โอซาก้า
ปีใหม่ 2556 ต่อ 2557 ที่ผ่านมา ผมตัดสินใจไปเที่ยวโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น รู้ทั้งรู้ว่าเขาจะปิดบริการห้างร้านต่าง ๆ เร็วกว่าปกติ อากาศหนาวจัด แต่ก็ บ่ ยั่นหรอก เพราะตละกะเป็นเหตุ 555
บินมาทั้งคืนจากจากสุวรรณภูมิ มาถึงที่นี่เช้าแต่ต้องปรับเวลานาฬิกาข้อมือเพื่มขึ้นอีก 2 ชั่วโมง วิ้งงงมาก ก็เลยหาวิธีเข้าเมืองง่ายที่สุดคือ รถบัสจากสนามบินคันไซไปลงสุดสายอุเมดะ เพราะจองโรงแรมไว้แถวนั้นจะได้นอนบนรถอีกสักหน่อยไม่ต้องห่วงอะไร
เดินออกมานอกสนามบินก็เจอท่ารถเลย
วิธีซื้อตั๋วก็ซื้อผ่านเครื่องตรงท่ารถนั่นแหละ
หลังจากรับบัตรฝากกระเป๋าที่ จนท โหลดใส่ท้องรถแล้วก็ขึ้นไปหาที่นั่ง แป็บเดียวรถก็แล่นออก ผ่านสะพานดูวิวสวยเชียว สนามบินเขาสร้างในทะเล เก๋มาก
นั่งมาได้สักสี่สิบนาทีก็มาถึงกลางเมือง คงเป็นเพราะไปช่วงเทศกาลรถว่างเชียว เห็นตึก Sky Buiding แว๊บๆ
สาเหตุที่ผมชอบหาที่พักใกล้สถานีรถไฟใหญ่ ๆ เพราะไปไหนสะดวก ของกินไม่แพงเยอะครับ
หลังจากเข้าไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมเรียบร้อยก็ได้เวลาออกหากิน มื้อแรกของโอซาก้า คือ ร้าน Endo ในตลาดปลา สดแน่ ๆ หึหึ
แอบถ่ายบรรยากาศร้านเพราะตื่นเต้น ต้องยืนรอคิวอยู่ด้านนอก
พอถึงคิวก็ถูกเชิญให้เข้าไปนั่งด้านใน มีเมนูให้ดู ดั่งแสดง
หลังสั่งเสร็จ พ่อครัวก็บรรเลงฝีมือสิครับ
หน้าตาอาหาร คิดถึงยังน้ำลายไหลอยู่เลย
มิโสะซุป
การนั่งกินตรงเค้าเตอร์ดูพ่อครัวทำงานนี่มันสุดยอดจริง ๆ
สั่งจาน ต่อ ๆ ไป หุหุ
จานต่อ ๆ ไป อีก
เมื่ออิ่มแล้วก็ไปดู Osaka Aquarium Kaiyukan พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากตลาดปลานั่งรถไฟไปแป๊บเดียวก็ถึง
โอววววว ใหญ่แท้เหลา
ซะหน่อย ท่าบังคับ
ซื้อตั๋วเสร็จ เดินเข้าไป เขาเอาแพนกวิ้นมาเดินโชว์
เดินชมภายใน ทางบังคับให้เราเดินไปเรื่อย ๆ จะมีจุดให้ปั๊มตรา เป็นที่สนุกของเด็ก ๆ เชียว
บรรยากาศภายในอนุญาตให้ถ่ายรูปแต่ห้ามใช้แฟรช สวยดี มีฉลามวาฬว่ายในตู้ด้วยสิเออ
ในร้านอาหารว่างของพิพิธภัณฑ์มีซาลาเปาขาย ญี่ปุ่นนี่เจ้าแห่งการออกแบบจริงๆ
หลังจากเที่ยเสร็จก็จะเดินไปสถานีรถไฟฟ้า ผ่านตึกช๊อปปิ้ง(ลืมชื่อ)หน้าชิงช้า มีนักแสดงเปิดหมวกมาเล่น ก็ดูนิดหน่อย
นั่งรถไฟฟ้าไปย่าน Minami ไปเดินเล่น อูยยยย ต้องถ่ายรูปนี้เดี๋ยวเขาหาว่ามาไม่ถึง
เดินไปเดินมาก่อนกลับโรงแรมหาทาโกะยากิกินดีกว่า พ่อค้าตีสหน้าดู
