*~กายกระทบ ใจไม่กระเทือน~*
 
พฤศจิกายน 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 พฤศจิกายน 2555
 
 
ย้อนวันวาน กับการเมืองไทย ๔

(หมายเหตุ: ตาม blog ๑ ค่ะ)

วันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๖

การจราจรบนถนนทุกสายในกรุงเทพ ฯ โดยเฉพาะสายที่มุ่งไปธรรมศาสตร์ เกิดการติดขัดอย่างมาก เพราะคลื่นฝูงชน ของขบวนนักเรียน นิสิตนักศึกษา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่ระดับประถมจนถึง ระดับสูงกว่าปริญญาตรี ทั้งที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน ได้ถือโปสเตอร์ที่บรรจุข้อความและการ์ตูนการเมืองต่าง ๆ กัน เดินทางมุ่งสู่ธรรมศาสตร์เนืองแน่นไปหมด ในขณะเดียวกันที่จุฬาฯ สโมสรนิสิตจุฬาฯ ประกาศงดสอบ และจัดให้มี การอภิปรายขึ้นที่หน้าตึกจักรพงศ์

๑๑.๐๐ น. นิสิตจุฬาฯ จำนวนหนึ่งจัดขบวนเดินทางไปธรรมศาสตร์ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพจำนวนมากได้มุ่งหน้าสู่ธรรมศาสตร์โดยเดินขบวนจากทุ่งมหาเมฆมาสู่ธรรมศาสตร์ พร้อมกับถือโปสเตอร์โจมตีรัฐบาลหลายแผ่น เช่น "นี่แหละกบฏ" "เราเสียภาษีซื้ออาวุธให้มันแต่มันกลับใช้ประหารเรา"

ในระหว่างที่ยังมีการชุมนุมประท้วงกันอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีแถลงการณ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยออก แถลงการณ์ชี้แจงเรื่องหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดของกลุ่มผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางกรมตำรวจได้นำ ออกเปิดเผยว่า การทำผังแสดงโครงสร้างทางการเมืองเป็นเพียงเครื่องมือประกอบในการสอนวิชาการเมืองเท่านั้น เพื่อช่วยให้นักศึกษาเข้าใจโครงสร้างทางการเมืองของประเทศต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ฉะนั้นการทำผังแสดงโครงสร้าง อำนาจทางการเมืองของไทยจึงไม่ถือเป็นเรื่องผิดปรกติอย่างไรและหนังสือเกี่ยวกับลัทธิมาร์กซิสม์ เลนินนิสม์ เมาอิสม์ คอมมิวนิสต์ และสงครามกองโจรเป็นตำราที่ใช้เรียกกันตามปรกติในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก และก็ใช้เป็นตำราเรียน มหาวิทยาลัยไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายตามร้านหนังสือโดยทั่วไป หากจะถือว่าการอ่านและการมีหนังสือเหล่านี้ ในครอบครองมีความผิดก็หมายความว่าห้องสมุดในมหาวิทยาลัยต่าง ๆในประเทศไทย อาจารย์มหาวิทยาลัยทุกคน ที่เรียนทางสังคมศาสตร์ และร้านจำหน่ายหนังสือจะต้องมีความผิดด้วย

๑๒.๐๐ น. นายสมบัติ ธำรงค์ ธัญญวงศ์เลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษา ฯ ได้ประกาศ แถลงการณ์ของศูนย์ มีใจความว่า ให้ปลดปล่อยผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนภายใน ๒๔ ชั่วโมง นับตั้งแต่เที่ยงวันที่ ๑๒ ตุลาคมถึงเที่ยงวันเสาร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๑๖ ถ้าไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลเป็นที่น่าพอใจ จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

๑๔.๐๐ น. ที่กองบัญชาการปราบปรามจลาจล สวนรื่นฤดี จอมพลถนอม นายกฯ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเนื่องจาก ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาฯ ได้ยื่นคำขาดเป็นหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีโดยผ่านรัฐมนตรีทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ ให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นภายใน ๑๒.๐๐ น.ของวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๖

การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้ตกลงในหลักการให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนได้โดยมีการประกันตัว ส่วนข้อกล่าวหา ว่าเป็นกบฏและคอมมิวนิสต์นั้น ให้ไปต่อสู้กันในชั้นศาล

