Impossible Dreams ตอนที่ 1

ขอสารภาพว่าอัพบล็อคครั้งสุดท้ายเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว (ต้องโทษเฟชบุ้ค) ที่แย่ไปกว่านั้นคืออัพบล็อคที่เกี่ยวกับหนังสือตั้งแต่เมื่อมกราคมปีที่แล้ว กลับมาครั้งนี้จึงขอจัดเต็ม อันเนื่องมาจากได้อ่านเรื่องสั้นที่ชื่อ Impossible Dreams แล้วชอบมาก เพราะความที่มันเป็นนิยายวิทยาศาสตร์สำหรับคอหนังโดยเฉพาะ เมื่ออ่านจบก็เลย (หาเรื่อง) แปลให้ทุกคนอ่านกัน

Impossible Dreams เป็นเรื่องสั้นของ ทิม แพร็ต นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ โดยถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Asimov กรกฏาคม ปี 2006 ได้รับรางวัล Hugo Award สาขาเรื่องสั้นยอดเยี่ยม Impossible Dreams เป็นเรื่องราวของ พีท คอหนังที่พบกับร้านเช่าหนังมหัศจรรย์ที่อยู่ในโลกคู่ขนาน





บทที่ 1

พีท เดินกลับบ้าน หลังจากเขาและเพื่อนๆในชมรมดู To Have and Have Not ในเทศกาลหนังคลาสสิก ทันใดนั้นเขาก็เห็นร้านเช่าวิดีโอ

เขาหยุดเดินตรงทางเท้า รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย มันเป็นร้านแคบๆที่แทรกตัวอยู่ระหว่างร้านเบเกอรี่และร้านกิ๊ฟช็อป เขาก้าวเข้าไปหาประตูร้าน ชำเลืองมองดูด้านใน เห็นโปสเตอร์หนังเก่าบนผนัง ชั้นวางดีวีดีและวิดีโอ จอทีวีขนาดใหญ่อยู่บนผนัง ผ่านสติ๊กเกอร์บนประตูเขียนว่า “Impossible Dreams Video” รอยขูดขีดบนกระจกบ่งบอกว่าร้านเปิดทำการมานานพอสมควรแล้ว

เพียงแต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะ พีท รู้จักร้านเช่าทั่วทั้งบริเวณนี้ ตั้งแต่ร้านแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ไปจนถึงร้านเล็กๆ ก่อตั้งโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มักมีหนังสยองขวัญอิตาเลียนหรือว่าหนังกังฟูหายาก แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อร้านนี้มาก่อน แม้ว่าตัวเองจะเดินผ่านแถวนี้วันละสองครั้งก็ตาม พีท นับถือหนังเหมือนคนนับถือพระเจ้า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมองข้ามร้านเช่าหนัง ที่อยู่ห่างจากห้องของเขาไปแค่สามช่วงตึก

เขาเปิดประตูร้านเข้าไปข้างใน ร้านเช่านี้ขนาดเล็ก มีชั้นวางดีวีดีและวีดีโอแค่สามแถว แสงไฟฟลูออเรสเซนต์และพรมสีฟ้าเก่าคร่ำครึ ไม่มีลูกค้าคนอื่นนอกจากเขา ทันใดนั้นพนักงานของร้านพูดว่า "ต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกนะ" เขาพยักหน้า เขาไม่ได้สนใจว่าพนักงานคนนั้นเป็นผู้หญิง วัยยี่สิบกว่าๆ ผิวขาวซีด มัดรวบผมเป็นหางม้า

พีท เดินเข้าไปในโซนหนังเก่า เขาคือคอหนังระดับพระกาฬ คุณสามารถตัดสินคุณค่าของร้านวิดีโอได้จากโซนหนังคลาสสิก เหมือนกับการตัดสินความศิวิไลซ์ของแต่ละประเทศจากดุลการค้า เขามองตรงชื่อหนังที่เขาคุ้นเคย และหยุดตรงกล่องดีวีดีที่มีป้ายติดว่า "ใหม่ล่าสุด"

