ชีวิตนี้สั้นนัก อย่ามัวถวิลหาอดีตที่ผ่านเลย อย่ากังวลอนาคตที่ยังไม่ถึง จงอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างมีสติ...
|
|||
ย้อนรอย กรดไหลย้อน ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างผมจะได้รับเกียรติเป็นกรดไหลย้อนกับเขาเหมือนกัน ! ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า... ปกติเขาว่ากันว่า (ใครก็ไม่รู้) ไอ้เจ้ากรดไหลย้อนเนี่ย มันเป็นโรคพิเศษเฉพาะคนที่มีฐานะ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโรคเศรษฐีกันนี่นา แล้วไฉนมันถึงแว่บมาเยี่ยมเยียนคนธรรดาๆ เดินดิน กินข้าวแกงจานละ 25 กับน้ำเปล่า ๆ กับเขาได้ แต่...โชคดีที่ไอ้เจ้าโรคนี้มันคงเพิ่งรู้ว่าคิดผิด ก็เลยรีบแจ้นจรลีหนีเผ่นหายไปจากผมในเวลาไม่นานนัก แต่ก็ไม่ได้ชะล่าใจต้องหันมาดูแลตัวเองให้ดี ๆ ไม่งั้นมันอาจแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอีกก็ได้ ใครจะไปรู้... มาลองทำความรู้จักกับไอ้เจ้าวายร้ายนี้กันสักนิด ...(อันนี้ผมเขียนตามหลักวิชากรูนะครับ เพราะผมเองก็ไม่รู้หลักวิชาการนะครับ... เหอๆๆ ) จากประสบการณ์ที่เป็นอาจจะมีอาการเหมือนหรือไม่เหมือนใครก็ได้ เผื่อมีสัญญาณอะไรจะได้ป้องกันตัวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานและรำคาญกับเจ้ากรดไหลย้อนตัวนี้ อาการเป็นยังไง ? แรก ๆ เท่าที่ผมจำได้ก็คือ นั่ง ๆ อยู่มันรู้สึกว่า อืมมม...อะไรมันจุกๆ ในคอ เหมือนกินข้าวแล้วไม่ได้กินน้ำตาม แต่กินน้ำเท่าไหร่ก็ไม่หาย ตอนแรกที่มีอาการนี้ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ก็ยังดำเนินชีวิตไปตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน (ถ้าใครเริ่มมีอาการแบบนี้ ขอให้คาดเดาไว้ก่อนเลยว่าคุณคือผู้โชคดีรายต่อไป จะได้รีบรักษาให้หายขาด ก่อนที่จะมีอาการอื่นๆ ตามมานะครับ) เอิ๊กกก...เอิ๊กกก... อาการที่ตามมาก็คือ ท้องอืด เหมือนกินอาหารไม่ย่อย มีอาการเรอบ่อย ๆ เรอจนรำคาญตัวเอง มันเหมือนมีลมเป็นลูก ๆ อยู่ในท้อง แล้วก็ทยอยโผล่มาที่ละลูก ๆ เหมือนบั้งไฟพญานาคยังไงยังงั้น เพียงแต่ว่ามันโผล่มาจากลิ้นปี่ วิ่งมาตามลำคอ และเราก็ต้องเปิดปากปล่อยมันออกไปทีละลูกเท่านั้นเอง พอจะนึกภาพออกนะครับ เพิ่งจะเรอยังไม่ถึง 1 นาทีมันก็ขึ้นมาอีกแล้ว...คิดดูว่ามันน่ารำคาญขนาดไหน แสบในอก สิ่งที่ตามมาก็คือ รู้สึกแสบในอก บริเวณหลอดอาหารตรงกลางอกเลย ระหว่างลิ้นปี่ กับปลายกระดูกไหปลาร้า ที่เป็นก็คือ พอกินอาหารเข้าไป มันจะรู้สึกแสบ อาการที่ว่านี้จะแสบคล้าย ๆ กับเวลาเราสำลักข้าวแบบนั้นแหล่ะครับ ตอนแรก ๆ มันจะเป็นเฉพาะเวลาที่เรากินข้าว แต่หลัง ๆ มันก็เริ่มลามปาม ไม่กินมันก็แสบ เวลารู้สึกหิวก็แสบ พอเป็นแบบนี้บ่อยๆ เข้าผมก็ชักจะเริ่มเอะใจแล้วซิ ว่ามันเป็นอะไรฟะ !!! แต่หลังจากพูดคุยกับหลาย ๆ คน ก็เริ่มจับความได้ว่ามีเค้าของโรคกรดไหลย้อนมาเยี่ยมเยียนซะแล้ว แน่นหน้าอก...นอนหลับไม่สนิท ที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นมากและเริ่มทรมาน ก็คืออาการแน่นหน้าอกและหายใจขัด อาการนี้จะเป็นในช่วงกลางคืนขณะที่กำลังจะหลับก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาเฉยๆ เหมือนจะหายใจไม่ออก อึดอัดจนต้องลุกขึ้นมานั่ง เพื่อจะได้หายใจได้เต็มท้อง ซึ่งอาการแบบนี้ก็จะทำให้นอนไม่เต็มอิ่ม เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะยิ่งเครียดและทำให้ร่างกายหลั่งกรดออกมามากขึ้นอีก ก็จะทำให้อาการกรดไหลย้อนแย่ลงขึ้นไปอีก ...