๒๐.๐๐ น. กรมประชาสัมพันธ์ออกประกาศ ปล่อยผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ๑๓ คน ทางสถานีวิทยุทุกแห่งในรายการ ภาคข่าว โดยให้มีการประกันตัวไป แต่กรมประชาสัมพันธ์ไม่ได้บอกถึงข้อเรียกร้องและข้อต่อรองของศูนย์ฯ แต่อย่างใด ผู้ต้องหา ๑๓ คนได้รับทราบคำสั่งของทางการที่จะให้ประกันตัวแล้ว แต่ทุกคนไม่ยอมออกจากห้องขังเพราะไม่เคยรู้จักกับบุคคลที่รัฐบาลตั้งคนมาเป็นนายประกัน เพราะถือว่ายังมีเงื่อนไขอยู่ ที่ธรรมศาสตร์ คลื่นนิสิตนักศึกษาและประชาชนเริ่มเบียดเสียดยัดเยียด อย่างแออัดบริเวณสนามฟุตบอล คับแคบถนัดใจ มีคนเป็นลมหลายราย

๒๒.๐๐ น. ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้ออกกแถลงการณ์ด่วนกรณีที่รัฐบาลให้ประกันผู้ต้องหา ๑๓ คนว่า ทางศูนย์ฯ ไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น ถือว่าเป็นการบ่ายเบี่ยงเจตนารมณ์เพื่อบิดเบือนเป้าหมาย ทางศูนย์ฯยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างไม่มีเงื่อนไข

นักศึกษาวิทยาลัยครูนครปฐมจำนวนประมาณ ๓,๐๐๐ คน เช่ารถบรรทุก ๑๐ คันมาลงที่สามแยกท่าพระ เพื่อเดินเท้ามุ่งสู่ธรรมศาสตร์แต่ถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในที่สุดก็ยินยอมให้นักศึกษาเดินเข้าไปได้

วันเสาร์ที่๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๖

๐๐.๑๕ น.ผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนออกแถลงการณ์ในคุก ไม่ยอมรับเงื่อนไขการประกันตัว และจะรอจนกว่าทางศูนย์ฯ จะแจ้ง ให้ทราบ

๐๓.๕๐ น. ศูนย์นิสิตฯ ยืนยันจะไม่ประกันตัวผู้ต้องหา พ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ต้องหาก็ยืนยันเช่นนั้น และผู้ต้องหาจะไม่ ออกจากคุมขังเป็นอันขาด ถ้าทางศูนย์ไม่ไปรับตัว

๐๘.๐๐ น. นักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนเข้าสมทบจนทำให้แน่นไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และล้น ออกไปนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นจำนวนหลายหมื่นคน ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล นายไขแสง สุกใส หนึ่งในผู้ต้องหา เล่าให้หนังสือพิมพ์ฟังว่า หลังจากเข้า มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาถูกแยกจากพรรคพวกไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามของกองอำนวยการป้องกัน และปราบปรามคอมมิวนิสต์ ถนนเศรษฐศิริตลอดเวลาที่ถูกควบคุมนั้นไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกเลย ครั้นเมื่อเวลา ๑๙.๐๐ น. วันศุกร์ที่ ๑๒ ก็ได้ทราบว่าจอมพลประภาสอนุญาตให้ประกันตัวแล้ว จึงถูกนำตัวไปเซ็นชื่อ รับทราบ เขาไม่ยอมเซ็น โดยอ้างว่าต้องขอพบผู้ต้องหาอีก ๑๒ คนก่อน

ทางด้านกองอำนวยการป้องกันและหน่วยปราบจลาจลที่สวนรื่นฯตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐ น. เส้นทางที่ผ่านด้านหน้า และด้านข้างกองบัญชาการสวนรื่นฯถูกปิดตาย ห้ามรถผ่านเข้าออกโดยเด็ดขาด หน่วยปราบจลาจลของทหารได้ขนเครื่องกีดขวางและสร้างรั้วลวดหนามปิดทางเข้ากองบัญชาการสวนรื่นทั้งสามด้านพร้อมด้วยกำลังหน่วยปราบจลาจล เต็มอัตรา มีรถฉีดน้ำเตรียมที่จะรับมือนักศึกษา ที่ทำเนียบรัฐบาล หน่วยปราบจราจลของเจ้าหน้าที่ตำรวจยกกำลังเข้าตรึงทำเนียบเอาไว้อย่างแน่นหนาตั้งแต่เช้า ประตูทำเนียบถูกล่ามโซ่ปิดตาย มีรถดับเพลิงและหัวฉีดแรงสูงเตรียมพร้อม

๐๙.๓๐ น. ณ ชั้นบนตึกที่ทำการสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะกรรมการบริหารศูนย์ฯ ประชุมเสร็จ จึงมีมติแบ่งหน้าที่ในการปฏิบัติงานของกรรมการศูนย์ ฯ และเจ้าหน้าที่ออกเป็นสามชุด

ชุดที่ ๑ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุลและผู้ร่วมทีมจำนวนหนึ่ง ไปเจรจากับรัฐบาลเป็นครั้งสุดท้าย

ชุดที่ ๒ เลขาธิการศูนย์ฯ และผู้ร่วมทีมไปขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระตำหนักจิตรลดาฯ

ชุดที่ ๓ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุลและผู้ร่วมทีม ทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของขบวนนักเรียน นิสิตนักศึกษาโดยขบวนจะเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลังจากเที่ยงตรงวันเสาร์ที่๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๖ และให้กองบัญชาการการเคลื่อนที่ของขบวนเคลื่อนไปตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิไตย จนกว่าคณะกรรมการ บริหารศูนย์ฯ จะมีมติให้ดำเนินการในขั้นต่อไป

๑๐.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ซึ่งเป็นนักเรียนนิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ได้ระดมกำลังตระเตรียมอุปกรณ์ ที่ใช้ในการเดินขบวนอันได้แก่ ธงชาติ ธงเสมาธรรมจักรหมวกกันแดด หมวกพลาสติกสำหรับป้องกันแก๊สน้ำตา พระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์ อุปกรณ์แสง-เสียง สายไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ เครื่องขยายเสียง เครื่องเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ ตลอดจนเสบียงอาหารและน้ำ

ส่วนที่บริเวณหน้าตึกศิลปศาสตร์ก็ได้มี การนำรถบรรทุกเล็ก ประมาณ ๑๕ คัน เตรียมไว้ใช้ในการเดินขบวนและประสานงานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บางคันที่มีความสำคัญมาก ได้มีการตดิตั้งลำโพงกระจายเสียงบนหลังคารถ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ ๖,๐๐๐ คนเดินมุ่งสู่ธรรมศาสตร์ขณะผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีนักศึกษาผู้หนึ่งนำธงดำไปปักที่อนุสาวรีย์ และนักศึกษาจำนวนนี้ได้ไปหยุดอภิปรายที่เชิงสะพานท่าช้าง

ในช่วงเวลาเดียวกัน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ และกรรมการศูนย์ อีกสองคน ได้เข้าพบจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่สวนรื่นฯ ท่ามกลางนายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ทั้งสามคนได้บอกวัตถุประสงค์ของการมาพบครั้งนี้ว่า เพื่อขอทราบการตัดสินใจของรัฐบาลเกี่ยวกับ ข้อเสนอของศูนย์ฯที่ให้รัฐบาลปล่อยผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนโดยไม่มีเงื่อนไข จอมพล ประภาสได้เสนอร่างสัญญา รัฐบาล จะปล่อยตัวผู้ต้องหา ๑๓ คน หากทางศูนย์ฯ สัญญาว่าจะหาทางให้ฝูงชนสลายตัวโดยเร็วที่สุด ผู้แทนทั้งสามได้ทักท้วงให้เติมคำว่า "โดยไม่มีเงื่อนไข"หลังคำว่า "ปล่อยตัว" จอมพลประภาสก็เติมข้อความให้ใน สัญญา สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญจอมพลประภาสตอบว่าจะร่างให้เสร็จก่อนเดือนตุลาคม ๒๕๑๗

ผู้แทนศูนย์ฯ ทั้งสามเสร็จการเจรจากับจอมพลประภาสที่สวนรื่นฯ ในเวลา ๑๑.๕๕ น.ในวันนี้ พล.ต.ท. ประจวบ สุนทรางกูร รองอธิบดีกรมตำรวจฝ่ายกิจการพิเศษ ได้สั่งตำรวจเตรียมพร้อมทั่ว กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันผู้บังคับการกรมตำรวจสันติบาลกำลังอยู่ที่โรงเรียนพลตำรวจ บางเขน เพื่อจะนำตัวอาจารย์ และนักศึกษา ๑๒ คนที่ได้รับการประกันตัวมาปล่อยตัวกองบังคับกรมตำรวจสันติบาล ปทุมวันแต่ผู้ต้องหาทั้ง ๑๒ คนไม่ยอมรับการประกันตัวและไม่ยอมขึ้นรถคงอยู่ที่หน้าตึกที่คุมขังในบริเวณศูนย์ฝึกฯ นั่นเอง เพราะเห็นว่าถ้าเข้ามาในเมือง เช่นมาที่ธรรมศาสตร์ อาจทำให้การเดินขบวนเรียกร้องรัฐธรรมนูญของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่กำลังจะเกิดขึ้นระส่ำระสายได้

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้หน่วยคอมมานโดขับไล่ทั้ง ๑๒ คน ออกมาจากเรือนจำ บางเขน โดยอ้างว่าเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของสถานที่ราชการแล้ว ทั้ง ๑๒ คน ก็ได้มาจับกลุ่มกันอยู่ที่หน้าประตู ศูนย์ฝึกตำรวจนครบาลบางเขน และไม่ยอมเคลื่อนที่ไปไหน

๑๒.๐๐ น. โฆษกศูนย์ฯ ประกาศว่าวันนี้จะเป็นวันแห่งชัยชนะของประชาชน ขอให้นิสิตนักศึกษาจัดแถวเดินขบวน อย่างเป็นระเบียบเพื่อจะได้เดินขบวนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทางประตูด้านสะพานปิ่นเกล้าฯ

