Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
6 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 

คุยกันก่อนวันลอยกระทง

วันคืนผ่าน ฤดูกาลเปลี่ยนเวียนลับหายไป แต่จิตที่ครูกลางยังผูกพันกับเพื่อนๆ สจว. 90 ทั้งปวงนั้น มิเคยผันแปรแต่อย่างใด ยังคงแน่วแน่เสมือนหินผาที่ยืนทมึนอย่างมั่นคงท่ามกลางพายุใหญ่ที่โหมกระหน่ำ....ว่าเข้านั่น...ฮ่า! อย่างไรก็ตามวันเวลาที่ผ่านไปก็นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่สมาชิกกลุ่มของพวกเราบ้างตามสมควร บางคนอาจมีภาระในชีวิตมากเกินไป  บางคนอาจมีปัญหาส่วนตัว เหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคในการมาร่วมกับเพื่อน ๆ แต่ครูกลางก็ยังระลึกถึงเพื่อนทุกคนมิรู้ลืม


พระท่านว่าไว้มีพบย่อมมีจาก มีหน้าหนาวแล้วต้องมีหน้าร้อน มีเกิดย่อมมีเสื่อมและดับสูญ นอกจากไม่ได้ข่าวเพื่อนหลายคน เพื่อนของเราอีก 2 คนต้องจากไปอย่างไม่กลับ สร้างความโศกาอาดูรพูลเทวษให้กับครูกลางเป็นที่ยิ่ง ยังคิดถึงพี่ตุ๋ยอยู่มิวาย ส่วนคุณเล็กไปรษณีย์นั้น ใครจะเชื่อว่าแกจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อน แกสูงใหญ่ แข็งแรงประดุจช้างสาร แถมเกษียณมายังขี่เสือภูเขาไปเที่ยวจังหวัดโน้นนี้อีก   เฮ้อ ต้องปลงครับ มันเป็นวิถีของธรรมชาติ สรรพสิ่งตั้งอยู่บนความไม่เที่ยง มีเกิดย่อมมีดับ  ใยต้องยึดมั่นถือมั่นให้มากความ ตอนนี้ครูกลางกะลังพยายามเข้าใจ เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและจากไปของสรรพสิ่งอย่างจริงจัง ได้ความเมื่อไรแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ...ฮ่า!


นับไปนับมา ครูกลางก็มาอยู่บ้านหลังน้อยแถวสันทราย เจียงใหม่เมืองงามเกือบ ๆ 5 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีใครกรายมาเยี่ยมเยียน  ยกเว้นตาอู๊ด อย่างว่าละครับ บ้านช่องห้องหอจะให้โอฬารเหมือนกับของเสี่ยอู๊ดเสี่ยยงได้ยังไง แต่ครูกลางก็ยังมีความสุขกะน้านงค์ เพราะปลูกเรือนพอตัว หวีหัวพอเกล้า เลยไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินใคร มีข้าวเหลือเกลืออิ่ม ตั้งกะมาอยู่นี่ ก็ไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนเลย แต่แม้จะอยู่นิ่งเฉย ก็เหมือนได้เดินทาง ชีวิตเรามีจุดเริ่มต้นและปลายทางอยู่แล้ว  ทุกลมหายใจเข้าออกชีวิตเราก็ต้องเดินทางไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงจุดหมาย เวลาที่ล่วงไปก็พาเอาวัยของครูกลางไปด้วยเรื่อยๆ...เฮ้อ!ทำไมพูดแต่เรื่องเศร้าวะ ถ้าจะติดตาอู๊ดมาเป็นแน่ ....ฮ่าๆ !