หน้าตาทาโกะยากิจากพ่อหนุ่มตีสแตก
กลับมาค่ำ ๆ ก่อนเข้าโรงแรมก็หาอะไรกินเป็นมื้อค่ำก่อนพักจบวัน อร่อยมากร้านอะไรก็ไม่ทราบมั่วๆ กินแถวสถานีรถไฟนั่นแหละ
วันต่อมา ไปเกียวโตดีกว่า
เกียวโตเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเขา เมืองเก่านี้มีวัดเก่ามากมายให้เที่ยว ผมเตรียมแผนเอาไว้เพียบเอาเข้าจริงไปดูได้สองแห่งเอง คนเยอะ รถติด ที่เที่ยวงามมากต้องใช้เวลานานเกินกว่าจะแค่ถ่ายรูปแล้วย้าย สวยซึ้งจริง
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟเกียวโต ออกไปปุ๊บอันดับแรกเลยคือซื้อตั๋วรถเมล์แบบเหมาวันพร้อมแผนที่ ถาม จนท ว่านั่งสายอะไร ว่าแล้วก็เริ่มเดินทาง
วัดแรกที่ไป วัด Kinkaku-ji หรือ วัดทอง ทางเข้าบรรยากาศยามเช้าหลังหิมะตกไปเมื่อคืน
เดินเข้าไป
เดินเข้าไป
เดินเข้าไป
ซื้อตั๋วสิ
เข้าไปแล้วเจอของจริงซะที
สุดยอดดดดดดด
ช๊อคครับช๊อค
ช๊อคต่อ ถึงแม้จะเป็นด้านหลัง
เขาทำทางเดินให้นักท่องเที่ยวเดินไปทางเดียวกัน เพื่อจะได้เป็นระเบียบให้อ้อมไปออกทางด้านหลัง ตลอดทางก็ชมวิวไปสวยเชียวครับ
อันนี้ไม่ใช่แม่คะนิ้ง แต่เป็นหิมะเบยย
เดิน เดิน เดิน
เดิน เดิน เดิน
ด้านหลังก่อนทางออกจะมีศาลเจ้า ดูชาวญี่ปุ่นเขาไหว้เจ้า
ตู้เซียมซีอัตโนมัติ
ทางออก
ตั้งใจจะไปป้ายรถเมล์ที่มาลงเพื่อเดินทางต่อปรากฎว่าท้องร้องไปต่อไม่ไหน เลยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เจอป้ายนี้เข้าให้เข้าใจว่าเป็นร้านอาหาร เมื่อเข้าไปใกล้ปรากฎว่าใช่จริง ๆ ด้วย ต่อคิวเข้าไปกิน รออยู่นาน คุ้มค่าแก่การรอคอย โซบะอร่อยมาก ๆ ผมแทบเลียชามเลย
หน้าร้านเป็นอย่างนี้
อาหารเป็นอย่างนี้
มีชาโซบะให้ดื่ม และขายด้วย
ส้วมเค้าเจ๋งอ่ะ ประหยัดน้ำดี เจ้าแห่งการออกแบบอีกแล้ว
การเดินทางในเกียวโตทั้งหมดจะใช้รถเมล์ ถ้าเรามีแผนที่แล้วไม่ยากเลย ป้ายรถเขารอง่ายดี คือ ในป้ายมีหลายสาย ก็ทำคิวแต่ละสายไว้เราก็ไปคิว ขึ้นประตูหลัง ลงประตูหน้า ยิ่งถ้าไปสถานีหลักประมาณอู่รถเมล์เดินตามสีเอาเลยง่ายดี
บรรยากาศบนรถเมล์
บรรยากาศรถติด รถเยอะ แยกมันแยะ วิ่ง ๆ หยุด ๆ ดีว่าอากาศหนาว
จากวัดทอง มาวัดน้ำใส (Kiyomizu) ลงรถเมล์แล้วเดินขึ้นเขา ไม่หลงแน่นอนเพราะคนขึ้นลงเยอะมาก
คนเมืองนี้แต่งตัวสวยจัง
เดินไม่เท่าไหร่ก็มาถึงทางเข้าใหญ่ จุดถ่ายรูปมุมมหาชน คนมหาศาล
ลองมองมุมกลับจากภาพก่อน
ว๊ากกกก 5 5 5 มันมานั่งขำอัลไล
มองกลับไปเห็นเมืองด้วย