๑๒.๑๕ น. กองบัญชาการศูนย์ฯ สั่งให้เคลื่อนขบวนออกจากธรรมศาสตร์ หน่วยแรกที่ออกจากประตู มหาวิทยาลัย ด้านสะพาน พระปิ่นเกล้า คือ หน่วยเฟืองป่า ทำหน้าที่เป็นกองหน้า จากนั้นหน่วย ฟันเฟืองประสานมือกันเป็นแนวยาว สองข้างทางถึงสองชั้นเพื่อเปิด เส้นทางให้แก่ขบวนใหญ่ที่จะเคลื่อน ออกมา และหน่วยรักษา ความปลอดภัยต่าง ๆ ก็ได้ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น

๑๔.๐๐ น. หน่วยหน้าอันได้แก่ คอมมานโด หน่วยหมี และหน่วยเฟืองป่า หยุดอยู่แค่หน้ากองบัญชาการ ตำรวจนครบาลผ่านฟ้าและประจันหน้าตำรวจกลุ่มหนึ่ง ส่วนหน้าของขบวนและตอนกลางของขบวนอันยาวเหยียด ได้เข้าสู่ถนนราชดำเนินกลางแล้ว แต่ส่วนท้ายของขบวนยังออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่หมด

๑๔.๔๕ น. นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ เดินทางกลับมาแจ้งว่า ได้ติดต่อกับเลขาธิการสำนักงานพระราชวังแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักศึกษาจัดตัวแทนเข้าเฝ้าได้

๑๕.๓๐ น. ขบวนนักเรียนนิสิตนักศึกษาระลอกสุดท้ายออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จนหมดสิ้น แต่ยังคงมีการรักษาการณ์ให้ความคุ้มกันและรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบตึกโดม เพราะเป็นที่ตั้งของฝ่ายการเงินของศูนย์ฯ ฝ่ายเสบียงอาหารและน้ำ พัสดุภัณฑ์และเวชภัณฑ์ ที่จะทำหน้าที่จนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น ส่วนประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกปิดหมด

ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โฆษกประจำศูนย์ฯ เริ่มอภิปรายท่ามกลางฝูงชนที่มาร่วมชุมนุมกันในบริเวณนั้น ประมาณ ๕ แสนคน ซึ่งถือได้ว่าเป็นกองทัพประชาชนที่รวมกำลังกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการศูนย์ฯ ในการควบคุมขบวน สังเกตเห็นฝูงชน รวนเร และหลายคนเริ่มคิดกลับบ้าน จึงได้ประกาศให้ทราบว่า "มาตรการขั้นเด็ดขาดมิใช่นั่งอยู่ในอนุสาวรีย์หลาย ๆ วันอย่างที่เคยทำมาแล้วในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่จะหยุดดูท่าทีของรัฐบาลเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น ห้าโมงตรงถ้ายังไม่มีคำตอบใด ๆ จากรัฐบาล ขบวนของเราจะเคลื่อนต่อไป"

๑๖.๒๐ น. นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ เลขาธิการศูนย์ฯ และกรรมการศูนย์ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อ กราบบังคมทูลถึงเป้าหมายในการต่อสู้ของนักเรียนนิสิตนักศึกษาและข้อเรียกร้องซึ่งรัฐบาลได้ยินยอมแล้ว

๑๗.๐๐ น. ที่รถบัญชาการศูนย์ฯ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล หัวหน้าปฏิบัติการเดินขบวนของศูนย์ฯได้ตัดสินใจ สั่งเคลื่อนขบวนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า โดยให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วเคลื่อนไปก่อน ส่วนท้ายขบวนให้อยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เพราะยังไม่มีข่าวจากกรรมการศูนย์ฯ จะทำให้ขบวนระส่ำระสายขึ้นได้ การสั่งการครั้งนี้เป็นการขัด กับข้อตกลงกับกรรมการศูนย์ฯ ที่ให้ควบคุมฝูงชนไว้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนกว่าพวกที่เข้าเฝ้าฯจะกลับไปหา

๑๗.๔๐ น. กรรมการศูนย์ฯ เดินทางไปสวนรื่นฯ เพื่อลงนามในสัญญากับรัฐบาลจากนั้นนายสมบัติได้แยกไปรับผู้ต้องหา ๑๓ คน เพื่อนำมายืนยันฝูงชนว่า รัฐบาลปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข

๒๐.๐๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง ๑๓ คนโดยไม่มีเงื่อนไข ใด ๆ และจอมพลประภาส จารุเสถียร ได้ให้คำรับรองว่าจะร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม ๒๕๑๗ ด้วย

