ทริปปีใหม่ 2017 น่าน-แพร่

จุดหมายหลักของการไปน่าน คือ อ.ปัว

ธรรมชาติ อากาศที่สดชื่นกำลังรอยู่

ออกเดินทางคืนวันที่ 30 ธันวา ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ

คืนแรกไปนอนพักรถที่อุตรดิตถ์บ้านญาติๆ ถึงประมาณ ตี 2

ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบไม่รีบ ไม่ฟิกเวลา แค่รู้ว่าไปวันไหน กลับวันไหน

จุดหมายปลายทางคือที่ไหน พอแล้ว

ตอนเช้าตั้งเป้าไว้ว่า 6 โมงออกเดินทางไปน่าน

ความเป็นจริงออกเดินทางเกือบ 8 โมง บอกแล้วว่าทัวร์เราเรื่อยๆ

ออกจากอุตรดิตถ์ก็ยิงตรงไปที่ อ. ปัว จ.น่าน

ระหว่างทางผ่านสถานที่ไหน

อยากแวะ ก็แวะกันตามอัธยาศัย

บางที่ไม่ได้แพลนไว้ก็แวะ บางที่แพลนไว้ก็ไม่ได้แวะ

เนื่องจากเวลาไม่เอื้ออำนวย

สำหรับเราเอง เราแพลนไว้ 3 ที่ ที่เราจะต้องไป

ที่เหลือใครอยากไปไหน แวะไหน เต็มที่เลยจ้า

สถานที่แรกที่แวะ ไม่มีในแพลน

เป็นทุ่งดอกปอเทืองข้างทางมันเหลืองเต็มทุ่งเลย

แวะลงไปถ่ายรูปซะหน่อย ดีจังที่อากาศไม่ร้อน

สถานีต่อไป ถ้ำผานางคอย

ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่น่านก็มีถ้ำด้วย พอได้หาข้อมูลเพิ่มเติม

ก็เป็นอันว่า จะต้องแวะไปเที่ยวถ้ำด้วยนะ

บอกตัวเองเอาไว้แบบนี้

ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องเดินเข้าไปในป่าแล้วถึงจะเจอถ้ำ

เหมือนหลายๆที่ที่เคยไป แต่ที่นี้มีรถกระบะไว้บริการนักท่องเที่ยว

ค่าบริการคนละ10 บาท ต่อเที่ยว

ส่วนใหญ่ก็จะขึ้นแค่เที่ยวเดียว

ขากลับส่วนใหญ่จะเดินกลับกันซะมากกว่า

รถจะพาเราไปเริ่มต้นที่ท้ายถ้ำ เพราะถ้าเข้าจากปากถ้ำ

ขากลับจะเดินไกล เมื่อรถมาจอดส่งทีท้ายถ้ำ

เราก็เดินมาอีกนิดนึง ก็จะเจอทางเดินเข้าถ้ำ

ก็จะเห็นพระพุทธรูปพร้อมอุปกรณ์สำหรับไหว้พระ

พอไห้วเสร็จก็เดินไปตามทางชมหิน ชมน้ำไป

แต่คงเพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงฤดูหนาว

เลยไม่ค่อยมีน้ำในถ้า ถ้าไปช่วงหน้าน้ำคงจะสวยงามไปอีกแบบ

ลักษณะถ้ำโค้งงอเป็นศอก

จุดต่างๆในถ้ำจะมีจุดเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไป

มีทั้งหมด 13 จุด

เช่น คูหาสวรรค์วิเศษเทพอารักษ์นครา นาคาสถิต

และจุดสำคัญที่เป็นไฮไลท์ของถ้าคือ "จุดหินนางคอย"

ซึ่งหินจะมีลักษณะเหมือนหญิงสาวกำลังอุ้มลูก

แต่เราพยายามมองแต่ก็มองไม่ค่อยออก

รูปที่ถ่ายมาก็ไม่ค่อยชัดเลยไม่ได้เอามาลงให้ดู

เสียดายจัง

หลังจากเต็มอิ่มกับการเที่ยวชมถ้ำแล้ว ก็มุ่งตรงเข้าสู่

ตัวเมืองน่านเพื่อหาข้าวซอยกินสำหรับมื้อกลางวัน

ระหว่างทางที่กำลังจะเดินไปไห้ววัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมืองน่าน

ก็เห็นร้านเล็กๆที่มีคนยืนรอคิวอยู่หลายกลุ่ม

ด้วยความอยากรู้ก็พยายามมองหาป้ายร้านว่าเขารออะไรกัน

นั้นไง!!!

