แม้หน้าหนาวปีนี้จะมีไอเย็นมาให้ดีใจแค่สัปดาห์เดียว แต่ใครหลายๆ คนก็เตรียมตัวรับไอหนาวกันอย่างเต็มที่ ทั้งเสื้อหนาว ผ้าพันคอ สีสันสดใส พร้อมกับความหวังที่จะมีไอเย็นระลอกสองตามมาในเร็วๆ นี้ แต่สำหรับบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์ ต้องห่วงเรื่องของหวัดที่อาจจะมาเยือนโดยไม่รู้ตัว เพราะนั่นมีผลต่อโรคทางเดินหายใจที่อาจจะติดต่อกันใน ห้องแอร์ได้

น.พ. อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป แผนกประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ให้คำแนะนำว่า ด้านในโพรงจมูกของคนเรามีเส้นเลือดแดงขนาดเล็กและผนังบางจำนวนมาก ทำหน้าที่ปรับอากาศที่เย็นหรือแห้งจากภายนอกให้มีความอบอุ่นและความชื้น เหมาะสมกับอุณหภูมิของร่างกาย

ในช่วงที่อากาศเย็นและแห้งทำให้เซลล์ในโพรงจมูกแห้งลง เช่น เซลล์เยื่อบุโพรงจมูก คอ หลอดลม ฯลฯ จึงไม่มีเมือกมาป้องกันเซลล์จากเชื้อโรค เชื้อโรคเลยสัมผัสกับเซลล์ได้โดยตรง และในช่วงที่อากาศเย็น เชื้อไวรัสจะเจริญเติบโตได้ดี แต่เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคในร่างกายทำงานได้ลดลง ส่งผลให้มีผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ เช่น หวัด ภูมิแพ้ ฯลฯ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าใช้นิ้วแหย่เข้าไปในรูจมูก หรือถูแรง ๆ ก็อาจมีเลือดออก และถ้ามีอาการแสบคอร่วมด้วยก็อาจเป็นแผลและติดเชื้อได้

  ดังนั้นโรคติดต่อที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจจึงมักระบาดในช่วงนี้ เนื่องจากเชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดีและแพร่ระบาดได้มากขึ้น และทำให้เกิดโรคติดต่อหลายโรค เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด หัดเยอรมัน ฯลฯ และยังมีโรคทางเดินหายใจที่ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่มักจะมีอาการมากขึ้นอากาศที่เย็น ส่งผลให้ฝุ่น ควัน เกสรดอกไม้ ควันพิษจากท่อไอเสีย ฯลฯ ที่ลอยอยู่ในอากาศอยู่ในระดับต่ำกว่าฤดูกาลอื่น ทำให้เราหายใจสิ่งเหล่านี้เข้าไปในปอด ทำให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบมักจะมีอาการบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้นในหน้าหนาว

วิธีการป้องกันทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 

1. ระวังไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการล้างมือให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่แคะ จับบริเวณหน้า จมูก ปาก รวมทั้งอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท และอยู่ห่างจากผู้ที่เป็นหวัด 

2. รักษาความอบอุ่นของร่างกาย 

3. สร้างภูมิต้านทานด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที นอนให้เต็มอิ่ม รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานผักผลไม้สด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินเพียงพอ

4. สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ 

5. ระวังไม่ให้ทางเดินหายใจแห้ง ใส่ผ้าปิดปากที่จะช่วยเก็บความชื้นและความอุ่นของลมหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจชื้นและชุ่ม ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ วางแก้วน้ำไว้ใกล้ตัว ในห้องนอน ห้องนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน รวมทั้งใช้วาสลีนทาเล็กน้อยบริเวณโพรงจมูก

และเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าป่วยให้ดูแลตัวเองด้วยการ 

1. นอนให้เพียงพอเพื่อให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น 

2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควรเลือกอาหารย่อยง่าย และเลือกทานผักผลไม้สด 

3. ล้างจมูก เมื่อจามบ่อยๆ หรือมีอาการคัดจมูก เพื่อล้างสารคัดหลั่งออกจากจมูก 

4. ควรพบแพทย์ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลด และปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากอาจเป็น ไข้หวัดใหญ่ได้

ที่มา : //www.healthcorners.com/

credit by: //men.mthai.com/content/4745