พีท หยิบกล่องดีวีดีขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา รายละเอียดบนกล่องบอกว่ามันคือ The Magnificent Ambersons ฉบับตัดต่อใหม่โดย ออร์สัน เวลส์

“นี้มันเรื่องตลกหรือไง" เขารู้สึกฉุน แล้วยกดีวีดีกันไปทางพนักงานสาว

“อะไรนะ?” เธอตอบ

เขาเดินเข้าไปหาเธอ เอานิ้วเคาะบนกล่องดีวีดี เขาบอกได้จากปฏิกิริยาตอบรับของเธอ คิ้วที่เลิกขึ้นและการก้าวถอยหลังเล็กน้อย เธอคิดว่าเขากำลังสร้างปัญหา "ขอโทษนะ" เขากล่าว "กล่องนี้มันเขียนว่านี้คือ The Magnificent Ambersons ฉบับตัดต่อใหม่ ที่รวมฟุตเทจที่สูญหาย"

“ใช่” เธอตอบ สีหน้าของเธอดีขึ้น "แผ่นนี้เพิ่งมาใหม่ไม่กี่อาทิตย์ก่อน อ้าว คุณไม่รู้เหรอ เมื่อก่อนคุณอาจเคยดูฉบับฉายโรง ซึ่งเป็นฉบับที่สตูดิโอเฉือน..."

“แต่นี่มันบอกว่ามันรวมฟุตเทจที่สูญหาย" เขาขัดจังหวะ "มันหาย ถูกทำลาย และประวัติศาสตร์บอกว่า 50 นาทีสุดท้ายหลงเหลืออยู่เพียงแค่บทหนังเท่านั้น"

เธอถอนหายใจ “ก็ใช่ ฟุตเทจมัน “เคย” หาย ทุกคนคิดว่ามันถูกทำลายไปแล้ว แต่พวกเขาพบฟุตหนังเมื่อปีที่แล้วในโกดังร้างแห่งนึง"
ข่าวช็อคโลกแบบนี้ทำไม พีท ถึงไม่รู้? เว็ปบอร์ดที่เขาเข้าประจำน่าจะล่มด้วยข้อมูลแบบนี้ นี่คือฝันเปียกของทากหนัง "พวกเขาเจอฟุตหนังได้ยังไง?"

“จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เวลส์ เล่าให้พวกเราฟังผ่าน commentary ในดีวีดีแผ่นนี้ แต่ฉันขอเตือนว่าคุณอาจฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะตอนนี้เขาอายุเก้าสิบกว่าแล้ว เขา..."

“คุณมั่วแล้ว" พีท ขัดจังหวะอีกครั้ง "นอกเสียจากว่า เวลส์ จะลุกขึ้นมาจากหลุมเพื่ออัด commentary เพราะเขาตายไปตั้งแต่ยุค 80 แล้ว"

เธออ้าปาก ก่อนที่จะยิ้ม พีท แทบจะได้ยินคติประจำใจของพนักงานขายว่า “ลูกค้าถูกเสมอ” ผ่านรอยยิ้มของเธอ "แน่นอน คุณเข้าใจถูกแล้ว คุณอยากเช่าดีวีดีแผ่นนี้รึป่าวล่ะ"

“แน่นอน" เขากล่าว "แต่ผมไม่ได้เป็นสมาชิก"

“คุณอยู่แถวนี้หรือเปล่า เราต้องการแค่เบอร์โทรศัพท์และสำเนาบัตรประชาชน"

พีท เปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อเช็คเอกสาร เธอยื่นแบบฟอร์มให้เขากรอก กาอนที่จะกรอกข้อมูลของเขาลงในคอมพิวเตอร์ ในขณะที่เธอกำลังใส่ข้อมูลอยู่นั้น เขาเอ่ยขึ้นมาว่า "ผมไม่อยากอวดอะไรหรอกนะ แต่ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหนัง"

“คุณไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้" เธอตอบ ก่อนที่จะเอานิ้วเคาะกล่องดีวีดี "ทั้งหมดรวมเป็น 3 เหรียญ 18 เซนต์"

เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาอีกครั้ง ข้างในนั้นมีแต่ใบเสร็จที่เขาไม่เคยเอาออก และโน้ตที่เขาเขียนไว้เพื่อเตือนความจำตัวเอง แต่ไม่มีเงินอยู่เลย "คุณรับบัตรเครดิตไหม?"

เธอทำหน้าบูด “อย่างน้อยต้อง 5 เหรียญถึงจะใช้ได้ โทษทีแต่มันเป็นกฏ"

“งั้นผมลองหาเรื่องอื่นเพิ่มแล้วกัน" เขาตอบ

เธอเหลือบไปมองนาฬิกาบนผนัง ใกล้ถึงเวลา 4 ทุ่มแล้ว

“ผมรู้ว่าคุณกำลังจะปิด ขอผมเลือกแป๊ปเดียว" เขาบอก

เธอยักไหล่ "ก็ได้"

เขาเดินเข้าไปในโซนหนังไซ-ไฟ และต้องช็อคอีกครั้ง I, Robot อยู่บนหิ้ง ไม่ใช่เวอร์ชั่นห่วยๆของ วิล สมิธ มันเก่ากว่านั้นบนกล่องเขียนว่า "บทภาพยนตร์โดย ฮาร์แลนด์ เอลลิสัน" แต่บทดัดแปลงจากหนังสือ ไอแซค อสิมอฟ ของ แอลลิสัน ไม่เคยถูกสร้างให้เป็นหนัง ถึงแม้ว่าจะถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือ

“มันต้องเป็นหนังของนักศึกษาแน่ๆ" เขางึมงัม แต่หน้ากล่องเขียนว่า "ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม" นี้มันเป็นเรื่องตลกหรือไง? ทำไมเขาไม่เคยได้ยินโปรเจ็คนี้มาก่อน หรือมันถูกสร้างโดยกลุ่มคนรักหนัง? เขาเดินไปที่เคาท์เตอร์และยื่นแผ่นพร้อมเครดิตการ์ด

เธอมองดูบัตรแล้วพูดว่า "วีซ่า เหรอ โทษที พวกเรารับแค่ เวเบอร์ และ ฟอสเตอร์การ์ด"

พีท จ้องเธอ หยิบบัตรที่เธอปฏิเสธกลับมา "นี่คือวีซ่านะ" เขาพูดช้าๆ ราวกับว่าฝั่งตรงข้ามคือเด็ก "ผมไม่เคยได้ยิน..."

เธอยักไหล่ เธอมองดูนาฬิกาอีกครั้ง และตอบแบบไม่ใยดีว่า "ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งกฏ"

“ผมอยากดูหนังพวกนี้จริงๆ!” พีท เริ่มหมดความอดทน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่อะไรก็ได้กับทุกสิ่ง แต่หนังคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต "ได้โปรดเถอะ ผมอยู่ตรงหัวมุมถนนเอง ผมขอวิ่งไปเอาเงินมาจ่าย แค่สิบนาทีเอง โอเคไหม?"

เธอเม้มปากเป็นเส้นตรง เขาชี้ไปที่แผ่น The Magnificent Ambersons “ผมอยากดู มันเกิดมาเพื่อให้คนดู คุณก็ชอบหนังใช่มั้ย? คุณต้องเข้าใจสิ"

สีหน้าของเธอดูผ่อนคลายขึ้น "โอเค สิบนาที แค่นั้นนะ ฉันก็อยากกลับบ้านเหมือนกัน"

พีท ขอบคุณเธอและรีบวิ่งออกไปนอกร้าน เขาวิ่งไปสามบล็อคจนถึงอพาร์ทเม้นท์ เขาเปิดลิ้นชักถุงเท้าที่เขาเก็บเงินฉุกเฉินเอาไว้ม้วนเล็กๆ จากนั้นก็รีบวิ่งกลับมาที่ Impossible Dreams เขาหอบ รู้สึกได้ถึงความร้อนทั่วร่างกาย และความเจ็บปวดบริเวณเข่าทั้งสองข้าง พีท ไม่ได้วิ่งแบบนี้มาตั้งแต่ชั่วโมงพละเมื่อทศวรรษที่แล้ว