๒๐.๓๐ น. ที่รถบัญชาการศูนย์ฯ กรรมการศูนย์ฯ จำนวนหนึ่งรวมทั้งนายก อมธ. ได้เสนอให้โฆษกบนรถบัญชาการศูนย์ฯ ไม่มีใครสนใจต่อคำเสนอนั้น นายองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัย ศิลปากร ได้ไปถึงรถบัญชาการศูนย์ฯ บอกให้ทราบว่าขณะนี้ได้รับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสัญญาที่ทางศูนย์ฯ ทำกับรัฐบาลแล้วกรรมการศูนย์ฯ บนรถบัญชาการได้แจ้งให้นายเสกสรรค์ทราบว่า รัฐบาล ยินดีจะปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คน โดยไม่มีเงื่อนไขแล้ว และจะร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม ๒๕๑๗

๒๑.๐๐ น. หลังจากเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหากลับมาแล้ว นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ เลขาธิการศูนย์ฯ ขึ้นไป บนรถศูนย์ฯ คันหนึ่งแจ้งให้ฝูงชนทราบว่า ขณะนั้นกรรมการศูนย์ฯได้เซ็นสัญญากับรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว และกำลัง อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแจ้งให้ฝูงชนทราบ เมื่อฝูงชนทราบว่าทางรัฐบาลได้ปล่อย ผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คน โดยไม่มีเงื่อนไขแล้ว ฝูงชนก็แสดงความยินดี แต่เมื่อนายสมบัติประกาศว่า ทางรัฐบาลจะร่าง รัฐธรรมนูญให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม ๒๕๑๗ ในครั้งแรกประชาชนยังแสดงความยินดีไชโยโห่ร้องด้วย แต่เมื่อ นายสมบัติประกาศย้ำครั้งที่ ๒ เรื่องรัฐธรรมนูญ ฝูงชนก็เริ่มลังเลแสดงความไม่พอใจ และมีการตะโกนออกมาว่า "ไม่เอา ไม่เอาต้องการรัฐธรรมนูญเร็วกว่านั้น" แต่ยังไม่ทันที่นายสมบัติจะพูดอะไรต่อไป ก็เป็นลมลงเสียก่อนเพราะไม่ได้พักผ่อน มาเป็นเวลานาน

๒๒.๐๐ น. กรมประชาสัมพันธ์ได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนฉบับหนึ่งความว่าทางรัฐบาลยอมปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง ๑๓ คนอย่างไม่มีเงื่อนไขแล้ว อย่าให้มีการก่อกวนความสงบ ถ้ามีจะถือว่าผู้นั้นไม่ไช่นักเรียนนิสิตนักศึกษา แต่เป็น ฝ่ายตรงข้ามที่พยายามก่อกวน ในเวลาเดียวกัน นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ได้แถลงทางเครื่องกระจายเสียงว่า ขอให้กรรมการศูนย์ฯ คนใด คนหนึ่งรีบเดินทางมาพบเพื่อประมวลข่าวต่าง ๆ ชี้แจงให้เพื่อนนิสิตนักศึกษา นักเรียน และประชาชนทราบ เพราะ ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเลวลง ฝ่ายปฏิบัติการไม่อาจจะควบคุมไว้ได้

วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖

๐๐.๑๕ น. เนื่องจากขาดการติดต่อกับทางศูนย์ฯ และไม่อาจทัดทานมติของชุมนุมได้นายเสกสรรค์จึงตัดสินใจ เคลื่อนขบวนไปที่พระตำหนักจิตรลดาโหฐานเพื่อขอพึ่งพระบารมีปกเกล้าฯ หลังจากจัดรูปขบวนแล้ว ต่างก็ร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีเพื่อเป็นกำลังใจ

๐๑.๑๕ น. ขบวนของฝูงชนได้เผชิญหน้ากับแถวปิดกั้นของตำรวจที่อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม จึงไม่สามารถเคลื่อนขบวนต่อไปได้

๐๒.๔๕ น. นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล พบกับ นายธีรยุทธ บุญมี ที่รถควบคุมขบวนส่วนหน้า เมื่อทั้งสองพบกันก็รู้ว่า เกิดความเข้าใจผิดกัน นายธีรยุทธถาม นายเสกสรรค์ว่า ทำไมจึงไม่มีการสลายตัวในเมื่อได้ทำการตกลง กับทางรัฐบาล เรียบร้อยแล้ว นายเสกสรรค์ตอบว่า ในขณะที่อยู่บริเวณพระบรมรูปทรงม้านั้น ผู้คนกำลังอารมณ์ร้อนมาก ที่เคลื่อน ขบวนมาที่พระตำหนักจิตรลดาฯ ก็เพราะหวังพระบารมี เป็นที่พึ่งเท่านั้น เมื่อเรื่องทั้งหมดสามารถคลี่คลายลงได้แล้ว คนทั้งหมดได้ช่วยกันประกาศผ่านไมโครโฟน เพื่อให้ฝูงชนนั่งอยู่ในส่วนหน้าของขบวนเกิดความเข้าใจและคลายความสงสัย แล้วนายธีรยุทธก็ประกาศว่า จะพานายเสกสรรค์ไปขอเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมกับตน ขณะนั้นเป็นเวลา ๐๓.๐๐ น.

๐๔.๓๐ น. พ.ต.อ. วสิษฐ์ เดชกุญชร ได้อันเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาอ่าน ความว่า "คนที่เป็นผู้ใหญ่ ( คนเก่า ) นั้นเขามีประสบการณ์ ส่วนคนหนุ่มสาวมีพลังแรงทั้งร่างกายและทั้งความคิด ถ้าหากมาปรองดองสมัครสมานกัน ทำงานอย่างพร้อมเพียงไม่ผิดใจแคลงใจกัน การบ้านการเมืองก็จะดำเนินไปได้ด้วยดี นิสิตนักศึกษาก็เป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบเลือกเฟ้นมาเป็นที่แน่นอนแล้วว่า มีทั้งสติและปัญญาพร้อมมูล จึงควรจะได้รู้ถึง ความคิดผิดชอบชั่วดีทุกอย่างเมื่อนิสิตนักศึกษาได้ดำเนินการมาตรงเป้าหมาย และได้รับผลตามสมควรแล้ว ก็ขอให้กลับคืนสู่สภาพปรกติเพื่อยังความสงบเรียบร้อยให้เกิดแก่ประชาชนทั่วไป"

เมื่ออ่านพระบรมราโชวาทแล้ว พ.ต.อ. วิสิษฐ์ เดชกุญชร และนายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล รวมทั้งกรรรมการศูนย์ฯ อีกหลายคนได้พูดต่อขอให้ฝูงชนแยกย้ายกลับบ้าน แล้วก็ได้มีประกาศให้ทุกคนหันหน้าไปทางพระตำหนักจิตรลดาฯ แล้วร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีขณะนั้นเป็นเวลา ๐๖.๐๐ น. จากนั้นฝูงชนก็เริ่มสลายตัว ๐๖.๐๕ น.

เมื่อขบวนสลายตัวไปตามถนนพระราม ๕ มุ่งสู่สี่แยกดุสิต ได้ถุกสกัดกั้นโดยหน่วยคอมมานโด ของตำรวจนครบาลและกองปราบ แม้จะได้ขอร้องแล้ว แต่ตำรวจยังคงยืนกรานที่จะให้ประชาชนถอยกลับ ไปออกทางเดิม นักเรียนหลายกลุ่มไม่อาจเข้าใจได้ที่ต้องถูกบังคับให้เดินทางไกลมากขึ้นทั้งที่ง่วงนอนและอ่อนเพลียเต็มประดา ส่วนฝูงชนด้านหลังไม่รู้ว่าด้านหน้าถูกตำรวจปิดกั้นต่างพากันหนุนเนื่องเข้ามา ทำให้ด้านหน้าต้องประจันกับตำรวจ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง มีคนปาไม้และขวดไปยังตำรวจเพื่อหวังจะให้ตำรวจหลีกทาง แต่ พล.ต.ท. มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น ไม่ยอมสั่งให้ตำรวจปราบปรามจลาจลเปิดแนวปิดกั้น เพราะ พล.ต.ท. ประจวบ สุนทรางกูร รองอธิบดีกรมตำรวจฝ่าย กิจกรรมพิเศษ ได้ออกคำสั่งไม่อนุญาตให้เปิดแนวปิดกั้นให้ประชาชนผ่าน

๐๖.๒๐ น. รถบัญชาการของศูนย์ฯ ได้เคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังของฝูงชน ห่างจากแนวตำรวจประมาณ ๕๐ เมตร โฆษกบนรถพูดชักชวนให้ประชาชนส่วนใหญ่เดินกลับบ้านทางด้านวัดเบญจมบพิตร ตอนนี้เองได้เกิดการวุ่นวายกันขึ้น โดยฝูงชนได้ดันรถเก๋งสีดำคันหนึ่งเข้าไปหน้าแนวปิดกั้นของตำรวจ และมีเสียงบริภาษจากนักเรียนนักศึกษา และประชาชนเป็นอันมาก จากนั้นผู้เดินขบวนหลายคนเริ่มขว้างปาตำรวจด้วยไม้ ขวด ข้าวห่อ และก้อนอิฐเป็นการใหญ่ เพื่อหวังจะให้ตำรวจหลีกทางให้พวกตนเดินผ่านไปได้โดยสะดวก ฝูงชนจำนวนมากผนึกกำลังกันหนาแน่นขึ้น และพยามยามผลักดันคนซึ่งประจันหน้ากับแนวตำรวจด้านหน้า พร้อมทั้งขว้างปาท่อนไม้และอิฐไปยังกลุ่มตำรวจ

