภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกับภาครัฐและเอกชนจากทั่วโลก ที่สวิสเซอร์แลนด์ด้วยจ้า

ตอนนี้จะขอตอบเรื่องที่บอกว่าหลังจากโครงการก่อสร้างเสร็จแล้วต้องรื้อถอนบ้านและโรงเรียนออกทั้งหมดมันจะเกิดปัญหาอะไร  ปัญหาที่จะเกิดตามมาก็คือ เด็กๆก็ต้องย้ายตามครอบครัวไปโครงการก่อสร้างที่อื่นซึ่งถ้าเค้ามีพื้นที่สำหรับเด็กแบบนี้ก็ดีไปแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีค่ะ แล้วการศึกษาที่เด็กๆได้รับก็จะจบลงด้วย มันเป็นเรื่องที่แย่นะ คือโบว์เห็นเด็กๆกระตือรือร้นและเห็นแววตาเด็กๆแล้วคือเค้าอยากเรียนอ่ะ แต่ไม่ได้เรียน  แล้วเด็กส่วนใหญ่ก็ไม่มีบัตรซึ่งก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่แล้ว บางโครงการเปลี่ยนผู้รับเหมาเด็กๆก็ต้องย้ายตามกะทันหัน ก็อดเรียนต่อ คือฟังแล้วรู้สึกแย่มากกกก

ตอนนี้ก็หวังว่าจะมีคนเห็นความสำคัญตรงนี้และเริ้มที่จะหาพื้นที่ให้เด็กเหล่านี้ได้อยู่และได้เรียนอย่างมีความสุข คิดดูสิถ้าทุกไซด์งานมีพื้นที่ตรงนี้ให้เด็กๆ เด็กๆคงจะเติบโตเป็นเด็กดีมีคุณภาพ ลดปัญหาอาชญากรไปด้วยนะ





สุดท้ายมีคลิปวีดีโอที่จะทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นมาฝากกันด้วยจ้า







 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2558
0 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2558 11:20:48 น.
Counter : 1896 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


momybowy
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]




Friends' blogs
[Add momybowy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.