...ความเหนื่อยล้า พาใจ ให้หงอยเหงา
เพียงตัวเรา กับเรื่องเก่า เฝ้านึกถึง
พ่อพร่ำสอน แม่พร่ำบอก ยังติดตรึง
อยากเป็นหนึ่ง พึ่งขา ตัวเองยืน
...รับผิดชอบ นอบน้อม เป็นตัวอย่าง
ความแตกต่าง คือทาง เหนือใครอื่น
เก็บเอาไว้ ใจเจ็บปวด แสนกล้ำกลืน
แม้นขมขื่น ฝืนยิ้ม ปกปิดมัน
...หยาดน้ำตา มีค่า รักษาไว้
หากร้องไห้ ก็เพื่อคลาย ใจไหวหวั่น
หากใครเห็น ต้องเป็น มิตรเท่านั้น
หากใจหวั่น ปกปิดมัน หน้าศัตรู
...เชื่อตัวเอง อย่าหวั่นไหว เพียงใครทัก
ให้แน่นหนัก เป็นตัวเอง พร้อมจะสู้
หากมีใคร จะยกย่อง จะเชิดชู
ก็ให้รู้ เกิดจาก ตนเองทำ
...อดอย่าเสือ ดีกว่า อยู่อย่างหมา
คำมีค่า ผู้เป็นพ่อ ยังคอยย้ำ
หยิ่งทะนง ในศักดิ์ศรี ให้จดจำ
ทุกถ้อยคำ นำทาง ให้ลูกเดิน
...หญิงผู้หนึ่ง เย่อหยิ่ง และกล้าแกร่ง
เป็นดั่งแสง ส่องทาง น่าสรรเสริญ
แสงสว่าง ที่เคียงคู่ กับทางเดิน
น่าสรรเสริญ ยิ่งกว่า สิ่งใดใด
...คำพร่ำสอน ทั้งแบบอย่าง นั้นฝังแน่น
เป็นตัวแทน ปฏิบัติ เป็นนิสัย
แม้นเติบโต ยังจดจำ จนขึ้นใจ
จนแข็งแกร่ง กว่าใครใคร ที่ผ่านมา
...อยากขอบคุณ คำพร่ำสอน จากพ่อแม่
ช่วยนำทาง ช่วยแก้ ทุกปัญหา
อยากให้รู้ ระลึกถึง ทุกเวลา
ภายภาคหน้า ขอลูก ได้อุ้มชู......
.....กลอนบทนี้แต่งเพื่อสองคนที่เป็นทั้งชีวิตของลูกผูหญิงคนหนึ่ง.....
ชอบง่าเขียนดี
น่าคิด