สาธุ....ปีนี้ขอให้รวยด้วยเถิดดดดดดด
อ๊ะ...ใบไม่ล่วง
นั่นอะไร เอ๊ะ นั่นอะไร ข้างบนมีหินอยู่สองก้อน หลับตาเดินจากก้อนหนึ่งไปอีกก้อนหนึ่งได้จะสมหวังความรัก โชคดีมีคนรักแล้วเลยไม่ต้องมาทำ หุหุ
ทางขึ้น
อันนี้ ผมเรียกเอง หิน START
อันนี้หิน Finish
อันนี้ศาลเจ้า ศาลแถวนี้มีหลายแบบมาก ต้องอ่านให้ดีเพราะจุดประสงค์แต่ละศาลไม่เหมือนกัน ถ้ายื่นเรื่องผิดช่องผิดศาล ศาลท่านจะไม่รับตีความหรือดำเนินการจะมาว่าศาลเอียงทีหลังไม่ได้นะ
ทางลงเขา ทางบังคับจะเห็นภาพนี้
มองลงไป สูงเชียวเสียวนิดหน่อย ใช้ฟิวเตอร์ Toy ได้ภาพดั่งแสดง
หุ่นรูปหมาคาบ Something ถ่ายเป็นที่ระลึกว่าเจอหมาคาบ Something
เมื่อมาถึงด้านล่าง มุมมองย้อนไปด้านบน
ลากกันสักหน่อย
น้ำสามสาย แต่ละสายมีความเชื่อแต่ละอย่างถ้าได้ดื่ม แต่ผมเชื่ออย่างเดียวเลยว่าโม้ หลอกนักท่องเที่ยวไปอย่างนั้นแหละ 555
โอโห ............ ไม้ล้วน ๆ ใหญ่มาก
เดินลงแระ เจอคนเต่งตัวสวยอีกแระ
ร้านขายถ้วยชาม มีหลายร้าน หลายราคา คั้งแต่ถูกยันแพงจัดเลย
เจ้าแห่งการออกแบบอีกแล้ว กำแพงบ้านประดับน่ารักเชียว
เริ่มมืดแล้วมาทั้งวันได้ดูแค่นี้เอง เดินช้า ซึมซับนานไปหน่อย
หน้าร้านค้า เอาอ่างน้ำนี้มาตั้ง ญุี่ปุ๊นนนญี่ปุ่น
นั่งรถไฟกลับโอซาก้า หาอาหารกินแถวสถานีรถไฟเหมือนเดิม วันนี้อุด้งหน้าเนื้อน้ำใส
วันต่อมา ไปเที่ยว Universal Studio มาแต่สายชาวบ้านมากันอย่างกับแจกฟรี เป็นประสพการณ์ที่นรกมาก ทุกอย่างต้องเข้าคิวอันนี้ไม่นรก แต่ที่นรกคือคิวยาวมาก ไม่ว่าจะซื้ออะไร ทำอะไร ถ่ายรูป หรือแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ
ลากกันเข้าไปหลังยืนรอซื้อตั๋วกว่าชั่วโมง
เด็กคือผ้าขาว แต่เด็กญี่ปุ่นคืออะไรก็ได้ที่อยากเป็น
รอสามชั่วโมงเพื่อเล่นเครื่องนี้
รอคิวครึ่งชั่วโมงเพื่อซื้อไอ่นี่กินเป็นอาหากลางวัน
ชุมนุมอะไรกัน
นั่งจองที่รอดูโชว์กัน
เคยมาเล่นแล้วแต่อยากเล่นอีก ดูป้ายคิวแล้ว 3 ชั่วโมง บายจ๊ะ
ออกมาด้านนอกกินข้าวเย็นดีก่า ได้นั่งแล้ววุ้ยยืนทั้งวัน
กลับ โรงแรมจบไปอีกวันยืนรอคิวจนขาแช็งเบยยยยยย
วันต่อมาไป นารา
เนื่องจากโรงแรมที่ผมพักอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Umeda มาก ไม่ว่าจะไปไหนก็เลยง่าย วันนี้ไปนาราก็นั่งจากที่นี่ไป ง่าย ๆ นั่งเม้าไปเพลิน ๆ ก็ถึงแระ ที่นี่เขาดังเรื่องกวาง คือ เขามีกวางเดินเล่นในสวนแบบอิสระเลย ใครอยากเล่นกะมันก็ซื้อขนมแบบนี้เลี้ยงมันนะ มันชอบ ส่วนกระดาษห่อขนมไม่ต้องทิ้ง มันกินเรียบเลย