ตอนนี้ชักจะเริ่มรู้สึกกลัวตายขึ้นมาซะงั้น ไปหาหมอ ในที่สุด ก็ได้ต้องไปหาหมอ ก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอคิดว่าน่าจะเป็นอาการของกรดไหลย้อน หมออธิบายให้ฟัง เท่าที่จับความได้ก็คือ กรดไหลย้อนมันก็คือ กรดที่ปกติอยู่ในกระเพาะอาหารของเรานั่นแหล่ะ ช่วงรอยต่อระหว่างกระเพาะกับหลอดอาหาร มันจะมีอะไรสักอย่างที่คอยปิด-เปิด ทำให้กรดไม่ขึ้นมาข้างบน แต่เมื่ออายุมากขึ้นลิ้นที่ปิด-เปิดบริเวณนี้มันหย่อนยาน ก็ทำให้กรดจากกระเพาะมันขึ้นมาถึงหลอดอาหาร ทำให้เรารู้สึกแสบ ซึ่งถ้าเป็นนาน ๆ เข้าเมื่อร่างกายเกิดความระคายเคืองก็จะสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทน ก็มีสิทธิ์อาจกลายเป็นมะเร็งในหลอดอาหารได้ (....บรื๋อว์วววว น่ากลัวเหมือนกันนะ...) สำหรับสาเหตุก็เกิดจากหลาย ๆ สาเหตุด้วยกัน เช่น อาจจะกินอาหารเร็วเกินไป กินอาหารแล้วรีบนอน หรือกินอาหารที่ทำให้เกิดกรดแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ฯลฯ และหมอก็จ่ายยาให้มากินบรรเทาอาการ ส่วนใหญ่ก็เป็นยาลดกรด และเพิ่มการบีบรัดตัวของลำใส้ เพื่อให้ลำใส้ทำงานได้ดีขึ้น ในช่วงที่เป็นก็ไปหาหมอมา 3 -4 ครั้ง ครั้งสุดท้ายหมอให้ยามาก็มีดังนี้ - Omeprazole (20 Mg.) (เป็นยาลดกรด ห้ามกินพร้อมนม) - CIPROFLOXACIN (500 mg.) (เป็นยาฆ่าเชื้อ ห้ามกินพร้อมนม ยาลดกรด หรือยาที่มีธาตุเหล็ก) - Motilium-M (10 mg.) (เป็นยาปรับการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร ช่วยให้ลำไส้บีบรัดดีขึ้น) คิดหาสาเหตุ หลังจากไปหาหมอ ได้ยามากินบรรเทาอาการแล้ว ผมก็มานั่งประมวลเหตุการณ์ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผมเป็นกรดไหลย้อน มานั่ง ๆ นึกดู ก็รู้สึกว่าสิ่งที่เป็นสาเหตุของกรดไหลย้อนนี้ก็คือ 1. ผมกินอาหารเร็ว (มากกกก) เพื่อน ๆ ที่ทำงานมักจะบอกว่าผมกินเร็ว ประเภทที่ว่า ไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน เพื่อนเริ่มกินไปแล้ว ผมเพิ่งจะสั่ง (อาหารตามสั่ง) อาหารมาผมสามารถกินหมดก่อนเพื่อนที่กินไปกว่าครึ่งจานแล้ว ...เร็วไหมละครับ 2. กินอาหารเย็นค่อนข้างดึก ปกติคนอื่นจะกินประมาณ 2 ทุ่ม แต่ผมจะกินประมาณ 3-4 ทุ่มเพราะมัวไปออกกำลังกาย อุตส่าห์ออกกำลังกายให้สุขภาพดีแท้ ๆ ให้หายเครียด แต่กลับมาเสียทีเจ้ากรดไหลย้อนไปได้ ซึ่งที่ออกกำลังกายก็อยู่ใกล้ที่ทำงาน เสร็จก็เดินทางกลับบ้าน กว่าจะถึงแถวบ้านก็ปาไป 3 ทุ่มกว่าแล้ว กินเสร็จสัก 10-20 นาทีก็อาบน้ำแล้วก็เข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม ซึ่งหมอบอกว่าอาหารที่เรากินเข้าไปมันยังย่อยไม่หมด ทำให้กรดที่ออกมามันไหลย้อนขึ้นมาข้างบนได้ 3. นอนไม่หนุนหมอน ผมเป็นคนที่นอนหนุนหมอนบาง ๆ แบนแต๊ดแต๋ หรือบางทีก็ไม่หนุนเลย เพราะรู้สึกสบายกว่า ก็เลยทำให้กรดมันไหลมาตามหลอดอาหารได้ เมื่อพอจะรู้สาเหตุ ก็เลยต้องปรับตัวกันใหม่ โดยพยายามกินอาการเย็นให้เร็วขึ้น และกินให้น้อยลง และบอกเพื่อนที่ทำงานให้ช่วยเตือนสติตอนกิน ให้เคี้ยว ช้า ๆๆๆๆๆ ให้อาหารละเอียดที่สุด พอถึงเวลานอนก็ต้องหาหมอนมารองให้สูง วิธีการก็คือรองตั้งแต่ด้านหลัง ใบหนึ่งรองแนวยาวจากด้านหลังขึ้นมา อีกใบหนึ่งวางทับใบแรกในช่วงปลายให้สูงขึ้น ถ้ามองจากด้านข้าง มันจะเป็นสเต็ป 2 ชั้น คือที่นอน หมอนใบแรก (1 ชั้น) และหมอนใบแรก+ใบที่ 2) ไม่ใช่รองให้สูงเฉพาะศีรษะ เพราะการที่รองเฉพาะศีรษะให้สูงขึ้นอย่างเดียวจะทำให้หน้าท้องมีความดันมากขึ้นไปอีก ผลก็คือ กรดไหลย้อนจะเป็นมากขึ้นนั่นเอง ดูแลตนเองให้ดี ...อย่าหวังพึ่งหมออย่างเดียว การดูแลตนเองเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะถึงแม้จะได้ยารักษามาจนอาการดีขึ้น แต่หากคุณไม่ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ก็อย่าหวังว่ามันจะหาย สุดท้ายก็โทษว่าหมอรักษาไม่ได้ผล ผมว่าทางที่ดีพึงระลึกไว้เสมอว่า หมอนั้นไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกทุกโรคให้หายได้ (ไม่งั้นหมอก็ไม่ตายซิ...