ชีวิตนี้สั้นนัก อย่ามัวถวิลหาอดีตที่ผ่านเลย อย่ากังวลอนาคตที่ยังไม่ถึง จงอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างมีสติ...
|
|||
9 เดือน 9 วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ดูจะเป็นวันพิเศษสำหรับคนหลาย ๆ คน เห็นได้จากข่าวทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ประโคมข่าวการจองโรงแรมเพื่อจัดงานแต่งงานบ้าง ฉลองโน่นนี่บ้าง เป็นฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ เปิดโครงการต่าง ๆ มากมาย รวมถึงคนที่กำลังท้องใกล้คลอดก็พากันไปผ่าท้องเพื่อจะได้เอาฤกษ์เลขสวย ๆ ให้ลูกออกมาดูโลกกันอย่างขนานใหญ่ นัยว่าเป็นเลขมงคลที่ 1,000 ปีจะมีสักครั้ง แหม...น่าจะมีการเก็บสถิตินะครับว่า วันที่เป็นมงคลสุดๆ แบบนี้จะอยู่กันได้หม้อดำกันสักกี่ราย สำหรับผม วันที่ 9 เดือน 9 จะมีความพิเศษบ้างที่ผมจำได้ขึ้นใจ ก็คือเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมานั้น วันนี้เป็นวันที่ผมได้เผชิญกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้เข้าใจและได้เห็น ความตาย อย่างถ่องแท้ ชัดเจน และเผชิญหน้ากับความตายที่เกิดกับยายที่ผมรัก ซึ่งเคยนึกกลัวได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ยายเริ่มแก่ตัวลงมาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่คิดถึงว่าสักวันหนึ่งสังขารของยายจะต้องร่วงโรยไปตามธรรมชาติ แม้จะเคยได้อ่านได้ฟังธรรมะจนเข้าใจถึงกฎแห่งไตรลักษณ์ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิด มีตั้งอยู่ มีการดับสังขารไปตามที่ธรรมชาติกำหนด แต่พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดไม่ได้ที่จะต้องรีบสลัดความคิดออกไปจากหัวทันทีด้วยความหวาดผวา กลัวจะได้เห็น กลัวจะได้ยิน กลัวจะได้รับรู้กับการสูญเสียชีวิตของยายทุกครั้ง นาน ๆ กลับไปเยี่ยมยายที่บ้านนอกที ได้เห็นยายที่หลังมากค่อมแล้วเดินงกๆ ถือเสียมอันเล็กๆ ไปดายหญ้าหน้าบ้านอย่างคล่องแคล่ว ก็อดแอบดีใจไม่ได้ที่ยายยังแข็งแรง แทบทุกครั้งที่กลับบ้านจะไปนอนในห้องของยาย กลางคืนตื่นขึ้นมาก็ยังแอบดูว่ายายยังหายใจอยู่หรือเปล่า พอได้ยินเสียงหายใจที่ทอดยาวลึก หายใจอย่างช้า ๆ ก็จะนึกโล่งอกทุกครั้ง เมื่อกลับมาอยู่กรุงเทพฯบางวันแม่โทรมาหาเพื่อถามข่าวคราวสารทุกข์สุกดิบ ทุกครั้งที่รับโทรศัพท์ก็จะหวาดผวาว่ากลัวจะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับยายหรือเปล่า ? เลยกลายเป็นความหวาดระแวงโทรศัพท์จากที่บ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไป การที่ผมหวาดกลัวกับความตายนั้น ก็มีส่วนดีอยู่บ้างที่ทำให้ผมไม่ประมาท ทำให้นึกอยู่ตลอดเวลาว่าความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ ทุกสิ่งที่เป็นความสุขของยาย ผมจะพยายามหามาให้เสมอ ยายชอบกินมังคุด พวกเราหลาน ๆ ก็จะซื้อไปฝากทุกครั้งจนยายมักจะบ่นบ่อยๆ ยายชอบทำบุญผมก็ช่วยให้ยายได้ทอดกฐิน ให้ยายสร้างพระไตรปิฎกถวายวัด สร้างห้องสมุดให้โรงเรียน มอบทุนการศึกษาให้เด็กๆ ที่บ้าน