หลายๆคนอาจจะประสบปัญหาเรื่องความติดทนนานของน้ำหอมใช่ไหมครับ
โดยเฉพาะช่วงนี้อาจจะรู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมที่ฉีดอยู่ทุกวัน
กลิ่นจางหายไปไวกว่าปกติ วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ
ทั้งที่มีผลโดยตรง หรือโดยอ้อมกับการติดทนของน้ำหอมครับ
- คุณภาพของหัวน้ำหอมที่ใช้ บางคนอาจงงว่าทำไมลองใช้น้ำ
หอมตลาดนัดแล้วกลิ่นไม่ประทับใจเอาเสียเลย แถมยังไม่ติดอีกต่างหาก
ฉีดไปไม่ถึง 1 ชม กลิ่นหายหมดแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะน้ำหอมตลาดนัด
ส่วนใหญ่จะใช้หัวน้ำหอมเกรดต่ำ(คือใช้เกรดดีๆไม่ได้เพราะราคาสูงกว่า
3-4เท่า จากที่ลองคำนวณดู ถ้าใช้เกรดดีๆไม่น่าขายได้ใน cc ละ 1 บาทครับ)
- สูตรที่ใช้ บางร้านใช้อัตราส่วนระหว่าง
หัวน้ำหอมและแอลกอออล์ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายน้อย
เช่นใช้หัวน้ำหอม:แอลกอออล์ 1:4 1:5
แน่นอนยิ่งเจือจางยิ่งทำให้ประสิทธิภาพลดลงอยู่แล้วครับ
- ส่วนผสมอื่นๆ เช่น สารที่ทำให้ติดทน เช่น musk
ถ้าใส่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยให้น้ำหอมติดทนนานขึ้น
แต่ถ้าใส่น้อยก็แทบจะไม่มีผลอะไร
แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าใส่เยอะๆเกินขนาดจะทำให้ติดทนขึ้น
เพราะผลที่ได้จะเท่ากับปริมาณสูงสุดที่สารติดทนตัวนั้นๆจะทำปฏิกิริยาพอดีใน
สูตรเท่านั้นเอง(ง่ายๆคือใส่เยอะ เปลืองเปล่าๆครับ)
- อุณภูมิ และแสง มีผลโดยตรงต่อการติดทนของน้ำหอม
และยังมีผลต่อการผิดเพี้ยนของกลิ่นน้ำหอมด้วย จะเห็นได้ชัดว่า
ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ทำให้น้ำหอมระเหยไว และติดไม่ทนเท่าที่ควรจะเป็น
- สภาพแวดล้อมของผู้ใช้ เช่น
ถ้าฉีดแล้วต้องออกไปข้างนอกตลอด ผ่านมลพิษต่างๆ มลภาวะรอบๆตัว เช่น ควันรถ
หรือนั่งมอเตอร์ไซด์ทั้งวัน แน่นอน กลิ่นน้ำหอมจะหายไปไวมาก
- สภาพผิวของผู้ใช้เอง หากเป็นคนผิวมัน
และยิ่งผิวคล้ำด้วย แค่ฉีดน้ำหอมหลังอาบน้ำก็พอแล้วครับ ส่วนคนผิวแห้ง
และเป็นคนผิวขาว จะมีปัญหาว่าผิวหนังจะดูดซับน้ำหอมไปเร็วมาก
วิธีแก้ไขก็คือใช้ โลชั่นทาก่อน
โดยโลชั่นที่ว่านี้ต้องเป็นแบบไม่ผสมน้ำหอม(Fragrance Free)นะครับ
ทาโลชั่นให้ซึมเข้าผิวซักครู่ค่อยฉีดน้ำหอมตามไปครับ
- สุขภาพผิวของผู้ใช้น้ำหอม หากผิวไม่มี คราบไคล
หรือเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วปกคลุมอยู่ น้ำหอมจะติดดีกว่า
วิธีง่ายๆคือหมั่นสครับผิวเพื่อขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปบ้างก็จะช่วย
ได้เยอะเลยครับ
- วิธีการใช้น้ำหอม
วิธีที่ช่วยให้กลิ่นติดนานที่สุดจะเป็นการแต้ม
แต่มีข้อเสียคือกลิ่นกระจายตัวไม่ดีครับ
คือถ้าอยากให้กลิ่นฟุ้งต้องแต้มเป็นสิบๆจุด ครับ
ส่วนวิธีการฉีดแบบห่างๆตัวกลิ่นจะกระจายตัวดีกว่าครับ
แต่ก็ติดทนทานน้อยกว่าครับ ในการฉีดแล้วแต่วัตถุประสงค์ของเรานะครับ
คือถ้าอยากได้กลิ่นคนเดียวและติดนานๆ ควรฉีดในร่มผ้า เช่นบริเวณหน้าอก
หน้าท้อง กลิ่นจะลอยขึ้นยมาเรื่อยๆครับ นอกจากนี้กลิ่นยังอบอยู่ภายในร่มผ้า
และติดอยู่ที่เสื้อผ้าด้วย ทำให้กลิ่นติดนานครับ
แต่ถ้าอยากให้คนอื่นได้กลิ่นก็ฉีดด้านนอกเสื้อผ้าครับ
แต่แนะนำว่าอย่าฉีดใกล้ๆมากเพราะมีสิทธิ์ที่เสื้อผ้าจะด่างได้ครับ
ควรฉีดห่างตัวสัก 6 นิ้วกำลังดีครับ
สุดท้ายหากอยากให้ติดทนนานทั้งวันอาจจะต้องเติมกลิ่นบ้างในระหว่างวัน
เพื่อให้กลิ่นไม่เจือจางมาก แต่ก่อนเติมกลิ่น
ลองถามคนข้างๆก่อนจะดีที่สุดเพราะบางครั้ง
การที่เราไม่ได้กลิ่นไม่ได้หมายความว่าไม่มีกลิ่น หรือกลิ่นจาง
เนื่องจากอาจเกิดสภาวะล้าของจมูก หรือ Olfactory Fatigue ก็ได้
อาการนี้คือจมูกเราจะชินกับกลิ่นไปแล้วจนไม่รู้ว่ายังมีกลิ่นนั้นอยู่
หรืออาจได้กลิ่นนั้นๆเบาบางกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากเติมกลิ่นเข้าไปอีก
แทนที่จะเพิ่มสเนห์ให้ตัวเอง อาจจะเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้างได้ครับ
บทความจาก botanicplus.com
น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้ชาย) | น้ำหอมพร้อมใช้ขนาด 30ml (ผู้หญิง) | สมุนไพรผง | Essential Oil