จริงไหม?) ซึ่งหมอก็แค่ชี้แนะตามหลักวิชาการ แนะนำปรึกษา จ่ายยาที่จะช่วยบรรเทารักษาอาการให้ดีขึ้น แต่การดูแลตัวเองหลังจากนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด วิธีการดูแลตัวเองที่ผมทำมาก็คือ - กินอาหารเช้า จำไว้เสมอว่าต้องกินอาหารเช้านะครับ กระเพาะจะได้มีอะไรย่อย ทำให้น้ำย่อยไม่ไหลขึ้นมา จะข้าวหรือขนมปังก็ได้ (ไม่ใช่กินกาแฟเป็นอาหารเช้านะครับ) - ดื่มน้ำอุ่น ๆ ตื่นมาเช้า ๆ สิ่งที่ต้องทำก็คือกินน้ำอุ่นๆ หรือน้ำในอุณหภูมิปกติสักแก้ว น้ำจะช่วยละลายให้กรดเจือจางลง (น้ำอุ่นนี่แหล่ะทำให้อาการของผมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว) - หลีกเลี่ยงน้ำเย็น (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม... แต่ผมรู้สึกว่ากินน้ำเย็นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ก็เลยงดน้ำเย็น ) - อย่าได้มีเยื่อใยกับของหมักดอง เพราะอาหารพวกนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มกรด และเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะให้มากขึ้นไปอีก - น้ำอัดลม น้ำเต้าหู้ นม ชา กาแฟ...ต้องตัดขาด น้ำพวกนี้จะเพิ่มความเป็นกรดและแก๊สให้มากขึ้น ฉะนั้นน้ำเปล่าดีที่สุด - อาหารรสจัด ๆ ของมัน อาหารย่อยยากควรหลีกเลี่ยง - งดผักที่มีก๊าซเยอะ เช่น ถั่วงอก ถั่วลิสง และถั่ว ๆ ๆๆ ทุกชนิด พึงหลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพราะจะยิ่งเพิ่มแก๊สในกระเพาะทำให้ท้องอืดมากขึ้น แล้วจะกินอะไรดีล่ะเนี่ย ? บางคนอ่านมาถึงข้างบนนี้ใจเหี่ยวเลย อาจจะถามว่าแล้วจะให้กินอะไรฟะ ??? ก็อยากบอกว่าอาหารที่ควรกินก็คือ อาหารที่ย่อยง่าย ๆ เช่น ปลานึ่ง ผักต้ม แกงจืด ฯลฯ ที่สำคัญคืออย่ากินให้อิ่มมากเกิน ควรกินแต่น้อย ๆ แต่แทนที่จะรอให้ท้องหิว ก็กินบ่อย ๆ แทน จะทำให้ท้องไม่ว่าง กรดในท้องไม่ออกมากเกิน นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ที่อยากจะแนะนำในการดูแลตัวเองเพิ่มเติมนะครับ ก็คือ... - กล้วยน้ำว้า ช่วยได้เยอะ ไม่น่าเชื่อว่าผลไม้พื้นๆ อย่างกล้วยน้ำว้านี่แหล่ะ สามารถช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อนให้บรรเทาลงได้ โดยเฉพาะกล้วยสุกที่ยังเขียว ๆ อยู่ (ถ้างอมเกินไปจะไม่เวิร์ค) ตามความเข้าใจของผมเอง คิดว่ากล้วยมียางซึ่งเป็นสารฝาด ไอ้สารฝาดตัวนี้แหล่ะตามตำราอายุรเวทแล้ว ถือว่าเป็นตัวสมานแผล ช่วยเคลือบกระเพาะ นอกจากกล้วยแล้วผมก็กินหัวปลีด้วย (ของชอบอยู่แล้ว) อย่างหัวปลีต้ม ยำหัวปลี ฯลฯ - ขมิ้นชัน ได้ยินมาว่าขมิ้นมีสารช่วยเคลือบและสมานแผล ก็ไปซื้อมากินเสริมเข้าไป แผงละไม่กี่บาท (แผงละ 10 เม็ด ประมาณ 15 บาทมั้ง ) กินได้ไม่กี่แผงอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่เวลากินแล้วมันจะมีกลิ่นขมิ้นโชยออกมาจากลำคอบ้าง - นอนอย่างมีคุณภาพ นอนอย่างไรให้มีคุณภาพ ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือนอนให้เต็มอิ่ม พักผ่อนให้เพียงพอ แต่บางคนอาจจะบอกว่า ก็อยากจะหลับอยู่หรอก แต่มันหลับ ๆ อยู่ก็แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ก็เลยหลับ ๆ ตื่นๆ ก็ยิ่งแย่ อยากให้แนะนำว่าออกกำลังกายซิครับ แล้วจะหลับสบายทั้งคืน - ออกกำลังกาย ประโยชน์ของการออกกำลังกายก็คงรู้ๆ กันแล้วนอกจากจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานดีขึ้นแล้ว ยังทำให้กระฉับกระเฉง สดชื่น คลายเครียด นอนหลับสบายอีกด้วยครับ - อย่าเครียด พึงระลึกไว้เสมอว่าความเครียดเป็นบ่อเกิดของสรรพโรค ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ฉะนั้นอย่าเครียดไปเลย วิธีแก้เครียดของผมก็คือไปออกกำลังกาย ให้เหนื่อย เหงื่อออกแล้วจะรู้สึกสบายตัว หลับสบาย...