เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่วันและเวลาตามที่ปรากฎในคลิปข้างต้นนั่นแหละ
ด้วยความที่หลานชายเราชอบดูการแสดงประเภท "หุ่น" มากเป็นพิเศษ
พอทราบข่าวว่าจะมีการจัดแสดงหุ่นหลายๆ ประเภท สองคนป้าหลานก็เลยจูงมือกันออกจากบ้าน
มุ่งหน้ามายังลานหน้ามาบุญครอง ....เป็นพื้นที่จัดงานกลางแจ้ง
เมื่อลงทะเบียนรับสูจิบัตรของงานมาแล้ว ก็จะเห็นตู้โชว์หุ่นประเภทต่างๆ ประกอบนิทรรศการเป็นส่วนแรก
ชุดนี้เป็น "หุ่นหลวง" ตัวขนาดประมาณ 1 ฟุต ที่เส้นสายใช้เชิดหลายเส้นดูยุ่งยากมาก
หุ่นหลวงไซส์นี้เรายังไม่เคยชมการแสดงมาก่อน ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เห็นอีกมั๊ยนะ
แต่มีหุ่นลักษณะเดียวกันนี้ ขนาดประมาณ 1 เมตร ตามประวัติว่าสร้างขึ้นมาก่อน ต่อมาจึงไปเรียกว่า "หุ่นใหญ่"
และเรียกหุ่นขนาดนี้ว่า "หุ่นเล็ก" สำหรับหุ่นหลวงขนาดใหญ่ เราได้เคยชมการแสดงมาครั้งหนึ่งแล้วใน "งานวัดอรุณ"
ถัดมาก็เป็นหุ่นกระบอก ที่น่าจะคุ้นเคยกันดี และยังคงมีจัดแสดงให้เห็นตามงานต่างๆ อยู่บ้าง
พร้อมมีการสาธิตการทำหุ่นกระบอกด้วย แล้วก็มีหุ่นละครเล็กกับหุ่นสาย จัดแสดงอยู่บ้าง
เราก็ซื้อแผ่นซีดีการแสดงหุ่นสายให้กับหลานชายไว้ดูด้วย
แล้วจึงพากันมาจับจองเก้าอี้นั่งหน้าเวที เพื่อรอเวลาชมการแสดง
เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในวิชาการบริการการจัดการแสดงทางดุริยางคศิลป์
และนี่คือ นิทรรศการของนักศึกษา ก็เลยมีพิธีการเปิดงานตามระเบียบแบบแผนกันก่อน
คนนั้นกล่าว คนนี้กล่าว เปิดงาน แล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แล้วจึงเริ่มการแสดง
ชุดแรกเป็นการแสดง "หุ่นคน" จากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เล่นเรื่อง เมขลากับรามสูร
การเชิดหุ่นคนนี้ "หนัก" เอาการอยู่นะ คนเชิดสีคน เชิดคนแสดง 1 คนทีต้องทำตัวแข็งแบบหุ่นให้เหมือนที่สุด
ถึงท่ารบ ก็ต้องยกตัวคนแสดงขึ้นๆ ลงๆ ฟาดฟันกัน ดูน่าสงสาร ....แต่คนดูสนุก ตื่นเต้น เห็นชัด
ต่อมาก็ถึงคิวชมหุ่นไซส์เล็กลงมา คือ "หุ่นละครเล็ก" คณะคำนาย จากคลองบางหลวง เล่นตอน หนุมานจับสุพรรณมัจฉา
คณะนี้ก็ได้ดูบ่อย เพราะเค้ารับงานอีเวนท์ด้วย เอกลักษณ์ของคณะนี้คือ
ผู้เชิดสวมหน้ากากสีดำ นัยว่าเพื่อไม่ให้คนดูไปสนใจสีหน้าของผู้เชิด ให้ใส่ใจแต่ตัวหุ่นเท่านั้นเอง
บทจับนางแบบนี้เปิดโอกาสให้ตัวหุ่นลงจากเวทีมาล้อเล่นกับผู้ชม และ "เก็บทิป"
ถึงตอนนี้ คุณหลานชาย ก็ชวนเราลุกจากเก้าอี้ ไปหาที่ยืนดูด้านหลัง
เพราะถึงชอบ แต่เค้าไม่อยากดูหุ่นใกล้ๆ ขนาดนั้นอ่ะนะ
จบชุดนี้ หุ่นก็ลดไซส์เล็กลงมาอีก เป็น หุ่นกระบอก จากวิทยาลัยเพาะช่าง
คณะนี้ ได้รับการถ่ายทอดการเชิดหุ่นมาจากครูชิ้น ศิลปบรรเลง จับเรื่อง พระอภัยมณี ตอน หนีนางผีเสื้อสมุทร
...ตอนนี้เปิดการแสดงครั้งแรก เป็นโชว์ในพิธีเปิดงานนิทรรศการศิลปนิพนธ์ของคณะศิลปะประจำชาตินั้นแหละ
เราก็เลยจำมุกต่างๆ ได้แล้ว รวมทั้งหุ่นกระบอกแบบมีขา ที่อาจารย์เพาะช่าง สร้างสรรค์มาเป็นพิเศษ
สุดท้ายเป็นการแสดงหุ่นสาย คณะเสมา ซึ่งตัวหุ่นเล็กลงมาอีก และการสร้างเรื่องก็ไม่ใช่อิงวรรณคดีแล้ว
คณะนี้จัดการแสดงบ่อยๆ และมีการสร้่างสรรค์บนละครหลากหลาย
เคยพาหลานชายไปดูมาครั้งหนึ่ง เจ้าตัวก็เขินหุ่นซะอีก ไม่กล้าเชิด แต่กลับบ้านทีไรก็บ่นว่าอยากได้หุ่นมาเชิดทุกที
ปิดท้ายการแสดงในวันนั้น ด้วยการผสมผสานระหว่างหุ่นละครเล็กกับตัวละครโขน ...รบกันอย่างมัน
เราว่าเป็นการแนวคิดในการสร้างสรรค์ "การแสดง" ที่ดีเลยทีเดียว ทำให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนาน
พร้อมกับการเรียนรู้ประเภทของหุ่นที่จัดแสดงในเมืองไทย ทั้งแบบประเพณีและแบบประยุกต์ได้อย่างดี