แม้คืนวันเวียนผันผ่าน ครูกลางก็ยังเหมือนเดิมครับ ครั้งเมื่อเจอกันที่ สจว.เป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นยังงั้น ที่ว่านี่คือจิตใจที่มีต่อเพื่อนนะครับ สังขารไม่เกี่ยว...ฮ่า! ก็สังขารมันโรย โรคภัยก็รุมเร้า เมื่อสองปีที่แล้วครูกลางเริ่มมีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วกลางตุบๆ ไม่ปวดมาก แต่มันรำคาญ ปวดแม่มทั้งวันทั้งคืน หมอบอกว่าเป็นพังผืดที่ฝ่ามือ แต่อาการยังน้อยเกินไปที่จะผ่า ก็เลยต้องอาศัยนวดแผนไทยกับกายภาพบำบัดช่วย นวดไทยนี่มันเจ็บอิ๊บอ๋ายเลย ขนาดครูกลางร้องโอดโอยลั่นห้องจนคนมามุงดูนึกว่าหมูถูกเชือด ไอ้คนนวดมันก็ยังนวดอย่างเต็มความสามารถ ไม่ผ่อนปรนแม้แต่น้อย ...เฮ้อ ! เวรกรรม!


ครูกลางทนเจ็บทนรำคาญอยู่นานโข ร่ำๆ จะให้หมอศรีช่วยก็เกรงใจ เพราะขอหมอช่วยหลายครั้งแล้ว วันนึงบังเอิญดูทีวีรายการเกี่ยวกับดุลยภาพบำบัดอะไรทำนองนี้ก็สนใจ หมอพูดน่าเชื่อถือครับ มีคนไข้มาออกรายการด้วย ทุกคนก็ว่ารักษาแล้วดีหมด ครูกลางเลยตามดูหลายตอนมากจนบอกกับน้านงค์ว่า อันนี้แหละ  งวดนี้หายเจ็บแน่ ! ว่าแล้วก็โทรนัดหมายที่คลินิกทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าหมอจะรักษาอย่างไร แล้วรีบผันผายสู่เมืองกรุงในทันใด


ลงจากเรือบินก็ยักแย่ยักยันขึ้นรถเมล์หลายต่อเพราะต้องการประหยัดตามนโยบายรัฐ ผ่านวิทยาลัยที่พี่เกี๊ยกเคยเป็นผอ.อยู่ด้วย จนมาถึงประมาณ 11 โมง ด้วยความรอบคอบ จึงข้ามถนนไปฟาดข้าวขาหมูจานครึ่งรองท้องไว้ก่อนเข้าคลีนิค คอยซักพักก็มีเจ้าหน้าที่เรียกไปซักประวัติ ครึ่งชั่วโมงต่อมามีเจ้าหน้าที่อีกคนเรียกคนไข้ ถ้าจะเกือบ 30 คน มีผู้ชายอยู่ 4 เอง มาทำกายบริหารยืดเส้นยืดสายเตรียมร่างกายไว้ก่อนราว 10 นาที แล้วจึงแยกเข้าห้องหญิงห้องชาย ถอดเสื้อผ้าใส่แต่ผ้าขาวม้าผืนเดียว สิ่งที่เหลือคือ...คอย! ...เฮ้อ!


คอยแล้วคอยเล่าเฝ้าแต่คอย การรอคอยนั้นทรมาน ยิ่งเป็นการรอและจดจ่อกับการกับมาของอีกคน เวลามันยิ่งเนิ่นนานกว่าปกติ ทั้ง 4 คนคุยกันจนไม่มีอะไรจะคุย นอนหลับ ตื่นมามองหน้าแล้วหลับต่อ ช่างเชื่อมเหล็กบอกว่ามาตั้งกะเจ็ดโมงเช้า อีกคนเป็นคนไต้หวันแต่พูดไทยได้ บอกว่าเรื่องคอยไม่กลัว แต่ไม่บอกว่าหมอจะมาเมื่อไรนี่น่ากลัว คอยตั้งแต่เที่ยงนิดๆจนบ่ายสามแล้ว หนุ่มอีกคนร่ำร้องว่าผมไม่คอยหมอคนนี้แล้ว มีหมออื่นไหม ก็มีหมอหนุ่มมาจัดการฝังเข็มให้ก่อน ส่วนครูกลางคอยหมอที่ว่าเพราะเชื่อมั่นคุณหมอมาก