แล้วก็ปล่อยวาง อย่าไปคิดถึงอดีตที่ผ่านไปแล้ว อย่าวิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเลย ปัญหาทุกอย่างถึงเวลามันก็มีช่องทางเองแหล่ะ หลังจากดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด (แต่ อย่าเคร่งเครียดนะครับ...) อาการต่าง ๆ ทั้งแน่นหน้าอก แสบ ๆ บริเวณหน้าอก ก็เริ่มหาย ๆ ไป สุดท้ายไม่รู้มันหายไปตอนไหน ตอนนี้ก็ยังดูแลตัวเองอยู่ แต่อาจจะไม่ได้เคร่งครัดเหมือนแต่ก่อน เพราะไม่รู้ว่าไอ้อาการที่ว่านั้นมันจะกลับมาเยือนอีกเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าใครไม่เคยเป็นก็คงไม่รู้ว่ามันทรมานและอึดอัดมากขนาดไหน ที่เขียนมานี่ก็จากประสบการณ์ล้วน ๆ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคน ใครที่เป็นอยู่ก็ขอเอาใจช่วยให้หายเร็ว ๆ นะครับ... ตอนนี้ก็โดนโรคนี้เล่นงานอยู่คะ ตอนแรกก็ใจคอไม่ดีเลยเวลาอาการกำเริบ ตอนนี้ก็ดูแลรักษาตัวเองอยู่คะ ยินดีที่ได้จักนะคะ
โดย: maelona วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:10:54:22 น.
ขอบคุณครับผมที่แวะมาเยี่ยม ยังไงก็ให้หายเร็วๆ นะครับ
โดย: BluE_CheesE วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:15:05:42 น.
ตอนนี้แอนก็เป็นโรคนี้อยู่หายใจไม่ค่อยได้เลยคะเป็นทั้งกลางวันกลางคืนเลยแถมเลี้ยงลูกอีกต่างหากเลี้ยงคนเดียวสองขวบกำลังซนเล่นเอาหนักไปกว่าเดิมอีกคะได้ยามาก็ยังไม่ดีขึ้นเลยคะพรุ่งนี้กะว่าจะไปหาหมอคะรู้สึกแย่มากๆเลยคะตอนนี้
โดย: ann IP: 125.24.92.63 วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:17:32:18 น.
ขอบคุณนะคะสำหรับวิธีแอนจะทำตามคะกินอะไรไม่ได้เลยคะช่วงนี้
โดย: ann IP: 125.24.92.63 วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:17:34:22 น.
ตอนนี้ก็เป็นเหมือนกันค่ะ
ก็กำลังศึกษาอยู่เหมือนกันว่ามีวิธีการรักษายังไง แบบว่าทรมานมากเลยค่ะ ขอมคุณมากนะค่ะที่ให้คำแนะนำ โดย: มิ้น IP: 10.0.3.152, 119.42.77.194 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:21:09:16 น.
สวัสดีครับ
ตอนนี้ผมโดนโรคเล่นงานอยู่เหมือนกัน กินยามาเกือบ 3-4 เดือนเเล้ว อาการก็เป็นๆหายๆ กิยาตัวเดียวกันเลย แต่ผมไม่มี CIPROFLOXACIN แต่มี Air-X ตอนนี้ที่กลัวคืออาการแน่นหน้าอก บางทีนั่งเล่นคอมอยู่ดีๆ ก็แน่นขึ้นมาซะงั้น กลัวตายเหมือนกัน... คุณกว่าจะหายขาดนี่ใช้เวลากี่เดือนครับ ? (เด๋วจะผมจะเข้ามาดูเรื่อยๆนะ) โดย: ปอ IP: 125.24.163.38 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:20:17:04 น.
คุณมิ้น คุณปอ
ผมเข้าใจถึงความทรมานและความรำคาญของโรคนี้ดีครับ ช่วงที่ผมเป็นโรคนี้ก็หลายเดือนเหมือนกัน ไปหาหมอประมาณ 3 ครั้ง แต่พยายามดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด วิธีการดูแลตัวเองก็อย่างที่ผมเขียนไว้ด้านบนนั่นแหล่ะครับ อ้อ..มีอีกอย่างที่ผมกินด้วยก็คือยาธาตุน้ำขาว (กระต่ายบิน) ตอนที่ท้องอืดมากๆ ก็กินไปมั่ว ๆ แหล่ะครับ ที่แต่สำคัญคือกินน้ำอุ่น ๆ ได้จะดีมากครับ หลีกเลี่่ยงน้ำเย็นไปก่อน โดยเฉพาะน้ำอัดลม อีกอย่างคือน้ำเต้าหู้ นี่ห้ามเด็ดขาด เพราะจะช่วยเพิ่มแก๊สให้มากขุึ้น รวมถึงพวกถั่วทอด ถั่วปากอ้า ฯลฯ ทุกชนิดครับ ผมใช้เวลารักษาประมาณ 2 เดือนมั้ง มันค่อยๆ หายแล้ว พอลืม ๆ รู้ตัวอีกทีก็หายไปตอนไหนไม่รู้ครับ ยังไงก็ขอให้หายด้วยกันทุกคนนะครับ โดย: BluE_CheesE วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:20:56:02 น.
มิน่าผมไม่หาย คือผมเปนคนที่ชอบกินนมมาก เรียกได้ว่าต้องกินทุกวัน
พอบอกให้งด ก้อไปกินน้ำเต้าหู้เเทน มิน่า..... ผมกินยามั่วเหมือนกันครับ มีหมดทุกขนานที่เกี่ยวกับโรคกระเพาะ พยายามหาอะไรที่พอจะบรรเทาได้มากที่สุด ตอนนี้ลองกินเเอนตาซิลเจลอยู่ เหนว่าเคลือบแผลในกระเพาะ ก้อเลยลองทานดู เพราะไม่แน่ใจในกระเพาะมีแผลรึป่าว ยาอีโนก้อพอช่วยได้บ้าง ถ้าสมุนไพรเเนะน่ำเต้าฮวยน้ำขิง เเละยาขมิ้นชัน พอช่วยได้ดีทีเดียว ยังไงจะเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์บ่อยๆนะครับ ตอนนี้คนเปนโรคนี้เยอะมากเลย ระบาดกว่าไข้หวัด 2009 อีกมั้งเนี่ย โดย: ปอ IP: 125.24.147.128 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:22:33:24 น.
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าไม่ควรดื่มนม
ปกติแล้วต้องดื่มนมทุกวัน.. เอ่อ.. ว่าไปแล้ว อาหารที่ว่ามาทั้งหมดก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงเลย ถึงว่า ทำไมไม่ดีขึ้นเลย --" ขอบคุณมากนะคะ เป็นประโยชน์อย่างที่สุดเลยค่ะ พลาดไปหลายอย่างเลย สงสัยต้องเคร่งครัดกว่าที่ผ่านมาอย่างมากเลย ขอหั้ยทุกคนที่เป็นโรคเดียวกันนี้ ดีขึ้น ๆ ค่ะ ^^ โดย: dreamzone วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:16:30:45 น.
คุณปอ คุณ dreamzone ผมว่าการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเนี่ย สำคัญมากนะครับ ยาที่หมอให้มาก็ช่วยรักษาอาการ ถ้าเราไม่ดูแลเรื่องอาหารการกินด้วยเนี่ย ก็คงหายยากนะครับ การรักษาอาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่
ขอเอาใจช่วยให้หายกันทุก ๆ คนนะครับ :) โดย: BluE_CheesE วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:22:35:26 น.
ขอบคุณบทความนี้มากๆ เลยค่ะ
มีประโยชน์มาก ถ้าทำได้ตามนั้น โดย: su IP: 119.42.64.247 วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:11:04:52 น.
เราก็เป็นมาเป็นปีกว่าแล้ว อยากบอกว่าที่คุณ BluE CheesE บอกมาใช่หมดเลย ต้องบอกคุณเป็นคนช่างสังเกตุและละเอียดมากนะ สิ่งที่คุณบอกจะเป็นประโยชน์มากกับคนที่เป็นโรคนี้ เพราะมันทรมานการใช้ชีวิตประจำวันมากเลย ขอเสริมอีกอย่างเราอ่านเจอว่าการกินที่ถูกอีกอย่างคือก่อนมื้ออาหาร15นาทีไม่ควรดื่มน้ำ และระหว่างกินไม่ควรกินน้ำเยอะรวมทั้งน้ำซุปไม่ควรเกินครึ่งถ้วย ควรดื่มน้ำได้ปกติหลังอาหาร 45 นาที ทั้งนี้เพื่อให้ระบบย่อยทำงานเต็มที่ , อีกอย่างเราก็หันมาออกกำลังกายเหมือนกัน แต่อย่าออกหนักเกินไป เพราะเราเป็นแทนที่จะสบายกับรู้สึกพะอืดพะอม หวือๆ เหมือนกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะ ยินดีที่รู้จักนะ
โดย: win IP: 58.9.165.108 วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:11:24:48 น.
ขอบคุณสำหรับบทความนี้มากเลยคะ
อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีคะ โดย: joon IP: 125.25.117.237 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:54:31 น.
คุณแม่เป็นโรคนี้เหมือนกันคะ เคยเป็นหนักมาก ๆ กว่าจะเข้าใจว่าเป็นโรคนี้ก็ต้องไปส่องกล้องอะไรจิปาถะ เสียไปหลายหมื่น จนหาย แล้วนี่กลับมาเป็นอีกแล้วคะ
ตอนนี้แม่น้ำหนักลดมากเลยคะ หมอใ้ห้กิน pariet กับทราวิสคอนคะ แต่ช่วงที่ทราวิสคอนตอนเย็นนี่ พอหมดฤทธิ์ก็เกิดอาการเย็นตรงลิ้นปี่เลยคะ ส่วนกิน แม่กินแต่ข้าวต้มคะ กินอย่างอื่นไม่ได้เลย รบกวนถามคุณ blue_cheese หน่อยนะคะ เรื่องกล้วยน้ำว้า เราต้องกินเยอะไหมคะ ใน 1 วันแล้วต้องกินหลังอาหารนานไหมคะ โดย: genki IP: 124.120.88.191 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:06:11 น.
ขอบคุณครับคุณ Joon ผมก็หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นนะครับ...
