วันนี้ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ เป็นวันหยุดทางราชการ เพราะว่าเป็นวันสิ้นปี ขอนั่งพักสักหน่อยเพราะทำงานเพิ่งจะเสร็จไปสองสามอย่าง เดี๋ยวจะได้ทำอย่างอื่นๆ อีก กับวันสิ้นปี ถึงจะเป็นวันหยุดแต่ก็ไม่ได้หยุดนะ ต้องทำงานบ้านเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำประจำทุกวันเสาร์

วันสิ้นปีก็อยากจะทบทวน ๓๖๕ วันของชีวิตที่ผ่านมา ในรอบปี ๒๕๕๔ เดินทางมาอย่างรวดเร็ว นึกแล้วเหมือนเมื่อวานเป็นวันที่ ๑ มกราคมของต้นปี และวันนี้ก็เป็นวันสิ้นปีแล้ว อย่างหนึ่งที่ได้อย่างแน่นอนคืออายุที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี เรียกง่ายๆ ว่าแก่ลงไปอีกหนึ่งปี ตอนนี้ก็ก้าวย่างเข้าวัน ๓๓ ขวบล่ะ กำลังน่ารักเลย แอบเข้าข้างตัวเอง จริงๆ ก็น่ารักล่ะ มีหลายๆ อย่างที่หลายๆ คนเค้าชอบกัน คนเกลียดก็มี แต่ก็ช่างเถอะ เพราะเราก็คือตัวเราเอง

ย้อนหลังกลับไปเมื่อต้นปี ๕๔ จำได้ว่าวันที่ ๑ มกราคม ที่ผ่านมาอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนนั่งเขียนบล็อกในวันขึ้นปีใหม่และก็แลกกิ๊ฟกับเพื่อนๆ ในพันทิพในวันปีใหม่ด้วย จริงๆแล้วไม่ได้นอนตั้งแต่คืนวันที่ ๓๑ แล้วเพราะนั่งส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในห้องนอนของตัวเองกับหน้าจอโน๊ตบุค น่าจะนอนประมาณตีสองได้ และเช้าวันนี้ก็ตื่นสายนิดหน่อยเกือบๆ สองโมงเช้า เพราะว่านอนดึก แต่อากาศวันนั้นก็เหมือนอย่างวันนี้ลมพัดโชยแต่ไม่หนาวและเย็นเท่าไหร่ เรียกว่าอากาศกำลังดี อยู่บ้านกับพ่อแม่ ในวันปีใหม่ของต้นปี ๕๔

หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงปีใหม่ไปแล้วก็เหมือนเดิมการทำงานก็ยังคงเดิม ช่วงเดือนกุมภาพันธ์มีงานโทรศัพท์เลยไปเที่ยวได้เครื่องใหม่มาหนึ่งเครื่องเป็นระบบจอสัมผัส แต่ใช้งานไปใกล้ปลายปีแบตเริ่มแย่เสื่อมสภาพ เลยต้องเปลี่ยนแบตใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่แปลกใหม่เกิดขึ้นก็คือเกิดฤดูหนาวในช่วงหน้าร้อน จำได้ว่าเกิดอากาศหนาวเย็นขึ้นมาอย่างกะทันหันในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมยาวมาถึงต้นเดือนเมษายน หนาวและเย็นมาก หลายคนคิดว่าเกิดจากญี่ปุ่นที่สึนามิถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำให้อากาศแปรปรวน ทั้งหนาวทั้งเย็นทั้งฝนตก แต่ไม่มีอากาศร้อนให้เห็นเลย ปรากฎการณ์ของบ้านเรา แล้วก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ประเพณีของไทยๆ เรา ที่ทำงานก็จัดรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในที่ทำงานและเล่นน้ำสงกรานต์กันตอนบ่ายๆ ประมาณบ่ายสองโมงครึ่งกว่าๆ ได้มั้ง เล่นน้ำกันเองในที่ทำงาน สนุกกันมากมายกับวันที่ ๑๒ เมษายน ที่ผ่าน แล้วก็ต่างคนต่างหยุดสงกรานต์ แต่ก็ไม่ได้ไปไหน พักผ่อนอยู่กับบ้านเหมือนเดิม เพราะเป็นโรคกลัวน้ำ ไม่ใช่หรอก แต่ไม่อยากเปียก ออกจากนอกบ้านแล้วเปียก อยู่บ้านดีกว่า