เขาวิ่งมาถึงบ้านเบเกอรี่และร้านกิ๊ฟช็อป ไม่มีประตูร้าน Impossible Dreams อยู่ตรงนั้น ทั้งสองร้านอยู่ข้างกันเหมือนที่เขาจำได้ ไม่มีแม้กระทั่งช่องว่างที่อยู่ระหว่างสองร้าน

พีท เอามือแนบกำแพงอิฐ เขาพยายามทบทวนว่าตัวเองจำไม่ผิด ว่าเขาไม่ได้เลี้ยวผิดสี่แยก เขาเดินกลับบ้านอย่างช้าๆ เมื่อถึงอพาร์ทเมนท์ เขาก็เข้าไปในห้องนั่งเล่น นั่งอยู่หน้าชั้นเหล็กสูงติดเพดาที่เต็มไปด้วยดีวีดีและวีดีโอ เขาเอาแผ่นออกมาจากชั้นและใส่ไปในเครื่องเล่นไม่จำกัดโซน จากนั้นก็หยิบรีโมทมาเปิดจอพลาสม่า และระบบเสียงเซนเซอร์ราวด์ก็เริ่มส่งเสียงคอรัสอย่างมีชีวิตชีวา

พีท จมลงสู่เก้าอี้หนังสุดอลังการที่ตั้งอยู่กลางห้อง พีท เป็นเจ้าของรถฮอนด้าสนิมเขรอะ เขาดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารกล่องราคาถูก เขาประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการไม่ซื้อกระดาษชำระ และขโมยมันจากห้องน้ำในออฟฟิศในมหาวิทยาลัยที่เขาทำงาน เขาใช้ชีวิตอย่างสมถะที่สุด เพื่อที่จะได้อยู่ในชีวิตที่สมบูรณ์แบบในโลกภาพยนตร์

พีท มีดีวีดีของซีรี่ย์ Twilight Zone ครบทุกซีซั่น และตอนนี้เสียงของพิธีกรก็เริ่มบรรยาย เขาแนะนำคนดูเข้าสู่เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ที่พบกับร้านสุดพิศวงที่เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดมหัศจรรย์

พีท ผงกหัวและเอ่ยเบาๆว่า "ใช่"

รุ่งเช้า พีท ตอกบัตรเข้าทำงาน ตอกบัตรพักเที่ยง และตอกบัตรเลิกงานจากออฟฟิศในมหาวิทยาลัย เขาซื้ออาหารเย็นในร้านแซนด์วิชเล็กๆ จากนั้นก็เดินไปสุดถนนที่เขาอยู่ ตอนนั้นเป็นเวลาหกโมงครึ่ง เขายืนพิงเสาไฟและมองไปตรงที่ที่ร้าน Impossible Dreams เคยอยู่ เขาจำได้ว่าเมื่อวานมาถึงนี่ตอนสามทุ่มสี่สิบห้า แต่ใครจะรู้ว่าเวลาไหนที่ร้านวิดีโอมหัศจรรย์จะปรากฏขึ้น หรือว่ามันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว?


อ่านต่อบทที่ 2


Create Date : 21 มิถุนายน 2554
Last Update : 24 มิถุนายน 2554 21:42:45 น. 3 comments
Counter : 956 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ ทักทายค่ะ

แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม Vote ให้ด้วยนะค่ะ

ThaiLand Travel สถานที่ท่องเที่ยว



โดย: nonguide วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:19:08:56 น.  

 
โอ้... สมกับที่หายไปนาน

เรื่องน่าสนใจมากครับ เป็นนิยายเพื่อทากหนังจริงๆด้วย ตอน 2 มาพรุ่งนี้เลยนะครับ (คุณอาร์ตบอกให้ตูพักบ้างเถิด) 55

น่าจะเอาไปเขียนเป็นการ์ตูนแบบสก็อต พิลกริมนะ ^^


โดย: แฟนผมฯ IP: 49.48.50.48 วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:21:51:24 น.  

 
คุณโอ๊ตกดปุ่มตัวหนังสือ "อ่านต่อบทที่ 2" ด้านล่างสุดของบล็อคได้เลยครับ ผมใส่เอาไว้ทุกตอนแล้ว


โดย: BloodyMonday วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:21:58:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
21 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.