คุณ genki ครับ รู้สึกว่าคุณแม่ของคุณ genki จะเป็นมากอยู่นะครับ ที่สำคัญต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด อย่าอดอาหารนะครับ ให้กินบ่อย ๆ แต่กินทีละน้อยจะดีกว่า ตอนเช้าตื่นมาให้กินน้ำอุ่น ๆ หรือน้ำธรรมดา (ไม่ใช่น้ำเย็น) สัก 1-2 แก้วก่อน ส่วนกล้วยน้ำว้าเนี่ย กินก่อนอาหารครับ ช่วงที่ท้องว่างจะดีกว่า แต่อย่าเลือกกล้วยที่สุกจนเหลืองหรืองอมนะครับ ให้เลือกเอาที่ออกเขียวๆ ออกฝาดๆ จะดีกว่า เพราะยางฝาดในกล้วยจะช่วยเคลือบกระเพาะเอาไว้ ถ้ากล้วยงอมจะไม่ค่อยมียาง กินมากน้ำตาลอาจจะขึ้นได้ ผมกินทีละ 2-3 ลูก กินบ่อย ๆ ได้ทั้งวัน ถ้าเบื่อก็อาจกินพวกกล้วยปิ้ง (ไม่งอม) หรือกินพวกหัวปลีก็ช่วยได้เช่นกัน สำคัญคือหลีกเลี่ยงพวกถั่วทุกชนิดครับ ...ขอเอาใจช่วยให้คุณแม่หายไวๆ นะครับ โดย: BluE_CheesE วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:07:14 น.
ขอคุณสำหรับบทความมากๆนะคะ พอดีคุณแม่เป็นอยู่
ช่วยได้เยอะเลย ขออนุญาตปริ๊นไปให้คุณแม่อ่านนะคะ โดย: ammy IP: 203.144.220.243 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:9:02:14 น.
ด้วยความยินดีครับคุณ ammy ขอเอาใจช่วยให้คุณแม่หายเร็ว ๆ นะครับ
ค่อย ๆ ดูแลตัวเอง อย่าใจร้อน กรดไหลย้อนเป็นโรคที่ต้องค่อยๆ ประคับประคองรักษาไป แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นครับ โดย: BluE_CheesE วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:9:44:37 น.
ให้ความรู้ดีมั๊กๆคับ สามารถนำไปใช้ได้ทันทีเลย ขอบคุณมากคับ
โดย: มะจ๋อศรี IP: 192.168.10.28, 125.27.121.82 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:18:27:36 น.
ขอบคุณมากนะคะที่เขียนบล็อกเรื่องนี้ เป็นประโยชน์กับเรามากเลยค่ะ
ตอนไปพบหมอ แล้วคุณหมอแนะนำว่าให้หยุดทานช็อคโกแล็ต หัวใจเราสลายเลย แต่่ก็จำยอม มีแอบทานบ้าง แต่ทานปุ๊ปได้ผล มันมาทันที ตอนนี้เลยตัดใจจากช็อคโกแล็ตได้แล้ว แต่ยังไงๆ อาการก็ไม่ดีขึ้น ลองเสิร์ชมาเจอที่นี่ ถึงได้รู้ว่า ต้องงดทานนมด้วย เราแทบร้องไห้เลย เพราะนมคืออาหารหลักในชีวิต แต่..คงต้องตัดใจ ทีนี้มีข้อสงสัยค่ะว่า ทานโยเกิร์ตได้มั้ยคะ ส่วนใหญ่เราทานกับผลไม้เป็นอาหารเช้า หรือบางครั้งก็อาหารเย็นค่ะ โดย: ผึ้ง IP: 58.64.78.215 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:17:36:53 น.
ทานมนเปรี้ยวได้มั้ยคะ ถ้าไม่ทานท้องจะผูกค่ะ ถ่ายออกมาเป็นลูกกระสุนเล็กๆเลยอ่ะค่ะ บางครั้งทานผักก็เป็นอยู่
โดย: nunam IP: 180.180.27.246 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:17:49 น.
เป็นอยู่ค่ะ ไปหาหมอกินยา 4 วัน อาการค่อยดีขึ้น ตั้งแต่ไปหาหมอมายังไม่กินอาหารเผ็ดเลย กินแต่ผัดผัก ต้มจืด และกินอาหารน้อยลง 1/4 ของที่เคยกินแต่ละมื้อ อ่านบล็อกนี้ได้รู้ว่า ควรงดนม และน้ำเต้าหู้ ด้วย ขอบคุณนะคะ
เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่เป็นโรคนี้ ขอให้หายไวๆ กันทุกคนนะคะ โดย: Uma IP: 61.19.52.106 วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:13:40:33 น.
กินกล้วยน้ำหว้ากับขมิ้นชันตอนไหนดี
โดย: ก้อย IP: 183.89.115.117 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:16:41 น.
เป็นอยู่เหมือนกันค่ะเกือบปีแระทรมานมากเลย
โดย: สุภาพร IP: 125.27.121.148 วันที่: 10 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:21:26 น.
่่สุภาพรคะตอนน้หายยัง โทรมาคุยกันได้นะคะเพาะดิฉันยังไม่หายเเหือนกัน0849296425
โดย: ม่อน IP: 125.25.72.128 วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:22:55 น.
วันที่9/7/55เวลา18.15นมีอาจารย์แพทย์ที่มีชื่อเสียงบรรยายเรื่องดูแลสุขภาพโดยลดการกินยาและผ่าตัดครับเมื่อก่อนผมเป็นปัจจุบันไม่เป็นแล้วครับและช่วยได้หลายอย่างเช่นปวดหลัง,ขา,เข่าผู้ใหญ่ไม่ต้องใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ดีมากได้ความรู้เยอะครับ ท่านบรรยายฟรีต้องไปตรงเวลาครับมีคนเข้าฟัง200-300คนสนใจเข้าฟังโทร0816892436สวโรตม์
โดย: สวโตม์ วังช่วย IP: 124.122.56.50 วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:51:54 น.
พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ที่เคยเป็นช่วยแนะนำผมทีน่ะครับ ถึงการรักษาและผมจะกิน ยาฝรั่ง(Miracid)+ยาจีน ควบคู่กันไปในการรักษา จะได้ไหมครับ
ปล. ขอบคุณมากครับ โดย: ผู้ป่วยเหมือนกัน IP: 115.87.225.231 วันที่: 8 สิงหาคม 2555 เวลา:23:07:27 น.
เป็นกรดไหลย้อนเหมือนกันค่ะ
โดย: 2 IP: 180.180.159.222 วันที่: 1 กันยายน 2555 เวลา:13:33:07 น.
ตอนนี้เป็นกรดไหลย้อนอยู่...คิดว่าคงเป็นนานแล้วแต่มันก็ไม่ได้มีอาการหนักหนา..อะไร..ก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ..เพราะไม่รู้ว่าเป็นกรดไหลย้อน...มารู้อีกทีว่าเป็นก็คือมีอาการหนักเพราะว่ามีอการหลายอย่างเลย..อาการที่เป็นคือ..แสบลิ้นปี่ ...เรอ...รู้สึกเหมือนมีอะไรมาติดที่คอตลอดเวลา.(แน่นที่คอมาก)แล้วยิ่งถ้าทานอานแสลงจะจุกและแน่นที่คอมาก
...แล้วก็จะเจ็ฐที่หน้าอก..หายใจติดขัด...แน่นอึดอัดท้อง.(บางครั้งอยากให้ผายลมก็ไม่ผายให้เรอก็ไม่เรอ..แต่พอเรอก็ไม่ได้ทำให้สบายขึ้น)..ทรมานมาก.. ตอนนี้ก็ไปหาหมอ..ให้ยา miracid.. ทานยายเกือบจะ 2 เดือนแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น...ตอนนี้ก็ปรับพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกิน..หรือการนอน..แม้การใช้ชีวิตประจำวัน..แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น..ไม่รู้จะทำอย่างไรดี..ทรมานมาก...อยากขอคำแนะนำจาก..เพื่อนๆ..พี่ๆน้องๆที่จะแนะนำว่าควรปฏิบัติหรือทำตัวอย่างไรดีอยากหายเร็วๆ.เพราะทรมานมากเลยค่ะ... โดย: ผู้ได้รับพิษ...จากโรคกรดไหลย้อน IP: 180.180.159.222 วันที่: 1 กันยายน 2555 เวลา:13:52:46 น.
แนะนำเพิ่มว่า อย่ากินกล้วยหอม อาการจะกำเริบทันที
เป็นเหมือนกัน นี่มันมาเป็นครั้งที่สองแล้ว จะลองงดนมและน้ำเต้าหู้ด้วย เพิ่งรู้ โดย: jim IP: 124.120.126.247 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:51:10 น.
w.ดีมาดเลยครับ เพิ่งรู้ว่าท่ีเรากินอยู่ประจำเช่น นม น้ำเต้าหู้ก็แสลง
ขอบคุณมากครับ m โดย: จรัล สอนสุวิทย์ IP: 110.168.159.70 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:23:35 น.
w.ดีมาdเลยครับ เพิ่งรู้ว่าท่ีเรากินอยู่ประจำเช่น นม น้ำเต้าหู้ก็แสลง
ขอบคุณมากครับ m โดย: จรัล สอนสุวิทย์ IP: 110.168.159.70 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:26:08 น.
ขอบคุณค่ะ ใช้คำพูดได้กระชับ ฉับไว นิสัยไม่ดีเรื่องการกินการนอน จะพยายามทำตามกำปั้นทุบดินจ้า
โดย: ก้อย IP: 125.24.119.230 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:24:23 น.
เราเป็นมาเดือนกว่าๆ ขอแชร์นิดนะคะ ต้องออกกำลังกายทุกเย็นค่ะ ที่สำคัญถ้ารู้สึกแสบท้องหรือปวดท้อง จากอาหารไม่ย่อย ท้องอืด นำกระเป๋าน้ำร้อนมาประคบอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แต่ถ้าจะให้ดี ประคบทุกมื้อหลังอาหาร อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราก็ดีขึ้นจากการประคบท้องนี่แหละ ทำให้นอนหลับสบายด้วย ถ้าไม่เข้าห้องน้ำ การ detox ลำไส้ด้วยไฟเบอร์ชนิดผง ก็ทำให้สบายท้องมากขึ้นด้วยค่ะ ที่สำคัญ ถ้าหายแล้วอย่าชะล่าใจ ต้องปรับพฤติกรรมการทานของตัวเองด้วย อย่าทานแล้วนอนเลย ต้องเดินย่อยก่ิน ประมาณ 1 ชั่วโมง เผื่อเวลาให้อาหารย่อยด้วยอีก 3-4 ชั่วโมง ทานข้าวเย็นก่อน 6 โมงเย็น เน้นทานโจ๊กและผักต้มให้มากๆแต่อย่าให้อิ่มจนเกินไปค่ะ ถ้าทำได้แบบเรา หายแน่นอนค่ะ
โดย: O-OH IP: 58.8.240.179 วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:11:53:32 น.