การเขียนบล็อกก็ห่างหายไปนานเลยช่วงนั้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม ไม่ได้เขียนเลยทั้งเดือน จนกลับมาเขียนอีกทีหลังสงกรานต์ไปแล้ว นึกถึงบล็อกเพราะมีคนหนึ่งทักทำไมหยุดเขียนบล็อกไปเฉยๆ เราก็นึกขึ้นได้ เพราะช่วงเดือนเมษายนก็งานยุ่งๆ ด้วย และก็มีอย่างอื่นเข้ามาด้วย เลยไม่ได้เขียนบล็อก ได้ฤกษ์อีกทีก็ต้นเดือนพฤษภาคม เริ่มเขียนมาอย่างต่อเนื่องล่ะ ปีนี้ฝนตกเร็วกว่าทุกปี เพราะเดือนพฤษภาคม ฝนเริ่มตกอย่างต่อเนื่องแล้ว ช่วงเดือนมิถุนายนกลางๆ เดือนได้เดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางรถประจำทางไปลงที่ กทม แล้วก็แวะไปตรวจฟันที่คณะทันตแพทย์ตรงอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีหมอชิตแล้วก็ต่อรถไฟใต้ดินไปยังสถานีบางซื่อ เพราะต้องไปขึ้นรถไฟแบบรางธรรมดาที่สถานีบางซื่อ ได้ออกจากบางซื่อตอนบ่ายโมงครึ่งไปถึงพระนครศรีอยุธยาบ่ายสองโมงครึ่งกว่าๆ เกือบๆ บ่ายสามโมง อีกบรรยากาศหนึ่งเลยทีเดียว นั่งรถไฟมองผ่านหน้าต่าง นานๆ จะได้นั่งรถไฟสักที ไปค้างคืนวันเดียวก็วันรุ่งตอนบ่ายๆ ก็กลับ ตอนกลับก็กลับเหมือนเดิมกับการเดินทาง

เดือนกรกฎาคม เป็นเดือนเลือกตั้งอนาคตของประเทศไทย ก็ไปเลือกตั้งหลังจากกลับมาจากเลือกตั้งก็ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเที่ยวที่เขาแก่นจันทร์ ครั้งแรกที่ไปเพราะไม่เคยได้ขึ้นไป ขึ้นไปไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อเขาแก่นจันทร์ พระประจำจังหวัดราชบุรี ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาแก่นจันทร์ หลายโค้งเหมือนกันทางขึ้นไป จำได้ว่าตอนขากลับฝนตกหนักมาก ต้องอยู่ที่บ้านเพื่อนรอให้ฝนซาถึงได้กลับมาบ้านตัวเราเอง แถมถูกเพื่อนจับดูดอีกต่างหาก ได้ทั้งไปเที่ยว และได้เสียน้ำอีกตะหาก

เข้าเดือนสิงหา ไปงานวันแม่ตอนกลับบ้านฝนตกมืดครึ้มมาเลยอ่ะ ขี่รถหนีฝน มาใกล้ๆ จะถึงบ้านเจอฝนกลุ่มใหญ่ตกหนักกว่าเดิม สรุปเปียกตามตลอดทาง ออกได้แค่สองกิโลกว่าๆ ก็มาเจอฝนจนถึงบ้าน เป็นวันแม่ที่ลูกเปียกฝนอย่างมาก เพราะฝนตกแบบไม่ยั้งเลย ตกหนักจริงๆ คืนนั้น จำได้ และแล้วก็ผ่านพ้นไปด้วยดีกับเดือนสิงหาคม อีกทั้งยังเป็นวันพิเศษด้วยเพราะเดือนนี้เป็นวันเกิดเราด้วย มีเพื่อนๆ ในพันทิพแวะมาอวยพรกันหลายคน แต่ก็ได้ขอบคุณเพื่อนๆ เหล่านั้นไปแล้วล่ะ เดือนนี้อายุครบ ๓๒ ขวบเต็มๆ แล้วก็ย่างเข้า ๓๓ ขวบ วัยเตาะแตะอีกแล้วเรา

ปลายเดือนกันยายนได้ไปกาญจนบุรี ไปแบบฉุกละหุก เพราะรีบเดินทางไปเที่ยงกลับเย็นๆ เดินทางก็สนุกดีเหมือนกัน แต่ว่าเหนื่อยและเพลียกับการนั่งรถเหมือนกันแต่ก็นึกถึงช่วงวันที่ผ่านมาก็หายเหนื่อยแล้ว เพราะมันผ่านมานานมากแล้ว รวมถึงเดือนตุลาคมเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศหลายพื้นที่ แต่แถวบ้านโชคดีน้ำไม่ท่วมแค่ฝนตกบ่อยเท่านั้นเอง