๑๖.๓๐ น. รถตำรวจที่ใช้ปราบปรามจลาจลติดไซเรนสองคันวิ่งมาหลังแนวปิดกั้นของตำรวจ การขว้างปาได้รุนแรงขึ้น พล.ต.ท. มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น สั่งให้หน่วยคอมมานโดใช้กำลังเข้าต่อต้านพวกเดินขบวนได้ ถ้าหากเห็นว่าไม่สามารถจะยับยั้งการผลักดันและการขว้างปาของประชาชนได้

ในที่สุดตำรวจหน่วยปราบปรามทั้งหมดได้ใช้ไม้กระบองและโล่เข้าตีและดันกลุ่มผู้เดินขบวนให้ถอยร่นไป โดยจัดแถวเป็นรูปหัวหอกพร้อมกับตีและดันไปข้างหน้าโดยไม่เลือกว่าจะเป็นชาย หญิง หรือเด็ก ในขณะเดียวกัน ตำรวจกองปราบในแนวหลังก็ได้รับคำสั่งให้ยิงแก๊สน้ำตาไปข้างหน้า ทำให้ฝูงชนส่วนใหญ่ต้องถูกดันถูกตี สำลักแก๊สน้ำตาจนตกน้ำ และวิ่งหนีเอาชีวิตรอดเป็นชุลมุน ฝูงชนแตกกระจายโดดลงคูน้ำทั้งสองข้างทาง หลายคนได้ล่วงล้ำเข้าไปในพระราชฐานเพราะความหวาดกลัว มีหลายคนถอยมาอยู่ที่หน้าประตูพระตำหนักจิตรลดาฯ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่รักษาวังได้ออกมาให้ความช่วยเหลือโดยนำคนเจ็บหลบเข้าไปในวัง ประชาชนที่ปีนข้ามรั้ว พระตำหนักจิตรลดาฯ เข้าไปแล้วได้ขวางปาก้อนอิฐข้ามรั้วไปยังกกลุ่มตำรวจทำให้ตำรวจยิงกระสุนระเบิดแก๊สน้ำตา ข้ามรั้วไปตกในเขตพระตำหนักจิตรลดาฯหลายลูก ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกไล่ตี ทำให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนหันหน้ามารวมกำลังกัน อย่างเหนียวแน่น และได้ต่อสู้กับตำรวจด้วยอาวุธเท่าที่พอจะหาได้ เช่น ก้อนหินไม้ เป็นต้น การปะทะใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาทีคือเริ่ม ตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐-๐๖.๔๕ น.

และกำลังของนักเรียนนิสิตนักศึกษาประชาชนได้ถอยร่นไปรวมกัน ที่ ลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นส่วนมากส่วนหนึ่งได้ออกไปที่ ธรรมศาสตร์ได้รับรู้ว่า บัดนี้ได้ถูกหักหลังโดยตำรวจแล้ว และได้ออกประกาศไปทั่ว บอกข่าวอย่างรวดเร็ว ประชาชน ที่ได้รับฟังข่าวแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ที่ตำรวจจะหักหลัง ตลบตีนักศึกษาประชาชนในตอนเช้า การกระทำของตำรวจครั้งนี้ได้สร้างความเดือดแค้น ให้แก่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนอย่างยิ่ง นี่คือจุดเริ่มต้นของการนองเลือดและการจลาจล

๐๘.๔๐ น. มีการประกาศให้ฝูงชนกลับไปรวมกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

๐๙.๐๐ - ๐๙.๓๐ น. พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ในบริเวณท้องสนามหลวง มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ถนนราชดำเนินกลาง และหน้ากรมประชาสัมพันธ์ และได้รายงานข่าวโดยตรงมาถึงจอมพลถนอม และจอมพลประภาส ในทำนองว่า ใต้ตึกโดมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มีการซ่องสุมอาวุธและผู้คน โดยเป็นไปตาม แผนของคอมมิวนิสต์

๐๙.๓๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้กระจายแถลงการณ์ของจอมพลถนอมบิดเบือนความจริงว่า ประชาชนบุกรุกเขตพระราชฐาน และใส่ความว่าประชาชนทำร้ายตำรวจและประชาชนด้วยกันเอง กรมประชาสัมพันธ์แถลงว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขอให้ใช้คำว่า "พวกก่อการจลาจล" ( พกจ. ) แทนคำ "นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน"

๑๐.๓๐ น. ฝ่ายรัฐบาลส่งทหารจาก ร. ๑๑ พร้อมด้วยรถถัง เข้าคุมสถานการณ์ ใช้ปืนกราดยิงนักศึกษาเสียชีวิตระนาว นักเรียนและประชาชนสู้อย่างทรหด ขับรถเมล์เข้าชนรถถัง แต่ก็ถูกยิงเสียชีวิต ผู้บาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลศิริราช ตลอดเวลา

รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เป็นระยะ ๆ ในขณะเดียวกันเกิดข่าวลือแพร่สะพัดว่านักศึกษาหญิง ที่ถือธงไตรรงค์ในวันเดินขบวนถูกตำรวจตีตาย เด็กผู้ชายถูกถีบเตะตกคูน้ำจนตาย สร้างความโกรธแค้นให้แก่ผู้ร่วมชุมนุม เป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์รุนแรงหนักขึ้น รัฐบาลส่งทหารและตำรวจออกปราบ ทั้งรถถังและ เฮลิคอปเตอร์ จุดปะทะและนองเลือดมีตลอดสาย ถนนราชดำเนิน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บางลำพู เป็นเวลาถึง ๑๐ ชั่วโมง พร้อม ๆ กับมีคำสั่งห้ามประชาชน ออกนอกบ้าน ระหว่าง ๒๒.๐๐ -๐๕.๓๐ น.

ประกาศปิดโรงเรียนและสถาบันการศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ สมุทรปราการ และกำหนดให้บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเขตอันตราย เตรียมพร้อมที่จะทำการกวาดล้างใหญ่ ขอให้ทุกคนออกจากบริเวณดังกล่าวภายในเวลา ๑๘.๐๐ น.

๑๘.๐๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียงของกรมประชาสัมพันธ์ได้ประกาศข่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของจอมพล ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีได้ประกาศลาออกแล้ว

๑๘.๓๐ น. ฝ่ายประชาชนได้ถอยมาชุมนุมกันที่บริเวณรอบ ๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยประมาณ ๓ หมื่นคน ขณะนั้น ได้มีเครื่องบินฝึกบินชั้นเดียวลำหนึ่งมาวนเวียนอยู่รอบ ๆพร้อมทั้งประกาศให้ประชาชนทราบถึงการลาออกของรัฐบาล จอมพลถนอม ขอให้นักเรียนนักศึกษาหยุดการกระทำใด ๆ แล้วทหารตำรวจก็จะหยุดปฏิบัติการเช่นเดียวกัน แต่การประกาศ ดังกล่าวไม่ได้สร้างความเชื่อถือให้แก่ประชาชนที่มาชุมนุมเท่าใดนัก ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นกลลวง เพราะจอมพลถนอมยังมีตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดอยู่

๑๙.๔๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกรายการทางโทรทัศน์ พระราชทานกระแสพระราชดำรัส แก่ประชาชนชาวไทยว่า วันที่ ๑๔ ตุลาคม เป็นวันมหาวิปโยค ทรงเปิดเผยว่ารัฐบาลจอมพลถนอมได้ลาออกแล้ว และทรงแต่งตั้งให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแทน

๒๓.๐๐ น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระราชดำรัสทางโทรทัศน์แสดงความห่วงใย

ตลอดคืนนี้มีการต่อสู้ ระหว่างนักเรียนประชาชนกับตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า ฝ่ายนักเรียนและประชาชนปักหลักสู้ จากตึก บริษัทเดินอากาศไทยและป้อมมหากาฬ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประชาชน ๕ หมื่นคนนั่งเรียงรายบนถนนราชดำเนินกลางอย่างสงบ ผู้นำศูนย์กลาง นิสิตนักศึกษาฯ ขาดการติดต่อ ซ้ำมีข่าวลือว่าบางคนเสียชีวิตแล้ว เช่น นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล และนางสาวเสาวนีย์ ลิมมานนท์

จึงมีการจัดตั้ง "คณะกรรมการศูนย์ปวงชนชาวไทย" ขึ้นชั่วคราวเพื่อประสานงานและคลี่คลายสถานการณ์ คณะกรรมการศูนย์ฯมีประมาณ ๑๐ คน ประกอบด้วยนิสิตจุฬาฯ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง นักศึกษาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต นักเรียนพาณิชย์การ แห่งละหนึ่งคน อดีตประธาน ศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย และทีเหลือเป็นประชาชน แต่ละคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

คืนนั้นเสียงปืนยังดังประปราย ท้องฟ้าแถบถนนราชดำเนินเป็นสีแดง มีควันไฟพวยพุ่งอยู่เป็นหย่อม ๆ การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยดำเนินไปตลอดคืน

(ตอนแรกกะว่าคงจบ blog นี้ ^^' แต่ไม่ไหวค่ะ ยังมีต่ออีกนะ เครดิต ก็ blog ถัดไปนะคะ)




Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 18:51:03 น. 0 comments
Counter : 436 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ทางช้างเผือกมีดาวสีชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ทางช้างเผือกมีดาวสีชมพู's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com