ถ้ารู้สึกว่าจุกที่คอ ให้วิ่งออกกำลังกายค่ะ เดี๋ยวไอ้ที่มันจุกติดที่คอจะหายไปเองค่ะ เราทำมาแล้ว ได้ผล..!!!! พยายามขับถ่ายทุกวัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยเข้าห้องน้ำ mucilin ช่วยได้ค่ะ ไปซื้อตามร้านขายยา ที่สำคัญขมิ้นชันแบบเม็ดของอภัยภูเบศร์หลังอาหารมื้อละ 2 เม็ด ก็จะช่วยรักษากระเพาะจากกรดได้นะคะ
โดย: O-OH IP: 58.8.240.179 วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:11:58:50 น.
ตอนนี้ก็เป็นอยู่พึ่งเคยเป็นแย่มากๆเลยคะ พี่ๆ กินโจ๊กทุกมื้อเลย เหมือนมีอะไรมาติดอยู่ที่คอทำให้อยากอาเจียน แถมปวดหัวอีก😢😢
โดย: muay IP: 183.89.186.89 วันที่: 17 มิถุนายน 2558 เวลา:12:33:33 น.
เป็นอยู่ทรมานมากค่ะ
โดย: nn IP: 49.237.213.173 วันที่: 11 มกราคม 2559 เวลา:9:20:59 น.
เป็นมา3ปีหรือก่อนหน้านี้อาจจะไม่รู้ตัวทรมานจริงๆค่ะช่วงนี้กลับมาเป็นมากอีกแล้วเหนื่อยพูดแล้วจะไอสงสัยอากาศเปลี่ยนมีปัญหากับหลอดลมด้วยกินยามาเป็นเดือนก้อไม่หาท้องอืดหนักกว่าเดิมมาอ่านกระทู้นี้เป็นประโยชน์ขอบคุณมากค่ะ
โดย: Jummy IP: 125.27.29.53 วันที่: 16 ตุลาคม 2559 เวลา:13:51:21 น.
ขอบคุณมากค่ะ เป็นมานานมาก ไม่หายซะที ท้อไปหลายรอบแล้ว เคร่งครัดกับอาหารแสลง งดกาแฟ นม น้ำเต้าหู้ พออาการดีขึ้นหน่อยก็เผลอไปกินอาหารรสจัด พวกส้มตำก็เป็นนะคะ ส่วนตัวกินขนมปังก็เป็นค่ะ ท้องอืด ทรมาน นอนไม่ค่อยได้ ทำงานก็ไม่ค่อยมีสมาธิเลย จะกลับไปกินกล้วยและขมิ้นชัน และออกกำลังกายด้วย
โดย: softchair วันที่: 1 ธันวาคม 2559 เวลา:19:19:05 น.
หนูเป้นอยู่เหมือนกันเป้นแบบว่ากินน้ำเต้าหู้เสร็จจะอวกหายใจไม่สุดกลัวตายค้ะเป้นไรหรอค้ะ
โดย: อาทิตยา IP: 27.55.23.182 วันที่: 4 มกราคม 2560 เวลา:20:50:52 น.
อยากทราบว่ามีอาการจุกอกใจสั่นไหม
โดย: จารุวรรณ IP: 157.7.52.183 วันที่: 13 มกราคม 2560 เวลา:6:09:39 น.
เคยเป็นโรคกรดไหลย้อน เหมือนกันค่ะ มีเพื่อนที่เคยเป็นเหมือนกันแนะนำให้กินสุมนไพร นราห์ ดูเพราะเพื่อนกินแล้วหาย
เลยมาลองทานดูบ้าง ทานช่วงแรกไม่ค่อยชิน บวกกับมีอาการมานานมาก เลยคิดว่าจะไม่ได้ผล เกือบถอดใจไปละค่ะ แต่ก็ยังทานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ประมาณ 4 เดือน เองค่ะ หายเป็นปกติเลยค่ะ ฝากถึงคนที่เป็นโรคนี้เหมือนกันนะคะ อย่าท้อค่ะ มีวินัย อดทน ควบคุมอาหารไปพร้อมกัน ยังไงก็หายเหมือน เราแน่นอนค่ะ แนะนำให้ลอง สมุนไพรนราห์ ดูค่ะ https://www.narahhealth.com/ เผื่อใครอยากศึกษาลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านนะคะ ขอให้หายเหมือนเราไวๆค่ะ โดย: อัจฉราพร IP: 223.24.154.39 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2560 เวลา:12:33:48 น.
ขอบคุนนะคะที่ให้คำแนะนำตอนนี้กินยาหมอยุ่ถ้ากินขมิ้นชันจะกินตอนไหนได้บ้างและกินกี่เม็ดหรือกินยาที่หมอใหมาพร้อมกับขมิ้นชันคะ
โดย: พอชม IP: 223.24.93.210 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา:7:02:05 น.
|
ตรีวิกรม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีครับผม :) ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ มือใหม่เพิ่งจะเริ่มหัดเขียนนะครับ ยังงง ๆ อยู่บ้าง ก็เลยพยายามทำให้เรียบง่ายเข้าไว้ สิ่งที่ผมบันทึกลงในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น บางอย่างก็เป็นเกร็ดความรู้จากที่ได้อ่านมาบ้าง ได้ฟังมาบ้าง จำๆ มาปะติดปะต่อเอาเองบ้าง หากจะเอาข้อมูลทางวิชาการก็คงไม่ได้ แต่ยังไงก็พยายามให้มีสาระ มีประโยชน์ไว้บ้าง ยังไงก็เขียน comments แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ แล้วอย่าลืมแวะมาเยี่ยมอีกนะครับ :) Group Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |