|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อต้องยอมรับความจริงและสินทรัพย์ที่อยู่รอบกาย---ตอนที่6
เมื่อต้องยอมรับความจริง...และสินทรัพย์ที่อยู่รอบกาย หลังจากพักรักษาตัวอยู่หลายวัน บรรดาเจ้าหนี้โทรมาทวงแบบสายแทบไหม้เราก็พูดผลัดไปเรื่อย หลบอยู่ในบ้าน ตอนนั้นเงินในบัญชีมีอยู่แค่หมื่นเดียว เครียดมากๆเพราะบ้านก็ต้องผ่อน ค่างวดรถเค้าก็โทรมาทวง หนี้บัตรเครดิตโทรมาทวงจนต้องเปลี่ยนเบอร์บ้านหนีกันเลยค่ะ มีเจ้าหนี้โทรมาด่า fax มาด่าเครียดมาก บางคนเริ่มถึงบ้านมาด่าหน้าบ้านค่ะ แล้วบริษัทใหญ่ที่เราเอาของมาก็โทรมาแจ้งว่าเตรียมรับหมายศาลกรณีเช็คเด้ง ตอนนั้นเราให้สามีพาไปหลบที่บ้านสามีที่ต่างจังหวัด ใจนึกว่าจะหลบไปทำใจสักพักที่ไหนได้ ทางญาติสามีทราบแอบนินทา วิเคราะห์ต่อว่า แล้วก็พูดจากะเราไม่ดีเลยตอนนั้นเครียดค่ะ คือแม่เราด่ายังไงก็ยังปราณีและยังเข้าใจแต่คนอื่นต่อว่าเนี่ยเค้าไม่เหลือความปราณีเราเลยค่ะ แต่ตอนนั้นทำใจเรามันผิด แต่พอดีได้หนังสือ เข็มทิศชีวิต มาอ่านทำให้ทำใจได้จุดหนึ่ง และเพื่อนๆที่เริ่มรู้ก็โทรมาให้กำลังใจ ถ้าจะถามว่าชีวิตช่วงนั้นมีอะไรดีมั่งไหม คงมี เพื่อน5-6 คนที่จบมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ที่ไม่เคยทิ้งกันแม้ยามที่ดิฉันตกต่ำ พร้อมทั้งยื่นมาช่วยทั้งเรื่องเงิน ทั้งกำลังใจ ซึ่งทุกวันนี้เวลานึกถึงเวลานั้นฉันยังยิ้มด้วยน้ำตาของความอบอุ่นอยู่เสมอ เพื่อนๆบอกว่าแกหาทางดิ้นไป หลานๆถ้าแกไม่มีพวกฉันลงขันช่วยแกได้ จนกว่าแกจะดีขึ้น หรือแม้เพื่อนรักคน 1 อยู่ที่ต่างประเทศพอรู้ว่าเราต้องใช้เงินก็โอนเงินเกือบครึ่งแสนมาให้โดยให้เราไปโปะเพื่อใช้หมุนไปก่อน โดยไม่รู้ว่าวันไหนเราจะมีคืนเพื่อน แต่พวกเค้าก็ให้โดยไม่ได้คิดฉันจะมีคืนเค้าไหม ขอบใจมากนะเพื่อน ฉันยังคงเครียดพยายามดิ้นรนทำงานเริ่มส่งresume เพื่อกลับเข้าทำงานในระบบใหม่ไปสัมภาษณ์แต่ก็ไม่มีการตอบรับ เลยดิ้นรนอยากไปทำงานต่างประเทศหวังจะได้เงินก้อนใหญ่มาส่งหนี้ และคงทำให้เจ้าหนี้หยุดตามเสียที แต่เพื่อนแดนไกลก้อให้สติว่าการที่หนีไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น การทำงานต่างประเทศแน่นอนแกอาจจะได้เงินก้อนใหญ่ แต่ชีวิตครอบครัวแกหล่ะ สามีและลูกเล็กที่ต้องการแม่ดูแลในช่วงเวลาที่เค้าควรมี เวลาอย่างนั้นมันหายไป ทำไมแกไม่มองไปรอบๆตัวแกหล่ะ จริงๆสินทรัพย์ใกล้ตัวถ้าใช้สติดีๆ มันสามารถหยิบจับมาขายได้ทั้งนั้นลองคิดดีๆ จากนั้นดิฉันก็เริ่มได้สติอีกครั้ง เริ่มจากรับโทรศัพท์เจ้าหนี้ทุกคนขอเวลาผ่อนผันไปและยอมเซ็นต์รับสภาพหนี้กับทุกคน คนไหนคุยได้ก็คุยถ้ามาแนวด่าเราก็บอกไปว่าถ้าไม่คุยกันดีๆคงคุยไม่ได้ก็ส่งหมายศาลมาสู้คดีกันต่อไปเพราะเราไม่ได้ตั้งใจโกงเราไม่เหลืออะไร เราล้มจริงๆ บ้านก็ไปยืดเวลาผ่อนให้มากปีขึ้นเพื่อจะได้ผ่อนต่อเดือนน้อยลง สินทรัพย์ใกล้ตัวไม่ว่ากล้องวิดีโอ ของเล่นลูกที่แพงๆแต่ไม่ได้เล่นดิฉันก็เอาไปเลขายตามเปิดท้ายหาเงินปะทังตัวเองไป เสื้อผ้า กระเป๋าแพงตัดใจขายหมดเลย เหลือใช้ที่จำเป็น รถผ่อนไม่ไหวก็ไปเทิร์นมือสองเอารถถูกๆราคาไม่แพงมาผ่อนแค่ 3-4 พัน เพราะรถยังเป็นปัจจัยในการบรรทุกของไปขาย ลูกๆและสามีก็ไปช่วยขาย แต่ช่วงนั้นดิฉันกะสามีก็ระหองระแหงกันเพราะสามีรับราชการมีเจ้าหนี้ตามไปทวงหนี้ทำให้ดิฉันตัดสินใจจดทะเบียนหย่าให้เค้าสบายใจว่าเค้าจะไม่โดนหางเลขไปกะฉันหรือยังมีอีกคนเวลาที่ฉันเกิดล้มไม่ไหวมีเงินไว้เลี้ยงลูก