สั่งซื้อของทางเนต เริ่มต้นจากการสั่งซื้อดัมเบล และก็มาถุงยางจากเนต แต่ก็ติดน้ำท่วมรอรับสินค้าเป็นอาทิตย์เลย ได้รับสินค้าแล้วยังต้องตกใจอีกครั้งเพราะว่าถุงยางหมดอายุหนึ่งชิ้น ก่อนส่งเค้าไม่ได้ตรวจสอบให้เราก่อนแน่ๆ เลย แต่โชคดีที่เรายังตรวจสอบก่อนใช้งาน ถึงได้รู้ว่ามันหมดอายุไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็เลยส่งเมลล์และถ่ายรูปชิ้นที่หมดอายุส่งไปให้ร้านเค้าดู เค้าก็เลยรับผิดชอบส่งชิ้นใหม่มาให้หลังจากน้ำท่วมประมาณหนึ่งเดือนได้ ถึงได้รับสินค้าที่เค้าเปลี่ยนให้ใหม่ ปีนี้เรียกได้ว่าสั่งซื้อของทางเนตหลายชิ้น ชิ้นต่อมาก็สั่งซื้อนาฬิกาดิจิตอล รวดเร็วรออยู่สองวันก็ถึงบ้านเราแล้วนาฬิกาดิจิตอลทุกวันนี้ก็ยังใช้งานได้ดี ไฟดับพอไฟมาก็ทำงานเหมือนเดิมไม่ต้องมาตั้งเวลาใหม่ ถูกใจ แต่ว่าตัวเลขตัวเล็กไปหน่อย ถ้าได้ใหญ่ๆ กว่านี้จะดีมากมีบอกวันที่เดือนปี หมดแต่เป็นแบบตัวเลขทั้งหมด ชิ้นสุดท้ายที่สั่งซื้อก็คือม้านั่งบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง อันนี้ก็ไวรอสองวันเหมือนกัน แต่ต้องไปรับเองที่ไปรษณีย์เพราะสินค้าขนาดใหญ่ เค้ามาส่งให้ไม่ได้ ได้รับหมดครบทุกอย่างจากการซื้อของทางเนต

ด้านเทคโนโลยี เปิดใช้ธนาคารอินเตอร์เนต แค่คลิกก็ได้แล้ว เปิดบัญชีใหม่อีกสองบัญชีของกสิกรไทยกับไทยพาณิชย์แล้วก็ใช้ธนาคารอินเตอร์เนตหมดเลยสะดวกสบายจริงๆ ชีวิตนี้ แค่ปลายนิ้วคลิกเท่านั้น ไม่ว่าจะจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แม่ ตัวเราเอง จ่ายค่าประกันชีวิตให้แม่ทางอินเตอร์เนต ที่จ่ายประจำก็คือค่าเนตไม่ต้องไปธนาคารล่ะ

โทรศัพท์ตัดสินใจเปลี่ยนระบบจากรายเดือนมาใช้แบบเติมเงินแล้ว กลับไปกลับมา แต่ตอนนี้คิดแล้วว่าจะใช้แบบเติมเงินี่ล่ะ เพราะรายเดือนไม่ค่อยได้โทร แต่ก็ต้องจ่ายทุกเดือน แต่เติมเงินเราไม่โทรค่าโทรก็ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหนแถมยังจ่ายน้อยกว่าเดิมอีก เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๗ ธันวาคมที่ผ่าน ตอนนี้ไม่มีใบแจ้งหนี้มาอีกแล้ว เพราะเราเติมเองไม่ต้องไปจ่ายหนี้อีกเหมือนอย่างเคย ปลดปล่อยภาระไปอีกหนึ่งอย่าง แต่ห้ามลืมเติมเงิน เดี๋ยวจะโทรออกไม่ได้ เพราะช่วงแรกๆ ไม่รู้ว่าเชคเงินคงเหลือยังไง เพราะไม่ได้ใช้แบบเติมเงินมานานมาก ค้นหนาจากเนต อาศัยถามเพื่อน ก็กดเชคยอดเงินตัวเองได้เป็นแล้ว

กับงานอดิเรกชิ้นใหม่ เติมเงินออนไลน์ เลยได้เบอร์ใหม่อีกสองเบอร์เพราะใช้เป็นเบอร์เติมเงินออนไลน์ ทุกวันนี้ก็มีครบหมดทุกค่ายโทรศัพท์เติมเงินได้อย่างรวดเร็ว เติมให้ตัวเอง คนอื่นๆ เพื่อนที่ทำงาน สาระพัดที่เค้าจะมาเติมเงินกัน แต่เดือนแรกที่เริ่มต้นทำก็ขายยอดดีเหมือนกัน หกพันกว่าบาทได้ ทยอยเติมเงินไว้เรื่อยๆ สนุกดีเหมือนกัน ตอนนี้คล่องแล้วกับการเติมเงิน แรกๆ มือใหม่ก็กดเติมผิดจะเติมให้ตัวเองกับกดเลขสลับกันกลายเป็นว่าเติมให้เบอร์คนอื่นไป ไม่เป็นไรเรายกให้ไป เพราะเราทำผิดเอง จะโทษใครล่ะ

