เตรียมใจให้พร้อม ...กลับสู่ที่เดิม
พฤหัสหน้า เราจะกลับไปนั่งทำงานที่เดิม ... ย้ำว่า ...ที่เดิมจริงๆ เพราะน้องทางนั้น ส่งข่าวมาแล้วว่า
"หนูต้องย้ายนะพี่ ...เขาให้พี่นั่งโต๊ะที่หนูนั่งตอนนี้"
พอนึกถามตามที่น้องบอก ...เฮ้ย ...นั่นมันที่เดิมจริงๆ
หลังจากที่มีการปรับปรุงสำนักงานใหม่ เมื่อครั้ง MD คนก่อนนั้น เราได้นั่งโต๊ะที่อยู่หน้าห้องผู้จัดการ ... ต่อมาก็มีการจัดสรร ...พื้นที่โยกย้าย ปรับโครงสร้างบริษัท แผนกเราย้่ายไปนั่งทำงานที่ห้องทำงาน ชั้น 3 และต่อมาอีกที ตอนเปลี่ยน MD ห้องที่เห็นวิวแม่น้ำสวยๆ ก็ขายได้ แผนกเราก็ย้ายกลับมาชั้น 5 อีกครั้ง คราวนี้ เราได้นั่งโต๊ะด้านหน้าห้องเลขา MD จากนั้นมีคนลาออก มีคนเข้าใหม่ ปรับโครงสร้างอีกที เราก็ถูกย้ายมานั่งโต๊ะอีกด้าน ....แบบว่า ย้ายบ่อยเหลือเกิน
แอบคิดว่า กลับไปคราวนี้ จะมีห้องทำงานส่วนตัว ...ดันต้องมานั่งโต๊ะเดิมอีกแล้ว
ว่ากันจากใจจริงเลยนะ ...พอได้เขียนใบลาออกไปแล้วครั้งหนึ่ง มันเหมือนกับว่า ชีวิตได้ปลดแอก เหมือนมีความกล้าหาญมากขึ้น ตอนที่เดินเข้าไปยื่นใบลาออก แบบเป็นการเป็นงานกับนายคนปัจจุบัน พร้อมกับบอกเล่าเหตุผล แบบเนิบๆ นิ่งๆ แต่ใจอ่ะแอบลุ้นว่า ...เซ็นซะทีซิคะ ...รออยู่ คุยกันอยู่นาน ...จนได้ลายเซ็นมา ก็โล่งใจ ...ไม่มีกระทั่งการเขียนความเห็นใดๆ ในเอกสารเลย ยื่นใบลาออกส่งต่อให้ฝ่ายบุคคลรับเรื่องไป
แล้วค่อยไปจรดปากกาเซ็นสัญญากับที่ทำงานใหม่ (บริษัทเดิม) อย่างสบายใจ เมื่อวันที่นัดไปเซ็นสัญญา เพื่อนร่วมงานคนนึง (ที่อยู่กันมานานแล้ว) เพิ่งรู้ว่าเรากลับมา เธอก็น้อยอกน้อยใจ ...ที่เราไม่เคยเกริ่นเรื่องนี้เลย ไม่พูดถึงเลยด้วย
บอกตามตรง ..นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนในก๊วนแล้ว เราไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานเดิมเลย กลัวความเห็นของหลายๆ คน ที่มีทั้งลบ (ต่อ MD และต่อบริษัท) และบวก จะมาเป็นตีกรอบการตัดสินใจ ...เราใช้วิธีเก็บข้อมูลจากสิ่งที่เพื่อนๆ บอกเล่าออกมาซะมากกว่า แยกวิเคราะห์และชั่งน้ำหนักไปทีละประเด็น
วันเซ็นสัญญา เป็นวันที่มีการปิดงานศิลปะของผู้เช่ารายนึง หลังจากทำเรื่องกับฝ่ายบุคคล ได้คุยกับว่าที่หัวหน้างาน ได้คุยกับ MD ก็ลงมาดูงานศิลปะนั้นด้วย ...ได้พบผู้เช่า ก็มีคนถามถึงงาน ... พอบอกว่า ...กำลังจะกลับมานั่งที่เดิมค่ะ ... ปฏิกริยาที่ได้รับ ทำใหหัวใจพองโต
ดีเลย คุณกลับมาจะช่วยได้เยอะ
ดีใจมากที่ได้ยินเรื่องนี้
มันทำให้เรารู้สึกว่า ตัวเองมีความสำคัญกับบุคคลภายนอกอยู่บ้าง ไอ้คนข้างในอ่ะ เชื่อว่าสำคัญ ไม่งั้นไม่ทู้ซี้ โทรมาชวน และต่อรองเงื่อนไขกับเราหรอก
ช่วงนี้ก็เลยใช้เวลา จัดระเบียบเอกสาร และไฟล์งาน เพื่อรอส่งมอบ พร้อมๆ กับคิดหาทางเคลียร์เวลาว่าง...เพื่อรับงานจ๊อบจากบริษัทนี้ด้วย ถ้าทำได้ เราก็ยังอยากจะสานสัมพันธ์กับบริษัทนี้ไว้ ใครจะรู้อนาคต ...ถ้ามันเหลืออด เหลือทน เราอาจเดินออกมาง่ายๆ อีกครั้งก็เป็นได้
Create Date : 11 มีนาคม 2559 |
Last Update : 11 มีนาคม 2559 19:29:37 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1030 Pageviews. |
|
|
|
แสดงว่าเป็นคนมีฝีมือ...จึงมีคนต้องการ... ดีใจด้วยครับ