ป้าขายขนม กวางมันไม่ยุ่มย่ามเลยนะ ส่งสัยพูดภาษากวางเป็น แต่พอนักท่องเที่ยวซื้อเสร็จปุ๊บ มันรุมเลย
พวกเราบุก
ซื้อให้หน่อยดิ
ตาไม่ดีกล้องกินได้มั๊ย ไหนดมหน่อยดิ๊
มันเผาร้อน ๆ ไม่ร้อนไม่เผา
ป้ายสอนกวางให้ทำร้ายนักท่องเที่ยวในท่าต่าง ๆ เห็นกวางมันลืมมายืนอ่านหลายตัว
ว๊ากกกกกกกก วัดโทไดจิ ใหญ่มากนี่ขนาดไฟไหม้ไปสร้างเล็กลงแล้วยังใหญ่ที่สุดในโลกเลย ประเภทอุโบสถที่ทำด้วยไม้
เสาภายในต้นหนึ่งมีรู ใครรอดรูเก่ง ใครไม่รอดไม่เก่ง
หลวงพ่อองค์ใหญ่มาก
อีกมุมมองก่อนออกนอกระเบียงคต
สน สนจริง ๆ ไม่สนจะถ่ายทำไม
ทำไมกวางไม่ร้อง กวาง กวาง อย่ามาถามตู ตูก็แค่กวางตัวหนึ่ง
อาหารกลางวันแบบข้าวกล่อง เป็นข้าวเปรี้ยว+เนื้อปลา กินเป็นขนม ส่วนอาหารจริงกินอุด้ง อิอิ
ซื้อตั๋วรถไฟกลับ โอซาก้า ตั้งใจลงที่หนึ่งแต่นั่งไปนั้งมาเปลี่ยนไปลงอีกที่หนึ่ง ก็ออกจากสถานีไม่ได้เพราะราคาตั๋วซื้อมาไม่พอ เขามีตู้เพิ่มเงิน ใส่ตั๋วเข้าไปมันบอกมาเองเลยว่าต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่ถ้าจะออกที่นี่ ใส่เงินเข้าไป ได้ตั๋วใหม่
ไปเดินห้างดีกว่า ว๊ากกกกก Hip5 ปิด เลยไปเดินห้างอะไรไม่รู้ลืมชื่อ ขายกล้อง ขายเกมส์ โชคร้าย กลายเป็นดี
ตกเย็นเดินไปที่ Umeda Buiding กะไปกินข้าวเย็น ซวยแระไงปิดยกชั้นเลย ญี่ปุ่นเองยังไม่รู้เดินจ๋อยกันตรึม
แหง๋นหน้ามองฟ้า จ๋อย
กลับมาแถวโรงแรมกินข้าหน้ากุ้งเทมปุระ กินจนท้องเกือบแตก อร่อยพอสมควรแต่สั่งผิดแมร่งขนมาตรึมเลย
กลับ รร.นอนดีกว่า จาอ๊วกกกกกก
ตื่นมาอีกวัน วันนี้จะกลับแล้วแต่พอมีเวลาช่วงเช้า ไปดูปราสาทโอซาก้า ตอนแรกดูข้อมูลมาจากเว็บว่าปราสาทปิด ก็กะว่ามาถ่ายรูปเล่นด้านนอก แต่ดันเปิดซะงั้น
เจอซากุระหน้าหนาว
ลากเราไปทีที่รัก
ลองลากท่าใหม่เพิ่มพื้นที่โฆษณา ปรากฎว่าไม่ work
เนื้อหายาวเหยียด เวลาไม่พอ ดูแว๊ป ๆ
ตะก่อนนี่ทุกประเทศเลยนะ คือ ฆ่ากัน ทุกวันนี้ยังไม่เลิกเลย
ยาย : ตาจ๊ะ นั่นอ่านว่าอะไร ยายมองไม่ชัด ตา : ปราสาท ยาย : แกด่าชั้นทำไม ตา : ประสาท !!!
มื้อสุดท้ายก่อนกลับ ร้านนี้อร่อย ชื่อร้านอ่านไม่ออก
กินเสร็จขนของขึ้นรถไฟฟ้าไปสนามบิน บินกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ จบ.จ้า
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2557 |
|
10 comments |
Last Update : 20 มีนาคม 2557 20:06:20 น. |
Counter : 2427 Pageviews. |
|
|
|