ร้านข้าวซอยต้นน้ำ ที่เห็นมีหลายๆรีวิวว่าอร่อย

โฮ้ อยู่แถวนี้นี่เอง แบบนี้ต้องลอง

ร้านข้าวซอยต้นน้ำ เป็นร้านเล็กๆอยู่ริมทางเดิน ร้านเล็ก โต๊ะไม่กี่โต๊ะ คิดว่าร้านแบบนี้แหละน่าจะอร่อย คนรอต่อแถวเยอะมาก

เลยขอเดินไปไห้วศาลหลักเมืองก่อน

กลับมาคนน่าจะซาลงแล้วหล่ะ

พอกลับมาอีกทีเฮ้อยยย จริงๆด้วย คนซาแล้ว

ได้กินแล้วเรา พอเดินมาถึงหน้าร้าน ป้านแขวนไว้

“ ข้าวซอยหมด”

นั้นไง คนถึงไม่ค่อยมี

แค่บ่ายโมงกว่าเองนะ อดชิมเลย

ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองเบาๆ เอาน่าเดี่ยวก็เจอร้านอร่อยๆ

หลังจากผิดหวังจากข้าววอยก็มุ่งหน้าไปยังวันต่อไป

ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

สถานที่ต่อไป วัดศรีพันต้น

เป็นวัดที่สวยงามดูอร่ามไปด้วยสีทองทั้งโบสถ์

และแล้วก็มาถึงวัดที่รอคอยอีก 1 ที่

วัดภูมินทร์ เป็นวัดที่อยู่ในตัวเมืองน่าน

มีจิตกรรมฝาผนังที่เป็นตำนานของปู่ม่านย่าม่าน

“กระซิบรักบันลือโลก”

เป็นภาพงานจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกวาดขึ้นในช่วงปีพ.ศ.2410-2417 โดยหนานบัวผัน ศิลปินชาวไทลื้อ เคยได้ยินแต่ตำนานได้เห็นของจริงก็ครั้งนี้แหละ เห็นแล้วรู้สึกถึงความขลังของรูป

นี่ไงภาพในตำนาน

ชื่นชมความงามแล้วก็เดินทางไปต่อที่

พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำปีเถาะ

รูปแบบขององค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนา

ไปที่พระธาตุในวันที่ 31 ธันวา ซึ่งทางวัดมีจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี

แก้ปีชง ก็เลยได้ไปเขียนชื่อแล้วผู้ไว้กับโคม

หลังจากเดินทางเที่ยวตลอดทางก็ถึงเวลาเดินทางเข้าที่พัก

เป้าหมายคือ อ. ปัว หาแหล่งที่ยังคงธรรมชาติ

ได้ที่พักที่ต้นแหลงโฮมสเตย์

พอมีคำว่าโฮมสเตย์เข้ามาก็มีลุ้นๆอยู่บ้าง

แต่ถ้าแลกกับธรรมชาติอากาสสดชื่น ก็โฮมสเตย์ก็โฮมสเตย์

คือไม่ได้ติดหรูว่าจะต้องพักโรงแรมหรืออะไรนะ

เพราะเคยไปพักโฮมสเตย์แล้วรู้สึกไม่ค่อยโอเค

กับเพื่อนร่วมที่พักสักเท่าไหร่

พอถึงที่พักแล้วแบบว่า โอ้โห่ มันแจ่มมาก

อยู่กลางทุ่งนาป่าเขา อากาศสดชื่น ลมเย็นแต่ไม่หนาวจัด

หลังจากที่เอาของเก็บที่พักเสร็จก็มาเดินสุดอากาศเดินถ่ายรูป

ซึ่งทางที่พักมีสถานที่ไว้ให้ถ่ายรูป

เป็นสะพานไม้ไผ่เดินกลางทุ่งข้าวโพด

สำหรับมื้อเย็นเราเลือกที่จะซื้ออาหารมานั่งทานกันที่ทางที่พัก

จัดเตรียมไว้ให้ริมทุ่ง สดชื่นสุดๆ

โต๊ะข้างๆมีดีดกีต้าร์ร้องเพลงเราก็อาศัยฟังไปเพลินๆ

ส่วนใหญ่ที่มาพักแบบนี้จะเป็นแบบครอบครัวใหญ่ๆ ดูอบอุ่นดี

ตอนเช้าทางที่พักก้เตรียมอาหารเช้าไว้คอย

ข้าวต้มร้อนๆกับหมอกยามเช้า

ข้ามคืนของปี2016 ไปได้อย่างสวยงาม

ก่อนอื่นเริ่มต้นวันแรกของปี 2017 แวะไหว้พระที่วัดต้นแหลงสักหน่อย เพราะอยู่ติดๆกับที่พัก วันนี้ดูท่าแล้วฝนคงจะพร่ำเกือบทั้งวัน

หลังจากนั้นก็ออกเดินทาง สถานที่ต่อไปคือ

วัดภูเก็ต ตอนได้ยินชื่อครั้งแรก

เอ้ ! ฟังผิดหรือเปล่า สุดท้ายแล้ว คือไม่ผิด ชื่อวัดภูเก็ตจริงๆ

วัดภูเก็ต แต่อยู่ที่น่าน

จากประวัติที่อ่านมาวัดนี้ตั้งซื้อตามหมู่บ้าน

ที่ชื่อว่า “หมู่บ้านเก็ต”

แต่เพราะวัดตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่า “ดอย”

หรือ “ภู” วันนี้จึงได้ชื่อว่า “วัดภูเก็ต”

ตามสถานที่ตั้งของวัด

เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่บนภูจึงเป็นวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุกชมวิวที่สวยงาม

สถานีต่อไป

ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เป็นอีก1 ที่ ที่บรรยากาศชิวล์ ชิวล์เอามากๆ

และก็ไม่พลาดที่จะแวะมาชิมเมนูขึ้นชื่อของที่นี่พิซซ่าหน้าเห็ด

อิ่มทั้งอาหารอิ่มทั้งบรรยากาศ

เสียดายที่ไม่ได้เดินไปชมวังศิลาแลง เพราะฝนตก

จากร้านนี้เดินไปอีกแค่ 600 ม ก็จะถึง

เอาไว้คราวหน้าแล้วกันโน๊ะ

สถานีต่อไป

จริงๆเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ

แต่ต้องขอแวะเช็คอินที่นี้ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง

ร้านกาแฟไทลื้อ มาถึงอ.ปัว ต้องแวะมาเช็คอิน

ที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อเป็นร้านกาแฟของร้านลำดวนผ้าทอ

งั้นถือว่ามาไม่ถึง อ.ปัว

ร้านนี้จะออกแนวเก๋ๆ แหวกๆแบบกระท่อมปลายนา

ไม่ค่อยเห็นร้านกาแฟแนวนี้ บรรยากาศแบบเหนือๆ

ตอนไปที่ร้านฝนลงเม็ดปรอยๆ ได้อีกบรรยากาศ

ยิงยาวไปแพร่กันเลย

สถานที่นี้ไม่แวะไม่ได้เพราะเป็นสถานที่ที่แพลนเอาไว้

แพะเมืองผี

มาถึงสถานที่อีก1 ที่ ซึ่งมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้ามาแพร่

ต้องมาสถานที่แห่งนี้ นั้นก็คือวนอุทยานแพะเมืองผี

ถ้าถามว่าทำไมถึงอยากมา ก็บอกเหตุผลไม่ได้

รู้แค่ว่าอยากไปดูให้เห็นกับตา ซึ่งพอไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว

ก็แบบว่า เฮ้ยมันใช่อะ มันดูลึกลับ มันดูสวย มันน่าเที่ยว น่าถ่ายรูป

เมื่อถ่ายรูปจนหนำใจก็ต้องเดินทางต่อไป

เพราะมันก็เย็นแล้วเดี๋ยวจะไปถึงที่พักมึด

แต่มาถึงแพร่ไม่แวะที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงอีกเช่นกัน

พระธาตุช่อแฮ

เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล

บรรไดแค่ไม่กี่สิบขั้น ก็เล่นซะหอบเหมือนกันนะ

หลังจากไหว้พระเสร็จก็ลงมาช้อปหาของฝากเพื่อนๆ เวลาเจอแหล่งช้อปแล้วชอบเตลิด ไปๆๆๆ เดินทางไปที่พักกันได้แล้ว

คืนที่ 3 เราไปนอนในตัวเมือง แพร่ โรงแรมอมรรัตน์

หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จก็ออกเดินทางไปถนนคนเดิน

หาของกิน หาข้าวซอยกินก็ไม่เจอ

สรุปทริปนี้ไม่ได้กินข้าวซอยเลย

พอหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนตามระเบียบ

กลับที่พักกันดีกว่าพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางกลับบ้าน

ออกจากที่พักเกือบ9 โมง ถึงบ้านประมาณเกือบ 4 ทุ่ม

รถติดโครตๆ เราเลยเลือกทางอ้อมเมืองหนีรถติด

ถ้าไม่ใช้เส้นทางอ้อมเมืองนะ ตี 2 จะถึงบ้านหรือยังก็ไม่รู้

ตอนนี้น่ากับแพร่ ยังเป็นจังหวัดที่น่าไปอยู่

เพราะยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติ

ยังไม่ค่อยมีด้านธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องสักเท่าไหร่

แต่ไม่รู้ว่าอีก 2 ปีข้างหน้า น่านกับแพร่ จะเป็นยังไง

ทริปนี้เป็นการเที่ยวช่วงปีใหม่

ที่ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย

ชอบจังแบบนี้

เอาไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าเน้อ

Create Date : 06 มกราคม 2560 Last Update : 9 มกราคม 2560 13:01:26 น. Counter : 1121 Pageviews.		9 comments
Share Tweet