แม้เงินจะไม่มากมายอะไรแต่ยายก็ภาคภูมิใจและมีความสุข พวกเรา แบ่งเงินเดือนให้ยายไว้ซื้อของกินที่ชอบ แต่สุดท้ายยายก็เก็บไว้ทำบุญอย่างเดียว จนที่สุดยายก็อยากจะทำบุญให้ตัวเองที่เรียกว่ามหาบังสุกุล ซึ่งเป็นการทำอุทิศส่วนกุศลเหมือนทำให้คนตาย เพียงแต่ว่าทำขณะยังมีชีวิตอยู่ ผมก็จัดแจงเป็นแม่งานให้จนสำเร็จ ยายรู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจมาก ท่านได้บอกกับผมว่ายายได้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าจะตายวันนี้พรุ่งนี้ยายก็พร้อมแล้ว ไม่เสียดายชีวิตอีกแล้ว ยังเหลืออีกเพียงสิ่งเดียวที่ยายเคยใฝ่ฝัน ผมตัดสินใจพายายไปในที่ที่ท่านอยากจะไป แม้ท่านจะอายุ 87 ปีแล้ว สุขภาพก็ร่วงโรยไปตามวัย แต่ผมก็พยายามวางแผนอย่างดีที่สุด เพื่อให้ยายได้รับความสะดวกที่สุด ยายได้ไปเห็นไปชมในที่ที่ยายเคยใฝ่ฝันอย่างมีความสุข แต่...ในทีสุดการเดินทางครั้งนี้ ได้กลายเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของยายไป เพราะวันรุ่งขึ้นยายก็ไม่สบาย ผมพร่ำบอกกับยายเสมอว่าจะพายายกลับบ้านเรานะครับ สุดท้ายเราก็มาถึงกรุงเทพฯ รถพยาบาลมารับยายไปถึงโรงพยาบาล ผมและแม่ได้แต่เฝ้ามองโดยไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี ผมได้แต่พยายามติดต่อโรงพยาบาลอื่น ๆ เพื่อจะส่งยายไปรักษาให้หายให้ได้ สาย ๆ ของวันที่ 9 เดือน 9 นี่เอง...ผมไปยืนหน้าเตียงจับมือยายไว้แน่น น้ำตานองมาจากไหนไม่รู้ มันมีอะไรจุกอยู่ในอก คำพูดที่ออกมาอย่างยากเย็น ผมบอกยายว่า ยายครับ ถ้ายายไม่ไหวก็ไปเถอะนะครับ ถ้ายายทนไหวก็อดทนอีกนิดนะครับรถกำลังจะมา ผมจะพายายกลับบ้านเรานะครับ...ให้ยายหลับให้สบายที่บ้าน เรากำลังจะกลับบ้านเราแล้วนะครับ สายตาที่เคยแจ่มใสของยายบัดนี้กลับฝ้าฟาง สายตาคู่นั้นเบิกตามองใบหน้าของผมอยู่นานแสดงการรับรู้ แล้วผมก็บอกให้ยายหลับตานอนพักก่อน รถแล่นกลับบ้านเราด้วยความเร็วสูง แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช้าเสียเหลือเกิน... ไม่มีน้ำตา ไม่มีคำพูด ไม่มีการร้องไห้...มีแต่ความเงียบ และสมองที่มึนงงของผมกับแม่ เราเดินทางกลับบ้าน พร้อมกับการเดินทางครั้งสุดท้ายของยายก็มาถึง ไม่มีความกลัว ไม่มีความหวาดผวา เมื่อได้เผชิญหน้ากัน เมื่อวันที่ 9 เดือน 9 นี่เอง ยังรักและคิดถึงยายอยู่เสมอนะครับ |
ตรีวิกรม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีครับผม :) ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ มือใหม่เพิ่งจะเริ่มหัดเขียนนะครับ ยังงง ๆ อยู่บ้าง ก็เลยพยายามทำให้เรียบง่ายเข้าไว้ สิ่งที่ผมบันทึกลงในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น บางอย่างก็เป็นเกร็ดความรู้จากที่ได้อ่านมาบ้าง ได้ฟังมาบ้าง จำๆ มาปะติดปะต่อเอาเองบ้าง หากจะเอาข้อมูลทางวิชาการก็คงไม่ได้ แต่ยังไงก็พยายามให้มีสาระ มีประโยชน์ไว้บ้าง ยังไงก็เขียน comments แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ แล้วอย่าลืมแวะมาเยี่ยมอีกนะครับ :) Group Blog All Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |