Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
Review Galaxy S3 : สมาร์ทโฟนสเปกแรง ฟีเจอร์เพียบ พร้อมกลิ่นธรรมชาติ



เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ในโลกของสมาร์ทโฟนปัจจุบัน มีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 ขั้วอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งขั้วอำนาจแรกคือ ระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิล กับขั้วที่ 2 ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่มีผู้ผลิตหลากหลายเจ้าดาหน้าเข้ามาร่วมประกาศศักดาขอเป็นที่ 1 ในกลุ่มแอนดรอยด์

       และสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถมากพอที่จะก้าวมาเป็นผู้นำในวงการ ก็คงจะมีอยู่ไม่กี่รุ่น ซึ่ง 1 ในนั้น ก็คือสมาร์ทโฟนที่ชื่อว่า Galaxy S3 ที่จะเป็นพระเอกในการรีวิวครั้งนี้

การออกแบบและสเปกเครื่อง

       ถ้าหากจะว่ากันตามตรง ใครหลายคนติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต ก็เป็นที่รู้กันว่า นวัตกรรมจากค่ายแอปเปิลมักดึงดูดความน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ แต่ในทุกวันนี้ผู้ผลิตแดนโสมขาว อย่างซัมซุงก็สามารถเข้ามายึดหัวหาดของการนำเสนอบนหน้าข่าวไอทีได้ ชนิดที่เรียกว่าไม่แพ้แอปเปิลเลยก็ว่าได้

       ทั้งนี้การกลับมาของ Galaxy S3 จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 3 ของตระกูล Galaxy กลุ่มไฮเอนด์ คุณภาพฮาร์ดแวร์แรงแบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถเรียกความสนใจแก่ผู้บริโภคชนิดที่ต้องชั่งใจเลยว่า จะเอาแอนดรอยด์ หรือจะเอาไอโอเอส

       โดยคอนเซปต์การออกแบบ Galaxy S3 ตามที่ซัมซุงได้เผยพร้อมสโลแกนว่า Inspired by Nature, Design for Human ถอดความเป็นภาษาไทยว่า แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ออกแบบเพื่อมวลมนุษย์ ซึ่งจะเริ่มจากการออกแบบที่ตัวเครื่องก่อนที่จะลงรายละเอียดในส่วนของฮาร์ดแวร์

       ขนาดหน้าจอเครื่องมีขนาดใหญ่ 4.8 นิ้ว ความละเอียด 720x1280 พิกเซล พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass 2 การออกแบบรอบตัวเครื่องมีส่วนเว้าส่วนโค้งทำให้ตัวเครื่องมีความเซ็กซี่ วัสดุที่ออกแบบมาเป็นลวดลายคล้ายสแตนเลส มีโพลีคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบ เคลือบด้วย Hyperglaze

       การวางของปุ่มค่อนข้างน่าสนใจ เพราะการวางตำแหน่งของปุ่มถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะผู้ใช้จะใช้นิ้วเพียงแค่ 2 นิ้วในการใช้งานปุ่ม โดยด้านซ้ายเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ขณะเดียวกันด้านขวาเป็นปุ่มพักหน้าจอเครื่อง ซึ่งถ้าหากเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ปุ่มพักหน้าจอจะอยู่ด้านบนทำให้ผู้ใช้ต้องใช้มือเอื้อมไปปิด แต่ใน Galaxy S3 ไม่ต้อง แค่วางนิ้วในตำแหน่งของปุ่มก็สามารถทำงานกับปุ่มได้อย่างแนบเนียน


ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอ 4.8 นิ้ว มีไฟ LED อยู่ทางซ้าย กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล ด้านล่างเป็นปุ่ม HOME แบบใหม่ขนาบด้วย ปุ่ม Menu และปุ่ม Back
ด้านหลัง - กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช ลำโพง หากถอดแบตด้านหลังออกมาจะพบสล็อตใส่ microSD และ microSIM มีแบตเตอรี่ประจุมากมาย 2100 mAh พร้อมเทคโนโลยี NFC
ด้านขวา - ปุ่มพักหน้าจอ/ปลุกหน้าจอ
ด้านซ้าย - เพิ่ม/ลดเสียง
ด้านบน - หูฟังแจ็คมาตรฐาน และไมโครโฟน
ด้านล่าง - พอร์ต microUSB และรูไมโครโฟน

       สำหรับสเปกเครื่อง Galaxy S3 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Ice Cream Sandwich 4.0 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส TouchWiz UX ที่มีการปรับอินเตอร์เฟสลดความฉูดฉาดของสีลง และเน้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น ชิปประมวลผล 4 คอร์ Exynos 4 1.4GHz หน้าจอ HD Super AMOLED ขนาดหน้าจอ 4.8 นิ้ว ความละเอียด 720x1280 พิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล RAM 1GB

ฟีเจอร์เด่น Galaxy S3



Homescreen จะมีหน้าให้วางแอปพลิเคชันและวิดเจ็ตทั้งหมดรวมถึงโฟลเดอร์ต่างๆ ทั้งสิ้น 7 หน้า

App Drawer มีการปรับเปลี่ยนไปพอสมควร แต่ยังคงพื้นฐานของอินเตอร์เฟสของ ICS 4.0 อยู่ โดยด้านบนจะแสดงผลแอปพลิเคชันทั้งหมด ข้างๆ จะเป็นวิดเจ็ต และมุมขวาสุดจะเป็นแอปพลิเคชันที่โหลดมาลงเครื่อง



Task Manager เมื่อเป็น ICS แล้วระบบนี้ย่อมต้องมี สามารถเข้าถึงส่วนนี้ได้ด้วยการกดปุ่ม HOME ค้างไว้

Notification จะมีเมนูลัดอยู่ด้านบนสุด ล่างลงมามี Setting (ที่เป็นรูปฟันเฟือง) และเมนู Clear สำหรับล้างการแจ้งเตือน



S Suggest ระบบแนะนำการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องแอปพลิเคชัน ซึ่งจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน หรือแชร์ให้เพื่อนผ่าน Facebook ก็ย่อมได้



S Planner เป็นแอปพลิเคชันที่แกะมาจาก Galaxy Note เลยก็ว่าได้ ทั้งอินเตอร์เฟสและการใช้งาน ซึ่งความสามารถก็คือการจดบันทึก ตารางนัดหมายต่างๆ



S Memo เหมือนกับ S Planner แต่จะเป็นการบันทึกแบบรูปภาพ และการวาด จะว่าไปแล้วการใช้งานจะสะดวกขึ้นหากมีสไตลัสเฉพาะ S3 แต่ถ้าจะใช้สไตลัสที่เป็นนิ้วก็คงลำบากพอสมควร



Screen Mode เป็นของเล่นใหม่สำหรับ Galaxy S3 คือ ผู้ใช้สามารถปรับโหมดของสีจอภาพได้ โดยที่จะมีให้เลือกคือ Dynamic, Standard, Natural และ Movie



Smart Stay ของเล่นใหม่ชิ้นต่อมาของซัมซุง โดยจะใช้ความสามารถของกล้องหน้าจับตาดูผู้ใช้ว่า กำลังใช้งานหน้าจออยู่หรือไม่ ถ้าไม่จอก็จะดับลง และเข้าสู่โหมด Sleep แต่ถ้ายังมองหน้าจอก็จะใช้งานได้ต่อเป็นปกติ ซึ่งฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบเพื่อให้รับกับการอ่านเว็บไซต์ รวมไปถึงอีบุ๊ก





S Voice คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก เพราะฟีเจอร์นี้ค่อนข้างเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร โดยความสามารถคล้ายกับ Siri ของ iPhone 4S โดยผู้ใช้สามารถสั่งการต่างๆ ผ่านเสียง ไม่ว่าจะเป็นให้เปิดโหมดกล้อง เล่นเพลง เล่นวิทยุ หรือจะให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวก็ยังได้ ส่วนอินเตอร์เฟสก็คล้ายกับ Siri ทั้งนี้ S Voice ของซัมซุงส่วนตัวแล้วมองว่าคล้ายกับ Voice Command มากกว่า






Create Date : 03 มิถุนายน 2555
Last Update : 3 มิถุนายน 2555 23:35:25 น. 0 comments
Counter : 3916 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sapong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add sapong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.