ซึ่งบอกตรงๆดิฉันเคว้งนะคะแต่ต้องรับสภาพและเสี่ยงว่าหลังจากจดทะเบียนหย่าแล้วเค้ายังอยู่ดูแลลูกๆไหม เพราะเค้าอยู่ในสภาพพร้อมที่จะไปได้เสมอ แต่เค้ายังคงอยู่แต่ความรู้สึกต่อกันมันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนั้นบัตรเครดิตทวงกันบานตะไทเลยค่ะ แต่ดิฉันแจ้งว่าไม่เงินจ่ายให้หยุดดอกหน่อยหรือไงก็ฟ้องไป บอกได้เลยค่ะให้พวกบัตรเครดิตฟ้องยังดีกว่าหนี้บุคคลที่มาด่าถึงตัว มาตามบุกถึงบ้าน การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดในภาคต่อๆไป ดิฉันมีทริคดีๆมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ หลังจากนั้นเพื่อนอีกคนหนึ่งเห็นเราเริ่มเป็นแม่ค้าเปิดท้ายเลยแนะนำสินค้ามาให้เราขายเป็นพวกหมอนกันไรฝุ่นที่ข้างบ้านเค้าทำเป็นงานอุสาหกรรมขนาดครอบครัวขายส่งแล้วไม่มีคู่แข่งด้วย ซึ่งตอนนี้แหละค่ะจากแม่ค้าไฮโซ จะเริ่มมาเป็นแม่ค้าเปิดท้ายเต็มตัวก็งานนี้แหละค่ะ
แต่ก่อนจะจบตอนนี้....ถึงวันนี้ที่ผ่านวิกฤตอันเลวร้ายมาได้อย่างยากลำบากและสาหัสสากันอย่างไรอยากจะขอบคุณเพื่อนๆทั้งเค้ก กล้วย ป๋อม เกี้ยว บ๊วยและทุกๆคน ฉันอยากบอกว่าก็เพราะพวกแกนั่นแหละที่ฉันนึกถึงเรื่องเลวร้ายทีไรแต่ยังมีมุมแห่งความสุขก็เพราะมีพวกแก วันนี้ฉันเขียนตอนนี้เพื่อขอบคุณพวกแกจากใจจริง ขอบคุณจริงๆที่มีพวกแกเป็นเพื่อนรัก
meetingล่าสุดที่เราเพิ่งรวมตัวกันตอนวันแรงงานค๊า จบจากม.บูรพามา 12 ปีแล้วค๊า 5555 เราเป็นบูรพารุ่นแรกที่เปลี่ยนจากมศว.บางแสนมาเป็นม.บูรพาค่ะ
เด็กๆช่วยแม่ขายของตามงานเปิดท้ายค่ะ
........สองสาวตอนนั้น 4 ขวบกะคนเล็ก 2 ขวบค่ะ
คนเล็กค่ะ
คุณนายมน เพื่อนและพี่ที่รักอีกคนที่เสนอไอเดียขายหมอนให้และช่วยเหลือกันในยามยากอีกคน(คนนี้เพื่อนตอนเล่นเวบแม่ๆลูกๆค่ะ )-รูปค่ะ
Create Date : 11 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 10:26:41 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1177 Pageviews. |
|
|
|
โดย: atchy วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:35:48 น. |
|
|
|
โดย: หนูหิ่น IP: 58.136.244.171 วันที่: 21 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:32:09 น. |
|
|
|
โดย: skibby วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:54:22 น. |
|
|
|
โดย: Ayumi IP: 124.157.170.29 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:2:43:08 น. |
|
|
|
โดย: atchy วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:19:52:23 น. |
|
|
|
โดย: Nickky IP: 125.24.148.19 วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:14:59:18 น. |
|
|
|
โดย: violetsand วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:14:49:30 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊ก IP: 124.120.80.11 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:13:50:40 น. |
|
|
|
โดย: ayopolie วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:11:57:46 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊ก IP: 58.8.234.158 วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:14:30:16 น. |
|
|
|
โดย: น้อง มนต์ IP: 203.144.144.164 วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:17:04:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|