Bingo 17 #Q7 >> พระราชอารมณ์ขัน : วิลาส มณีวัต
ในช่วงเวลาที่ความเศร้าสลดเกาะกุมหัวใจ เลือกหยิบเอาหนังสือที่คิดว่าจะทำให้ "ยิ้ม" ได้ขึ้นมาอ่าน แต่อ่านไป อ่านไป กลับเป็น "ยิ้มทั้งน้ำตา"
พระราชอารมณ์ขัน : วิลาศ มณีวัต สำนักพิมพ์ บริษัท พี.วาทิน พับลิเคชั่น จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 1 : ธันวาคม 2539 จำนวน 128 หน้า / ราคา 150 บาท ซื้อเมื่อ : 7 เมษายน 2543 อ่านจบ : 21 ตุลาคม 2559
:: โปรยปกหลัง ::
หนังสือเล่มน้อยแต่มากด้วยสาระสุนทรีย์เล่มนี้ สำนักพิมพ์ บริษัท พี.วาทิน พับลิเคชั่น จำกัด บรรจงจัดพิมพ์ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบห้าสิบปี เพื่อเทิดรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อชาติ และประชาชนไทยอย่างอเนกอนันต์
วิลาศ มณีวัต เป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมาย และหนึ่งในจำนวนมากมายนั้นคือหนังสือชุด "อารมณ์ขัน" ซึ่งเริ่มจาก "พระราชอารมณ์ขัน" เล่มนี้ แล้วจึงมีอีกหลายเล่มต่อมา เป็นหนังสือที่ท่านได้รวบรวมเรื่องราวจากที่ค้นคว้าและได้อ่าน มาเรียบเรียง ย่อยความ ให้เราได้อ่านกันอีกครั้ง ...อย่างสนุกสนาน โดยคัดเลือกออกมาเล่าต่อ ..10 บทด้วยกัน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "อารมณ์ขัน" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทั้งที่เป็นเรื่องชวนขันที่แทรกอยู่ใน "พระราชดำรัส" ทั้งที่เกี่ยวข้อกับบุคคลรอบพระองค์ ดังต่อไปนี้
- พระราชอารมณ์ขันนั้นหลากหลาย
- วันเสด็จฯ ทรงดนตรีที่ธรรมศาสตร์
- เมื่อพระเจ้าโบดวงทรงชักนำในหลวงให้เปลี่ยนศาสนา
- เผยความลับเรื่องแซกโซโฟนของในหลวง
- พระอัจฉริยภาพในการถ่ายรูปและวาดรูป
- "เจ้าพ่อหลวง" ของชาวเขา
- ทรงพระสำราญที่วิทยาลัยประสานมิตร
- ในหลวงกับ "ทางดิสโก้"
- "จราจร" คือ "แล่นบ้าง-ไม่แล่นบ้าง"
- พระเกียรติก้องไกล ในงานกีฬาเซียพเกมส์
ขอยกเรื่องที่อ่านแล้วชอบจากเล่มนี้มาเล่าต่อสักเล็กน้อย เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงพระดำริถึง "ประชาธิปไตย" ทรงพระราชทานพระราชดำรัสนี้ไว้ในวันทรงดนตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 มีนาคม 2512 ก่อนเราจะเกิดมาซะอีก
"...คำว่า พอสมควรนั้นเป็นหัวใจของประชาธิปไตย เพราะว่าการเลือกตั้งก็ตาม หรือการถกเถียงอะไรทุกสิ่งทุกอย่างก็ตาม ต้องได้ผลพอสมควรทั้งนั้น ถ้าไม่ได้ผลพอสมควร ได้ผลร้อยเบอร์เซ็นต์ เชื่อได้ เพราะทุกคนมีผลประโยชน์ มีความต้องการแตกต่างกัน และก็มีเสรีภาพ ความแตกต่างนั้น อาจทำให้เบียดเบียนกันได้ ก็ต้องมีผลพอสมควร จึงมีความเรียบร้อย มีความเงียบสงบ แต่ถ้าแต่ละคนเห็นแก่ตัว มีแต่จะเอาผลเต็มที่่สำหรับตัว เชื่อว่าอีกคนหนึ่งเขาก็เดือดร้อน ประชาธิปไตยหรือความเป็นอยู่ของสังคมของชาติอยู่ที่แต่ละคนมีความสุขพอสมควร จะได้ไม่เบียดเบียนกันอย่างเปิดเผย ก็หมายว่าทุกคนก็ต้องร่วมมือช่วยกันทำ ตัวใครตัวมันก็ไม่ได้ ก็ต้องถือเป็นหลักว่าเราต้องช่วยกันกันทำ ผู้ที่มีความคิด ความรู้ ก็ควรที่จะคิดให้มากหน่อย พยายามที่จะจัดการหรือทำให้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีพอสมควร
หลักสำคัญของประชาธิปไตยแบบนี้ อาจไม่ใช่หลักของประชาธิปไตยของอเมริกา หรือของอังกฤษ หรือของฝรั่งเศส หรือของจีนแดง พวกนั้นทุกฝ่ายเขามีหลักประชาธิปไตย ทั้งนั้น เขาเป็น Democracy ทั้งนั้น บางทีทางกลุ่มฝ่ายแดง ฝ่ายคอมมิวนิสต์ เขาเรียกว่า ประชาธิปไตยของประชาชน ส่วนอีกฝ่ายเขาก็เรียกว่า ประชาธิปไตย เสรีประชาธิปไตย แต่เรื่องอะไรก็ตามเราก็อาจไม่จำเป็นที่จะเอาอย่างเขาก็ได้ ประชาธิปไตยนั้นที่แท้ก็คือ ประเทศที่ประชาชนมีความคิด มีความพิจารณาที่รอบคอบเพื่อให้บ้่านเมืองมั่นคง ให้บ้านเมืองอยู่โดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน แล้วก็เชื่อว่ามีทางที่จะปฏิบัติได้ โดยเฉพาะเมืองไทย ซึ่งแม้แต่จิตใจของประชาชนก็ไม่เหมือนกับประชาชนของ ประเทศอื่น อย่างนักศึกษาเองก็มีความคิดที่ดี ได้พิสูจน์แล้วว่าได้ช่วยดูแลเกี่ยวข้อง กับการเลือกตั้งมาแล้ว อีกอันหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋านี่เอง ว่าต่างประเทศเขาฉงน เขาฉงน เขาไม่เข้าใจ เขานึกว่าการที่เรามีประชาธิปไตย มีการเคลื่อนไหว มีการปกครองนั้น ไม่ใช่ประชาธิปไตย หรือเป็นประชาธิปไตยแบบที่เขาเรียกว่า Thai-style democracy
Thai-style นี่ก็มีการพูดกันในเมืองไทยแล้วว่า เรามีประชาธิปไตยแบบไทย เขาพูดกันไป แบบไทยอาจไม่ใช่แบบไทยแท้ แต่ที่พูดนี้ขอให้เป็นแบบไทยแท้ หมายความว่า ด้วยการพิจารณารอบคอบ ด้วยการมีสติที่แท้ คือมีปัญหาอะไร เราก็เอามาพิจารณา อย่างรอบคอบ อย่างใจเย็นแล้วก็ปฏิบัติ..."
ตอบโจทย์ >> ไม่ใช่นิยาย
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2559 22:18:33 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1466 Pageviews. |
|
|
|