ฤกษ์ดีมักมาหลังเพล บ่ายสามสี่สิบห้า ก็มีเสียงตึงตังโครมครามที่ประตูห้อง หมอที่ครูกลางเห็นในทีวีเดินจ้ำอ้าวนำหน้าพลพรรคอีก5 คน ปากก็ร้องว่า “คิวใครก่อนนี่ มานั่งตรงนี้เร้ววว! คนอื่น ๆก็มารวมกันข้าง ๆ หมอนี่” ครูกลางก็เงอะๆงะๆ ลงจากเตียงขมวดผ้าขาวม้าใหม่กันหลุด แล้วไปนั่งยอง ๆ ข้าง ๆ หมอซึ่งกะลังเอานิ้วรูดไปตามกระดูกสันหลังของช่างเชื่อม “นี่เห็นไหม กระดูกคดปานนี้แล้วจะไม่เจ็บได้ยังไง” ฉึก ฉึก ฉึก หมอเอาเข็มปักหลังหมอนั่น ขณะอธิบายไปด้วย “นี่เห็นไหม ขาสองข้างดำแบบนี้แสดงว่าออกซิเจนไม่ขึ้นมาเลี้ยงขา อีกไม่นานอัมพฤกษ์อัมพาตก็จะถามหา” สวบ สวบ สวบ พูดไปก็ปักเข็มไปด้วยความเร็วที่ครูกลางทึ่งมาก ในขณะเดียวกันผู้ช่วยทั้งหลายก็พากันช่วยขยับแขนขาของช่างเชื่อมให้ยืดตรงเพื่อให้สะดวกต่อการฝังเข็ม ฉึก ๆ ๆ สวบ ๆ ๆ กระบวนการเสร็จสิ้นภายในไม่ถึงครึ่งนาที หมอลุกขึ้น ครูกลางกะลังจะอ้าปากถาม แกก็หันหลังเดินออกจากห้องโดยไม่เอ่ยอะไรอีก ผู้ช่วยคนนึงทำหน้าแหย ๆ บอกครูกลางว่าหมอต้องไปอีกห้องหนึ่งก่อน แล้วจึงจะกลับมา เรื่องของเรื่องคือ ...คอยกันต่อไป...เฮ้อ !


ห้าโมงครึ่ง หมอกระหืดกระหอบเข้ามาเหมือนครั้งแรก สั่งให้ทุกคนเตรียมตัว ครูกลางคิวแรกรีบกุมผ้าขาวม้า รวบชายผ้ามาซุกหว่างขานั่งเก้าอี้หันหลังให้หมอ ที่มีผู้ช่วยถือเข็มให้ แปลกแต่จริงครับ! หมอพูดว่า “นี่เห็นไหม ขาสองข้างดำแบบนี้แสดงว่าออกซิเจนไม่ขึ้นมาเลี้ยงขา อีกไม่นานอัมพฤกษ์อัมพาตก็จะถามหา” พูดเหมือนเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเลย ครูกลางกะลังจะอ้าปากเถียงว่าก็ครูกลางใส่กางเกงขาสั้นทำสวนกลางแดดมาตลอด มันจะไม่ดำได้ไง (วะ) ก็ ฉึก ๆ ๆ สวบ ๆ ๆ เข็มเล่มนึง เสียบลึกไปหน่อยเจ็บแปลบแสบทรวง ทำให้พูดไม่ออก ครูกลางก็ก้มหน้าน้ำตาไหล ปล่อยไปตามยถากรรม หูก็ได้ยินเสียงผู้ช่วยหมอ บอกยืดแขน ยืดหลัง  หมอก็ไม่ว่าอะไร ฉึก ๆ ๆ สวบ ๆ ๆ ไม่ถึง 20 วินาทีเจ้าหน้าที่ก็พาครูกลางไปนอนเตียง ครูกลางว่านอนได้ไงวะหลังครูกลางเป็นเม่นไปแล้ว เขาก็บอกว่านอนได้ เข็มมันอ่อน ครูกลางก็นอนขยับซ้ายขวาให้เข้าที่ ปรากฏว่าเข็มหลุดมา 2 อัน ซักพักมีคุณหมออีกคนแวะมาตรวจความเรียบร้อย เห็นเข็มหลุดก็เลยสงเคราะห์เสียบใหม่ และแถมให้อีก 2 เข็ม เป็นพระคุณเหลือหลายครับ…ฮ่า!