เซกส์กับความรัก ปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่เซกส์เยอะมาก เกือบจะสองโหลล่ะ มีแต่คนหลอกไปเซกส์ แบบสำเร็จรูป ครั้งเดียวจบ ไม่เจอกันอีกเลย บางคนก็เจอกันอีกก็มี ที่สำคัญปีนี้ใช้ถุงยางเปลืองมาก เพราะว่าเอาบ่อย เวรกรรม ทำไมทำตัวแบบนี้ล่ะ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ ไม่ได้เจ้าชู้ด้วย แต่ไม่มีแฟนถึงต้องเป็นแบบนี้ไง เพราะถ้ามีแฟนเราก็คงกับแฟน แฟนเราก็คงจะดีที่สุดกว่าคนอื่นแล้วล่ะ จริงมั้ย แต่ทุกวันนี้ก็ยังอยู่คนเดียว โสดๆ เหมือนเดิม แต่ก็เจอมารผจญมาเซกส์กันเรื่อยๆ แต่เราไม่ได้ชวนก่อนนะ อีกฝ่ายเค้าเป็นคนชวนก่อนถึงไป ถ้าเค้าไมชวนก็ไม่ไปหรอก เซกส์ครั้งสุดท้ายของปีนี้ เมื่อวันที่ ๒๓ ที่ผ่านมา แล้วฝ่ายนั้นก็เป็นคนหนีไปเพราะทนจุกกับเจ็บไม่ไหว หลอกเราว่าจะไปซื้อมาม่าที่เซเว่นกินแล้วจะกลับมา แต่สุดท้ายก็โทรมาบอกว่าต้องรีบกลับบ้าน ดูดิหลอกเราไปเซกส์อีก สุดท้ายเราก็เลยนอนในโรงแรมคนเดียวหลังจากที่เค้าออกไปแล้ว เจอแต่คนหลอกไปเซกส์ ทำกันได้ลงคอนะ จำเอาไว้ มองซ้ายมองขวาทำไมเจอแต่คนจะหลอกเราไปเซกส์ทั้งน้านเลย อยากตาบอด จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าคนแบบนี้

สุดท้าย สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ คือการไหว้พรที่บ้านทุกวันพระ เปลี่ยนดอกไม้ ทำแล้วจิตใจสงบสุขดีมาก ไม่ฟุ้งซ่านเป็นคนบ้าเหมือนแต่ก่อน สวดมนต์ขอพรต่างๆ ทุกวัน และวันนี้ก็จะไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดเขาวัง ไม่เคยไปหรอกแต่อยากไปเพราะอยากสวดมนต์ขอพร จะได้เริ่มต้นปีหน้าอย่างสงบสุข ทั้งกาย และใจ ในฐานะที่เป็นชาวพุทธคนหนึ่ง โลกจะเปลี่ยนแปลงหมุนเวียนไปยังไง แต่ถ้าเราสงบใจได้ก็ดี เพราะเราจะได้มีความสุข

นี่ล่ะชีวิตในรอบปี ๕๔ ที่ผ่านมา อยากบอกว่าตัวเราเองก็ไม่ใช่คนดิบดีอะไรมากมาย บางอย่างก็ไม่ดี มีหลากหลายแง่มุม แล้วจะมองในความคิดของแต่ละคน สำหรับปีนี้สิ่งดีๆ ที่ได้ทำไว้ก็หนุนนำให้ผมทำในสิ่งดีๆ ต่อไปในปีหน้า แต่สิ่งที่ไม่ดีในปีนี้ ก็จงดับลงในปีนี้ ให้มอดมลายสูญหายไปกับวันสิ้นปี บางครั้งอาจจะเขียนบล็อกกระทบจิตใจ กระทบความรู้สึกของใคร ขอได้โปรดให้อภัยด้วย เพราะไม่ได้มีเจตนาบางครั้งเนื้อหาอาจจะไม่เหมาะสมหรือรุนแรงไป ก็อย่าถือสากัน เพราะทุกคนผิดพลาดกันได้ แต่ใครบ้างล่ะที่จะอภัยให้กันและกัน

สุดท้ายทิ้งท้ายไว้ก่อนสิ้นปี ขอให้ทุกคนเที่ยวปีใหม่ให้สนุกนะครับ เดินทางปลอดภัยทุกคน มีความสุขเยอะๆ และไว้พบกันใหม่ปีหน้า ๒๕๕๕ ครับ

Create Date : 31 ธันวาคม 2554		2 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2554 10:09:26 น.
Counter : 979 Pageviews.
Share Tweet