เจ้าหน้าที่เอาสายไฟมาโยงกับเข็มทุกเส้นเปิดไฟแบตเตอรี่อ่อน ๆ พอคัน ๆ เพลินดีครับ นอนซัก 20 นาทีก็เป็นอันเรียบร้อย ครูกลางถามเจ้าหน้าที่ว่าต้องมาฝังเข็มกี่ครั้งคำตอบคือขึ้นอยู่กะคนไข้ ครูกลางก็ดูตามจำนวนเข็มที่ซื้อ แล้วกะว่าจะมาอีก 4 ครั้ง ก่อนออกจากคลินิกก็ถามว่า วันมะรืนที่จะมาใหม่ทำไงที่ไม่ต้องคอยบ้าเลือดขนาดนี้ เขาก็แนะนำว่าให้ใช้บริการหมอคนอื่น ดังนั้น ครั้งที่เหลือครูกลางก็ไม่ต้องคอยอะไรมากมายนัก....เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว


หลังจากกลับมาถึงบ้านได้หลายวันแล้ว ครูกลางก็มาพิจารณาตนเองด้วยความเที่ยงธรรมมาตรฐานเดียวกับ ป.ป.ช.  ก็สรุปได้ว่า ไม่มีอะไรดีขึ้น อาจเป็นเพราะว่าครูกลางไม่ได้รักษากะหมอคนนั้นโดยตลอด อาจเป็นเพราะว่าครูกลางใช้เวลาฝังเข็มน้อยเกิน อาจเป็นเพราะโครงสร้างของครูกลางไม่เหมือนคนอื่น อาจจะ ๆอะไรอีกเยอะแยะ แม้นว่าครูกลางไม่หาย แต่ยังมีคนไข้อีกเพียบที่ออกรายการบอกว่าดีมาก ถ้าจะถามว่าครูกลางจะกลับไปลองอีกมั้ย ... เออ! คิดดูก่อนครับ ขยาดการคอย แต่ถึงแม้ว่าต้องคอยนาน  ถ้าหมอเปิดโอกาสให้ครูกลางได้คุยได้ถามเหมือนที่ได้มีโอกาสถามหมอคนอื่น ๆ บ้าง .. บางที...ครูกลางอาจจะลองอีกก็ได้ครับ...ฮ่า!


ขออภัยที่เล่าเรื่องตัวเองยาวไปหน่อย ทำไงได้ครับ ยิ่งคุยยิ่งมัน แต่ไว้แค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวต้นมกราหน้าก็จะได้เจอเพื่อนฝูงหลายคนแล้ว เห็นนัดแนะกันจะนั่งเรือบินไปแซยิดคุณโว่ที่เชียงราย ครูกลางอยู่ไม่ห่างนัก ก็ว่าจะไปร่วมขบวนด้วย คงมีความสุขครับที่ได้เจอเพื่อน ๆ อีกครั้งถึงแม้จะไม่กี่คนนัก ก็ยังพอชื่นใจครับ


ขอให้มีความสุขทุกคนครับ

ครูกลาง เชียงใหม่




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2556
0 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2556 20:20:18 น.
Counter : 637 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ครูกลาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ครูกลาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.